เก้ามิถุนา
ประมาณวันจันทร์ที่ 5 มิถุนา เพื่อนร่วมงานที่อยู่กลุ่มงานบริหารทั่วไปมาถามว่าใครจะลงชื่อไปถวายพระพรในหลวง ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ในวันที่ 9 มิถุนายนกับสำนักงานฯ บ้าง เติ้ลกับเราก็เลยลงชื่อไปค่ะ ...คิดว่าไปกับที่ทำงานน่าจะได้ที่ที่สามารถเห็นท่านได้ชัด ((เชื่อใน power ที่ทำงานมากเกินเหตุ hahaha))... โดยเค้านัดรวมพลคนที่ลงชื่อที่อาคารรัฐสภา 2 เวลา 8.30 am

พออรรู้ว่าเราจะเข้าไปถวายพระพร อรก็ขอตามไปด้วย การเดินทางก็ง่าย ๆ ค่ะ ขับรถไปจอดไว้ที่หอพักเติ้ล แล้วก็นั่งรถพี่วุฒิ ...พี่ที่ทำงานสำนักเดียวกัน... ไป เพื่อนร่วมทางก็มี พี่วุฒิ พี่นิ เติ้ล อร และเรา เอารถไปจอดในรัฐสภา จากนั้นก็เดินไปสถานที่นัดพบ แต่พอไปถึงกลับไม่เจอใครเลย นอกจากผู้บริหารสำนักงานฯ หลังจากลองสอบถามเจ้าหน้าที่แถวนั้น ก็ได้ข้อสรุปว่า... ควรจะเดินไปหาที่กันเองค่ะ


ที่รัฐสภามีจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ระหว่างรอพี่วุฒิไปเอาของที่รถ


ปลาคาร์ฟในบ่อหน้าอาคารรัฐสภา

ตอนแรกนึกว่าสามารถรอเฝ้าท่านได้ จากทางประตูเล็ก ด้านที่ติดพระที่นั่งวิมานเมฆ แต่ปรากฏว่าที่ตรงนั้นจัดไว้ให้สำหรับข้าราชการระดับสูง อีกอย่างพวกเราก็ใส่กางเกงไปกันด้วย เลยต้องเดินทะลุประตูใหญ่ทางเข้าพระที่นั่งวิมานเมฆออกไป ถ.อู่ทองใน หลังจากเดินเลาะรั้วสวนสัตว์ไปทาง ถ.ราชดำเนิน เราก็ได้ที่เหมาะ ๆ สำหรับนั่งรอค่ะ


น้อง ๆ นักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ นั่งรอเฝ้าถวายพระพรที่ริมถนนอู่ทองใน โค้งยาวไปจนถึงบริเวณพระบรมรูปทรงม้าค่ะ

ขนาดเราเดินไม่ถึงบริเวณพระบรมรูปทรงม้ายังรู้สึกเลยว่าคนเยอะมาก ๆ พี่นิบอกว่าเพื่อนพี่นิมาจองที่ตั้งแต่ตี 3 ...บางคนมาตั้งแต่เที่ยงคืนด้วยซ้ำ


และแล้วพวกเราก็ได้จุดที่เหมาะกับการนั่งรอ คือนั่งต่อจากคณะครูและนักเรียนโรงเรียนวัดดาวคนองอะค่ะ (ถ้าจำชื่อโรงเรียนผิดก็ขออภัยนะคะ)


พระที่นั่งอนันตสมาคม จากมุมที่เรานั่งค่ะ


พี่วุฒิ เติ้ล พี่นิ อร




ระหว่างนั่งรอก็จะเห็นรถเข้า-ออกกรมทหารเป็นระยะ ๆ นี่ก็เป็นรถขนปืนสำหรับยิงสดุดีค่ะ


นายทหารกำลังเดินเข้าไปในบริเวณพระที่นั่งอนันตสมาคม (มุมที่เรานั่งถ่ายเห็นแต่ด้านหลังอะค่ะ)


หันไปข้างหลัง โห คนมาอีกเพียบเลย เริ่มเต็มฟุตบาทแล้ว


วงดุริยางค์ของทหาร เริ่มเดินออกมาเพื่อเข้าไปยังบริเวณปะรำพิธี




^
^
ตามด้วยทหารจากกองต่าง ๆ ...เค้าเรียกอย่างนี้ไหมอะ - -'


หันไปดูด้านที่เราเดินผ่านมา จากตอนแรกที่ไม่มีคนเลย ตอนนี้คนนั่งยาวไปจนถึงหน้ารัฐสภาได้แล้วมั้ง


