เมื่อต้องมาเป็น "Single Mom" วางแผนยังไงดี




เมื่อต้องมาเป็น "Single Mom" วางแผนยังไงดี




by อภินิหารเงินออม,Jul 7, 2018 10:41 AM

3 เรื่องการวางแผนเพื่อกลายเป็นสุดยอด Single mom

เรื่องที่ 1 การแยกบัญชีตามเป้าหมายการเงินแม่และลูก

เรื่องที่ 2 การทำตามเป้าหมาย

เรื่องที่ 3 พินัยกรรมทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น

เมื่อต้องมาเป็น "Single Mom" วางแผนยังไงดี?


อภินิหารเงินออมมองว่าการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวในปัจจุบันนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะเหตุผลของแต่ละครอบครัวแตกต่างกัน เช่น การเสียชีิวิต การนอกใจ อยู่ด้วยกันแล้วเข้ากันไม่ได้ การเล่นพนัน การถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ ฯลฯ ซึ่งในกรณีเสียชีวิตเราเลือกไม่ได้ ในขณะที่กรณีอื่นๆนั้นเราเลือกได้ ถ้าการอดทนอยู่ด้วยกันแล้วอีกฝ่ายปรับตัวให้ดีขึ้นได้ ครอบครัวก็แฮปปี้ แต่ถ้าเลวร้ายกว่านั้น ยิ่งอยู่ด้วยกันยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ การแยกทางกันอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า



ภาระที่ Single mom ต้องรับผิดชอบ
เรื่องของครอบครัวจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ งานในบ้าน (เช่น งานบ้าน เลี้ยงลูก ทำอาหาร) กับงานนอกบ้าน (เช่น การทำงานหารายได้) ซึ่งงานแต่ละแบบก็จะเหนื่อยไปคนละอย่าง ในขณะที่แต่ละครอบครัวก็จะแบ่งหน้าที่แตกต่างกัน เช่น

พ่อดูแลงานนอกบ้านทำงานคนเดียว ส่วนแม่จัดการงานในบ้าน

แม่ทำงานหารายได้คนเดียว ส่วนพ่อดูแลงานทุกอย่างในบ้าน

บางครอบครัวพ่อแม่ต้องช่วยทำทั้งสองอย่างไปพร้อมกัน



หากถึงจุดที่ต้องกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ความรับผิดชอบทั้งงานในบ้านและนอกบ้านก็ตกอยู่กับคุณแม่ฝ่ายเดียว ถ้าเดิมเคยทำงานอยู่แล้วก็จะมีรายได้มาเลี้ยงลูก ส่วนงานในบ้านอาจจะจ้างแม่บ้านมาดูแลได้เป็นครั้งคราว



แต่ถ้าไม่เคยทำงานมาก่อน พึ่งพาเงินจากสามีเพียงอย่างเดียว ถ้าต้องกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวก็อาจจะใช้ชีวิตลำบากเพราะขาดรายได้ แต่เรื่องนี้เราฝึกฝนกันได้เพราะปัจจุบันมีช่องทางหารายได้ง่ายขึ้น เช่น การทำงานออนไลน์ที่ทำให้เราสร้างรายได้และดูแลบ้านไปพร้อมๆกัน



แล้วถ้าต้องมาเป็น Single mom ควรทำยังไง
แม้ว่าการดูแลลูกด้วยตัวคนเดียวจะเป็นภาระกิจที่หนักมาก แต่ก็ทำให้เบาลงได้โดยการให้ลูกมาช่วยกันรับผิดชอบ เพื่อหัดให้ลูกดูแลตัวเอง เพิ่มทักษะที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ฝึกให้เกิดความกล้าตัดสินใจ การจัดระบบความคิด มีความคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ โดยมีจุดเริ่มต้นง่ายๆจากการทำงานบ้าน



ฝึกให้ลูกทำงานในบ้าน เช่น ถูบ้าน ล้างจาน เพื่อเป็นฝึกการจัดระบบการคิดว่าควรทำอะไรก่อนหลัง ฝึกความละเอียดรอบคอบ อย่างเช่นการล้างจาน ลูกจะรู้ว่าควรกวาดเศษอาหารทิ้งก่อน จากนั้นทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจาน สุดท้ายล้างน้ำเปล่าแล้ววางในที่พักจานหรือเช็ดเก็บเข้าที่



