เฮฮาประสานิติกร #3
ศุกร์สิ้นเดือนมีนาที่ผ่านมา พวกเรา (เติ้ล ณัฐ ศิ หนึ่ง พี่ต้น และเรา) ชวนกันไปกินร้านแกงป่าศรีย่าน หลังเลิกงานค่ะ

งานนี้ไม่ได้ตั้งใจไปกินกันอีกเช่นเคย เพราะตอนแรกณัฐกับศิตั้งใจจะไปเดินงานกาชาดกัน ส่วนเราก็จะไปฟิตเนสตามปกติ พี่นิก็รีบเผ่นกลับบ้านที่ชลบุรี แต่ช่วงที่ณัฐกำลังจะออกไป ณัฐถามเรากับเติ้ลว่า "พี่ ๆ อยากไปเดินงานกาชาดกันไหม" เติ้ลกับเราก็ตอบว่า "ไม่"

ณัฐ: "แล้วสนใจจะไปกินร้านแกงป่าไหม"

เรากับเติ้ล: "สน" ...แป่ว...

แต่ณัฐกับศิก็รีบออกไปก่อนค่ะ เหลือเรา เติ้ล พี่ต้น หนึ่ง ก็มาคุยกันว่าตกลงพวกเราจะไปกินอะไรกันไหม เรากับเติ้ลก็บอกว่าณัฐชวนทานร้านแกงป่า หนึ่งก็บอกว่า "เออ ไปสิ"

พอโทรถามณัฐว่าจะไปไหม ณัฐก็บอกว่า "ไป" ...ไม่น่าถาม hahaha... งานนี้ใครไปถึงก่อนสั่งอาหารรอไว้เลยค่ะ

ระหว่างที่เราขับรถลงมาจากที่จอดรถ เจอหนึ่งกับพี่ต้นตรงที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ พอหนึ่งเห็นพวกเราก็ทำหน้าขำ เราเลยเปิดกระจกถามว่า "เกิดอะไรขึ้น ช่วงที่เดินลงมา" หนึ่งบอกว่า "มีอะไรจะเล่า แต่เดี๋ยวไปเล่าให้ฟังที่ร้าน"

คือวันนี้ตอนกลางวันพวกเรานั่งวิเคราะห์สถานการณ์ของพี่ต้นกันน่ะค่ะ เพราะพี่ต้นคุยโทรศัพท์กับเพื่อนนานมาก ๆ พอพี่ต้นวางสาย ก็พูดว่า "เนี่ย ทำไมทีงี้มันไม่ดับวะ" หนึ่งกับเติ้ลก็เลยบอกว่า "พี่ต้นเชื่อมะ เดี๋ยวพอแฟนพี่ต้นโทรมา มันก็ดับอีก"

พี่ต้น: "เออ ว่ะ"

เติ้ล: "เนี่ย พิสูจน์ได้เลย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เดี๋ยวคอยดูเย็นนี้นะ"

กลับมาที่ตอนเย็น

ระหว่างทางขับรถไปร้าน ก็มีคนโทรหาเราค่ะ เราก็หยิบมือถือขึ้นมาดู 'เอ ใครหว่า เบอร์ไม่คุ้น' ตอนนั้นเติ้ลกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ด้วยค่ะ

เรา: "สวัสดีค่ะ"

???: "นุ่นหรือเปล่าคะ"

เรา: "ใช่ค่ะ" ((จำได้ว่าเป็นเสียงแฟนพี่ต้น ))

แฟนพี่ต้น: "วันนี้มีทานเลี้ยงกันหรือเปล่าคะ"

เรา: ((เอ ไอ้ที่หนึ่งจะเล่าให้ฟังนี่มันเรื่องนี้หรือเปล่าหว่า จะตอบไงดีวะ)) "ใช่ค่ะ" ...สุดท้ายตัดสินใจบอกตรง ๆ

แฟนพี่ต้น: "อ๋อ ...ว่าแล้ว" ((ประโยคหลังพูดเบา ๆ แบบไม่ได้ตั้งใจให้เราได้ยิน))

แฟนพี่ต้น: "งั้นฝากบอกพี่ต้นด้วยนะคะว่าอย่ากลับดึก"

เรา: "ได้ค่ะ เดี๋ยวบอกให้นะคะ"