เรานั่งหน้าปะรำพิธีเลยค่ะ แต่มองไม่ค่อยเห็นหรอก เพราะไกล


มุมที่เรานั่งจะเห็นด้านข้างของที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จออกมาโบกพระหัตถ์ให้ประชาชนค่ะ เสียดายที่ตอนท่านเสด็จออกมา ธงปลิวบังอะ T T

หลังจากนั้นก็ไม่ได้ถ่ายรูปค่ะ เพราะตำรวจที่ถวายอารักขาบอกว่าตอนรถพระที่นั่งแล่นผ่าน ห้ามถ่ายรูป

ขามา รถพระที่นั่งแล่นเร็วมาก คงจะรีบให้ทันเวลา ประชาชนที่รอเฝ้าก็มีบ่นกันบ้าง บางคนมองพระพักตร์ท่านไม่ทัน อีกอย่างท่านนั่งอยู่ด้านในของรถพระที่นั่งด้วยอะค่ะ แต่ก็ได้เห็นสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถชัดนะคะ ท่านทรงพระสิริโฉมมาก ๆ ค่ะ

หลังจากที่พระราชวงศ์เสด็จถึงบริเวณปะรำพิธี ก็มีการเปิดถนนให้ประชาชนเข้ามาอีก คราวนี้คนเดินผ่านไปผ่านมาขวักไขว่ค่ะ บางคนก็ยืนบังซะงั้น เกือบวางมวยกันก็มี hahaha ...ไม่รู้ตอนนั้นตำรวจหายไปอยู่ที่ไหน

จนเวลาผ่านไปพอสมควร คนก็ยังคงเดินเข้ามาไม่ขาดสาย มุ่งหน้าไปยังลานพระบรมรูปทรงม้า ตำรวจถึงค่อยออกมาจัดการ โดยบอกให้เดินอ้อมไปข้างหลังพวกที่นั่งอยู่บริเวณฟุตบาท ไม่ให้ออกมาเดินบนถนน แต่บางคนก็ยังไม่ฟังค่ะ

กว่าจะจัดการให้คนที่มาทีหลังได้ที่นั่งก็ใช้เวลาพอสมควร แถมพวกที่มานั่งตอนแรกอย่างพวกเรา ยังโดนพวกมาทีหลังนั่งบังอีกต่างหาก น่าสงสารน้อง ๆ เด็กนักเรียนมาก ๆ เลยค่ะ

แล้วคนที่มารอเฝ้า บางคนก็พูดไม่หยุดด้วย ตอนในหลวงท่านทรงให้พระบรมราโชวาส เราต้องหันไปบอกว่า "โทษนะคะ จะฟังที่ท่านพูดอะค่ะ" ...เอ่อ ไม่ได้ใช้คำราชาศัพท์อะค่ะ ขออภัยนะคะ

ขากลับ รถพระที่นั่งของทุกพระองค์แล่นช้ามาก ๆ ค่ะ แต่เราก็ยังมองไม่ค่อยทันอยู่ดี T T เห็นแต่พระหัตถ์ของในหลวงที่ทรงโบกให้ประชาชนอะค่ะ แล้วก็ทันเห็นพระพักตร์สมเด็จพระเทพฯ แป๊บนึง

คล้อยหลังรถพระที่นั่งแล่นผ่านไป ประชาชนจากลานพระบรมรูปทรงม้าก็เริ่มทยอยเดินออกมากันค่ะ พวกเราก็เลยไหลตามกระแส มุ่งหน้ากลับรัฐสภา

พอเข้าไปในรัฐสภา ก็เข้าไปชมนิทรรศการแป๊บนึงก่อนกลับค่ะ










^
^
สงสัยเจ้าหน้าที่ประจำบูทจะไปเฝ้าถวายพระพรกันหมด บรรยากาศเลยโหวงเหวงชอบกล



ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
__________________________________________

กลับถึงบ้าน อรเปิดทีวีดู เห็นรูปประชาชนที่ไปรอเฝ้าท่านที่ลานพระบรมรูปทรงม้าแล้วพวกเราก็ได้แต่คุยกันว่าโชคดีจริง ๆ ที่นั่งตรงนั้น เพราะได้เห็นทุกพระองค์ชัดมาก ๆ แม้จะไม่ได้เห็นตอนท่านเสด็จออกมาโบกพระหัตถ์ก็เถอะ



Create Date : 17 มิถุนายน 2549
Last Update : 18 มิถุนายน 2549 18:43:31 น.
Counter : 1246 Pageviews.

