Bloggang.com : weblog for you and your gang
จินตนาการจากความว่างเปล่า
Imagination from the emptiness
Group Blog
สลักนาม
ยามเยี่ยมชม
เพื่อภิรมย์กับ
สิ่งฝัน
คอยค่อยเพิ่ม
สะสม
กัน
จึงคัดสรรนำ
ภาพ
มา
พร้อม
วิชา
พาเพลิดเพลิน
อย่าหมางเมิน
บ้านเมือง
ไทย
รักษาใจ
ให้เห็นจริง
ปลดปล่อย
ทิ้ง
เรื่องวันวาน
กันยายน 2548
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
27 กันยายน 2548
กฏหมายแพ่งและพาณิชย์ - บรรพ 4 ทรัพย์สิน
All Blogs
โลกไอที...
งาน BizIT 2009
กฏจราจร?
สอบตัวแทนประกันชีวิต
ม.รามฯ เข้าง่ายจบยาก
จบนิติแล้ว
กฎหมายการขนส่งและจราจร
หลักวิชาชีพนักกฏหมาย
กฏหมายเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน
กฏหมายการค้าระหว่างประเทศ
ผลการเรียนปีสอง
รวมที่เรียนปีสองภาคฤดูร้อน
การว่าความ
ค้ำประกัน จำนอง จำนำ
รวมที่เรียนปีสองเทอมสอง
พระธรรมนูญศาลยุติธรรม
นิติปรัชญา
กฏหมายรัฐธรรมนูญ
กฏหมายอาญา 2
กฏหมายแพ่งฯ ว่าด้วยยืม
กฏหมายล้มละลาย
ภาษาอังกฤษสำหรับนักกฏหมาย
กฏหมายประกันภัย
รวมที่เรียนปีสองเทอมหนึ่ง
ผลการเรียนปีหนึ่ง
กฏหมายที่ดิน
กฏหมายแรงงาน
กฏหมายลักษณะพยาน
กฏหมายปกครอง
กฏหมายมรดก
หุ้นส่วน-บริษัท
กฏหมายวิแพ่งฯ 1
ซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให้
กฏหมายอาญา 1
รวมที่เรียนปีหนึ่งภาคฤดูร้อน
กฏหมายระหว่างประเทศ
กฏหมายการคลัง
รวมที่เรียนปีหนึ่งเทอมสอง
รวมที่เรียนปีหนึ่งเทอมหนึ่ง
ตั๋วเงินและบัญชีเดินสะพัด
ตัวแทน นายหน้า
นิติกรรมและสัญญา
กฎหมายอาญา ภาค2 ความผิด
ป.พ.พ. ว่าด้วยหนี้
กฏหมายทหาร
ป.พ.พ. ว่าด้วยเช่าทรัพย์, เช่าซื้อ
ประมวลรัฐฏากร
ป.พ.พ. ว่าด้วยละเมิด
กฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา 1 - ภาค 2 สอบสวน
กฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา 1 - ลักษณะ 5
กฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา 1 - ลักษณะ 1-4
หลักกฏหมายเอกชน
กฏหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง 2 - ภาค4 ลักษณะ2 การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง (หมวด 2)
กฏหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง 2 - ภาค4 ลักษณะ2 การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง (หมวด 1)
กฏหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง 2 - ภาค4 ลักษณะ1 วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา
กฏหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง 2 - ภาค 3 อุทธรณ์ และ ฏีกา
หลักกฏหมายมหาชน
กฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา 2 - ลักษณะ 1 อุทธรณ์
กฏหมายระหว่างประเทศแผนกคดีเมือง
กฏหมายแพ่งและพาณิชย์ - บรรพ 5 ลักษณะ 1 การสมรส
กฏหมายแพ่งและพาณิชย์ - บรรพ 4 ลักษณะ 5-8
กฏหมายแพ่งและพาณิชย์ - บรรพ 4 ลักษณะ 4 ภารจำยอม
กฏหมายแพ่งและพาณิชย์ - บรรพ 4 ลักษณะ 3 ครอบครอง
กฏหมายแพ่งและพาณิชย์ - บรรพ 4 ทรัพย์สิน
กฏหมายแพ่งและพาณิชย์ - บรรพ 1 ลักษณะ 3 ทรัพย์
ระบบกฏหมายหลัก
ประวัติศาสตร์กฏหมายไทย
กฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา 2 - ลักษณะ 2 ฏีกา
กฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา 2 - ลักษณะ 3 ชั้นต้น
กฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา 2 - ลักษณะ 1-2 ชั้นต้น
กฏหมายแพ่งและพาณิชย์ - บรรพ 4 ทรัพย์สิน
บรรพ 4 ทรัพย์สิน - ลักษณะ 1 บทเบ็ดเสร็จทั่วไป
การได้มาซึ่งทรัพย์สิทธิ
(1) การได้มาโดยผลแห่งกฏหมาย
(2) การได้มาโดยทางนิติกรรม
มาตรา 1298:
ทรัพยสิทธิทั้งหลายนั้น ท่านว่าจะก่อตั้งขึ้นได้แต่ด้วยอาศัยอำนาจ ในประมวลกฏหมายนี้หรือกฏหมายอื่น
มาตรา 1299:
ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติ ในประมวลกฏหมายนี้หรือกฏหมายอื่น ท่านว่าการได้มาโดยนิติกรรมซึ่งอสังหาริมทรัพย์ หรือทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์นั้นไม่สมบูรณ์เว้นแต่นิติกรรมจะได้ทำเป็นหนังสือและได้จดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่
ถ้ามีผู้ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ โดยทางอื่นนอกจากนิติกรรม สิทธิของผู้ได้มานั้นถ้ายังมิได้จดทะเบียนไซร้ ท่านว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนไม่ได้ และสิทธิอันยังมิได้จดทะเบียนนั้นมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว
การเพิกถอนการได้ทรัพย์สิทธิทางทะเบียน
มาตรา 1300:
ถ้าได้จดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เป็นทางเสียเปรียบแก่บุคคลผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อนไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้น อาจเรียกให้เพิกถอนการจดทะเบียนนั้นได้ แต่การโอนอันมีค่าตอบแทนซึ่งผู้รับโอนกระทำการโดยสุจริตนั้น ไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใดท่านว่าจะเรียกให้เพิกถอนทะเบียนไม่ได้
การเปลี่ยนแปลง ระงับและกลับคืนมาซึ่งทรัพยสิทธิ
มาตรา 1301:
บทบัญญัติแห่งสองมาตราก่อนนี้ท่านให้ใช้บังคับถึง การเปลี่ยนแปลง ระงับ และกลับคืนมาแห่งทรัพย์สิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์นั้นด้วย โดยอนุโลม
มาตรา 1302:
บทบัญญัติแห่งสามมาตราก่อนนี้ท่านให้ใช้บังคับ ถึงเรือกำปั่น หรือเรือมีระวางตั้งแต่หกตันขึ้นไป เรือกลไฟ หรือเรือยนต์มีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป ทั้งแพ และสัตว์พาหนะด้วยโดยอนุโลม
การเรียกร้องสังหาริมทรัพย์เดียวกัน
มาตรา 1303:
ถ้าบุคคลหลายคนเรียกเอาสังหาริมทรัพย์เดียวกัน โดยอาศัยหลักกรรมสิทธิ์ต่างกันไซร้ ท่านว่าทรัพย์สินตกอยู่ในครอบครองของบุคคลใด บุคคลนั้นมีสิทธิยิ่งกว่าบุคคลอื่นๆ แต่ต้องได้ทรัพย์นั้นมาโดยมีค่าตอบแทนและได้การครอบครองโดยสุจริต
หากมิให้ใช้มาตรานี้ บังคับถึงสังหาริมทรัพย์ซึ่งระบุไว้ในมาตราก่อนและในเรื่องทรัพย์สินหายกับทรัพย์สินที่ได้มาโดยการกระทำผิด
ทรัพย์สินของแผ่นดิน
{1} ทรัพย์สินของแผ่นดินธรรมดา
{2} สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน
มาตรา 1304:
สาธารรณสมบัติของแผ่นดินนั้น รวมทรัพย์สินทุกชนิดของแผ่นดินซึ่งใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกัน เช่น
1)
ที่ดินรกร้างว่างเปล่า
และ
ที่ดินซึ่งมีผู้เวนคืน
หรือ
ทอดทิ้ง
หรือ
กลับมาเป็นของแผ่นดิน
โดยประการอื่น
ตามกฏหมายที่ดิน
2) ทรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน เป็นต้นว่า ที่ชายตลิ่ง ทางน้ำ ทางหลวง ทะเลสาบ
3) ทรัพย์สินใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะเป็นต้นว่าป้อมและโรงอาหาร สำนักราชการบ้านเมือง เรือรบ อาวุธยุทธภัณฑ์
มาตรา 1305:
ทรัพย์สินซึ่งเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินนั้นจะโอนแก่กันมิได้ เว้นแต่อาศัยอำนาจแห่งบท กฏหมายเฉพาะหรือพระราชกฤษฏีกา
มาตรา 1306:
ท่านห้ามมิให้ยกอายุความขึ้นเป็น ข้อต่อสู้กับแผ่นดินในเรื่องทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
มาตรา 1307:
ท่านห้ามมิให้ยึดทรัพย์สินของแผ่นดินไม่ว่าทรัพย์สินนั้นจะเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่
การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์
#1. การได้มาโดยผลแห่งกฏหมาย
#1.1 การได้มาโดยหลักส่วนควบ
#1.2 การได้มาโดยเข้าถือเอาซึ่งสังหาริมทรัพย์ไม่มีเจ้าของ
#1.3 การได้มาซึ่งทรัพยสิทธิที่ปราศจากผู้ครอบครอง
#1.4 การได้มาโดยสุจริตในพฤติการณ์พิเศษ
#1.5 การได้มาโดยอายุความ
#1.6 การได้มาซึ่งที่ดินของแผ่นดิน
#2. การได้มาโดยนิติกรรม
ลักษณะ 2 - กรรมสิทธิ์
#1.1.1 ส่วนควบโดยธรรมชาติ
มาตรา 1308:
ที่ดินแปลงใดเกิด
ที่งอกริมตลิ่ง
ที่งอกย่อมเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่ดินแปลงนั้น
มาตรา 1309:
เกาะ
ที่เกิดในทะเลสาบหรือในทาง น้ำหรือในเขตน่านน้ำของประเทศก็ดี และ
ท้องทางน้ำที่เขินขึ้น
ก็ดี เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน
#1.1.2 ส่วนควบโดยการปลูกสร้าง
มาตรา 1310:
บุคคลใด
สร้างโรงเรือน ในที่ดินของ ผู้อื่นโดยสุจริต
ไซร้ ท่านว่าเจ้าของที่ดินเป็นเจ้าของโรงเรือนนั้นๆ แต่ต้องใช้ค่าแห่งที่ดินเพียงที่เพิ่มขึ้น เพราะสร้างโรงเรือนนั้นให้แก่ผู้สร้าง
แต่ถ้าเจ้าของที่ดินสามารถแสดงได้ว่า มิได้มีความประมาทเลินเล่อ จะบอกปัดไม่ยอมรับโรงเรือนนั้น และเรียกให้ผู้สร้างรื้อถอนไปและทำที่ดินให้เป็นตามเดิมก็ได้ เว้นไว้แต่ถ้าการนี้จะทำไม่ได้โดยใช้เงินพอควรไซร้ ท่านว่าเจ้าของที่ดินจะเรียกให้ผู้สร้างซื้อที่ดินทั้งหมดหรือแต่บางส่วนตามราคาตลาดก็ได้
มาตรา 1311:
บุคคลใด
สร้างโรงเรือนในที่ดินของผู้อื่นโดยไม่สุจริต
ไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นต้องทำที่ดินให้เป็นตามเดิมแล้วส่งคืนเจ้าของเว้นแต่เจ้าของจะเลือกให้ส่งคืนตามที่เป็นอยู่ ในกรณีเช่นนี้เจ้าของที่ดินต้องใช้ราคาโรงเรือนหรือใช้ค่าแห่งที่ดินเพียงที่เพิ่มขึ้น เพราะสร้างโรงเรือนนั้น แล้วแต่จะเลือก
มาตรา 1312:
บุคคลใด
สร้างโรงเรือนรุกล้ำในที่ดินของผู้อื่น
โดยสุจริตไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นเป็นเจ้าของโรงเรือนที่สร้างขึ้น แต่ต้องเสียเงินให้แก่เจ้าของที่ดินเป็นค่าใช้ที่ดินนั้น และจดทะเบียนสิทธิเป็นภารจำยอม ต่อมาภายหลังโรงเรือนนั้นสลายไปทั้งหมด เจ้าของที่ดินจะเรียกให้เพิกถอนการจดทะเบียนเสียก็ได้
ถ้าบุคคลผู้สร้างโรงเรือนนั้น กระทำการโดยสุจริต ท่านว่าเจ้าของที่ดินจะเรียกให้ผู้สร้างรื้อถอนไป และทำที่ดินให้เป็นตามเดิม โดยผู้สร้างเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายก็ได้
มาตรา 1313:
ถ้าผู้เป็นเจ้าของที่ดินโดย
มีเงื่อนไขสร้างโรงเรือนในที่ดิน
นั้น และภายหลังที่ดินตกเป็นบุคคลอื่นตามเงื่อนไขไซร้ ท่านให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยลาภมิควรได้มาใช้บังคับ
มาตรา 1314:
ท่านให้ใช้บทบัญญัติมาตรา 1310, 1311 และ 1313 บังคับตลอดถึงการก่อสร้างใดๆ ซึ่งติดที่ดินและการเพาะปลูกต้นไม้หรือธัญชาติด้วยโดยอนุโลม
แต่
ข้าวหรือธัญชาติ
อย่างอื่นอัน จะเก็บเกี่ยวรวงผลได้คราวหนึ่งหรือหลายคราวต่อไปเจ้าของที่ดินต้องยอมให้บุคคลผู้กระทำการโดยสุจริต หรือผู้เป็นเจ้าของที่ดินโดยมีเงื่อนไข ซึ่งได้เพาะปลูกลงไว้นั้น คงครองที่ดินจนกว่าจะเสร็จการเก็บเกี่ยวโดยใช้เงินจำนวนตามเกณฑ์ค่าเช่าที่ดินนั้นหรือเจ้าของที่ดินจะเข้าครอบครองในทันทีโดยใช้ค่าทดแทนให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งก็ได้
มาตรา 1315:
บุคคลใดสร้างโรงเรือน หรือทำการก่อสร้างอย่างอื่นซึ่งติดที่ดิน หรือเพาะปลูกต้นไม้หรือธัญชาติใน
ที่ดินของตนเองด้วยสัมภาระของผู้อื่น
ท่านว่าบุคคลนั้นเป็นเจ้าของสัมภาระแต่ต้องใช้ค่าสัมภาระ
มาตรา 1316:
ถ้า
เอาสังหาริมทรัพย์ของบุคคลหลายคนมารวมกันเข้าจนเป็นส่วนควบ
หรือแบ่งแยกไม่ได้ไซร้ ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นเจ้าของรวมแห่งทรัพย์ที่รวมกันเข้า แต่ละคนมีส่วนตามค่าแห่งทรัพย์ของตนในเวลาที่รวมกับทรัพย์อื่น
ถ้าทรัพย์อันหนึ่งอาจถือได้ว่าเป็นทรัพย์ประธานไซร้ ท่านว่าเจ้าของทรัพย์นั้นเป็นเจ้าของทรัพย์ที่รวมเข้ากันแต่ผู้เดียว แต่ต้องใช้ค่าของทรัพย์อื่นๆ ให้แก่เจ้าของทรัพย์นั้นๆ
มาตรา 1317:
บุคคลใดใช้สัมภาระของคนอื่นทำสิงใดขึ้นใหม่ไซร้
ท่านว่าเจ้าของสัมภาระเป็นเจ้าของสิ่งนั้นโดยมิต้องคำนึงว่าสัมภาระนั้นจะคืนตามเดิมหรือไม่ แต่ต้องใช้ค่าแรงงาน
แต่ถ้าค่าแรงงานเกินกว่าสัมภาระที่ใช้นั้นมากไซร้ ท่านว่าผู้ทำเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ทำขึ้นแต่ต้องใช้ค่าส้มภาระ
#1.2.1 ทรัพย์ที่ไม่เคยมีเจ้าของมาก่อนเลย
มาตรา 1318:
บุคคลอาจจะได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์แห่งสังหาริมทรัพย์อันไม่มีเจ้าของโดยถือเอาสังหาริมทรัพย์นั้น
#1.2.2 ทรัพย์ที่เคยมีเจ้าของแต่เจ้าของได้เลิกครอบครองโดยเจตนาสละกรรมสิทธิ์
มาตรา 1319:
ถ้าเจ้าของสังหาริมทรัพย์เลิกครอบครองทรัพย์ด้วยเจตนา สละกรรมสิทธิ์ไซร้ ท่านว่าสังหาริมทรัพย์นั้นไม่เจ้าของ
มาตรา 1320:
ภายในบังคับแห่งกฏหมายเฉพาะและข้อบังคับในเรื่องนั้นท่านว่า
สัตว์ป่า
ไม่มีเจ้าของตราบเท่าที่ยังอยู่อิสระ สัตว์ป่าในสวนสัตว์และปลาในบ่อ หรือในน้ำซึ่งเจ้าของกันไว้นั้น ท่านว่าไม่ใช่สัตว์ไม่มีเจ้าของ
สัตว์ป่าที่คนจับได้นั้น ถ้ามันกลับคืนอิสระแล้วเจ้าของไม่ติดตามโดยพลันหรือเลิกติดตามเสียแล้ว ฉะนี้ท่านว่าไม่มีเจ้าของ
สัตว์ซึ่งเลี้ยงเชื่องแล้ว ถ้ามันทิ้งที่ไปเลย ท่านว่าไม่มีเจ้าของ
มาตรา 1321:
ภายในบังคับแห่งกฎหมายเฉพาะและกฎข้อบังคับในเรื่อง นั้น ผู้ใดจับสัตว์ป่าได้ในที่รกร้างว่างเปล่า หรือในที่น้ำสาธารณะก็ดี หรือจับ ได้ในที่ดิน หรือที่น้ำมีเจ้าของโดยเจ้าของมิได้แสดงความหวงห้ามก็ดี ท่านว่า ผู้นั้นเป็นเจ้าของสัตว
มาตรา 1322:
บุคคลใดทำให้สัตว์ป่าบาดเจ็บแล้วติดตามไปและบุคคลอื่น จับสัตว์นั้นได้ก็ดี หรือสัตว์นั้นตายลงในที่ดินของบุคคลอื่นก็ดี ท่านว่าบุคคล แรกเป็นเจ้าของสัตว์
#1.3.1 การได้มาซึ่งของตกหาย
มาตรา 1323:
บุคคลเก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหาย ต้องทำอย่างหนึ่งอย่างใด ดั่งต่อไปนี้
(1) ส่งมอบทรัพย์สินนั้นแก่ผู้ของหายหรือเจ้าของ หรือบุคคลอื่นผู้มีสิทธิ จะรับทรัพย์สินนั้น หรือ
(2) แจ้งแก่ผู้ของหายหรือเจ้าของ หรือบุคคลอื่นผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สิน นั้นโดยมิชักช้า หรือ
(3) ส่งมอบทรัพย์สินนั้นแก่ตำรวจนครบาล หรือพนักงานเจ้าหน้าที่อื่น ภายในสามวัน และแจ้งพฤติการณ์ตามที่ทราบอันอาจเป็นเครื่องช่วยในการสืบ หาตัวบุคคลผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินนั้น