พอวางสายไป เติ้ลก็ยังคุยโทรศัพท์ไม่เสร็จ แถมพี่นิยังโทรมาถามว่าไปไหนกันอีกต่างหาก พอบอกพี่นิว่าจะไปกินร้านแกงป่ากัน พี่นิก็ต่อว่าว่าทีเมื่อกี้ชวนกินส้มตำ ไม่มีใครตอบตกลง เติ้ลก็เลยบอกว่า ก็พี่นิชวนเสร็จแล้วไม่รอฟังคำตอบเลยนี่ แถมตัวเองก็เดินถือกระเป๋ากลับบ้านซะงั้นน่ะ

พอได้โอกาสที่เติ้ลคุยกับพี่นิเสร็จ เราเลยเล่าให้ฟังว่าแฟนพี่ต้นโทรมา แล้วเราก็สงสัยว่าได้เบอร์เราจากไหน เติ้ลบอกว่า สงสัยจะจำไว้ตั้งแต่เราโทรหาครั้งนู้นนน เลยหมายหัวเราไว้ ...เวรจริง ๆ - -'

พอถึงร้าน ทุกคนมากันพร้อมหน้าแล้ว เราเลยเล่าให้ฟังว่าแฟนพี่ต้นโทรมา พี่ต้นก็บอกว่า "อ๋อ เค้าโทรหาแล้ว แล้วก็พูดว่า ทานให้อร่อยนะ คงหลังจากโทรหานุ่นน่ะ แถมมือถือหนึ่งก็แบตฯ หมดพอดี แฟนพี่เค้าก็ยังบอกเลยว่าบังคับให้หนึ่งปิดเครื่องเหรอ แหมม ใครจะไปบังคับอย่างนั้นได้เนอะ" จากนั้นก็อึ้งไปสักพักแล้วก็บอกว่า "พี่เกรงใจพวกเราจริง ๆ ว่ะที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้" ซึ่งถามว่าพวกเราเดือดร้อนอะไรไหม ก็ไม่นะคะ ในเมื่อพวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นเพื่อนกัน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน

ส่วนเรื่องที่หนึ่งจะเล่าให้พวกเราฟังก็คือ ตอนเดินลงมาที่จอดรถ หนึ่งกำลังคุยกับพี่ต้นให้พี่ต้นโทรบอกแฟนอะค่ะว่าจะไปกินข้าวกับพวกเรา พี่ต้นก็บอกว่า "เดี๋ยวค่อยโทร" ปรากฏว่าพอพูดจบ แฟนพี่ต้นก็โทรเข้าเครื่องพี่ต้น และแล้ว...ก็เครื่องดับ!!! ((ไสยศาสตร์มีจริง O_o')) หนึ่งเลยขำอะค่ะ hahaha

พอนั่งทานกันไปได้สักพัก โทรศัพท์หนึ่งก็ดัง พอหนึ่งรับ คนที่โทรมาก็ขอสายพี่ต้น พวกเราก็ถามว่าแฟนพี่ต้นเหรอ หนึ่งบอกว่า "เปล่า ผู้ชาย"

พอพี่ต้นรับไป ก็ "ฮัลโหล ๆ" แล้วก็ถามว่า "ใครน่ะ ๆ" อยู่ 3-4 ครั้ง พวกเราเลยคิดว่า แฟนพี่ต้นคงให้เพื่อนโทรมาเช็คว่าหนึ่งมาด้วยไหมมากกว่า ...เฮ้อ...

พวกเราคิดว่าแฟนพี่ต้นไม่น่าทำแบบนี้นะคะ เป็นแฟนกันอย่างน้อยก็ต้องเชื่อใจกัน ไว้ใจกันในระดับนึง หนึ่งบอกว่า "เค้าเช็คอย่างไม่มีชั้นเชิงเลย" เราก็เห็นด้วยนะ ทำอย่างนี้ สู้โทรมาถามหนึ่งตรง ๆ เองเลยดีกว่า

พอพี่ต้นกลับมา ก็คืนโทรศัพท์ให้หนึ่งแล้วก็ไม่พูดอะไรมาก แค่บอกว่า "ชักรำคาญแล้วว่ะ" พวกเราก็เลยเงียบ ไม่ออกความเห็นค่ะ รู้กัน

หลังจากอิ่มหนำสำราญกันแล้ว ณัฐกับศิก็ขอตัวไปเดินงานกาชาดตามที่วางแผนไว้ค่ะ ส่วนพวกเราที่เหลือก็นั่งคุยกันไป drink กันไป จน 8.30 pm ก็ได้ฤกษ์แยกย้าย โดยพี่ต้นกับหนึ่งจะไปต่อกันที่ร้านฟังเพลงเพื่อชีวิต แถวบ้านหนึ่ง ส่วนเรากับเติ้ลกลับบ้าน

จริง ๆ สองหนุ่มไม่ได้ตั้งใจไปต่อกันหรอกนะคะ หนึ่งบอกให้พี่ต้นกลับบ้านไปอ่านหนังสือด้วยซ้ำ แต่พี่ต้นบอกว่า "อย่างนี้แล้วจะให้กลับบ้านอีกเหรอวะ" แล้วก็หันหน้าหนีแบบงอน ๆ ((คือสั่ง Regency 1 แบนมาเติมเชื้อไว้อะค่ะ hahaha))

ระหว่างทาง หนึ่งโทรหาเราบอกว่า "รถยางแบน" คือ มอเตอร์ไซค์พี่ต้นยางแบนน่ะค่ะ hahaha เราเลยบอกว่าเดี๋ยวตามไปเจอที่ปั๊มน้ำมันใกล้ ๆ ที่ทำงานละกัน

แล้วเราก็คุยกับเติ้ลว่า อย่างนี้ไม่น่าไปต่อกันนะ ฤกษ์มันเสียแล้วอะ

แต่พอพี่ต้นเปลี่ยนยางเสร็จ เราก็ถามหนึ่งว่าจะไปต่อกันไหม หนึ่งตอบว่า "ไปสิ" อืมมมม

หลังจากพี่ต้นไปส่งเติ้ลที่หอเรียบร้อย เราก็ขับรถกลับบ้าน แต่รถติดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ใช้เวลาเดินทาง 1 hr ได้ จากปกติ 15-20 นาที

ตอน 10.30 pm หนึ่งโทรมาถามว่ากลับถึงบ้านหรือยัง เราก็บอกว่าเพิ่งถึง หนึ่งกำลังจะพูดต่อ แต่พอดีมีสายเข้า เลยตัดไปรับสายนั้น หลังจากเรารอสักพัก ยังไม่กลับมา ก็เลยวางสายแล้วโทรบอกเติ้ลว่าถึงบ้านแล้ว เติ้ลบอกว่า "นึกว่าพี่นุ่นหลับไปหลายตื่นแล้วนะเนี่ย" ...ที่ไหนกันล่ะ - -'

พอเรากำลังจะอาบน้ำ ปรากฎว่าหนึ่งโทรมาอีกรอบ บอกว่า "มีอะไรจะเล่าให้ฟัง" เราก็ "อะไร ๆ ว่ามา"

หนึ่ง: "หลังจากออกจากปั๊ม ผมกับพี่ต้นก็แวะกดเงินที่ตู้ ATM 2 เครื่องแรก กดไม่ออก ไม่เป็นไร ไปตู้ที่ 3 ผมกดได้ แต่พอพี่ต้นกด ...เครื่องกินบัตร... ยัง ๆ ไม่พอ พอไปถึงบ้านผม ร้านที่ตั้งใจว่าจะมากิน ปิด พยายามหาร้านกี่ร้าน ก็ปิดหมด ร้านที่เปิดก็ไม่น่านั่ง... เดี๋ยวนะ ๆ แฟนพี่ต้นโทรมา"

เรา: "..." วางสายไปเลยดีกว่า

พอเราเข้าห้องน้ำ ยังไม่ทันจะทำอะไร หนึ่งโทรมาอีกรอบ

หนึ่ง: "นี่ พี่ต้นกำลังคุยกับแฟนอยู่"

เรา: ((มันยังไม่คิดจะกลับกันอีกเหรอเนี่ย))

หนึ่ง: "เดี๋ยวผมกับพี่ต้นจะไปหอณัฐนะ"

เรา: "อ้าว ทำไมล่ะ"

หนึ่ง: "ณัฐโทรมาบอกว่าเข้าห้องไม่ได้ ณัฐลืมกุญแจไว้ในห้อง"

เรา: ((อะไรมันจะซวยขนาดนั้นกันเนี่ย))

