หนาวนี้ที่ปาย: ตอนจบ
เช้าวันศุกร์ หลังจากเมื่อคืนเที่ยวกลางคืนมา ก็เลยตื่นซะสาย แต่พอมองออกไปนอกหน้าต่าง โอ๊ววววว หมอกกลับมาอีกแล้ว คราวนี้หนักกว่าเดิม เพราะ 9 am กว่าแล้วอะ ที่สำคัญมีคุณวัวมาเล็มหญ้าอยู่หน้าบ้านด้วย (- -')



ไม่รู้จะไปไหน เพราะยังเพลีย ๆ จากเมื่อคืน ...แต่ไม่มีอาการ hang over... ก็เลยไปนั่งเล่นกับพี่ตุ้มที่เรือนใหญ่


ส่งรูปนี้ไปให้พี่อาร์ทดูทาง mms พี่อาร์ทบอกว่าอิจฉา


บรรยากาศเงียบสงบมั่กมาก ...ชอบ ๆ


น้ำค้างบนกลีบกุหลาบ


แมงมุมชักใยสวยดี ...ปกติเราเป็นคนเกลียดแมงมุมค่ะ แต่เห็นแค่ใยก็พอทนได้ แหะ แหะ


ดำเล่นกับพอล

คือโดโด้เป็นหมาที่ไม่อยู่ติดบ้านอะค่ะ ดำเลยครองบ้านไปโดยปริยาย


เกือบ 11 am หมอกถึงจาง ...เห็นภูเขาซะที >_<... แถมฟ้ายังใส ผิดกับตอนเช้าลิบลับ

วันนี้ไม่มีโปรแกรมไปไหน พี่ตุ้มก็เลยชวนไปรับลูกหมาที่บ้านเพื่อนด้วยกัน


ไปถึงกำลังนอนกองกันอยู่เลย ...น่าร๊ากกก

คุณเจ้าของพอเห็นพี่ตุ้มกับพอลมารับ ก็เลยให้ทานอาหารก่อนรับตัวไป


โอโน่กับนีโน่


Tiger นั่งมองตาปริบ ๆ


นีโน่ซึมอะค่ะ ...ท่าทางจะรู้ตัวว่ากำลังจากพี่น้องและแม่ไปอยู่ที่อื่น


พอเห็นแม่ ก็พากันรุมดูดนมกัน รวมทั้งนีโน่และโอโน่ด้วย


เตรียมตัวไปบ้านใหม่

พี่ตุ้มเอาเจ้า 2 ตัวใส่ลังแล้วก็อุ้มลังซ้อนมอเตอร์ไซค์พอลกลับบ้านอะค่ะ พอมาถึงบ้าน ดำกับโดโด้เห็นน้องก็รีบวิ่งเข้ามา เจ้าตัวเล็ก 2 ตัวคงตกใจก็เลยขู่ กลัวว่าจะโดนรุมจะตาย แต่สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดี โดโด้คงเซ็งที่มีเด็กมาเพิ่มก็เลยหายหน้าไปจากบ้าน hahaha

พอพาขึ้นบ้าน ตัวเล็ก 2 ตัวก็พากันเดินสำรวจ โอโน่ค่อนข้างจะกล้ากว่านีโน่อะค่ะ นีโน่นี่หลบอยู่หลังเราตลอด ไม่เดินไปไหนเลย ...เริ่มคิดว่าดวงชั้นนี่ท่าจะถูกกับหมาแฮะ (- -')

หลังจากเห็นว่า 2 ตัวเริ่มชินกับบ้าน พี่ตุ้มกับพอลก็เลยให้เราเป็น baby sister แล้วสองคนก็ออกไปซื้ออาหารหมา ...นั่งไป นั่งมา ทั้งคนทั้งหมาก็เลยหลับไปด้วยกัน hahaha


มุดนอนใต้โตกซะงั้น ...ส่วนเราก็นอนบนเบาะสีน้ำตาลที่เห็นนิด ๆ ในภาพอะค่ะ เรียกได้ว่านอนกกเลยก็ว่าได้นะเนี่ย (- -')

