เพลงศึกอยุธยา (๓๖)
หยุดเย้าหยอกออกพระหนวดกระตุก
อกกูทุกข์ลุกไหม้ดั่งไฟโหม
พลพม่ายกหมู่เข้าจู่โจม
มีแนวโน้มยกฉะพระนคร
โอ้อ้ายหมื่นทรงแคล้วเกลอแก้วกู
ตรึกตรองดูเหมือนดั่งเป็นสังหรณ์
ศรีอยุธยาฟ้าอมร
จะร้าวรอนราวกาลที่ผ่านมา
เห็นเป็นคราวเคราะห์หนักมิพักผ่อน
มะโรงก่อนก็คึกศึกพม่า
ดีที่ท้ายที่สุดยุทธนา
องค์อลองพญาท่านถูกปืน
บอกใหญ่ยั้งตั้งยิงระเบิดแยก
เศษเหล็กแหลกแตกบาดไม่อาจฝืน
จอมสุระกษัตริย์สุดหยัดยืน
ยกทัพคืนกลับยังกรุงอังวะ
ล่วงมาจนหนนี้ท้ายปีวอก
พม่าออกอึงอลเที่ยวปล้นดะ
นายทัพรับคำสั่งจากมังระ
คราวนี้จะเลียบเคียงเอาเวียงชัย
ยินข่าวเรื่องเมืองกาญจน์ยิ่งพาลช้ำ
เจ้ากรมตำรวจขวาหัวหน้าใหญ่
พระพิเรนทรเทพพาทัพไทย
แหลกบรรลัยพ่ายทัพนอระทา
เขาบุกรุกกระหน่ำได้ชำนะ
อ้ายเมคะระโปแม่ทัพหน้า
มุทะลุทุเรศไร้เมตตา
นำพลไพร่ไล่ฆ่าประชาชน
มันอ้างกฎในอัยการศึก
เมืองไหนฮึกราวีมันตีป่น
เข้าฆ่าม้วยฉวยทรัพย์แล่นจับคน
ตระเวนปล้นสะดมสนุกมือ
ทั้งกระทำชำเราไฟเผาบ้าน
อนาจารฉุดคร่ามาดื้อดื้อ
ทำกักขฬะกระเหี้ยนกระหือรือ
แย่งยุดยื้อระยำก่อกรรมพาล
หากเมืองใดไหนยอมอ่อนน้อมนอบ
ก็กะกอบเอาเพียงเสบียงอาหาร
กับเรียกเกณฑ์คนกะพอประมาณ
เอาใช้งานทั้งผองในกองทัพ
ไม่เคี่ยวเข็ญเข่นฆ่าทำทารุณ
ซ้ำเจือจุนจิตใจมิไล่จับ
ไม่ปล้นบ้านผลาญเผาริบเอาทรัพย์
กิตติศัพท์ลือชามาเช่นนี้
แล้วโปแมงมหานอระทา
หยุดพลานึกขวางทางวิถี
เขตดงรังหนองข้าวขอบคนที
ต่อนาวีไว้ยุทธนาการ
กรุงสั่งเกณฑ์ทัพจากเมืองปากใต้
ทัพบกให้อยู่บางบำหรุบ้าน
ทัพเรือขวางบางกุ้งคุ้มคุ้งธาร
รอต่อต้านพม่าและรามัญ
ควายเฒ่า