BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : เรื่องเล่าแห่งมหาภารตะยุทธิ์ (5)

เรื่องเล่าแห่งมหาภารตะยุทธิ์ (5)

พระองค์ได้แต่งงานกับพี่น้องสองคน คือ นางอัมพิกาและนางอัมพาลิกา
ต่อมาท้าววิจิตรวีรยะก็ได้สิ้นพระชนม์ลงโดยไม่มีโอรสสืบราชบัลลังค์
หลังจากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองปรึกษาหารือกัน จึงเห็นพ้องต้องกันว่า
ให้ไปเชิญ ฤาษีวยาส ซึ่งเป็นลูกคนแรกของพระนางสัตวดีที่เกิดกับฤษีปราศร
มาทำ พิธีวิโยค ซึ่งก็คือการให้กำเนิดบุตร โดยแค่เพียงถูกเนื้อต้องตัวกัน

แต่เนื่องจากฤษีวยาสนั้นแก่ชราแล้ว นางอัมพาลิกาจึงมีความกลัวหวาดกลัว
ต่อการทำพิธีนี้มากจนเนื้อตัวขาวซีด ฤษีวยาสเห็นดังนั้นจึงบอกว่า
หากรังเกียจเราเพียงนี้ ตนก็ขอสาปให้โอรสที่เกิดมาของนาง
มีผิวกายที่ขาวซีดเหมือนนางในตอนนี้ ซึ่งต่อมาได้ชื่อว่า ท้าวปาณฑุ
เมื่อถึงคราวของนางอัมพิกา นางก็หวาดกลัวเช่นกัน
แต่มากกว่าจนไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาดูระหว่างการทำพิธี
ฤษีวยาสเห็นดังนั้นจึงสาปให้โอรสที่เกิดมาของนางนั้นตาบอด
ซึ่งต่อมาได้ชื่อว่า ท้าวทฤตราษฏร์

เมื่อเติบใหญ่ท้าวปาณฑุ ในฐานะพี่ชายก็ได้ครองราชย์ มีพระมเหสีสองพระองค์
คือ พระนางกุณตีและพระนางมัทรี
วันหนึ่งพระองค์ได้ออกประพาสป่าเพื่อล่าสัตว์ตามธรรมเนียมกษัตริย์
พบกวางคู่หนึ่งกำลังมีเพศสัมพันธ์กัน
พระองค์ไม่ลังเลใจที่จะน้าวคันศรเพื่อยิงธนูไปที่กวางคู่นั้น
พลันปรากฏว่ากวางคู่นั้นกลายร่างเป็นพราหมณ์ผัวเมียคู่หนึ่งที่มาหาความสุขกันในป่า
ทำให้พระองค์ตกใจมาก

ก่อนพรามหณ์ผัวเมียจะสิ้นใจ พวกเค้าได้สาปพระองค์ว่า
แม้ขณะเรากำลังอยู่ในห้วงแห่งความสุขท่านยังไม่ละเว้น
ฉนั้นภายหน้าหากคราใดที่ท่านอยู่ในภาวะเช่นเราเมื่อใด
วันนั้นจะเป็นวันตายของท่านเช่นกัน
ท้าวปาณฑุได้ยินดังนั้น ก็รู้ตัวว่าไม่สามารถจะมีโอรสได้
จึงสละราชสมบัติให้น้องชาย คือท้าวธฤตราษฏร์ พระราชาตาบอด
แล้วออกเดินไปบำเพ็ญพรตในป่า ซึ่งมเหสีทั้งสองก็ได้ออกติดตามไปด้วย

ย้อนไปเมื่อครั้งพระนางกุนตียังอยู่ในวัยแรกรุ่น มีฤาษีตนหนึ่งผ่านเข้ามาในเมือง
นางได้ปรนนิบัติฤาษีตนนั้นจนมีความพอใจ จึงได้สอนคาถาบทหนึ่ง
ซึ่งสามารถใช้เรียกเทพยดา ให้มาปรากฏกายต่อหน้าได้
เมื่อถึงตอนนี้ท้าวปาณฑุไม่สามารถจะมีบุตรได้
นางก็นึกถึงคาถาบทนั้น เพื่อที่จะได้มีโอรสไว้สืบต่อวงศ์ตระกูล

ท้าวปาณฑุก็เห็นด้วยจึงให้นางอธิษฐาน
พระยมก็ปรากฎกายขึ้น นางจึงขอลูกชายหนึ่งคนได้ชื่อว่า ยุธิษฐิระ
ท้าวปาณฑุอยากจะได้ลูกอีก จึงให้พระนางอธิษฐานต่อไป
พระพายก็ปรากฏกายขึ้น บุตรชายคนที่สอง ได้ชื่อว่า ภีมะ
และเมื่ออธิษฐานครั้งที่สาม พระอินทร์ก็ปรากฏกายขึ้น บุตรคนนี้ได้ชื่อว่า อรชุน

เมื่อพระนางกุนตีได้ลูกชาย 3 คนแล้ว
พระนางมัทรีก็ขออธิษฐานบ้าง เทพแฝดสามตาก็ปรากฏกายขึ้น
พระนางมัทรีจึงได้ลูกชายแฝดชื่อว่า นกุลและสหเทพ

หลังจากนั้นไม่นานความอดทนของท้าวปาณฑุก็สิ้นสุดลง
พระองค์ได้ขอมีเพศสัมพันธ์กับนางมัทรี
นางก็ได้ห้ามปรามท้าวปาณฑุแล้ว แต่พระองค์ก็มิฟังคำทักท้วง
หลังจากเสร็จกิจท้าวปาณฑุก็สิ้นใจตายตามคำสาปของพราหมณ์ผัวเมีย
พระนางมัทรีรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง จึงกระโดดเข้ากองเพลิงตายตามสามีไป
พระนางกุนตีจึงต้องพาลูกชายทั้งหมดกลับมาอยู่ที่กรุงหัสตินนาปุระ

นี่เองจึงเป็นต้นกำเนิดของเหล่าพี่น้องปาณฑพทั้งห้า

ยุธิษฐิระ ภีมะ อรชุน นกุลและสหเทพ บุตรแห่งท้าวปาณฑุ

Create Date : 30 มีนาคม 2552

Last Update : 16 เมษายน 2553 10:00:05 น.

3 comments

Counter : 1611 Pageviews.

ตามมาอ่านครับ

โดย: NATSKI13

วันที่: 30 มีนาคม 2552 เวลา:11:45:37 น.

เนี่ยถ้าไม่เขียน flow chart ลำดับญาติกันอ๊วกเลยค่ะมาตอนนี้ก็เหลือ
ภีษมะ เป็นตาของ ลูกท้าวปาณฑุ
สตยวดี เป็นย่า

กระดาษมีเยอะค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 30 มีนาคม 2552 เวลา:14:32:46 น.

ภีษมะเป็นปู่ตะหาก

เพราะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับท้าววิจิตรวีรยะ ???

โดย: VET53

วันที่: 30 มีนาคม 2552 เวลา:15:56:20 น.