หนึ่ง: "ขำไหม ๆ"

เรา: ((ขำกลิ้งอยู่ตรงนั้นไปแล้ว))

หนึ่ง: "เดี๋ยวผมกับพี่ต้นต้องขี่รถจากหลักสี่ไปปิ่นเกล้า แค่นี้ก่อนนะ จะไปแล้ว"

พอเราอาบน้ำเสร็จ ตอนแรกก็กะจะนอนอะค่ะ แต่ด้วยความเป็นห่วง เลยลงมา online MSN ฆ่าเวลา กะว่าเที่ยงคืน หนึ่งคงกลับถึงบ้านพอดี

พอเที่ยงคืนนิด ๆ เราก็โทรไป

เรา: "เป็นไง ถึงบ้านหรือยัง"

หนึ่ง: "ยังไม่ถึงเลยพี่ เนี่ย ยังงัดห้องณัฐไม่ได้เลย"

เรา: "ห๋า..."

หนึ่ง: "นี่ แล้วรู้อะไรมะ ตอนขี่รถมา ฝนดันตกระหว่างทางอีกต่างหาก"

เรา: ((พยายามจะไม่ขำกับความซวยของเพื่อน))

หนึ่ง: "จริง ๆ พี่ เนี่ยแล้วคืนนี้ไม่รู้จะงัดได้หรือเปล่า ล็อคมันแข็งมากเลย เดี๋ยวคุยกับศินะพี่"

ศิ: "พี่นุ่น ๆ พี่นุ่นต้องมาเห็นสภาพพี่ต้นกับพี่หนึ่งนะ หมดสภาพมากเลย ลองนึกภาพนะ สองคนตัวเปียก ๆ เดินเท้าเปล่า มือถือรองเท้า ขึ้นมาถึงชั้น 7 อะ"

เรา: ((พยายามไม่ขำอยู่))

ศิ: "แถมพี่หนึ่งน่ะ งัด ๆ อยู่ยังปวดอี้อีกต่างหาก ต้องไปอี้ห้องศิ ไม่รู้กดชักโครกหรือเปล่าเนี่ย"

เรา: ((ขำกลิ้งไปแล้ว))

ศิ: "พี่นุ่นต้องมาเห็นพี่หนึ่ง เนี่ยนั่งหมดสภาพมาก ๆ เอาเท้ายันประตูห้องไว้อะ"

เรา: "ก็ถ่ายรูปมาให้พี่ดูสิ"

ศิ: "ได้ ๆ เดี๋ยวปลอบณัฐมันหน่อยนะพี่"

ณัฐ: "ฮัลโหลพี่นุ่น"

เรา: "คืนนี้จะงัดได้ไหมเนี่ย"

ณัฐ: "หนูก็ไม่รู้เหมือนกันน่ะพี่"

เรา: "แล้วแม่บ้านไม่มีกุญแจสำรองเหรอ"

ณัฐ: "กุญแจสำรองน่ะมี แต่มันอยู่ใน office แล้วแม่บ้านไม่มีกุญแจ office" ...แป่ว...

เรา: "อืมม"

ณัฐ: "ไม่ต้องเป็นห่วงณัฐนะ พี่นุ่นนอนไปได้เลย"

เรา: "ขอพูดกับหนึ่งหน่อย"

หนึ่ง: "ครับพี่"

จากนั้นเราสองคนก็บ่นกันเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยของที่พักณัฐค่ะ อย่างนี้ใครต่อใครก็งัดห้องสะดวกสิ ไม่ดีเลย ระหว่างนั้นได้ยินเสียงศิตะโกนเข้ามาว่า "ถ่ายรูปไว้ให้แล้วนะพี่"

หนึ่ง: "ดูมัน ถ่ายรูปไว้อีก"

เรา: ((ยังขำอยู่)) "แล้วแฟนพี่ต้นไม่ว่าอะไรเหรอเนี่ย บอกเราให้บอกพี่ต้นว่าอย่ากลับดึก พี่ต้นล่อกลับเช้าเลย"

หนึ่ง: "โหยยย อย่าว่าแต่แฟนพี่ต้นเลย แฟนหนึ่งที่ว่าเข้าใจ ๆ ยังจะไม่เข้าใจเลยเนี่ย"

เรา: ((ขำกลิ้งอีกรอบ))

หนึ่ง: "เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ แฟนหนึ่งโทรมา"

คือ หนึ่งเป็นคนที่รักและแคร์แฟนมากค่ะ แต่ต่างจากพี่ต้นตรงที่ หนึ่งจะรายงานแฟนทุกระยะว่าอยู่ไหน ทำอะไรอยู่ อยู่กับใครอะค่ะ อย่างพวกเรา หนึ่งก็แนะนำให้รู้จักว่าใครเป็นใคร แล้ววันพุธที่ผ่านมา หนึ่งก็พาแฟนมาทาน Sizzler กับเราและเติ้ลด้วย

หลังจากเราวางสาย ก็รู้สึกว่าไม่ไหวแล้วค่ะ เลยปิดมือถือ เข้านอนเลย

ตื่นมา 8 am ไปฟิตเนส เราก็คิดว่าเมื่อคืนคนที่สบายที่สุดคือเติ้ล เพราะได้นอนตั้งแต่ 10 pm กว่า ๆ สบายใจ hahaha รองลงมาก็คือ เรา ถึงจะรถติดหน่อย แต่ก็อยู่บ้านตัวเองเรียบร้อยแล้ว ที่ 3 คือ ศิ เพราะถึงจะไม่ได้นอน ต้องอยู่รอให้พี่ต้นงัดห้องเป็นเพื่อนณัฐ แต่ห้องศิก็ไม่โดนงัด ที่ 4 คือ ณัฐ ถึงห้องจะโดนงัด แต่ไม่ต้องผิดใจกับใคร ที่ 5 คือหนึ่ง ถึงจะต้องผจญภัยกับพี่ต้น แต่แฟนก็ยังจะเข้าใจ อธิบายอะไรได้ง่าย และคนที่ซวยสุด ๆ ก็คือพี่ต้น ตั้งแต่ยางแบน บัตร ATM โดนกิน ตั้งใจจะไปนั่งฟังเพลงก็ร้านปิด ระหว่างทางไปหาณัฐก็เปียกฝน แถมแฟนยังจะไม่เข้าใจอีกต่างหาก เหอ เหอ

ดังนั้นพอ 10.30 am ระหว่างรอข้าวผัดหนำเลี๊ยบของ S&P ให้มารดาท่าน เราก็เลยโทรหาหนึ่ง กะจะถามว่าเมื่อคืนกลับกี่โมง แต่หนึ่งไม่รับสาย เราเลยคิดว่าคงยังไม่ตื่นอะค่ะ เลยโทรไปเม้าท์ให้เติ้ลฟัง เติ้ลก็ขำกลิ้งไปอีกคน แล้วก็พูดว่า "เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเราเนี่ย" ...ไม่รู้เหมือนกัน...

เติ้ล: "พี่นุ่นรู้สึกไหมว่าตั้งแต่พวกเราไปไหว้เจ้าที่ที่ที่ทำงานด้วยกัน มันมีเรื่องที่ทำให้พวกเราสนิทกันมากขึ้นตลอด"

เรา: "เหรอ"

เติ้ล: "จริง ๆ นะพี่ สงสัยเจ้าที่แช่งอะไรไว้แหง ๆ"

เรา: "เอ่อ ทำไมเจ้าที่ต้องแช่งพวกเราด้วยเล๊า ก็ไปไหว้ทำความเคารพนี่ อีกอย่างคราวนี้คนที่ซวยสุด ๆ คือพี่ต้นกับหนึ่ง ไม่ใช่พวกเราซะหน่อย"

เติ้ล: "อะ พี่คิดดูนะ เมื่อคืนตอนยางแบน หนึ่งโทรหาพี่ใช่มะ แล้วแทนที่พี่จะขับรถกลับบ้าน พี่ต้องไปหามันที่ปั๊ม รอจนพี่ต้นเปลี่ยนยางเสร็จ ถูกมะ แล้วพอณัฐลืมกุญแจ ณัฐก็โทรหาพี่ต้น หนึ่งกับพี่ต้นก็ต้องจรลีจากหลักสี่ไปปิ่นเกล้า...เห็นมะ มันเกี่ยวกัน"

เรา: "อืม อืม"

เติ้ล: "เดี๋ยวบ่าย ๆ จะโทรหาหนึ่งซะหน่อย ไม่รู้จะไม่สบายหรือเปล่า ตากฝน ไม่มีหมวกกันน็อคซะด้วย ไม่อยากจะคิดถึงทรงผมมันเล้ยยว่าจะเป็นยังไง ใส่เจลซะขนาดนั้น" - -'

ช่วงที่เรากำลังคุยกับเติ้ล หนึ่งก็โทรกลับมาค่ะ แต่เราไม่รับ พอคุยกับเติ้ลเสร็จ เราเลยโทรกลับ

เรา: "เป็นไง เมื่อคืนกลับถึงบ้านกี่โมง"

หนึ่ง: "1.30 am ครับพี่"

เรา: "แล้วงัดห้องณัฐได้ไหม"

หนึ่ง: "ได้ครับ"

เรา: "แล้วไม่สบายไหมเนี่ย เมื่อคืนตากฝนน่ะ"

หนึ่ง: "อ๋อ ไม่เป็นไรครับ"

ฟังจากเสียงหนึ่งแล้วแย่ ๆ อะค่ะ เราเลยไม่ชวนคุยอะไรต่ออะค่ะ คาดว่าจะอยู่กับแฟนด้วย

แล้วเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตพวกเรากันหนอ...
__________________________________________

ด้วยความที่พวกเราสรรหาอะไรกินด้วยกันบ่อย ๆ หนึ่งกับพี่ต้นก็เลยเสนอความคิดให้พวกเรารวมเงินกันทุกเดือน คนละ 100 บาท ไว้สำหรับเวลาไปกินข้าวกัน ถ้าไปกันครบทุกคนในกลุ่มน่ะค่ะ โดยมีเราทำหน้าที่เป็นเหรัญญิก

เราเรียกชื่อเงินที่เก็บจำนวนนี้ว่า "กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ" ค่ะ แต่เวลาคนอื่นถามจะบอกว่า มันคือค่าคุ้มครอง hahaha

กองทุนนี้มีสมาชิก 6 คน ได้แก่ พี่นิ พี่ต้น เรา เติ้ล หนึ่ง ณัฐ ส่วนศิขอเป็นขาจร เนื่องจากเธอติดแฟนค่ะ เลยมักจะไม่ค่อยไปไหนกับพวกเราเท่าไหร่ ยกเว้นตอนที่แฟนเธอไม่อยู่ hahaha

ตอนนี้เพิ่งเก็บได้เดือนแรกมีเงินอยู่ 600 บาท ซึ่งพอจ่ายครบทุกคนปั๊บ ณัฐ หนึ่ง พี่นิก็บอกว่า "ไปหาอะไรกินกันเถอะ" จนเรากับเติ้ลต้องบอกว่า "เฮ้ย นี่เพิ่งเก็บกันเดือนแรกเองนะ มันจะไปกินกันแล้ว ไม่เหลือแน่ ๆ" - -'

แล้วเรื่องมันก็เป็นอย่างเล่าไว้ข้างบนอะค่ะ hahaha แต่ไม่ได้ใช้กองทุน ฯ นะคะ เพราะขาดพี่นิคนนึง อิ อิ



Create Date : 01 เมษายน 2549
Last Update : 4 เมษายน 2549 23:37:34 น.
Counter : 586 Pageviews.

12 comments
  
อ่านเพลินดีจัง
โดย: คุณเก๋ IP: 124.121.6.107 วันที่: 4 เมษายน 2549 เวลา:23:50:03 น.
  
อะไรมันจะซวยขนาดน้านนนนนนนนนนน

ส่วนร้านแกงป่าศรีย่าน
แต่ก่อนทำงานแถวนั้น... ไปกินประจำเลย
อาหารรสจัดจ้านถูกปากคอซาดิสม์อย่างเราดีแท้
โดย: กาน้ำชากะเชี่ยนหมาก วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:13:22:10 น.
  
5555 พี่ต้นไม่หล่อ พ่อก็จน แต่แฟนรักมากนะเฟร้ยยยย เคยเป็นค่ะวันซวย ๆ นี่ ชอบซวยซ้ำซ้อน มันอะไรจะซวยดีจังคนเรา
โดย: ป้าเก๋สวยกว่าขวัญหื่น ๆ IP: 84.102.201.52 วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:19:26:24 น.
  
หวัดดีจ้านุ่น

ที่ทำงานนุ่นนี่มันส์ดีเนอะ

อิอิ

เจอเรื่องแบบนี้ไม่รู้จะสงสารหรือขำดี

อิอิ
โดย: โอ๋ IP: 202.28.9.80 วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:14:42:34 น.
  



สงกรานต์มีโปรแกรมทำอะไรคะคุณนุ่น^^...
โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 11 เมษายน 2549 เวลา:17:19:55 น.
  
ลงชื่อว่าแวะมาเยี่ยมจ้า วันนี้กิน-ทำงานกะหนูจ๊ะด้วยเสียดายหนูนุ่นไม่ได้มาแจม (แต่กินเผื่อแล้วนะ อิอิ)
โดย: ไร้นาม วันที่: 14 เมษายน 2549 เวลา:23:33:09 น.
  
สวัสดีค่ะ ... สวัสดีปีใหม่นะค่ะ เอ ช้าไปหรือยังน๊อ ไม่เป็นไรนะคะ ช้าๆ ดีกว่าไม่ได้มาเลย

ปีใหม่เที่ยวเล่นน้ำที่ไหนหรือเปล่าค่ะ
โดย: JewNid วันที่: 15 เมษายน 2549 เวลา:16:40:11 น.
  
เป็นที่ทำงานที่โหดมันส์ฮาดีจริงๆเลยง่ะ ตลกดีทุกครั้งที่ฟังเล่าเลยนะ
โดย: ขวัญหื่นๆผอมแล้วพยายามจะสวยทันป้าเก๋ให้ได้ IP: 203.113.33.11 วันที่: 15 เมษายน 2549 เวลา:16:44:23 น.
  
โดย: zaesun วันที่: 16 เมษายน 2549 เวลา:2:05:26 น.
  
แหม แหม เพิ่งรู้ว่ามีนิยายออนไลน์ให้อ่านด้วย รู้จักตัวละครในเรื่องหมดทุกคนเลยนะเนี่ย (หน้าตาดีหมดทุกคนค่า เดี๊ยนรับประกัน โดยเฉพาะตัวเอกของเรื่องที่ชื่อพี่ต้น เดี๊ยนว่าจะให้เพื่อนที่เป็นผู้ช่วยผู้กำกับละครช่อง 3 มาชวนไปออกทีวีดูน่ะค่ะ เผื่อดังจะได้หาแฟนใหม่ไปด้วยในตัว ดีมั้ยเคอะ) พี่นุ่นเล่าเรื่องได้เก่งจิงๆ เจ๋งมากค่ะ วันหลังอย่าลืมชวนคนชั้น 14 ที่อยู่ตึกเดียวกันไปบ้างนะคะ
โดย: คนที่คุณก้อรู้ว่าใคร IP: 203.156.26.2 วันที่: 16 เมษายน 2549 เวลา:20:13:43 น.
  
ฮ่าๆๆๆ

ทำไมวีรกรรมเยอะจัง

อ่านเพลินเลยนะนี่
โดย: la-la-bell วันที่: 17 เมษายน 2549 เวลา:12:50:12 น.
  
สวัสดีวันปีใหม่ไทยค๊า

แอบตามมาดูทริปดำน้ำที่ภูเก็ต ยังไม่ได้อัพเหรอค่ะ ไว้จะตามมาดูใหม่คับพ้มมมมมมมมมมม
โดย: ZaxZoPhone. วันที่: 17 เมษายน 2549 เวลา:15:51:01 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชาบุ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เป็นสาวแกร่งแรงเกินร้อย ประเภทพึ่งพาตัวเองได้ ดื้อเงียบ (แต่มีเหตุผลพอสมควรนะ) อ่อนไหว ช่างฝัน แต่ก็อยู่ในโลกของความเป็นจริง ชอบมองอะไรกว้าง ๆ และทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น (ปลงแล้ว! hahaha) ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ชีวิตนี้ยอมไม่มีแฟนดีกว่าไม่มีหนังสืออ่านอะ >_<

สิ่งที่จำขึ้นใจคือ คำคมภาษาอังกฤษที่ว่า "I will take my life into my hands and I will use it" และ คำคมจากหนัง My Best Friend's Wedding "When you love someone,you say it right then, out loud or the moment just passed you by"
เมษายน 2549

 
 
 
 
 
 
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
 
 
All Blog