BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : นารายณ์อวตาร : รามาวตาร, กฤษณะอวตาร

นารายณ์อวตาร : รามาวตาร, กฤษณะอวตาร

รามาวตาร

เป็นอวตารที่เรารู้จักกันดี ก็คือ พระรามเพื่อมาปราบทศกัณฑ์ในเรื่องรามายณะ

กฤษณะอวตาร

ปางนี้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องยาวไม่แพ้ รามายณะ แต่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก
คือมหาภารตะ เรื่องราวของกฤษณะที่เป็นสารถีของอรชุน

พระราชาศูรปกครองชาวสุรเสนในนครมธุรา มีลูกด้วยกันสองคน
คนโดเป็นผู้ชายชื่อเจ้าชายวสุเทพ อีกคนเป็นลูกสาวชื่อเจ้าหญิงกุณตี
ท้าวาสุเทพได้ไปแต่งงานกับลูกสาวของท้าวอุรุเสน คือพระนางเทวกี

ท้าวอุรุเสนมีลูกที่เป็นรัชทายาทย์และเกเรมากชื่อว่า ท้าวกังษะ
ต่อมาได้จับพ่อไปขังและขึ้นครองราชย์แทน
ท้าวสุเทพจึงเป็นทั้งเพื่อนและน้องเขย ของท้าวกังษะผู้โหดเหี้ยม

วันนึงท้าวกังษะกำลังจะออกประพาสป่า มีฤาษีตนหนึ่งมายืนตัดหน้า
แล้วพูดว่า ลูกชายคนที่ 8 ของท้าววสุเทพกับพระนางเทวกี
จะเป็นคนมาฆ่าท่านและหลังจากนั้นคนในเมืองก็จะอยู่ด้วยความผาสุก

พอท้าวกังษะได้ยินดั่งนั่นก็ได้เกิดวิตก
จึงจับท้าววาสุเทพกับพระนางเทวกี ขังคุกไว้ด้วยกัน
ปีแรกพระนางเทวกีก็ให้กำเนิดลูกชาย
ท้าวกังษะจึงสั่งให้เอาลูกชายนั้นไปฆ่าทิ้ง เป็นอยู่อย่างนี้อยู่ 6 ปี

พอถึงปีที่ 7 ขณะที่พระนางเทวกีก็กำลังจะคลอดลูกนั้น
พระนางโลหิณีซึ่งเป็นพี่สาว ก็เสด็จมาที่คุกแล้วบอกว่าลูกคนที่ 7 นี้
เราจะเอาไปเลี้ยงเอง แล้วนางก็นำเอาเด็กคนอื่นไปให้ท้าวกังษะฆ่าทิ้งแทน
ซึ่งลูกคนที่ 7 นี้ชื่อว่า พลราม พี่ชายของพระกฤษณะ

เมื่อผ่านไปถึงปี่ที่ 8 พระนางเทวกีเริ่มท้องอ่อนๆ
ท้าวกังษะก็สั่งให้ควบคุมอย่างเข้มแข้ง ในระหว่างนั้น
ท้าววสุเทพก็ได้แอบติดต่อกับเพื่อนซึ่งเป็นคนเลี้ยงวัว ชื่อว่า นันทะ
นันทะนี้ก็มีเมียชื่อ ยโสธาราซึ่งกำลังตั้งท้องในเวลาไล่เลี่ยกัน

ในคืนที่กระนางเทวกีคลอดลูกคนที่ 8 ออกมาเกิดฝนตกหนัก
ประตูคุกก็เปิดออก โซ่ตรวนก็หลุดลง ท้าววสุเทพก็จึงได้แอบออกมา
หานันทะที่เมืองโกกุนซึ่งอยู่ติดๆกัน
แต่ฝนตกหนักทำให้น้ำในแม่น้ำยมุนาหนุนขึ้นสูง

ท้าววาสุเทพซึ่งจวนเจียนที่จะจมน้ำเต็มที ก็ได้เกิดอัศจรรย์
คือน้ำได้ลดระดับลงอย่างรวดเร็ว ท้าววสุเทพจึงเดินทางได้สะดวกขึ้น
ครั้นพอมาถึง เมียของนันทะเองก็เพิ่งจะคลอดลูกสาวออกมา
นันทะจึงให้ท้าววสุเทพเปลี่ยนตัวลูกกัน

พอท้าวกังษะทราบว่าพระนางเทวกีคลอดลูกเรียบร้อย
ก็ได้เดินทางมายังคุกเพื่อจะฆ่าลูกชายคนที่ 8
แต่ก็ต้องแปลกใจว่าพระนางเทวกีนั้นคลอดลูกออกมาเป็นผู้หญิง
ใจหนึ่งก็ดีใจว่า คำสาปของฤาษีนั้นคงจะไม่เป็นจริง
เพราะลูกที่เกิดมาเป็นผู้หญิง

แตเพื่อความแน่ใจท้าวกังษะก็จะฆ่าเด็กผู้หญิงคนนี้ทิ้งเสีย
ขณะที่กำลังเงื้อดาบอยู่นั้นเองก็ได้มีเสียงร้องจากอากาศมาว่า " อย่า..... " ท้าวกังษะตกใจผลันโยนเด็กน้อยขึ้นบนฟ้าพลันนั้นเด็กน้อยก็ได้หายวับไปท้าวกังษะก็ค่อยปลงใจเพราะคิดว่าคำสาปคงจะไม่เป็นจริงแล้ว
แต่เพื่อความมั่นใจก็สั่งให้ฆ่าทารกเพศชายที่เกิดในวันนี้ทั้งเมือง

