"The Devil Wears Prada" ... สนุกอย่างร้ายกาจ!!!
มิแรนด้า พริสต์ลีย์ .. เธอ คือ บรรณาธิการที่ชื่อเสียงเรียงนามเรื่องความแสบแซ่บเปรี้ยวเข็ดฟัน ในแวดวงหนังสือแฟชั่นยากจะมีใครเทียบเท่าความร้ายกาจของเธอ สำหรับใครที่เคยได้ทำงานกับเธอมาก่อนล้วนแล้ว รับประกันได้เลยว่าจะต้องประสบความสำเร็จในชีวิตการงานภายภาคหน้าแทบทั้งนั้น แอนดี้ แซ็คส์ ... เธอ คือ นักศึกษาจบใหม่ ที่หวังจะทำงานสายนักข่าวที่เธอใฝ่ฝันจะทำ แต่ก่อนที่ฝันของเธอจะเป็นไปได้ เธอต้องฝ่าด่านฝึกหัดความแกร่งกล้าจากการทำงานเป็นเลขาเบอร์สอง ของมิแรนด้า พริสต์ลีย์ให้ได้ก่อน ...ถ้าไม่ผ่านจริงๆ เธออาจจะต้องพบกับความผิดหวังในภายภาคหน้ามิแรนด้า VS แอนดี้ ... นี่คือ เรื่องราวของคนสองคนที่ไม่น่าจะมาข้องเกี่ยวกันได้เลย ถ้าไม่ใช่ฝ่ายหลังที่จับผลัดจับผลูได้เข้ามาทำงานใน นิตยสาร "Runway" ด้วยความโชค(ร้ายที่มิแรนด้าเลือกเธอให้เข้ามา)ช่วย The Devil Wears Prada ... หนังตลกแฉโลกแฟชั่นแสบๆคันๆ ที่สร้างมาจากนิยายดังกระฉ่อนชื่อเดียวกันกับหนัง ผลงานของ ลอเรน ไวส์เบอร์เกอร์ อดีตเลขาผู้ช่วยของ แอนนา วินทัวร์ แห่ง Vouge ที่ต้องการตีแผ่เรื่องจริงผ่านตัวอักษรซึ่งเธอเคยประสบพบเจอกับบก.นางมารในชีวิตจริงๆ ผู้กำกับ เดวิด แฟรงเคล ... หลังจากเคยผ่านการลองงานในซีรี่ส์ขำๆ ที่เป็นอันฮิตระเบิดระเบ้อในอเมริกา อย่าง Sex and the City มาแล้ว นี่ก็เป็นการหันมาจับงานหนังโรงเป็นครั้งแรกของเขา ซึ่งมาพร้อมกับแนวถนัดอันคุ้นเคย เลยเป็นโจทย์อะไรที่คงไม่ยากเย็นสำหรับผู้กำกับที่มีดีกรีรางวัล เอมมี่ รับประกันหนุนหลังคนนี้ ตัวผมเองยังไม่ได้อ่านตัวหนังสือมาก่อนเลยไม่ได้รับรู้ถึงความสนุกเข้มข้นอันเป็นที่โปรดปรานของคอหนังสือหลายๆ ...เพราะฉะนั้นตัวผมเองที่ไม่ได้รับรู้รายละเอียดเนื้อในอะไร นอกจากเรื่องย่อแล้ว ก็เลยคาดหวังเพียงแค่สองอย่าง คือ การได้สนุกขำๆ และ เห็นการแสดงที่เขาว่ากันว่า นี่อาจจะเป็นรางวัลออสการ์ตัวต่อไป ของ ป้าเมอรีล สตรีพ ...โดยเฉพาะข้อหลังนี่อยากจะดูให้เห็นกับตาเลยจริงๆ หนังดำเนินเรื่องได้อย่างรวดเร็ว ฉับไว ทันใจ ประหนึ่งเป็นนางแบบบนแคตวอร์กที่ก้าวฉับๆ อย่างไม่กลัวจะหัวคะมำ... ความสนุกของหนังเป็นจังหวะอันหนึ่งอันเดียวกันไปตลอดทั้งเรื่อง ไม่มีส่วนไหนที่โดด ไม่มีส่วนไหนที่สะดุด 100 กว่านาทีนี้ เป็นอะไรที่เพลิดเพลินเจริญใจในความมันส์ แสบ คัน ที่เกิดขึ้นในเรื่องราว และเจริญหูเจริญตากับภาพของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เครื่องสำอางค์นานาที่ประโคมประดับหน้าหนังให้ดูไฮโซกันอย่างเต็มที่ การกำกับของเดวิด สร้างความหรรษาให้กับคนดูได้เป็นอย่างมาก ...ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะไม่มีมุขตลกที่ทำให้หัวร่องอหายอย่างเต็มขั้น แต่ตลกสถานการณ์ที่หนังเลือกใช้ทุกเม็ดมีแต่เด็ดดวง และตลกร้ายที่กัดจิกกัดเจ็บในแวดวงแฟชั่น ก็ทำให้ดูสนุกได้แม้ว่าคนดูจะไม่ค่อยเก็ทกับสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อก็ตามทีเถอะซึ่งก็ต้องยกความดีความชอบไปให้บทหนังด้วย ที่รังสรรค์คิดออกมาได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นในส่วนที่ต้องการตลก หรือว่าดรามา และที่สำคัญต้องขอบคุณ ไดอะล็อกคำพูดต่างๆ ที่สุดแสนจะคมเข้มเม้มความแสบสันต์อย่างมันส์เมา แต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน ที่ไดอะล็อกเหล่านี้ซึ่งถูกแพร่งพรายออกมาทางลมปาก อาจจะกลายเป็นความแป้กสนั่น ถ้าได้นักแสดงผู้พูดที่ไม่เก่งการสื่อสารมากพอ ...ทีมนักแสดงของหนังเรื่องนี้ ทุกคนถูกเลือกให้มาสวมคาแรกเตอร์ได้เหมาะเหม็ง ลงล็อกเป๊ะๆ ไม่ว่าจะเป็น สแตนลี่ย์ ตุกชี่ กับบทบาทลูกน้องคนสนิท(ที่เป็นคุณแอบ) ของมิแรนด้า ที่ขโมยซีนได้ทุกเมื่อที่อยู่บนจอ (ดูหนังมากี่เรื่องต่อกี่เรื่องที่มีเขาผู้นี้ ก็ไม่เคยมีเรื่องไหนที่ไม่โดดเด่นเลยสักครั้ง) , เอมิลี่ บันท์ ในบทบาทของ "เอมิลี่" ที่สร้างสีสันความซู่ซ่าแสบทรวงซะจริงๆ , เอเดียน เกรเนียร์ กับการเป็นคนรักของแอนดี้ ที่มีทั้งด้านที่น่ารัก และด้านที่ไม่น่ารัก แต่ก็น่าเห็นใจอยู่ในที และที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ สองบทบาทตัวเดินเรื่องที่ทำให้หนังมันส์เต็มฝัก ..."เมอรีล สตรีพ" ... ให้การแสดงในระดับที่ควรค่าจะให้เข้าชิงออสการ์(อีกแล้ว) เพียงแค่ฉากแรกที่เธอปรากฏกายนั้น ก็พอจะยืนยันได้ว่า ความเป็นนักแสดงคุณภาพทรงพลังของเธอ ไม่เคยหดหายไปพร้อมกับอายุงานที่มากขึ้นเรื่อยๆ ...จะหาว่าเว่อร์ก็ถือว่าใช่ แต่ภาพอันคึกคักอลหม่านของพนักงานทุกคนในฉากนั้น สามารถสื่อได้ถึงพลังด้านมืดที่ร้ายสุดขั้วของมิแรนด้าได้ทันทีทั้งๆที่ยังไม่ได้เห็นหน้าเธอซะด้วยซ้ำ กับคำพูดไดอะล็อกคมๆ ทั้งหลายที่ออกจากปากของเธอก็อีก ...ป้าเมอรีลแสดงการพูดออกมาได้อย่างเจ็บแสบชวนทรมานอก เป็นการด่าอย่างแยบยลที่น่าเจ็บใจแทนตัวละครซึ่งเธอเลือกปฏิบัติ... ด้วยกิริยาท่าทางนิ่งๆแบบถือตัว ความหยิ่งผยองในน้ำเสียง และความมุ่งมาดในแววตาที่สามารถสังหารคนทุกคนได้เมื่อมองหน้า การสวมวิญญาณ มิแรนด้า ของป้าเมอรีล ชวนให้ขนลุกแอบสยองได้ในทุกฉากที่มีเธอร่วมอยู่ด้วย ...ใครที่เคยกลัวความบ้าคลั่งของบทตัวร้ายสุดอมตะอย่าง "แฮนนิบาล" ของแอนโธนี่ ฮ๊อปกิ้นส์ ก็คงจะรู้สึกไม่ต่างกันกับความกลัวแบบหลอนๆ ที่ มิแรนด้า แสดงน่าสะพรึงออกมา ..."แอน แฮธาเวย์" ... กับบทบาทของ แอนดี้ หญิงสาวที่มีความมั่นใจในตัวเองเต็มร้อย แต่ก็มีใจท้อถอยเอาอย่างง่ายๆ ...แม้ว่าการแสดงเธอจะเป็นรองเพื่อนร่วมจอรุ่นป้า อยู่หลายช่วงตัว แต่ในเรื่องความโดดเด่นทาบรัศมีก็มีไม่แพ้ป้าเมอรีลสักเท่าไหร่ ฉากที่เธอต้องอยู่ร่วมกับ มิแรนด้า ไม่มีฉากไหนที่ตัวละครแอนดี้ของเธอ จะถูกบดบังได้อย่างหมดจด เสน่ห์ความใสและการแสดงที่น่ารัก ของเธอเป็นข้อต่อรองที่ทำให้โอกาสเด่นของเธอไม่หดหายไปเลย และอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เธอดูดีสุดๆ บนจอเลยก็คือ ...