ฝึกให้ลูกทำงานนอกบ้าน เช่น การให้ลูกทำงานพาร์ทไทม์เพื่อให้รู้จักคุณค่าของเงินและใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ฝึกเรื่องการเข้าสังคม การสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น ฝึกการแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นทักษะชีวิตที่ต้องเรียนรู้ ในขณะที่บางครั้งการทำงานเล่นๆของลูก อาจจะกลายเป็นรายหลักของครอบครัวไปเลยก็ได้ จากหลายตัวอย่างที่เห็นใน YouTube หรือการขายของออนไลน์ต่างๆ



ส่วนวิธีการสอนควรทำให้ดูเป็นตัวอย่างเพราะเด็กจะจดจำได้ดีกว่าการพร่ำบ่นหรือการบังคับ เพราะอาจจะทำให้เด็กรำคาญแล้วกลายเป็นการต่อต้าน จากแนวคิดนี้ทำให้อภินิหารเงินออมนึกถึงเหตุการณ์เมื่อหลายปีที่แล้วช่วงปิดเทอม ผู้หญิงคนหนึ่งต้องไปเสริฟอาหารโต๊ะจีน ก็พาลูกสาวมาด้วยเพราะไม่อยากปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียว



วันนั้นลูกสาวก็ช่วยแม่ทำงานเล็กๆน้อยๆเท่าที่พอทำได้และเห็นบรรยากาศจริงๆว่ากว่าจะได้เงินมาแต่ละบาทนั้นต้องทำงานอย่างไร ภาพการทำงานเหนื่อยแทบขาดใจของแม่ ทำให้พฤติกรรมการใช้เงินของลูกสาวเปลี่ยนแปลงไป จากเมื่อก่อนทุกครั้งที่ไปเดินตลาดนัด ลูกสาวมักซื้อของกินกลับมาเยอะมาก แต่กินไม่เคยหมด ตอนนี้ทุกครั้งที่ตัดสินใจซื้อของกินก็จะเลือกเท่าที่ตัวเองกินหมด ไม่กินทิ้งกินขว้างเพื่อจะได้ประหยัดรายจ่าย





3 เรื่องการวางแผนเพื่อกลายเป็นสุดยอด Single mom
เรื่องที่ 1 การแยกบัญชีตามเป้าหมายการเงินแม่และลูก
ถ้าเรานำเงินเก็บรวมกันไว้ในบัญชีเดียวเพื่อรอจ่ายให้ลูกเป็นเงินเตรียมจ่ายค่าเทอม ค่าขนม ค่าเรียนพิเศษ เงินฉุกเฉินในครอบครัว เงินรอจ่ายค่าบัตรเดรดิต ฯลฯ แล้วถ้าบางเดือนเราหมุนเงินไม่ทันก็อาจจะดึงเงินส่วนที่เป็นเงินค่าเทอมของลูกออกมาใช้ก็ได้ สุดท้ายตัวเราเองนั่นแหละที่จะหัวหมุนช่วงเปิดเทอมที่จะต้องรีบหาเงินมาจ่าย แต่ชีวิตของเราจะง่ายขึ้นถ้าแยกบัญชีตามเป้าหมายการเงินแม่และลูก

ตัวอย่าง 





เมื่อต้องมาเป็น "Single Mom" วางแผนยังไงดี


การแยกบัญชีตามเป้าหมายอาจจะเป็นชื่อบัญชีของลูกหรือชื่อบัญชีของแม่ที่วงเล็บ(เพื่อลูก) แบบนี้ก็ได้ เราควรเขียนภาพรวมออกมาก่อนว่าจะใช้เงินเพื่อตัวเองและเตรียมอะไรให้ลูกบ้าง ในระยะสั้นก็ไม่เกิน 1 ปี ระยะกลาง 1 - 5 ปีและระยะยาวมากกว่า 5 - 10 ปีขึ้นไปว่าจะใช้เงินทำอะไรบ้าง จากนั้นค่อยลงลึกวิธีีที่จะทำให้แต่ละเป้าหมายการเงินนั้นสำเร็จ