ลูกชายคนที่ 8 ของท้าววาสุเทพชื่อว่ากรรณหา เติบโตในหมู่บ้านโกกุน
โดยเป็นเด็กขี้เล่น ร่าเริง หน้าตาดี เป่าขลุ่ยได้ทั้งวัน ยังความเอ็นดูแก่คนที่พบเห็น
และมีเรื่องแปลกว่าถ้ากรรณหา ลักขโมยกินนมเนย
และเอามาเผื่อแผ่เด็กกลุ่มเดียวกันจากบ้านไหน
วัวบ้านนั้นจะให้น้ำนมมากกว่าเดิม

ชาวบ้านก็เลยมักออกอุบาย บอกไบ้ที่เก็บนมและเนยในบ้านตน
ให้กรรณหามาลักไปแจกเด็กๆในหมู่บ้าน เพื่อที่วัวของตนจะให้น้ำนมมากขึ้น
กรรณหาได้อยู่ในหมุ่บ้านนี้จนอายุ 11 ขวบ
จนวันหนึ่งเค้าเห็นชาวบ้านกำลังทำพิธีถวายนมเนยแก่พระอินทร์
กรรณหาแปลกใจมากและถามว่า

" เหตุใดจึงต้องบูชาพระอินทร์ด้วยเล่า พระองค์ไม่เห็นทำอะไรเลย
ทำไมไม่บูชาวัว ซึ่งให้นมและเนยกับพวกเรา
ทำไม่บูชาหญ้าซึ่งเป็นอาหารของวัว หรือทำไมไม่บูชาภูเขาโควัฒนะ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดความร่มรื่นและป่าไม้ควาอุดมสมบูรณ์แก่หมู่บ้าน "

พระอินทร์เมื่อได้ยินดังนั้นก็ไม่พอใจ บันดาลให้ฝนตก 7 วัน 7 คืน
กรรณหาใช้นิ้วเดียวยกภูเขาโควัฒนะขึ้นมาบังท้องฟ้าเอาไว้
พระอินทร์จึงยอมแพ้และทราบภายหลังว่ากรรณหานั้น
คือพระนารายณ์อวตารลงมาเกิดเป็นพระกฤษณะ

หลังจากที่แสดงอิทธิฤทธิ์แล้ว พระกฤษณะจึงบอกกับชาวบ้านไปว่า
ต่อจากนี้ไปไม่ต้องส่งส่วยนมเนยไปให้ท้าวกังษะแล้ว

ครั้นพอท้าวกังษะทราบเรื่องว่าเมืองโกกุน นำโดยพระกฤษณะนั้นแข็งข้อ
และทราบว่าพระกฤษณะนั้นเป็นหลานคนที่ 8 ที่เล็ดรอดหนีไปได้
ท้าวกังษะจึงได้ทำกลอุบายให้ไปเชิญมาพบพ่อแม่ในเมือง
ระหว่างที่พระกฤษณะติดตามข้าราชบริพานของท้าวกังษะมานั้น

ลูกน้องของท้าวกังษะก็ได้ปล่อยช้างศึกตกมัน หมายเข้าขยี้พระกฤษณะ พระกฤษณะก็จัดการหักงวงหักงา ช้างศึกตกมันตัวนั้นเสียอย่างง่ายดาย
ท้าวกังสะปล่อยสิงห์โตออกมาก็ถูกกฤษณะฆ่าตายอีก
พอพระกฤษณะเข้ามายังเมืองก็ฆ่าท้าวกังษะลง
และไปที่คุกเพื่อปล่อยท้าวอุรุเสน ท้าววาสุเทพและพระนางเทวกีออกมา

พระกฤษณะได้ออกเดินทางไปร่ำเรียนวิชาและผจญภัย
จนกระทั่งโตเป็นหนุ่มและได้กลับมาครองเมือง
และย้ายเมืองไปที่ใหม่ ให้ชื่อว่า กรุงทวารกา
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พี่น้องทั้งเการพและปาณฑพกำลังทะเลาะกัน

เป็นที่มาของสงครามขนาดใหญ่ของชมพูทวีป ที่รู้จักกันใน สงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร

พุทธาวตาร

อวตารเป็นพระพุทธเจ้า

กัลกยาวตาร

อวตารเป็นมนุษย์ผู้ขี่ม้าขาว หรือ กัลกีเป็นอวตารที่ยังไม่เกิดขึ้น
แต่เป็นการทำนายอนาคตไว้ว่า ในยามที่เป็นปลายแห่งกลียุค
เมื่อผู้คนไม่รู้จักธรรมะ ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีอีกต่อไป

โลกทั้งโลกต้องเผชิญกับยุคเข็ญไปทุกหย่อมหญ้า
จะมีบุรุษขี่ม้าขาวปรากฏตัวขึ้นเพื่อปัดเป่าความทุกข์ยาก
และนำธรรมะกลับมาสู่มวลมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2551

Last Update : 16 เมษายน 2553 10:06:41 น.

0 comments

Counter : 1592 Pageviews.