7 comments
  
อิจฉาพี่จัง ผมอยู่บ้าน น้ำตายังคลอๆ เลย

Long Live the great king
เมื่อวานไป แย่งกันซื้อหนังสือพิมพ์มา
มีคนถามว่า เขาแจกฟรีหรือ แย่งกันเป็นพัลวัน
โดย: นักสืบเอกชน วันที่: 18 มิถุนายน 2549 เวลา:18:40:22 น.
  
วันที่ 9 เรานั่งประชุมอยู่ตั้งแต่เช้ายันเย็นเลย ในหลวงพูดว่าอะไรก็ไม่ได้ฟัง เลยทำเอาสงสัยอยู่ว่าไอ้ที่เค้าว่าซาบซึ้งประหนึ่งน้ำตาจะไหลนี่ มันอารมณ์ไหนหว่า เข้าไม่ถึงไม่เข้าใจวุ้ย

แต่จากที่เห็นภาพข่าวว่ามีประชาชนเรือนแสนมาถวายความเคารพ จนข่าวพวก CNN BBC หรืออื่นๆมาเอาไปออกอากาสก็น่าภาคภูมิใจแทนประเทศของเราที่ยังมีในหลวงเป็นศูนย์รวมจิตใจอยู่ได้แบบนี้ (แต่ไม่ค่อยอยากจะคิดถึงอนาคตเลยนะ)

ส่วนที่ชอบที่สุดในงานนี้ (ออกแนวไร้สาระหน่อยนะ) คือเจ้าชายหนุ่มจากภูฏานน่ะล่ะ อยากให้พระองค์เป็นคนไทยจังน้อ น่าชื่นชมมากๆ

คิดว่าจะพิมพ์สั้นๆ แต่กลับยาวมาได้ขนาดนี้วุ้ย หลวมจริงๆ
โดย: Electrostatic precipitator IP: 58.136.206.88 วันที่: 18 มิถุนายน 2549 เวลา:18:48:33 น.
  
พี่นุ่นและพรรคพวกเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ไปแร้ว 555

วันที่ 9 ไม่ได้ไปอะ เพราะต้องเก็บแรงไปเมืองทองวันที่ 10 งานนิทรรศการวัดบวร ดูเรือ และไฟถนนราชดำเนินวันที่ 12 ขืนไปวันที่ 9 รับรองนอนตายอยู่กะบ้านอีก 4 วัน แต่เพื่อนผมไปนะ เค้าบอกว่ามีคนดูทะเลาะ ๆ กันด้วย (ซึ่งไม่รู้จะทะเลาะกันทำไม เพราะมันก็ไม่เห็นทั้งคู่น่ะแหละ)

แถมมีอยู่ช่วงหนึ่งตอนรอ ๆ มีรถวิ่งมา คนก็ฮือฮานึกว่าเสด็จแล้ว ปรากฏว่าเปิดประตูออกมาเป็นบัญญัติ ฮ่วย... เดี๋ยวก็แสดงพลัง(บาทา)ประชาชนซะเลยนิ

รถในหลวงถ่ายไม่ได้เหรอนี่ ของผมแปลกแฮะ ตอนรับเสด็จที่ถนนราชดำเนินเขาให้ถ่ายได้ แต่ห้ามใช้แฟลช (แล้วถ่ายยังไงล่ะ เสด็จมาสองทุ่มกว่าอะ)

ถึงผมจะอยู่กับบ้าน ก็น้ำตาคลอนะ อย่างแรกคือดีใจที่มีคนรักในหลวงขนาดนี้ สีเหลืองงี้ยาวไปสุดลูกหูลูกตา ไม่ต้องเกณฑ์คน และในหลวงก็ไม่จำเป็นต้องทรงอ้างว่าใครรักพระองค์บ้าง (ไม่เหมือนบางพรรคที่ชอบอ้างจำนวนประชาชนที่อยู่ข้างตัวเองน่ะ) อีกอย่างก็คือสงสารท่าน ที่ต้องต่อสู้ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ จนกระทั่งตอนนี้ ท่านเองปีหน้าก็จะพระชนมายุ 80 ปีแล้วอะ ยังต้องต่อสู้ไปถึงไหน...

ทรงพระเจริญ

โดย: Jurisfazzion IP: 203.113.34.11 วันที่: 18 มิถุนายน 2549 เวลา:19:24:24 น.
  