พอตื่นขึ้นมา พี่ตุ้มก็บอกว่าเดี๋ยวจะพาไปน้ำตกแพมบก เพราะเห็นว่าเราไม่ค่อยได้เที่ยวน้ำตกเลย ...จริง ๆ ก็คือเหลือที่เที่ยวอีกที่เดียวที่เรายังไม่ได้ไปอะค่ะ

จริง ๆ น้ำตกแพมบกอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองปายเลย แต่เจียมไม่แนะนำให้ขี่มอเตอร์ไซค์ไป เพราะเคยมีคนโดนลักน้ำมันจนไม่สามารถขี่กลับออกมาได้แล้ว ...เป็นสถานที่เดียวในปายที่อันตราย เท่าที่เราได้ยินอะนะ... พี่ตุ้มก็เลยขับรถพาเราไป


ตรงทางเข้าก็มีน้ำตก ...น้ำค่อนข้างแรงเลยทีเดียว

น้ำตกแพมบกเป็นที่เดียวในปาย ที่พี่ตุ้มล็อครถอะค่ะ ...แสดงว่าอันตรายจริง ๆ เพราะปกติพี่ตุ้มจะไม่ปิดหน้าต่าง ล็อครถเลย ไม่ว่าจะจอดในที่ไหน ๆ ในปาย


ทางเข้า ...ที่ไหน ๆ ก็มีแต่ภาษาอังกฤษ เหมือนเราไม่ได้อยู่ในเมืองไทยเลยอะ (- -')


เส้นทางน้ำตกเป็นทางแคบ ๆ อะค่ะ... ตอนเดินเข้าไปก็หวาดเสียวเหมือนกัน เพราะด้านนึงเป็นกำแพง อีกด้านก็เป็นเหวน้ำตก ถึงจะไม่สูงมากก็เหอะ แต่ถ้าหล่นลงไปก็เจ็บใช้ได้เหมือนกัน (- -')


มีถ้ำเว้าเข้าไปพอให้ได้นั่งพัก แถมมีแคร่ให้พร้อม ...ในภาพเจียมกำลังนั่งพักอะค่ะ มีการบอกให้เรากับพี่ตุ้มเดินเข้าไปกันสองคนอีกต่างหาก ส่วนตัวเองจะนั่งรออยู่ตรงนี้ ...แม๊น แมน (- -')


มองลงไปจากสะพานที่ต้องข้ามช่องแคบ ...สูงใช้ได้เลยนะเนี่ย


ยืนชมวิวอยู่แค่ตรงนี้อะค่ะ

พี่ตุ้มบอกให้เราลงไปถ่ายรูปข้างล่าง แต่เราปฏิเสธ เพราะกลัวตะกายขึ้นมาไม่ไหว มันเหมือน ๆ มี sense ว่าเราจะตกลงไปอะค่ะ (- -') อาจเพราะฝังใจมาจากน้ำตกหมอแปงก็ได้ที่กว่าจะตะกายขึ้นมาก็เกือบเอาตัวไม่รอด

และแล้วตอนขากลับก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจนได้ เมื่อเราลื่นแล้วจะตกข้างทาง โชคดีที่ตรงที่เราล้มลงไป มีพุ่มไม้อยู่ เราก็เลยตกไปอยู่ในพุ่มไม้ และพี่ตุ้มคว้าเราไว้ได้ทัน ...ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะเนี่ย sense เราเนี่ย ... ปรากฏว่าพุ่มที่เราตกลงไปก็ดันมีหนามซะอีก ก็เลยเกี่ยวเสื้อผ้า เกี่ยวผมเราอีนุงตุงนัง พี่ตุ้มช่วยแกะก็เลยโดนหนามเป็นแผล ...ขอบคุณมากนะคะ ... ส่วนเจียม ไม่ทำอะไรเลย จนพี่ตุ้มแกะหนามออกหมด ถึงเดินมาฉุดเราขึ้น ...แต่ก็ต้องขอบคุณเหมือนกัน


