เพลงศึกอยุธยา (๓๒)
สายลมหนาวร้าวรานพัดผ่านพ้น
แล้วเริ่มต้นพัดพรมลมคิมหันต์
ท้องทุ่งแล้งแรงร้อนชอนตะวัน
เป็นเปลวมันระยิบระยับตา
ยามบ่ายแดดแผดค่อนข้างร้อนเร่า
ดั่งไฟเผาเหลือรับเจียวพับผ่า
ซ้ำลูกดินแข็งดานตามลานนา
ทิ่มบาทาดุจหนามกระสุนแทง
น้ำในลำคลองขอดตลอดคุ้ง
ทั้งถิ่นทุ่งดินแยกแตกระแหง
ทำงานดินกลางแดดระอุแดง
นักโทษแขวงสุพรรณร่างมันพราว
ร้อนแดดเปรี้ยงเพียงไฟยังไม่พอ
บ่วงห่วงคอโซ่ร้อยยังร้อนผ่าว
ยามเขยื้อนเคลื่อนกรายเสียงเกรียวกราว
ล่ามโยงยาวสอดสวมรั้งรวมกัน
พวงละสิบคนร้อยคล้องห้อยคอ
ต้องฝืนทรกรรมอกจำกลั้น
ห่วงเหล็กเอาเศษผ้าบรรจงพัน
พอได้บรรเทาทุกข์ทรมา
พลพรรคเสือผันถูกทัณฑ์โทษ
เจ้าเมืองโปรดรอไว้ยังไม่ฆ่า
ส่วนขบถต้องราชอาชญา
รับโทษาผ่าอกให้ตกตาย
สำหรับผู้กำราบปราบกบฏ
ได้เพิ่มยศประดับขยับขยาย
หมู่ผล..ผลงานเด่นเลื่อนเป็นนาย
ยิ้มพริ้มพรายได้เพิ่มศักดินา
พันแคล้วรับประกาศราชสำนัก
ให้ครองศักดิ์หมื่นทรงเดชโกษา
ด้วยเหตุวีรกรรมที่ทำมา
ทางอยุธยาปูนรางวัล
ครารวีรี่ลอยลงคล้อยต่ำ
เหล่าพะทำมะรงส่งเสียงลั่น
คุมลูกน้องของใครก็ของมัน
เดินเรียงกันกลับสู่ประตูคุก
ควายเฒ่า