มีคำถามว่า โลกปาลธรรม คือ อะไร ??
คำตอบ..สั้น ๆ ง่าย ๆ ดังนี้...ค่ะ
โลกปาลธรรม คือ ธรรมคุ้มครองโลก มีอยู่ ๒ อย่างคือ หิริ และ โอตตัปปะ
วันนี้ เรามาทำความรู้จักธรรมทั้งสองนี้กัน..นะคะ
คำว่า หิริ ตามพจนานุกรมพุทธศาสน์ แปลว่า ความละอายแก่ใจ คือละอายต่อความชั่ว
หิริ คือความละอาย ที่ว่าละอาย หมายถึง ละอายต่อความชั่วของตัวเอง ละอายต่อความผิดที่ตัวเองกำลังจะทำ หรือทำอยู่ สิ่งเหล่านี้ ถึงแม้คนอื่นจะไม่รู้ มองไม่เห็น แต่ตัวเราย่อมรู้ย่อมเห็น หากมองย้อนเข้ามาหาตัวเอง แล้วมองเห็นว่าตัวเองกำลังทำความผิด ทำความชั่วอยู่ เกิดความละอายขึ้นในใจ แล้วหยุดการกระทำไม่ดีต่าง ๆ ลงเสีย อย่างนี้นถือว่าใช้ได้ ไม่ปล่อยให้ตัวเองตกลงไปอยู่ในบ่วงของความเลวร้ายต่อไป เรียกว่ารีบตัดวงจรอุบาทเสียตั้งแต่เริ่มรู้ตัว ในทำนองเดียวกัน หากรู้ตัวแล้ว เกิดความละอายแล้ว แต่ก็ยังทำความชั่วต่อไป จะด้วยการหาเหตุผลใด ๆ มาเป็นข้ออ้างก็แล้วแต่ อย่างนี้ถือว่าใช้ไม่ได้ เพราะปล่อยให้วงจรแห่งความเลวครอบงำชีวิต ครอบงำจิตใจ คนเช่นนี้ย่อมหาความเจริญไม่ได้
หิริ เป็นธรรมคุ้มครองโลกอย่างไร... หิริ หรือความละอายต่อบาปนั้น สามารถทำให้โลกมีสันติได้ ทำให้มนุษย์อยู่รวมกันได้อย่างสงบสุข เพราะหากมนุษย์มีความละอายต่อความชั่ว ต่อบาป ความเดือดร้อนเห็นแต่ได้ เห็นแต่ตัว จะไม่เกิดขึ้น สังคมก็จะไม่มีปัญหา เมื่อสังคมไม่มีปัญหา โลกก็มีแต่ความสงบสุข
ส่วนคำว่า โอตตัปปะ แปลว่า ความกลัวบาป, ความเกรงกลัวต่อทุจริต
โอตตัปปะ คือความเกรงกลัวต่อบาป ต่อความชั่ว หมายถึง กลัวผลของการกระทำนั้น ๆ นั่นเอง เช่นคิดจะทุจริตอะไรสักอย่าง เกิดความกลัวว่าถ้าเขาจับได้ จะต้องถูกลงโทษ ต้องคำพิพากษาจำคุก ต้องอับอายขายหน้าคนเขาไปทั่ว ต้องถูกตำหนิติเตียน เป็นที่รังเกียจของสังคมรอบด้าน วงศาคณาญาติต้องพลอยได้รับความเดือดร้อน อับอายไปด้วย คิดได้อย่างนี้แล้ว จึงยุติการกระทำชั่ว เพราะเกิดความเกรงกลัวต่อบาป ต่อความชั่วที่จะกระทำ
ทีนี้เรามาดูความต่างกันของหิริ และโอตตัปปะ
หิริ...ถือตนเป็นใหญ่ คือนึกถึงตัวเอง ให้ความสำคัญในเรื่องของตนเป็นพิเศษ เช่น นึกว่าตัวเองเป็นพระภิกษุ ไม่สมควรทำกรรมชั่ว ฯลฯ หิริ ตั้งอยู่ในความละอายเป็นสภาวะ อาการแห่งความละอายชื่อว่า ลัชชา (ความละอาย, ความกระดาก) หิริ ตั้งอยู่ในสภาวะนั้น สภาวะที่ละอายบาป
โอตตัปปะ...ถือโลกเป็นใหญ่ คือให้ความสำคัญกับผู้อื่น สิ่งอื่น แล้วตนเองไม่ทำความชั่ว โอตตัปปะตั้งอยู่ในความกลัวเป็นสภาวะ ความเกรงกลัวในอบายชื่อว่า ภัย (สิ่งที่น่ากลัว, อันตราย) โอตตัปปะตั้งอยู่ในสภาวะนั้น สภาวะที่เกรงกลัวบาป เพราะคำนึงถึงทุกข์ที่จะได้รับ เช่น การถูกตำหนิ และตกนรก เป็นต้น
มนุษย์... ถ้ามีหิริโอตตัปปะสักหน่อย สังคมไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ย่อมอยู่กันอย่างสงบสุข ที่เห็นวุ่นวายกันอย่างทุกวันนี้ เพราะขาดธรรมทั้งสองข้อ บางคนรู้แต่ทำเป็นเฉยเสีย มองเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตน ไม่อายแม้แต่ตัวเอง ขาดคุณธรรมประจำใจ ลืมคิดถึงความเป็นจริงที่ว่า เกิดมาแต่ตัว ถึงเวลาตาย แม้แต่ตัวก็ยังเอาไปด้วยไม่ได้
ก็นะ..ไม่รู้ว่าจะโลภกันไปถึงไหน...เฮ้ออออ !
เพลง เขมรไล่ควาย
ขอบคุณ สำหรับทุกคะแนนที่โหวตให้ปอป้า จนได้รับรางวัลที่ ๓ Best Dharma Blog
ขอบคุณ พันทิป ที่ให้พื้นที่ปอป้า นำเสนอเรื่องราวต่าง ๆ
ขอบคุณ เพื่อนบล๊อกทุกท่านที่ให้กำลังใจปอป้ามาโดยตลอด
ขอบคุณ มิตรภาพออนไลน์ที่สวยงาม และอบอุ่น
ขอบคุณ และขอบคุณ ด้วยกาย วาจา ใจ จากปอป้า พรหมญาณี
ขอบคุณ..ค่ะ
ป.ล. วันนี้ เน็ตของปอป้ามีปัญหามาก ๆ ..ค่ะ
ปอป้าก็เลยไปทักทายแและขอบคุณ ไม่ทั่วถึง ขออภัยด้วย..นะคะ
เน็ตหายป่วยเมื่อไร ได้เจอปอป้าแน่นอน..อิ อิ
ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต
ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก
ขอบคุณในทุกคะแนนที่โหวตให้ปอป้า..นะคะ