รูปนี้ถ่ายหลังจากที่ขึ้นมาได้แล้ว ...พี่ตุ้มหันมาเห็นก็บอกว่า "นี่มันยังคิดจะถ่ายรูปอีกเหรอเนี่ย" แหะ แหะ

ออกจากน้ำตกแพมบก พี่ตุ้มก็ชวนทานส้มตำ เพราะปกติไม่มีเพื่อนทาน เจียมอยากทานไส้อั่ว ก็เลยแวะซื้อไก่ย่าง ไส้อั่วไปนั่งทานที่ร้านส้มตำกัน

ด้วยความหิว พอไปถึงร้าน พี่ตุ้มกับเราก็สั่งนู่นสั่งนี่มาเต็มโต๊ะ แต่คิดไปคิดมาก็ไม่มีอะไรมากเลย แค่ส้มตำ 2 จาน ไก่ย่าง ไส้อั่ว หมูย่าง ทาน ๆ ไปเจียมก็ชวนพี่ตุ้มสั่งข้าวเหนียว ตอนแรกเจียมจะสั่ง 3 บาท แต่พี่ตุ้มสั่ง 5 บาท สุดท้ายก็เลยเกี่ยงกันทาน ตลอดเวลาที่นั่งทานกัน เจียมเป็นคนเดียวที่พูดบ่นนู่นบ่นนี่ พูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ จนเราอิ่มแล้วก็เลยบอกว่า "เจียมนี่ขี้บ่นเนอะ" ...แบบอิ่มแล้ว มีแรงแล้ว hahaha... เจียมก็หันไปพูดกับพี่ตุ้มว่า "โดนแล้วไหมล่ะตรู" ...ก็มันจริง ๆ นี่ตั้งแต่มานั่งทาน ได้ยินเสียงเจียมอยู่คนเดียว

ทานเสร็จก็เดินชมตลาด พี่ตุ้มต้องซื้ออาหารไปเลี้ยงเพื่อน ๆ พอลที่จะมาดูหนังที่บ้านด้วย ส่วนเราก็หาซื้อสปายไปนั่งดื่มที่บ้าน ...อยู่ปายนี่ดื่มสปายเกือบทุกคืนเลย ยกเว้นคืนที่ไปฟังเพลงอะ... จริง ๆ พี่ตุ้มชวนให้ไปนั่งดูหนังด้วยกันที่เรือนใหญ่ แต่เราขอตัว เพราะไม่ค่อยอยากเจอคนเยอะ ๆ อุตส่าห์หนีมาคนเดียวทั้งที แหะ แหะ

อีกอย่างก็คือตลอดเวลาที่อยู่ปาย เราเจอฝรั่งซะจนเบื่อเลยอะ อย่างตอนมึน ๆ คุยกับจี๊ดในผับ ต้องตั้งสติแทบตายไม่ให้ตอบเป็นภาษาอังกฤษ (- -')

เช้าวันเสาร์เป็นเช้าที่เราต้องออกจากปายแล้ว เราซื้อตั๋วรถตู้ไว้รอบ 9 am ...จริง ๆ รถตู้รอบแรกมีตอน 7 am แต่เราต้องรอร้าน Aya เปิดก่อนจะได้คืนมอเตอร์ไซค์ได้...


เป็นอีกวันที่หมอกลงจัด ...และเป็นรูปสุดท้ายที่เราถ่ายไว้ด้วย...

พี่ตุ้มเป็นคนขับรถขนกระเป๋ามาส่งเราที่ท่ารถค่ะ

ก่อนกลับพี่ตุ้มสารภาพว่าจริง ๆ อาทิตย์นี้พี่ตุ้มกะจะไม่รับแขก เพราะอยากไปเที่ยว แล้วก่อนหน้าที่เราจะให้สรรค์ติดต่อไป ก็มีคนโทรเข้ามา พี่ตุ้มก็ปฏิเสธไปว่าห้องเต็ม ...ขอบคุณนะคะที่รับนุ่นเข้าพักอะ ไม่งั้นได้เดินหาบ้านพักขาลากแน่ ๆ...