แต่ถ้าไม่ทราบตัวผู้ของหาย เจ้าของ หรือบุคคลอื่นผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สิน ก็ดี หรือบุคคลดั่งระบุนั้นไม่รับมอบทรัพย์สินก็ดี ท่านให้ดำเนินการตามวิธีอัน บัญญัติไว้ในอนุ มาตรา (3)
ทั้งนี้ ท่านว่าผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหายต้องรักษาทรัพย์สินนั้นไว้ด้วย ความระมัดระวังอันสมควรจนกว่าจะส่งมอบ
มาตรา 1324:
ผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหาย อาจเรียกร้องเอารางวัลจาก บุคคลผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินนั้นเป็นจำนวนร้อยละสิบแห่งค่าทรัพย์สินภายใน ราคาพันบาท และถ้าราคาสูงกว่านั้นขึ้นไป ให้คิดให้อีกร้อยละห้าในจำนวน ที่เพิ่มขึ้นแต่ถ้าผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหาย ได้ส่งมอบทรัพย์สินแก่ตำรวจ นครบาล หรือพนักงานเจ้าหน้าที่อื่นไซร้ ท่านว่าให้เสียเงินอีกร้อยละสองครึ่ง แห่งค่าทรัพย์สินเป็นค่าธรรมเนียมแก่ทบวงการนั้น ๆ เพิ่มขึ้นเป็นส่วนหนึ่ง ต่างหากจากรางวัลซึ่งให้แก่ผู้เก็บได้ แต่ค่าธรรมเนียมนี้ท่านจำกัดไว้ไม่ให้ เกินร้อยบาท
ถ้าผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหายมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติใน มาตรา ก่อนไซร้ ท่านว่าผู้นั้นไม่มีสิทธิจะรับรางวัล
มาตรา 1325:
ถ้าผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหายได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติ มาตรา 1323 แล้ว และผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินนั้นมิได้เรียกเอาภายในหนึ่งปีนับแต่วัน ที่เก็บได้ไซร้ ท่านว่ากรรมสิทธิ์ตกแก่ผู้เก็บได้
แต่ถ้าทรัพย์สินซึ่งไม่มีผู้เรียกเอานั้นเป็นโบราณวัตถุไซร้ กรรมสิทธิ์แห่ง ทรัพย์สินนั้นตกแก่แผ่นดิน แต่ผู้เก็บได้มีสิทธิจะได้รับรางวัลร้อยละสิบแห่งค่า ทรัพย์สินนั้น
มาตรา 1326:
การเก็บได้ซึ่งทรัพย์สินอันตกหรือทิ้งทะเล หรือทางน้ำ หรือน้ำซัดขึ้นฝั่งนั้น ท่านให้บังคับตามกฎหมายและกฎข้อบังคับว่าด้วย การนั้น
มาตรา 1327
ภายในบังคับแห่งกฎหมายอาญา กรรมสิทธิ์แห่งสิ่งใด ๆ
ซึ่งได้ใช้ในการกระทำผิด หรือได้มาโดยการกระทำผิดหรือเกี่ยวกับการกระ ทำผิดโดยประการอื่น และได้ส่งไว้ในความรักษาของกรมในรัฐบาลนั้น ท่าน ว่าตกเป็นของแผ่นดิน ถ้าเจ้าของมิได้เรียกเอาภายในหนึ่งปีนับแต่วันส่ง หรือถ้าได้ฟ้องคดีอาญาต่อศาลแล้วนับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด แต่ถ้า ไม่ทราบตัวเจ้าของ ท่านให้ผ่อนเวลาออกไปเป็นห้าปี
ถ้าทรัพย์สินเป็นของเสียง่าย หรือถ้าหน่วงช้าไว้จะเป็นการเสี่ยงความ เสียหายหรือค่าใช้จ่ายจะเกินส่วนกับค่าของทรัพย์สินนั้นไซร้ ท่านว่ากรม ในรัฐบาลจะจัดให้เอาออกขายทอดตลาดก่อนถึงกำหนดก็ได้ แต่ก่อนที่จะ ขายให้จัดการตามควรเพื่อบันทึกรายการอันเป็นเครื่องให้บุคคลผู้มีสิทธิ จะรับทรัพย์สินนั้น อาจทราบว่าเป็นทรัพย์สินของตนและพิสูจน์สิทธิได้ เมื่อขายแล้วได้เงินเป็นจำนวนสุทธิเท่าใดให้ถือไว้แทนตัวทรัพย์สิน
มาตรา 1328:
สังหาริมทรัพย์มีค่าซึ่งซ่อนหรือฝังไว้นั้น ถ้ามีผู้เก็บได้โดย พฤติการณ์ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถอ้างว่าเป็นเจ้าของได้ไซร้ ท่านว่ากรรมสิทธิ์ตก เป็นของแผ่นดิน ผู้เก็บได้ต้องส่งมอบทรัพย์นั้นแก่ตำรวจนครบาล หรือพนักงาน เจ้าหน้าที่อื่น แล้วมีสิทธิจะได้รับรางวัลหนึ่งในสามแห่งค่าทรัพย์นั้น
#1.4.1 การได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยสุจริตในพฤติการณ์พิเศษ
มาตรา 1329:
สิทธิของบุคคลผู้ได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยมีค่าตอบแทนและ โดยสุจริตนั้น ท่านว่ามิเสียไป ถึงแม้ว่าผู้โอนทรัพย์สินให้จะได้ทรัพย์สิน นั้นมาโดยนิติกรรมอันเป็นโมฆียะ และนิติกรรมนั้นได้ถูกบอกล้างภายหลัง
มาตรา 1330:
สิทธิของบุคคลผู้ซื้อทรัพย์สินโดยสุจริตในการขายทอด ตลาดตามคำสั่งศาล หรือคำสั่งเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ในคดีล้มละลายนั้น ท่านว่ามิเสียไป ถึงแม้ภายหลังจะพิสูจน์ได้ว่าทรัพย์สินนั้นมิใช่ของจำเลย หรือลูกหนี้โดยคำพิพากษา หรือผู้ล้มละลาย
มาตรา 1331:
สิทธิของบุคคลผู้ได้เงินตรามาโดยสุจริตนั้นท่านว่ามิเสีย ไป ถึงแม้ภายหลังจะพิสูจน์ได้ว่าเงินนั้นมิใช่ของบุคคลซึ่งได้โอนให้มา
มาตรา 1332:
บุคคลผู้ซื้อทรัพย์สินมาโดยสุจริตในการขายทอดตลาด หรือในท้องตลาด หรือจากพ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้น ไม่จำต้องคืนให้แก่ เจ้าของแท้จริง เว้นแต่เจ้าของจะชดใช้ราคาที่ซื้อมา
#1.5.1 การได้กรรมสิทธิ์โดยอายุความ
มาตรา 1333:
ท่านว่ากรรมสิทธิ์นั้น อาจได้มาโดยอายุความตามที่บัญญัติ ไว้ในลักษณะ 3 แห่งบรรพนี้
#1.6.1 การได้มาซึ่งที่ดินตามกฏหมายที่ดิน
มาตรา 1334:
ที่ดินรกร้างว่างเปล่า และที่ดินซึ่งมีผู้เวนคืนหรือทอดทิ้ง หรือกลับมาเป็นของแผ่นดินโดยประการอื่นตามกฎหมายที่ดินนั้น ท่านว่า บุคคลอาจได้มาตามกฎหมายที่ดิน
แดนแห่งกรรมสิทธิ์และการได้รับกรรมสิทธิ์
มาตรา 1335:
ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติในประมวลกฎหมายนี้ หรือกฎหมายอื่น ท่านว่าแดนแห่งกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้นกินทั้งเหนือพ้น พื้นดินและใต้พื้นดินด้วย
มาตรา 1336:
ภายในบังคับแห่งกฎหมาย เจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิใช้สอย และจำหน่ายทรัพย์สินของตนและได้ซึ่งดอกผลแห่งทรัพย์สินนั้น กับทั้งมีสิทธิ ติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ และ มีสิทธิขัดขวางมิให้ผู้อื่นสอดเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนั้นโดยมิชอบด้วย กฎหมาย
มาตรา 1337:
บุคคลใดใช้สิทธิของตนเป็นเหตุให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ได้รับความเสียหาย หรือเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไป ตามปกติ และเหตุอันควรในเมื่อเอาสภาพและตำแหน่งที่อยู่แห่งทรัพย์สินนั้นมา คำนึงประกอบไซร้ ท่านว่าเจ้าของอสังหาริมทรัพย์มีสิทธิจะปฏิบัติการเพื่อยัง ความเสียหายหรือเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไป ทั้งนี้ไม่ลบล้างสิทธิที่จะเรียกเอาค่า ทดแทน
มาตรา 1338:
ข้อจำกัดสิทธิแห่งเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ซึ่งกฎหมาย กำหนดไว้นั้น ท่านว่าไม่จำต้องจดทะเบียน
ข้อจำกัดเช่นนี้ ท่านว่าจะถอนหรือแก้ให้หย่อนลงโดยนิติกรรมไม่ได้ นอก จากจะได้ทำนิติกรรมเป็นหนังสือและจดทะเบียนกับพนักงานเจ้าหน้าที่
ข้อจำกัดซึ่งกำหนดไว้เพื่อสาธารณประโยชน์นั้น ท่านว่าจะถอนหรือแก้ให้ หย่อนลงมิได้เลย
มาตรา 1339:
เจ้าของที่ดินจำต้องรับน้ำซึ่งไหลตามธรรมดาจากที่ดินสูง มาในที่ดินของตน
น้ำไหลตามธรรมดามายังที่ดินต่ำ และจำเป็นแก่ที่ดินนั้นไซร้ ท่านว่าเจ้า ของที่ดินซึ่งอยู่สูงกว่าจะกันเอาไว้ได้เพียงที่จำเป็นแก่ที่ดินของตน
มาตรา 1340:
เจ้าของที่ดินจำต้องรับน้ำซึ่งไหลเพราะระบายจากที่ดิน สูงมาในที่ดินของตน ถ้าก่อนที่ระบายนั้นน้ำได้ไหลเข้ามาในที่ดินของตนตาม ธรรมดาอยู่แล้ว
ถ้าได้รับความเสียหายเพราะการระบายน้ำ ท่านว่าเจ้าของที่ดินต่ำอาจ เรียกร้องให้เจ้าของที่ดินสูงทำทางระบายน้ำและออกค่าใช้จ่ายในการนั้นเพื่อ ระบายน้ำไปให้ตลอดที่ดินต่ำจนถึงทางน้ำ หรือท่อน้ำสาธารณะ ทั้งนี้ไม่ลบล้าง สิทธิแห่งเจ้าของที่ดินต่ำในอันจะเรียกเอาค่าทดแทน
มาตรา 1341:
ท่านมิให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ทำหลังคาหรือการปลูก สร้างอย่างอื่น ซึ่งทำให้น้ำฝนตกลงยังทรัพย์สินซึ่งอยู่ติดต่อกัน
มาตรา 1342:
บ่อ สระ หลุมรับน้ำโสโครก หรือหลุมรับปุ๋ยหรือขยะมูล ฝอยนั้น ท่านว่าจะขุดในระยะสองเมตรจากแนวเขตที่ดินไม่ได้
คูหรือการขุดร่องเพื่อวางท่อน้ำใต้ดินหรือสิ่งอื่นซึ่งคล้ายกันนั้น ท่าน ว่าจะทำใกล้แนวเขตที่ดินกว่าครึ่งหนึ่งแห่งส่วนลึกของคูหรือร่องนั้นไม่ได้ แต่ถ้าทำห่างแนวเขตหนึ่งเมตรหรือกว่านั้น ท่านว่าทำได้
ถ้ากระทำการดั่งกล่าวไว้ในสองวรรคก่อนใกล้แนวเขตไซร้ ท่านว่าต้อง ใช้ความระมัดระวังตามควร เพื่อป้องกันมิให้ดินหรือทรายพังลง หรือมิให้ น้ำหรือสิ่งโสโครกซึมเข้าไป
มาตรา 1343:
ห้ามมิให้ขุดดินหรือบรรทุกน้ำหนักบนที่ดินเกินควรจนอาจ เป็นเหตุอันตรายแก่ความอยู่มั่นแห่งที่ดินติดต่อ เว้นแต่จะจัดการเพียงพอเพื่อ ป้องกันความเสียหาย
มาตรา 1344:
รั้ว กำแพง รั้วต้นไม้ คู ซึ่งหมายเขตที่ดินนั้น ท่านให้ สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเจ้าของที่ดินทั้งสองข้างเป็นเจ้าของรวมกัน
มาตรา 1345:
เมื่อรั้วต้นไม้ หรือคูซึ่งมิได้ใช้เป็นทางระบายน้ำเป็นของ เจ้าของที่ดินทั้งสองข้างรวมกัน ท่านว่าเจ้าของข้างใดข้างหนึ่งมีสิทธิที่จะตัด รั้วต้นไม้ หรือถมคูนั้นได้ถึงแนวเขตที่ดินของตน แต่ต้องก่อกำแพง หรือทำรั้ว ตามแนวเขตนั้น
มาตรา 1346:
ถ้ามีต้นไม้อยู่บนแนวเขตที่ดิน ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เจ้าของที่ดินทั้งสองข้างเป็นเจ้าของต้นไม้รวมกัน ดอกผลเป็นของเจ้าของที่ ดินคนละส่วนเสมอกัน และถ้าตัดต้นไซร้ ไม้นั้นเป็นของเจ้าของที่ดินคนละ ส่วนดุจกัน
เจ้าของแต่ละฝ่ายจะต้องการให้ขุดหรือตัดต้นไม้ก็ได้ ค่าใช้จ่ายในการ นั้นต้องเสียเท่ากันทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าเจ้าของอีกฝ่ายหนึ่งสละสิทธิในต้นไม้ไซร้ ฝ่ายที่ต้องการขุดหรือตัดต้องเสียค่าใช้จ่ายฝ่ายเดียว ถ้าต้นไม้นั้นเป็นหลักเขต และจะหาหลักเขตอื่นไม่เหมาะเหมือนท่านว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะต้องการให้ขุด หรือตัดไม่ได้
มาตรา 1347:
เจ้าของที่ดินอาจตัดรากไม้ซึ่งรุกเข้ามาจากที่ดินติดต่อ และเอาไว้เสีย ถ้ากิ่งไม้ยื่นล้ำเข้ามา เมื่อเจ้าของที่ดินได้บอกผู้ครอบครอง ที่ดินติดต่อให้ตัดภายในเวลาอันสมควรแล้ว แต่ผู้นั้นไม่ตัด ท่านว่าเจ้าของที่ดิน ตัดเอาเสียได้
มาตรา 1348:
ดอกผลแห่งต้นไม้ที่หล่นตามธรรมดาลงในที่ดินติดต่อแปลง ใด ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นดอกผลของที่ดินแปลงนั้น
มาตรา 1349:
ที่ดินแปลงใดมีที่ดินแปลงอื่นล้อมอยู่จนไม่มีทางออกถึงทาง สาธารณะได้ไซร้ ท่านว่าเจ้าของที่ดินแปลงนั้นจะผ่านที่ดินซึ่งล้อมอยู่ไปสู่ ทางสาธารณะได้
ที่ดินแปลงใดมีทางออกได้แต่เมื่อต้องข้ามสระ บึง หรือทะเลหรือมีที่ชัน อันระดับที่ดินกับทางสาธารณะสูงกว่ากันมากไซร้ ท่านว่าให้ใช้ความในวรรค ต้นบังคับ
ที่และวิธีทำทางผ่านนั้นต้องเลือกให้พอควรแก่ความจำเป็นของผู้มีสิทธิจะ ผ่าน กับทั้งให้คำนึงถึงที่ดินที่ล้อมอยู่ให้เสียหายแต่น้อยที่สุดที่จะเป็นได้ ถ้าจำเป็นผู้มีสิทธิจะผ่านจะสร้างถนนเป็นทางผ่านก็ได้
ผู้มีสิทธิจะผ่านต้องใช้ค่าทดแทนให้แก่เจ้าของที่ดินที่ล้อมอยู่ เพื่อความ เสียหายอันเกิดแต่เหตุที่มีทางผ่านนั้น ค่าทดแทนนั้นนอกจากค่าเสียหาย เพราะสร้างถนน ท่านว่าจะกำหนดเป็นเงินรายปีก็ได้
มาตรา 1350:
ถ้าที่ดินแบ่งแยกหรือแบ่งโอนกันเป็นเหตุให้แปลงหนึ่งไม่ มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะไซร้ ท่านว่าเจ้าของที่ดินแปลงนั้นมีสิทธิเรียกร้อง เอาทางเดินตาม มาตรา ก่อนได้เฉพาะบนที่ดินแปลงที่ได้แบ่งแยกหรือแบ่งโอน กันและไม่ต้องเสียค่าทดแทน
มาตรา 1351:
เจ้าของที่ดิน เมื่อบอกล่วงหน้าตามสมควรแล้วอาจใช้ที่ ดินติดต่อเพียงที่จำเป็นในการปลูกสร้าง หรือซ่อมแซมรั้ว กำแพงหรือโรง เรือน ตรงหรือใกล้แนวเขตของตน แต่จะเข้าไปในเรือนที่อยู่ของเพื่อนบ้าน ข้างเคียงไม่ได้ เว้นแต่ได้รับความยินยอม
ถ้าได้ก่อความเสียหายให้เกิดขึ้นไซร้ ท่านว่าเพื่อนบ้านข้างเคียงจะ เรียกเอาค่าทดแทนก็ได้
มาตรา 1352:
ท่านว่าถ้าเจ้าของที่ดินได้รับค่าทดแทนตามสมควรแล้ว ต้องยอมให้ผู้อื่นวางท่อน้ำ ท่อระบายน้ำ สายไฟฟ้า หรือสิ่งอื่นซึ่งคล้ายกันผ่าน ที่ดินของตน เพื่อประโยชน์แก่ที่ดินติดต่อ ซึ่งถ้าไม่ยอมให้ผ่านก็ไม่มีทางจะวาง ได้ หรือถ้าจะวางได้ก็เปลืองเงินมากเกินควร แต่เจ้าของที่ดินอาจให้ยกเอา ประโยชน์ของตนขึ้นพิจารณาด้วย
เมื่อมีเหตุผลพิเศษ ถ้าจะต้องวางเหนือพื้นดินไซร้ ท่านว่าเจ้าของที่ดิน อาจเรียกให้ซื้อที่ดินของตนบางส่วนตามควรที่จะใช้ในการนั้น โดยราคาคุ้มค่า ที่ดินและค่าทดแทนความเสียหาย ซึ่งอาจมีเพราะการขายนั้นด้วย
ถ้าพฤติการณ์เปลี่ยนไป เจ้าของที่ดินอาจเรียกให้ย้ายถอนสิ่งที่วางนั้นไป ไว้ ณ ส่วนอื่นแห่งที่ดินของตนตามแต่จะเหมาะแก่ประโยชน์แห่งเจ้าของที่ดิน
ค่าย้ายถอนนั้นเจ้าของที่ดินติดต่อเป็นผู้เสีย แต่ถ้ามีพฤติการณ์พิเศษไซร้ ท่านว่าจะให้เจ้าของที่ดินอีกฝ่ายหนึ่งช่วยเสียค่าย้ายถอนตามส่วนอันควรก็ได้
มาตรา 1353:
บุคคลอาจพาปศุสัตว์ของตนผ่านหรือเข้าไปในที่ดินของผู้ อื่นซึ่งมิได้กั้นเพื่อไปเลี้ยง และอาจเข้าไปเอาน้ำในบ่อหรือสระในที่เช่นว่านั้น มาใช้ได้ เว้นแต่ที่ดินเป็นที่เพาะปลูก หรือเตรียมเพื่อเพาะปลูกหว่าน หรือมี ธัญชาติขึ้นอยู่แล้ว แต่ท่านว่าเจ้าของที่ดินย่อมห้ามได้เสมอ
มาตรา 1354:
ถ้ามีจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นให้ทำได้ และถ้าเจ้าของ ไม่ห้าม บุคคลอาจเข้าไปในที่ป่า ที่ดง หรือในที่มีหญ้าเลี้ยงสัตว์ซึ่งเป็น ที่ดินของผู้อื่น เพื่อเก็บฟืน หรือผลไม้ป่า ผัก เห็ดและสิ่งเช่นกัน
มาตรา 1355:
เจ้าของที่ดินริมทางน้ำ หรือมีทางน้ำผ่าน ไม่มีสิทธิจะชัก เอาน้ำไว้เกินกว่าที่จำเป็นแก่ประโยชน์ของตนตามควรให้เป็นเหตุเสื่อมเสียแก่ ที่ดินแปลงอื่นซึ่งอยู่ตามทางน้ำนั้น
มาตรา 1356:
ถ้าทรัพย์สินเป็นของบุคคลหลายคนรวมกัน ท่านให้ใช้ บทบัญญัติในหมวดนี้บังคับ เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น
