เพลงศึกอยุธยา (๒๕)
จะกล่าวฝ่ายยายพลับสั่นพั่บพั่บ
ปากหมุบหมับเคี้ยวหมากเม้มปากเบ้
เรียกแพรโว๊ยแพรโว๊ยเสียงโวเว
เหลือบตาเขเหล่เหลือกเหลียวหันแล
สาวเจ้าห่วงมารดาอุราพรั่น
ขึ้นเรือนพลันโผผกเข้ากกแม่
ยายพลับมองไม่เห็นว่าเป็นแพร
ร้องว่าแย่แล้วซีผีกอดกู
แพรว่าแม่จ๋าแม่ข้าแพรเอง
ไยกลัวเกรงจนสั่นขนชันซู่
ยายพลับเอาหัวมุดเข่าคุดคู้
มือปิดหูอกตื่นเสียงปืนปัง
จนรุ่งสุริยะเห็นถนัด
โจรโดนจัดขัดไหล่มัดไพล่หลัง
หัวพันแคล้วสั่งคำกองกำลัง
ให้ประดังค้นทั่วถึงครัวเรือน
บางส่วนให้ไปลากขนซากศพ
โจรที่จบชีพวายนอนตายเกลื่อน
พลพรรคโจราเบนหน้าเบือน
ศพผองเพื่อนที่ตายนอนรายเรียง
ทหารต้อนครอบครัวของอ้ายดำ
ขึ้นถ้อยคำสำรอกตะคอกเสียง
พวกไพร่พลค้นไปถึงใต้เตียง
หาที่เลี่ยงที่หลบจนครบคน
ควบคุมครอบครัวหลีกไว้อีกที่
กุมารีกุมาราโกลาหล
พวกผู้หญิงยิ่งพรั่นหวั่นกมล
อ้ายดำพ่นมนต์หลุดว่าพุทโธ
หัวหน้าพลฉกรรจ์นายพันแคล้ว
ก้าวเกร่แกร่วกายมาท่วงท่าโก้
ผิวกายด้านดำเป็นตอตะโก
ไม่โยกโย้ร้องถามถ้อยความไป
ว่าเอออ้ายช้างที่มากฝีมือ
เขาเล่าลือเหลือล้นอ้ายคนไหน
มาเถิดกูดูหน้าหน่อยปะไร
พลบ่าวไพร่เร่งพามันมาพลัน
ยลพินิจพิศเพ่งเล็งจะจะ
ลักษณะดีสมดูคมสัน
คงถนัดถนี่การตีรัน
ที่กล่าวขวัญกันขรมเห็นสมคำ
ให้รู้สึกนึกสบอัชฌาสัย
จนคิดใคร่อุ้มชูอุปถัมภ์
เหมือนปางก่อนเคยได้ร่วมในกรรม
เคยร่วมค้ำจุนเจือร่วมเนื้อบุญ
เกริ่นกล่าวด้วยเอื้อเฟื้ออ้ายเสือช้าง
ไยจึงสร้างเวรกรรมทำสถุล
ให้คนสาปแช่งส่งวงศ์สกุล
หนีหัวซุนหัวซุกอยู่ทุกวัน
ควายเฒ่า