เนื่องจากเราจองตั๋วรถทัวร์เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ไว้รอบ 9.30 pm ก็เลยโทรหาลิต ...เพื่อนมหาลัยที่บ้านมันอยู่เชียงใหม่... ให้มารับที่อาเขต แล้วให้มันพาไปซื้อของฝาก อาทิ น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู

อุตส่าห์โทรบอกมันตั้งแต่วันแรกที่เราไปถึงปายว่าวันเสาร์เราจะให้มันพาไปซื้อของฝาก แต่เอาเข้าจริง มันมารับแล้วก็บอกว่าตอนเย็นไม่ว่าง แล้วเดี๋ยวก็ต้องพาพี่สาวไปหาหมอ (- -') โชคดีที่เติ้ลไปเที่ยวเชียงใหม่พอดี ก็เลยโทรหาเติ้ล สรุปว่าพอหาอะไรทานเสร็จแล้วลิตจะไปส่งเราที่โรงแรมที่เติ้ลพักเพื่อเอากระเป๋ามาเก็บก่อนจะตะลุยเชียงใหม่ เติ้ลจะฝากกุญแจห้องไว้ที่ counter เพราะกว่าเราจะมาถึง เติ้ลคงออกไปเที่ยวงานราชพฤกษ์แล้ว และเติ้ลจะเป็นคนมาส่งเราขึ้นรถที่อาเขตด้วย

หลังจากเก็บของเรียบร้อย เราก็เดินออกมาเรียกรถตุ๊กตุ๊กไปกาดหลวง ...ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นอีกชื่อนึงของตลาดวโรรสอะ (- -')... โทรหาน้องมิ้วเพื่อถามว่าควรซื้อน้ำพริกหนุ่มเจ้าไหน แคบหมูเจ้าไหน น้องมิ้วก็แนะนำอย่างดี แต่พอถึงเวลา ก็ซื้อเจ้าเดียวกันทั้งหมดนั่นแหละ แหะ แหะ

ขากลับจำถนนที่โรงแรมตั้งอยู่ไม่ได้ แต่จำชื่อถนนได้ถนนนึง คลับคล้ายคลับคลาว่าลิตพาผ่านถนนเส้นนั้น ก็เลยบอกคุณรถสองแถวแดงว่าจะไปเส้นนั้น ระหว่างนั่งอยู่บนรถสองแถว ก็มีคุณป้าคนนึงขึ้นมา พอเห็นหน้าเราก็ทักว่า "หนูนี่หน้าตาดีนะ"

เรา: "ขอบคุณค่ะ" ...แอบเขิน อยู่ ๆ ก็มาชมกันซึ่งหน้า

คุณป้า: "นี่มาเที่ยวคนเดียวเหรอเนี่ย"

เรา: "ค่ะ" ...คำถามทิ่มแทงใจ >_<

หลังจากนั้นคุณป้าก็เล่าให้เราฟังเรื่องลูกหลานที่ลงมาอยู่กรุงเทพฯ แล้วไม่เคยเจอหน้ากันอีกเลย ...ฟังแล้วก็หดหู่นะคะ ลูกหลานที่เลี้ยงมากับมือ พอโตมากลับไม่เคยไปหาเลย ไม่ใช่ไม่ได้มาเชียงใหม่ แต่มาแล้วไม่ไปหาอะ เฮ้อ...