การแต่งองค์ทรงเครื่องหลายสิบแบรนด์เนม ที่ยกระดับความเป็นผู้หญิงดินๆของเธอในช่วงเวลาแรก ได้อย่างหมดจดและงดงาม ...แอน สามารถทำตัวให้โทรมหรือสวยได้ตามบทสั่ง ทำให้ตัวเองให้ดูแตกต่างได้อย่างไม่น่าเชื่อว่า เธอจะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้จากหน้าเป็นหลังมือถึงขนาดนี้ แม้นี่จะเป็นหนังที่หวังทำออกมาให้ผู้หญิงได้ดูซะมากกว่าก็จริงอยู่ แต่ส่วนของพลอตหนังก็ไม่ยอมทอดทิ้งให้ผู้ชายต้องรู้สึกเก้อเลย ...TDWP ยังคงแอบแฝงซึ่งแง่มุมชีวิตของคนวัยทำงานได้อย่างคมกริบ สาระในช่วงท้ายเรื่องสามารถที่จะโดนใจใครหลายๆคน โดยที่ไม่จำเป็นว่าคุณต้องอยู่ในวงการแฟชั่นถึงจะเข้าใจแก่นแท้ของมัน ...เหตุการณ์ในหนังสามารถจะเกิดได้กับทุกคนทุกอาชีพ ที่ขอเพียงให้มีปัจจัยของ ความสำเร็จ เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยไม่สนว่ามันจะได้มาด้วยความถูกต้องชอบธรรมหรือไม่ ...นี่คือการกัดจิกเม็ดสุดท้ายที่ได้ผลเข้าอย่างจัง กระทบใจคนดูได้อย่างไม่ทันคาดคิดว่าหนังจะมามีไม้ตายเช่นนี้เอาดื้อๆ ทุกองค์ประกอบของหนัง ล้วนแต่ได้ใจผมหมดทุกอย่าง แต่มันก็ยังมีอะไรบางสิ่งเล็กๆน้อยๆที่แอบขัดใจให้ผมรู้สึกได้ในเวลานั้น ซึ่งมันก็คือ ความยืดของหนัง ที่ใช้เวลานานมากไปเพื่อจะจบ ...ผมคิดว่า การสร้างพลอตย่อยเสริมเข้าไปในหนังกับบางเรื่องก็ทำออกมาอย่างเกินๆล้นๆ ไม่น่าจะเข้ามามีบทบาท ซึ่งถ้าจะตัดออกไปแล้ว ก็ย่อมไม่กระทบเสียหายอะไรต่อหนังเรื่องนี้ "The Devil Wears Prada" ... เป็นหนังคอมเมดี้ที่ไม่ถึงกับก๊ากๆ แต่ก็ฮาอย่างมีระดับ และยังเป็นหนังที่แอบแฝงความเป็นดรามาที่ลงตัว แม้ว่ามันจะไม่ใช่หนังที่โดนใจวัยเรียนของผมได้อย่างรุนแรงหนักหนา แต่มันก็ถูกเรียกได้ว่า "ประทับใจ" ...ถือเป็นอีกหนึ่งหนังที่น่าเสียดายแทน ถ้าคอหนังอย่างคุณใจร้ายไม่ยอมไปชม ขอแนะนำ ...ครับดู{ดี} วิธ มายเซลฟ์ : 1. เมอรีล สตรีพ ... ขอเชียร์สุดใจให้เข้าชิงออสการ์ 2. แอน แฮธาเวย์ ... ขอหลงรักเธอด้วยความเต็มใจ 3. เดวิด แฟรงเคล กำกับได้โดนจริตคน(อยาก)ไฮโซอย่างผม 4. ความสนุก มันส์ ฮา ที่มาพร้อมกับสาระเฉียบคมอย่างคาดไม่ถึง ดู{ด้อย} วิธ มายเซลฟ์ : พลอตย่อย บางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องเอามายืดเวลาของหนัง เกรด A- ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน... 1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ "Suddenly I See" ของ "KT Tunstall" เพลงในไตเติลเปิด ประกอบฉากโชว์การแต่งตัวสุดเลิศของสาวนิวยอร์ค
Create Date : 06 ตุลาคม 2549
9 comments
Last Update : 6 ตุลาคม 2549 1:50:37 น.
Counter : 4918 Pageviews.
ถ้าอ่าน แล้วรู้เนื้อเรื่องก่อน เดี๋ยวไม่สนุก ^^
แต่ก็ขอบคุณมากคะ ที่เอารายละเอียดของเรื่องมาให้อ่านกัน
: ]