วันที่ 9 ผมอยู่เกาะเต่า เรียน scuba วันสุดท้าย

ตอนบ่ายก็ไปออก dive สุดท้าย เย็นกลับมาก็ไปจัดการเรื่องสอบและเอกสารต่างๆ เข้าห้องก็ทุ่มกว่าแระ ไม่ได้ดูพระราชพิธีไรเลย

จำได้ว่าทุ่มครึ่งมีจุดเทียนถวายพระพรนี่นา ลังเลอยู่เหมือนกันว่าจะดูทีวีอยู่ในห้องหรือจะออกไปกินข้าวดี ..กลัวทีวีที่ห้องอาหารจะไม่เปิดพระราชพิธี เพราะทั้งเจ้าของรีสอร์ทก็เป็นฝรั่ง ทั้งแขกที่พักก็มีแต่ฝรั่ง รอดูบอลทาง UBC

... แต่ก็รีบอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อเหลืองลงมา รีบวิ่งไปห้องอาหาร กะว่าไม่มีก็จะวิ่งกลับมาจุดเทียนคนเดียวในห้องก็ได้ฟระ

ปรากฎว่าพนักงานรีสอร์ทน่ารักมาก แม่ครัว เด็กเสิร์ฟ คนขับรถ ทั้งไทยกลาง อิสาน ทั้งมุสลิม ทั้งพม่า ต่างใส่เสื้อเหลืองยืนเข้าแถวจุดเทียนรุมอยู่หน้าทีวีจอเล็กๆ ผมก็ขอแจมเค้าเอาง่ายๆ ขอเทียนมาเล่มก็ร่วมกันถวายพระพร ยืนร้องเพลงสรรเสิรญ(สำเนียงหลากหลายมากๆ ) ร่วมกันตะโกนทรงพระเจริญ ..

เป็นความรู้สึกที่ปลาบปลื้มจริงๆ และจะจำไว้อีกนานเลย

...ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน..



โดย: คุณเก๋ IP: 124.121.7.44 วันที่: 19 มิถุนายน 2549 เวลา:1:37:28 น.
  
นั่งดูถ่ายทอดสดผ่านเน็ตเลยค่ะ เกาะติดสถานการณ์แถมนั่งน้ำตาซึมร้องเพลงสรรเสิรญตามจอคอมกันยกใหญ่ อะน่า...อยู่ไกลเราก็ยังดูนะจะบอกให้
โดย: ป้าเก๋สวยรึคะ IP: 84.102.201.240 วันที่: 19 มิถุนายน 2549 เวลา:21:16:14 น.
  
คุณนุ่น ... สำหรับวันสำคัญวันแห่งประวัติศาสตร์วันนั้นนั่งจ้องทีวีออนไลน์เกือบทั้งวันเลยล่ะคะ แบบต่อคอมเสียบกับทีวีใหญ่เลย ได้ดูเต็มๆ ตา แต่เสียดายว่าไม่ได้ดู Live เพราะว่ามันเช้าเกินไปสำหรับทางนี้ แต่ว่าเราได้ดูข่าวช่วงบ่ายๆ แทนค่ะ แล้วก้ตอนเย็นก็ได้ดูพิธีการที่สนามหลวงด้วย


เหตุการณ์ที่เกิดวันนั้นบอกได้เลยค่ะว่าประทับใจมาก และก็จะไม่ลืมด้วยล่ะค่ะสำหรับเหตุการณ์ดีๆ ที่เกิดขึ้นนะ
โดย: JewNid วันที่: 20 มิถุนายน 2549 เวลา:14:02:03 น.
  
สวัสดีนะคะ พี่นุ่น สบายดีกันทุกคนนะคะ ดีใจด้วยนะคะที่ได้อยู่ตรงนั้น เป็นโอกาสที่ดีมากเลยที่ได้ชื่นชมพระบารมีของพระองค์ท่าน

เข้ามาทักทายนะคะ...เห็นพวกพี่นิ พี่เติ้ล พี่นุ่นแล้วคิดถึงนะคะ มีความสุข สนุก กันมากๆๆ นะคะ

โดย: Bim IP: 202.44.139.49 วันที่: 20 มิถุนายน 2549 เวลา:18:56:10 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชาบุ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เป็นสาวแกร่งแรงเกินร้อย ประเภทพึ่งพาตัวเองได้ ดื้อเงียบ (แต่มีเหตุผลพอสมควรนะ) อ่อนไหว ช่างฝัน แต่ก็อยู่ในโลกของความเป็นจริง ชอบมองอะไรกว้าง ๆ และทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น (ปลงแล้ว! hahaha) ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ชีวิตนี้ยอมไม่มีแฟนดีกว่าไม่มีหนังสืออ่านอะ >_<

สิ่งที่จำขึ้นใจคือ คำคมภาษาอังกฤษที่ว่า "I will take my life into my hands and I will use it" และ คำคมจากหนัง My Best Friend's Wedding "When you love someone,you say it right then, out loud or the moment just passed you by"
มิถุนายน 2549

 
 
 
 
1
2
3
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
19
20
21
23
25
26
27
28
30
 
 
17 มิถุนายน 2549
All Blog