พอถึงถนนเส้นที่เราบอกคุณสองแถว แต่เราก็ยังไม่เห็นโรงแรม คุณสองแถวก็เลยจอดแล้วก็ถามเราว่าจะไปไหนกันแน่ พอเราบอกชื่อจุดสังเกตไป ทั้งคุณสองแถวและคุณป้าก็บอกว่าไม่ได้อยู่ถนนเส้นนี้ ...แป่ว... สุดท้ายเราก็เลยต้องลงจากสองแถวแล้วก็ต่อตุ๊กตุ๊กกลับโรงแรม ...ชีวิตช่างผจญภัยดีแท้ (- -')

นั่งอ่านหนังสือรอเติ้ลกลับมาจนถึง 6 pm หลังจากนั้นเติ้ลก็พาไปหาอะไรทาน แล้วพอได้เวลาก็ไปส่งเราขึ้นรถ ...ขอบใจนะจ๊ะ ฝากขอบคุณเพื่อนเติ้ลด้วย

รถออกตรงเวลาค่ะ เราก็หลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดทาง มาถึงกรุงเทพฯ ประมาณ 6 am โดยสวัสดิภาพ

ค่าใช้จ่ายที่เราจ่ายไปทริปนี้ (ไม่รวมค่าของฝาก) ก็ประมาณ 5 พันบาทค่ะ ...ค่าที่พักคืนละ 350 บาท...
__________________________________________

ป.ล.1 ตอนขาไปนั่งรถทัวร์ของสยามเฟิร์สทัวร์ แต่ขากลับนั่งของนครชัยแอร์ รู้สึกประทับใจรถของสยามเฟิร์สฯ มากกว่าอะค่ะ เพราะนั่งสบายกว่า ราคาเท่ากัน คือ 651 บาท เป็นเก้าอี้นวดไฟฟ้าเหมือนกันด้วย

ป.ล. 2 ตลอดเวลาที่อยู่ปาย หันไปทางไหนก็มีแต่คนมาเป็นคู่ เดินจูงมือกันสวีทวี๊ดวิ้ววว ไม่ต้องดูอื่นไกลเลยอย่างคู่พี่ตุ้มกับพอลเป็นต้น (- -') ตอนกลางคืนหนาว ๆ บางทีเดินตามหลัง เห็นพี่ตุ้มกับพอลเดินจูงมือกันก็แอบอิจฉานิด ๆ ...ทำไมชั้นไม่มีคนมาเดินคู่กันบ้างฟะ -*-... ยิ่งตอนนั่งรถตู้กลับมาเชียงใหม่ โหยยย มากันเป็นคู่ทั้งน้านนนน มีอยู่คู่นึงนั่งแถวเดียวกับเรา ฝ่ายหญิงหลับซบไหล่ฝ่ายชาย พอรถสะเทือนหน่อย ฝ่ายชายก็จับศีรษะฝ่ายหญิงประคองไว้ เห็นแล้วหมั่นไส้ ไม่นึกถึงใจคนมาคนเดียวบ้างเลย ฮึ่ม ฮึ่ม ((แล้วใครใช้ให้ไปคนเดียวละ เนอะ hahaha))

ป.ล.3 เราไม่ค่อยประทับใจในตัวเมืองปายเท่าไหร่อะค่ะ เพราะเรารู้สึกว่ามันกลายเป็นเมืองฝรั่งไปแล้ว (- -') โชคดีที่บ้านพี่ตุ้มอยู่นอกเมืองไป 3 km เลยทำให้มีบรรยากาศสงบอย่างที่เราต้องการ จะว่าไปตอนเราขี่มอเตอร์ไซค์ไปรอบ ๆ เมืองปาย ก็รู้สึกดีกว่าตอนอยู่ในตัวเมืองปายเยอะเลย แหะ แหะ

ป.ล.4 เติ้ลบอกว่าพี่อาร์ทบ่นว่า "ไอ้นุ่นมันไปนานเนอะ" กับทุกคนที่เดินเฉียดไปใกล้ ๆ แต่พอเรากลับมา หน้าเราพี่แกยังไม่มองเลย (- -') ...ยังช่วยถือของ ทำนู่นทำนี่ให้ แต่ไม่มองหน้าเราตรง ๆ อะ... จนเราต้องถามว่า "นี่มันถามถึงชั้นจริง ๆ เหรอเนี่ย"

เติ้ล: "อ๊าว แล้วเติ้ลจะโกหกไปทำไมล่ะ"

จนถึงวันนี้เราก็ไม่รู้ว่าทำไม๊ ทำไม คนถึงคิดว่าเรากับพี่อาร์ทเป็นคู่รักกันไปได้ (- -') ...ท่าทางเราจะต้องโสดอย่างนี้ไปอีกนานอะ hahaha




Create Date : 17 ธันวาคม 2549
Last Update : 27 ธันวาคม 2549 22:40:02 น.
Counter : 1219 Pageviews.

