เพลงศึกอยุธยา (๔๑)
ร้อนระอามาเยือนแล้งเดือนห้า
พืชผักหญ้าถูกแล้งตายแห้งโกร๋น
บางร่องลำน้ำเห็นแต่เลนโคลน
อาทิตย์โอนเปลี่ยนจักรราศีมา
กาลผันเวียนเปลี่ยนช่วงดวงตะวัน
จากมีนพลันหันเหสู่เมษา
ในเวียงวัดนิเวศน์เขตพารา
แม้ในคราหน้าศึกยังครึกครื้น
ถิ่นทัพพม่ายั้งเหมือนยังไกล
ขึ้นปีใหม่ระกายังระรื่น
เฉลิมฉลองกันทั้งวันคืน
เหมือนจะกลืนเกลื่อนเพลงตะเลงราญ
เถลิงศกรับศรีขึ้นปีใหม่
ทำบุญไหว้พระสงฆ์สุขไพศาล
ผลัดผ้าคลุมอังสะพระประธาน
เล่นสงกรานต์สรงน้ำชุ่มฉ่ำใจ
มีมหรสพดูครบเครื่อง
โขนหนังเรื่องลิงยักษ์รบตักษัย
เสภาขับเรื่องพิมพิลาไลย
มีจีนไต่เส้นลวดอวดแสดง
การละเล่นหลายหลากมีมากหลาย
สุดบรรยายวาทะนำแถลง
ก่อพระทรายสร้างทำโลกจำแลง
ทั่วทุกแหล่งอารามอร่ามตา
พวกครัวไทยไพร่พลคนสุพรรณ
แยกเลาะเลี้ยวเที่ยวกันสุขหรรษา
เร่รุ่มร่ามตามวัดทัศนา
เดินแข้งขาเขินขืนด้วยตื่นกรุง
ตรุษในราชธานีเพริศพิศุทธิ์
ไม่เหมือนตรุษสงกรานต์ที่บ้านทุ่ง
ชาวฟ้าหอมตลบน้ำอบปรุง
ไม่คาวคลุ้งเคล้ากลิ่นของดินโคลน
นายผลพาผู้ร่วมน้ำใจรัก
ชมหุ่นชักละครเสภาโขน
ล้วนแต่พวกอ้ายช้างผู้โชกโชน
จากฝ่ายโจรโอนถ่ายเป็นฝ่ายเมือง
เดินเตร็ดเตร่เก้กังชมวังวัด
เที่ยวนิทรรศการในงานเนื่อง
จวบจนสนธยาฟ้าเรื่อเรือง
สูรย์ส้มเหลืองลี้ลัดอัสดง
ก็พากันผันรี่กลับที่พัก
เดินเลี้ยวหักมุมทางวัดนางหงส์
เห็นคนแน่นแหนห้อมมุงล้อมวง
ต่างร้องส่งเสียงฮือกันอื้ออึง
เห็นเหล่าหญิงโขลนวังร่างดั่งยักษ์
กำลังปักหลักรุมอ้ายหนุ่มหนึ่ง
เหวี่ยงตะพดฟาดปังเสียงดังปึง
ล้มหงายผึ่งยังลากกระชากตี
จะหาใครหาญห้ามความเหี้ยมเหิม
ต่างสั่นเทิ้มสะท้อนใจเหลือที่
อ้ายหนุ่มนุ่มน่วมกายโดนหลายที
ขลุกคลุกขี้ดินขดสลดใจ
พวกอ้ายช้างนั่นเล่าจะเข้าขวาง
นายผลกางแขนก๋าบอกอย่าใกล้
นางโขลนนั้นคนทางฝ่ายข้างใน
มิควรไปมีเรื่องจะเปลืองตัว
ใช่แค่โทษโอดโอยต้องโบยตี
เคราะห์ไม่ดีวิบัติถึงตัดหัว
พวกเราเพียงไพร่ทาสถูกกวาดครัว
แม้ขุ่นมัวหมองหม่นต้องทนมอง
จำขัดสนทนดูสู้สดับ
เสียงขวับขวับตับตุบเขาทุบถอง
ทั้งเรือนกายอ้ายหนุ่มเลือดชุ่มนอง
ลงไปกองแน่นิ่งไม่ติงกาย
ลงคทาสาสมถ่มเสลด
ดูทุเรศทุรังน่าชังหลาย
ผู้หญิงอะไรนี่รุมตีชาย
บ้วนน้ำลายรดซ้ำอย่างหนำทรวง
ควายเฒ่า