มาตรา 1357:
ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้เป็นเจ้าของรวมกันมีส่วน เท่ากัน
สิทธิของเจ้าของรวมที่มีต่อทรัพย์สิน
มาตรา 1358:
ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเจ้าของรวมมีสิทธิจัดการ ทรัพย์สินรวมกัน
ในเรื่องจัดการตามธรรมดา ท่านว่าพึงตกลงโดยคะแนนข้างมากแห่ง เจ้าของรวม แต่เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ อาจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในทางจัดการ ตามธรรมดาได้ เว้นแต่ฝ่ายข้างมากได้ตกลงไว้เป็นอย่างอื่น แต่เจ้าของรวม คนหนึ่ง ๆ อาจทำการเพื่อรักษาทรัพย์สินได้เสมอ
ในเรื่องจัดการอันเป็นสารสำคัญ ท่านว่าต้องตกลงกันโดยคะแนนข้าง
มากแห่งเจ้าของรวม และคะแนนข้างมากนั้นต้องมีส่วนไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งแห่ง ค่าทรัพย์สิน
การเปลี่ยนแปลงวัตถุที่ประสงค์นั้น ท่านว่าจะตกลงกันได้ก็แต่เมื่อเจ้า ของรวมเห็นชอบทุกคน
มาตรา 1359:
เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ อาจใช้สิทธิอันเกิดแต่กรรมสิทธิ์ ครอบไปถึงทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อต่อสู้บุคคลภายนอก แต่ในการเรียกร้องเอา ทรัพย์สินคืนนั้น ท่านว่าต้องอยู่ในบังคับแห่งเงื่อนไขที่ระบุไว้ใน มาตรา 302 แห่งประมวลกฎหมายนี้
มาตรา 1360:
เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ มีสิทธิใช้ทรัพย์สินได้ แต่การใช้ นั้นต้องไม่ขัดต่อสิทธิแห่งเจ้าของรวมคนอื่น ๆ
ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ มีสิทธิได้ดอกผลตาม ส่วนของตนที่มีในทรัพย์สินนั้น
มาตรา 1361:
เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ จะจำหน่ายส่วนของตนหรือ จำนอง หรือก่อให้เกิดภารติดพันก็ได้
แต่ตัวทรัพย์สินนั้นจะจำหน่าย จำนำ จำนอง หรือก่อให้เกิดภารติดพันได้ ก็แต่ด้วยความยินยอมแห่งเจ้าของรวมทุกคน
ถ้าเจ้าของรวมคนใดจำหน่าย จำนำ จำนอง หรือก่อให้เกิดภารติดพัน ทรัพย์สินโดยมิได้รับความยินยอมแห่งเจ้าของรวมทุกคน แต่ภายหลังเจ้าของ รวมคนนั้นได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินแต่ผู้เดียวไซร้ ท่านว่านิติกรรมนั้นเป็นอัน สมบูรณ์
หน้าที่ของเจ้าของรวม
มาตรา 1362:
เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ จำต้องช่วยเจ้าของรวมคนอื่น ๆ ตามส่วนของตนในการออกค่าจัดการ ค่าภาษีอากร และค่ารักษากับทั้งค่าใช้ ทรัพย์สินรวมกันด้วย
มาตรา 1363:
เจ้าของรวมคนหึ่ง ๆ มีสิทธิเรียกให้แบ่งทรัพย์สินได้เว้น
แต่จะมีนิติกรรมขัดอยู่ หรือถ้าวัตถุที่ประสงค์ที่เป็นเจ้าของรวมกันนั้นมีลักษณะ เป็นการถาวร ก็เรียกให้แบ่งไม่ได้
สิทธิเรียกให้แบ่งทรัพย์สินนั้น ท่านว่าจะตัดโดยนิติกรรมเกินคราวละสิบปี ไม่ได้
ท่านว่าเจ้าของรวมจะเรียกให้แบ่งทรัพย์สินในเวลาที่ไม่เป็นโอกาสอัน ควรไม่ได้
มาตรา 1364:
การแบ่งทรัพย์สินพึงกระทำโดยแบ่งทรัพย์สินนั้นเอง ระหว่างเจ้าของรวม หรือโดยขายทรัพย์สินแล้วเอาเงินที่ขายได้แบ่งกัน
ถ้าเจ้าของรวมไม่ตกลงกันว่าจะแบ่งทรัพย์สินอย่างไรไซร้ เมื่อเจ้าของ รวมคนหนึ่งคนใดขอ ศาลอาจสั่งให้เอาทรัพย์สินนั้นออกแบ่ง ถ้าส่วนที่แบ่งให้ ไม่เท่ากันไซร้ จะสั่งให้ทดแทนกันเป็นเงินก็ได้ ถ้าการแบ่งเช่นว่านี้ไม่อาจทำ ได้หรือจะเสียหายมากนักก็ดี ศาลจะสั่งให้ขายโดยประมูลราคากันระหว่าง เจ้าของรวมหรือขายทอดตลาดก็ได้
มาตรา 1365:
ถ้าเจ้าของรวมต้องรับผิดร่วมกันต่อบุคคลภายนอกในหนี้ อันเกี่ยวกับทรัพย์สินรวม หรือในหนี้ซึ่งได้ก่อขึ้นใหม่เพื่อชำระหนี้เดิมดั่งว่า นั้นก็ดี ในเวลาแบ่ง เจ้าของรวมคนหนึ่งๆจะเรียกให้เอาทรัพย์สินรวมนั้น ชำระหนี้เสียก่อน หรือให้เอาเป็นประกันก็ได้
ถ้าเจ้าของรวมคนหนึ่งต้องรับผิดต่อเจ้าของรวมคนอื่นในหนี้ ซึ่งเกิด จากการเป็นเจ้าของรวม หรือในหนี้ซึ่งได้ก่อขึ้นใหม่เพื่อชำระหนี้เดิมดั่งว่านั้น ก็ดี ในเวลาแบ่ง เจ้าของรวมผู้เป็นเจ้าหนี้จะเรียกให้เอาส่วนซึ่งจะได้แก่ลูก หนี้ของตนในทรัพย์สินรวมนั้นชำระหนี้เสียก่อนหรือให้เอาเป็นประกันก็ได้
สิทธิที่กล่าวมาข้างต้นนี้อาจใช้แก่ผู้รับโอน หรือผู้สืบกรรมสิทธิ์ในส่วนของ เจ้าของรวมนั้น
ถ้าจำเป็นจะต้องขายทรัพย์สินรวมไซร้ ท่านให้นำบทบัญญัติ มาตรา ก่อนมา ใช้บังคับ
มาตรา 1366:
เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ ต้องรับผิดตามส่วนของตนเช่น เดียวกับผู้ขายในทรัพย์สินซึ่งเจ้าของรวมคนอื่น ๆ ได้รับไปในการแบ่ง
Create Date : 27 กันยายน 2548
Last Update : 29 กันยายน 2548 0:43:33 น.
8 comments
Counter : 1816 Pageviews.
Share
Tweet
^ข้างบนจะเขียนเพิ่มเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นอย่าแปลกใจถ้ามาแล้วเห็นเปลี่ยนไปเปลี่ยนมานะคะ
โดย:
ไร้นาม
วันที่: 27 กันยายน 2548 เวลา:7:56:51 น.
จะสอบเมื่อไหร่อ่ะค่ะ
อ่านเป็นเพื่อนน้า นนท์สอบ 29-30 ตค
โดย:
วรานนท์
วันที่: 27 กันยายน 2548 เวลา:16:59:49 น.
Susu na krub. You can do it!
โดย: aun+ IP: 129.169.78.163 วันที่: 27 กันยายน 2548 เวลา:19:28:43 น.
หนูอุ๊สู้ ๆ หนูอุ๊สู้ตาย หนูอุ๊ไว้ลาย สู้ตาย สู้ ๆ
ปล. เราอัพบล็อคแล้วล่ะ
โดย:
ชาบุ
วันที่: 27 กันยายน 2548 เวลา:19:42:46 น.
ขยันจริงขยันจังครับ
โดย:
noom_no1
วันที่: 27 กันยายน 2548 เวลา:22:21:22 น.
--- คุณ วรานนท์ ---
สอบช่วงเดียวกันค่ะ แต่ไร้นามสอบ ~2 อาทิตย์ (9 วิชา เอิ๊กๆ)
--- aun+ ---
Thanks ka
--- ชาบุ ---
ไปเยี่ยมๆ
-- คุณ noom_no1 ---
ทำเป็นขยันค่ะ แต่ยังไม่เข้าหัวเลย แหะ แหะ
โดย:
ไร้นาม
วันที่: 28 กันยายน 2548 เวลา:8:31:49 น.
โห เก้าวิชา เหอๆ เข้าใจและจำหลักไปวินิจฉัยให้เปะๆเลยนะค่ะ
เหอๆ นนท์ก็ยังวนเวียนอยู่กับ แพ่งฯ ,อาญา,มหาชนอ่ะค่ะ
ยังไม่ได้ลง วิฯเลยค่ะ
สู้ๆ เต็มที่คับ
โดย:
วรานนท์
วันที่: 30 กันยายน 2548 เวลา:23:09:49 น.
--- คุณ วรานนท์ ---
สู้ๆ ด้ยกันค่ะ
โดย:
ไร้นาม
วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:21:36:37 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ไร้นาม
Location :
ปทุมธานี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [
?
]
"อ่านคนอ่านที่ความคิด
หาใช่ชื่อเสียงเรียงนาม"
Friends' blogs
หนูจำมัย
B.F.Pinkerton
เป่าจิน
mildsteel
salathai
ป่ามืด
จอมยุทธเมรัย
สาวไกด์ใจซื่อ
Mint@da{-"-}
นายทิวา
ปะหล่อง
กรวี
Ar@p
JewNid
FaCtOrY cHeeSeCaKe
dont wanna no
emrysmerlin
KAVINT
เต้าหู้หิมะ
POL_US
เจ้าชายเท้าเปล่า
Wirincity
สเลเต
ครีเอทีฟ หัวเห็ด
บังอร-บังเอิญ
นุทศรี!!
LE BALLON
Clear Ice
สดายุ...
animE'
ดังตฤณ
แมวน้อยของเสี้ยวเทียน
กิ่งไม้ไทย
บุษบามินตรา
ปูขาเก เซมารู
ปลาทูน่าในบ่อปลาพยูน
Noumy
Baby Lee
jaa_aey
zMee
ดา ดา
พิรฌาน
rajasit
Carlziess Lens
นายเบียร์
โจโฉ
อพันตรี
LooKPat
NonMagicKitty
cottonbook
Mr.Vop
uggie*
อะไรก็ได้
ยี่หร่า@
เกลอแก้ว
โสมรัศมี
Bacteria!
แมวโต๋เต๋
Jannyfer
หนูเพ็ญ
Plin, :-p
นาราคำ
สามขีด |||
ศล
ประชาชน(ไทย)
tenno_jung
Sky
orangepuff
Petit Patty
Mocha Macchiato
basbas
grassroot
SevenDaffodils
Maoh
ปืนติดพิษ
amatuer translator
โมกสีเงิน
ปุณยา
naragorn
นักดูจิต
aston27
ไกลนั้น
Pormaid
magarita30
chirala
dtredwing
rainam
Webmaster - BlogGang
[Add ไร้นาม's blog to your web]
Links
Thai Cambridge
My Website
ลานธรรมเสวนา
My Exteen Blog
My Blogspot Blog
BlogGang.com
MY VIP Friends
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.