5 comments
  




กิ๊ดดดด น้องหมาน่ารักจังเลยคุณนุ่น
ปายอ่ะยังเที่ยวไม่ครบเลย
อยากไปอีกค่ะ

ลป.โบว์โสดเป็นเพื่อนค่ะคุณนุ่น^^...

โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 28 ธันวาคม 2549 เวลา:7:13:56 น.
  
เรียกว่าไปพักผ่อนอ่ะค่ะ ... ไม่ไป ไม่รู้ เราเองยังอยากไปเลยปาย แบบอยากไปเห็นกับตาว่า จริงๆ แล้วนั้นเป็นอย่างที่เราได้อ่านมาหรือเปล่าหนอ

แวะมาส่งความสุขให้คุณนุ่นด้วยค่ะ ไม่โสดแล้วแต่ก็ยังแอบอยากโสดเป็นบางทีนะค่ะ
โดย: JewNid วันที่: 28 ธันวาคม 2549 เวลา:12:50:32 น.
  
โฉด เอ๊ยยย โสดไปเรื่อย ๆ ก็ดีไปอย่างนะคะ อย่างป้าเก๋เวลาอยู่เมืองนอกนี่ เห็นเขาเดินเป็นคู่ ๆ กอดเอวหอมแก้มกันแล้ว อยากเป็นนางมารไปกระชากหนุ่มมา-กก-แทนซะเลย ยิ่งมันยืนจุ๊บกันหน้าทางลงเมโทร รึรถไฟนี่ อยากสงเคราะห์ถีบมันให้ลงไวขึ้น ไม่รู้รึไงกว่าตรูอิจฉาว้อยยยยยย
โดย: ป้าเก๋สวย IP: 84.102.201.204 วันที่: 30 ธันวาคม 2549 เวลา:20:33:50 น.
  
มาติดตามตอนจบของปายจ้ะ
คิดคล้ายๆนุ่นนะ เราว่าเดี๋ยวนี้ปายเจริญ(เกินไป)แล้วน่ะ ปีก่อนโน้นไป ยังรู้สึกเงียบสงบ น่ารักกว่าปีนี้ เอ..หรือปีนี้เห็นคนมากันเป็นคู่ๆ แล้วอิจฉา เลยพาลมองว่าปายไม่น่ารักก็ไม่รุ อิอิ ว่าแต่ว่า..เมื่อไหร่เราจะได้ไปภูกระดึงกันซะทีน๊า...อยากไปๆ
โดย: Ja~ IP: 202.28.181.10 วันที่: 31 ธันวาคม 2549 เวลา:14:20:11 น.
  
พี่อาร์ทเค้าแอบชอบนุ่นป่าว
โดย: โอ๋ IP: 202.28.9.80 วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:2:35:10 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชาบุ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เป็นสาวแกร่งแรงเกินร้อย ประเภทพึ่งพาตัวเองได้ ดื้อเงียบ (แต่มีเหตุผลพอสมควรนะ) อ่อนไหว ช่างฝัน แต่ก็อยู่ในโลกของความเป็นจริง ชอบมองอะไรกว้าง ๆ และทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น (ปลงแล้ว! hahaha) ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ชีวิตนี้ยอมไม่มีแฟนดีกว่าไม่มีหนังสืออ่านอะ >_<

สิ่งที่จำขึ้นใจคือ คำคมภาษาอังกฤษที่ว่า "I will take my life into my hands and I will use it" และ คำคมจากหนัง My Best Friend's Wedding "When you love someone,you say it right then, out loud or the moment just passed you by"
ธันวาคม 2549

 
 
 
 
 
1
2
3
6
7
8
9
11
12
13
14
15
16
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog