Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
ธันวาคม 2566
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
19 ธันวาคม 2566

The golden boy : รูปพระเจ้าชัยวรมันที่ 6 ?

 
ภาพพจาก https://www.thaipbsworld.com/us-museum-agrees-to-return-golden-boy-statue-to-thailand/

ปรกติผมไม่ชอบเขียนอะไรด่วนๆ ต้องดองให้เข้าที่
ในกรณีนี้ที่มีข่าวว่า พิพิธภัณฑ์ MET จะส่งคืนรูปสำริด
ที่ฝรั่งตั้งชื่อว่า Golden boy ให้กับประเทศไทย
ซึ่ง ณ วันที่เขียนนี้คือวันที่ 19 ธ.ค. 66
 
ผมควรจะรอให้มาจัดแสดงที่ พช. พระนคร แล้วค่อยเขียน
แต่มีอะไรบางอย่าง ที่คงอดไม่ได้ที่จะเขียนตั้งแต่วันนี้
เพราะมันแปลกประหลาดที่จะมีคนบอกว่ารูปปั้นดังกล่าว
คือ พระเจ้าชัยวรมันที่ 6
 
แล้วก็เอาประวัติของพระองค์ โน่นนี่นั่นมาเล่า
เข้าใจว่า เพื่อที่จะเชื่อมโยงให้เห็นว่าเป็นของไทย
ซึ่งผมมองว่ามันไม่จำเป็น เพราะหลักฐานรูปถ่าย
และบุคคลที่ร่วมสมัยตอนที่ขโมยไปก็ยังอยู่
 
แล้วทำไมเราต้องเชื่อมโยง แล้วอะไรคือหลักฐาน ?
เพราะโดยความสามัญของคนที่เห็นรูปปั้นสำริด
จะพยายามมองหาว่าเป็นรูปของเทพองค์ใด
เพราะสมัยนั้นไม่มีคติการทำรูปปั้นตนเองตั้งโชว์
อันนั้นมันเป็นวัฒนธรรมกรีก-โรมันของตะวันตก
 
แปลว่าเราต้องตามหา ว่ารูปปั้นสำริดองค์นี้เป็นเทพองค์ใด
ทาง MET ให้ข้อมูลใต้รูปว่า น่าจะเป็นพระศิวะ?
เพราะเค้าก็ไม่มั่นใจ เพราะแม้ส่วนใหญ่แถบถิ่นนี้จะบูชาพระศิวะ
แต่ว่าเทวรูปองค์นี้ก็ไม่มีดวงตาที่สามที่จะใช้บ่งชี้
 

 
เทวรูป golden boy น่าสนใจ ที่ยังคงมีพระวรกายสมบูรณ์
ทำให้เราเห็นลักษณะการนุ่งผ้า ซึ่งผมเองไม่ใช้ผู้เชี่ยวชาญ
แต่มองครั้งแรก จะนึกถึงลักษณะการห้อยผ้าแบบชายแครง
อันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะแบบนครวัด (พ.ศ. 1656-1688)
 
แต่ลักษณะการเว้าผ้านุ่งเหนือพระนาภี น่าจะเก่าย้อนไปบาปวน
ซึ่งนักวิชาการบางคนสรุปสองสิ่งนี้ว่าคือ ศิลปะแบบพิมาย
และเชื่อมโยงกับสถานที่ค้นพบคือ ปราสาทบ้านยาง บุรีรัมย์
กับปราสาทพิมายที่เชื่อกันว่าสร้างโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 6  
ทำให้มีการสรุปว่าคือรูปปั้นพระเจ้าชัยวรมันที่ 6 (พ.ศ. 1623-1650)
 
กลับไปตอนเริ่มต้นที่บอกว่า ไม่มีกษัตริย์องค์ใดทำรูปเหมือน
ดังนั้นสิ่งนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่จะเป็นเทวรูปองค์ใด
ให้ดูที่การเกล้าพระเกศา ซึ่งจะมีการสวมเครื่องรัดเอาไว้
เหมือนเป็นชฎามงกุฎ นี่เองอาจทำให้ MET เข้าใจว่าเป็นพระศิวะ
 
แต่รูปนั้นยังไม่ชัดมากพอที่จะสรุปได้ แต่ขอเดาว่าที่รัดพระเกศา
ที่เห็นเป็นลักษณะรูปสามเหลี่ยมประดับ น่าจะเป็นรูปของเจดีย์
ซึ่งสิ่งนี้สื่อถึง พระโพธิสัตว์เมตไตรยะของพุทธศาสนามหายาน
ที่นิยมกันมากในอีสานใต้ เช่น กลุ่มเทวรูปกลุ่มประโคนชัย
 
และนี่ทำให้ผมย้อนกลับไปดูรูปเทวรูปของปราสาทสระกำแพงใหญ่
ที่ให้ข้อสันนิษฐานว่าคือ นนทิเกศวรนั้น ยังจะถูกต้องหรือเปล่า
เพราะเห็นร่องรอยเหมือนรอยหักเหลือเเป็นเพียงตุ่มเล็กๆ
หรือว่าจะเป็นร่องรอยของการเกล้าพระเกศาที่หักหายไป

หรืออาจจะเป็นการหล่อเครื่องประดับแยกเพื่อมาสวมทับศีรษะอีกที
ซึ่งน่าจะต้องรอไปดูเทวรูป golden boy เพื่อเปรียบเทียบ
ว่าส่วนนี้เป็นชิ้นเดียวกันหรือไม่


 
เพราะคำถามสำคัญคือ การหล่อสำริดขนาดใหญ่ ใช้ทรัพยากรมาก
จะมีใครอยากหล่อเพียงแค่ผู้รับใช้ของพระศิวะเพื่อไว้ประดับทางเข้า
ในขนาดความสูง 2 เมตร มากกว่า golden boy ที่ 1.1 เมตรเสียอีก

สิ่งเดียวที่ผมยังไขไม่ออกคือ พระหัตถ์
จะเห็นได้ว่าเทวรูปจากปราสาทสระกำแพงใหญ่นั้นท้าวแขนข้างหนึ่ง
ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้นึกถึงทวารบาล
น่าเสียดายที่เราไม่ได้เห็นการแสดงพระหัตถ์อีกข้าง
ทำให้ไม่รู้ว่าแสดงปางอะไร
แต่มีอีกสิ่งที่เห็นได้ คือร่องรอยของการทำกะไหล่ทองเช่นกัน

แต่ golden boy นั้นมีการแสดงมุทราที่เห็นได้ว่าคือ กฏกหสฺต 
ซึ่งเป็นท่าที่ทำไว้สำหรับให้ผู้บูชา นำดอกไม้มาเสียบถวายได้
เห็นได้มากจากชุดเทวรูปสำริดจากเทวสถานเมืองสุโขทัย

ถ้าเชื่อตามชาวบ้านว่าที่ปราสาทบ้านยางยังมีฐานหินอยู่ 2 ชิ้น
และมีการสืบได้ว่ารูปสตรียกมือไหว้เหนือศีรษะเคยอยู่ในสถานที่เดียวกัน
เราก็อาจจะเห็นภาพว่าเมื่อเดินเข้าไปในปราสาทเห็นพระเมตไตรยะยืนอยู่ตรงกลาง
ในพระหัตถ์มีดอกไม้สวยงามสอดอยู่ ตรงหน้าเรามีรูปสตรีกำลังนั่งยกมือพนมไหว้

คำถามคือ
ทำไมฝีมือช่างถึงได้สืบต่อมาได้ในระยะเวลาที่ห่างกันหลายร้อยปี   
จากยุคบาปวน-นครวัด ถึงศิลปะสุโขทัย อะไรคือความเชื่อมโยงนี้
แม้กระทั่งการทำกะไหล่ทองที่ยังเหมือนกันอีกด้วย ???

ผมเฝ้ารอด้วยใจระทึกที่จะได้เห็น golden boy องค์จริง ในเร็ววันนี้



Create Date : 19 ธันวาคม 2566
Last Update : 28 ธันวาคม 2566 9:02:36 น. 4 comments
Counter : 558 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณhaiku, คุณtuk-tuk@korat, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณหอมกร, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา


 
มีอย่างหนึ่งที่คิดได้คือ
ไม่มีอะไรที่ใช่จริงอ่ะ

ทุกเรื่องยากที่จะสรุป


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 19 ธันวาคม 2566 เวลา:22:33:00 น.  

 
แสดงว่าต้องมีบล็อกต่อไปแน่ๆ รอๆ



โดย: หอมกร วันที่: 20 ธันวาคม 2566 เวลา:7:31:08 น.  

 
รอให้มาเนาะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 20 ธันวาคม 2566 เวลา:14:38:12 น.  

 
ได้อ่านว่าทำไมเขาจึงคืนให้ไทยแทนเขมรละยังคะ
เพราะเรามีพยานบุคคล
รู้ว่าขุดจากตรวไหน เมื่อไร
และรู้ว่าตำหนิของรูปหล่ออยู่ที่ไหนด้วย
เรื่องศิลปะอาณาจักรเขมรโบราณมาเจอกับ อาณาจักรทวารวดี
ชักสนุกละค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 22 ธันวาคม 2566 เวลา:13:36:46 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]