เรื่องที่ 2 การทำตามเป้าหมาย
เป้าหมายการใช้เงินของแม่และลูกแตกต่างกัน เราควรวางแผนการใช้เงินที่รักษาเป้าหมายของตัวเองและสร้างอนาคตให้ลูกได้ไปพร้อมๆกัน ไม่ควรทุ่มเทให้ลูกทุกอย่างจนไม่มีเงินเกษียณของตัวเอง เพราะช่วงสุดท้ายของชีวิตก็อาจจะต้องกลับมาไปพึ่งพาลูก หากตอนนั้นลูกทำงานมีรายได้เพียงพอก็สามารถเลี้ยงดูแม่ได้ แต่ถ้าลูกยังเอาตัวเองไม่รอดแล้วจะมีเงินที่ไหนมาดูแลแม่ล่ะจ๊ะ



เราเลือกได้ตั้งแต่ตอนนี้ว่าจะกลายเป็นผู้สูงอายุที่มีเงินแล้วแบ่งมรดกให้ลูกหลานหรือว่าเป็นผู้สูงอายุไร้เงินและดูแลตัวเองไม่ได้ ถ้าต้องการเป็นแบบแรกมีมรดกให้ลูกหลานและดูแลตัวเองได้ ควรเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ที่การตั้งเป้าหมายการเงินว่า “อะไร เท่าไหร่ เมื่อไหร่” เพื่อจะได้รู้ว่าควรเก็บสะสมเงินอย่างไรเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้น



ตัวอย่าง การทำตามเป้าหมาย

เป้าหมายการเงินระยะสั้น

เมื่อเราจดบัญชีรายรับรายจ่ายก็จะประมาณตัวเลข ตั้งเป็นเป้าหมายระยะสั้นได้ เพื่อเก็บเป็นเงินฉุกเฉินใช้จ่ายในช่วงที่ต้องการเงินเร่งด่วน เช่น เกิดอุบัติเหตุ การตกงาน ซ่อมบ้าน ซ่อมรถ ลูกป่วย ฯลฯ เราจะได้ไม่ต้องไปกู้ยืมเงินให้เสียดอกเบี้ยแพงๆ



ตัวอย่าง รายจ่ายของแม่และลูก

แม่ : ค่าผ่อนรถเดือนละ 5,000 บาท

แม่ : ค่าผ่อนบ้านเดือนละ 10,000 บาท

แม่ : ใช้จ่ายส่วนตัวเดือนละ 5,000 บาท

ลูก : ค่าขนมเดือนละ 2,000 บาท (วันละ 100 บาท)

ลูก : เรียนพิเศษเดือนละ 1,500 บาท

รวม รายจ่ายเดือนละ 23,500 บาท



จากตัวอย่างนี้เป้าหมายระยะสั้นเป็นเงินฉุกเฉิน ควรเก็บไว้ 3 - 6 เท่าของค่าใช้จ่าย คือ 70,5000 - 141,000 บาท โดยเก็บไว้ที่ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น เงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง กองทุนรวมตลาดเงิน สมมติว่าเราตกงานกะทันหันหรือไม่มีรายได้เข้ามา เราจะได้มีเงินฉุกเฉินก้อนนี้มาหมุนใช้ได้ เพื่อมีเวลาไปหารายได้ก้อนใหม่



แต่ถ้าเราไม่มีเงินฉุกเฉินเก็บไว้ พอถึงช่วงเงินช๊อตก็ไปกู้ยืมมาใช้จ่าย กว่าจะหาเงินมาจ่ายหนี้ได้ ดอกเบี้ยก็วิ่งแซงเงินต้นไปไกลมาก หารายได้ไม่ทันหนี้สินที่เพิ่มขึ้นก็ต้องไปกู้ยืมเจ้าหนี้คนอื่นมาอีก กลายเป็นการสร้างหนี้ใหม่ไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ตกอยู่ในวังวนของหนี้สินอย่างถาวร



ในขณะที่บางคนคิดว่าลำพังรายจ่ายแต่ละเดือนก็ยังไม่พอใช้แล้วจะเก็บเงินฉุกเฉินได้อย่างไร ถ้าเราต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้นก็ต้องเปลี่ยนแปลง โดยการกลับมาดูที่บัญชีรายจ่ายที่จดไว้ว่าแต่ละเดือนใช้จ่ายอะไร ควรลดรายจ่ายจุดไหนบ้างเพื่อให้เพียงพอกับรายได้ แต่ถ้าลดรายจ่ายไม่ได้ก็ต้องหาวิธีเพิ่มรายได้



เป้าหมายระยะยาว

แผนเกษียณของคุณแม่และค่าเทอมของคุณลูกในอนาคต เป็นการวางแผนระยะยาวที่มากกว่า 5 - 10 ปีขึ้นไป ในกรณีเงินเกษียณของคุณแม่ควรคำนวณว่าต้องใช้เงินประมาณเท่าไหร่ รวมแล้วยังขาดอีกเท่าไหร่ จากนั้นก็เลือกว่าจะเก็บเงินไว้ที่ไหน เช่น ประกันชีวิตแบบบำนาญ RMF กบข. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ฯลฯ



ส่วนเงินค่าเทอมของลูก เราก็ต้องเลือกว่าจะเก็บเงินเอง ใช้ประกันชีวิตเพื่อป้องกันความเสี่ยง หรือทำทั้งสองอย่างควบคู่กัน จากภาพนี้เราจะเห็นว่าทั้งสองวิธีมีผลลัพธ์ออกมาแตกต่างกัน







เรื่องที่ 3 พินัยกรรมทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น
ตอนมีชีวิตอยู่สร้างทรัพย์สินเก็บไว้ รู้ทุกอย่างอยู่คนเดียวว่ามีเท่าไหร่แล้วเก็บไว้ที่ไหนบ้าง เมื่อเสียชีวิตแล้วลูกของเราจะรู้มั๊ยว่าต้องจัดการมรดกอย่างไร สุดท้ายต้องเสียเวลารื้อค้นเอกสารตามสืบเอง ใช้เวลานานกว่าจะได้รับมรดก



แม้ว่าเราห้ามการตายไม่ได้ แต่เราสามารถวางแผนอนาคตหลังความตายได้ เพื่อให้เงินที่เก็บไว้นั้นตกถึงมือลูกของเราทุกบาททุกสตางค์ ควรเขียนพินัยกรรมสรุปทรัพย์สิน บอกให้ลูกรู้ว่าเรามีทรัพย์สินอะไรบ้าง ถ้ามีลูกหลายคนก็ระบุไปเลยว่าใครได้รับอะไร เท่าไหร่บ้าง ซึ่งคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวน่าจะเบาใจขึ้นหากเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน อย่างน้อยลูกของเราจะได้จัดการทุกอย่างเองได้ หรือญาติๆจะได้เข้ามาช่วยดูแล เช่น



ประกันชีวิต

แม่ควรสรุปข้อมูลว่าทำกับบริษัทอะไร กรมธรรม์แบบไหน สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง ชื่อและเบอร์โทรของตัวแทนหรือ Call center

หากแม่เสียชีวิต ลูกก็จะติดต่อตัวแทนประกันเพื่อจะได้นำเงินจากประกันชีวิตที่คุณแม่ทำไว้มามอบให้ลูก เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆในอนาคต เช่น ค่าเทอม รายจ่ายในชีวิตประจำวัน



สินทรัพย์ทางการเงิน เช่น เงินฝาก กองทุนรวม หุ้น

ควรเขียนสรุปว่าเปิดบัญชีกับบริษัทอะไร ผู้แนะนำการลงทุนของแม่เป็นใคร เบอร์โทรติดต่อ สินทรัพย์ที่ลงทุน จำนวนเงินที่ลงทุน

หากแม่เสียชีวิต ลูกจะได้โทรหาผู้แนะนำการลงทุนเพื่อแจ้งว่าเจ้าของบัญชีเสียชีิวิต ลูกจะได้เข้ามาจัดการเงินในส่วนนี้ได้ หากจำเป็นต้องใช้เงินก็ขายกองทุนรวมหรือหุ้นนั้น แต่ถ้าต้องการลงทุนต่อโอนมาเป็นชื่อของตัวเองก็ทำได้



สังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ เช่น รถยนต์ บ้าน คอนโด ที่ดิน อสังหาฯให้เช่า ฯลฯ

ควรรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเก็บใส่แฟ้มไว้ หรือสแกนเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ เผื่อเอกสารเสียหายจะได้มีข้อมูลไปติดตามทรัพย์สินได้ (เคยคุยกับผู้ใหญ่บางท่านเขียนข้อมูลบอกลูกไว้ละเอียดมากว่าถ้าติดต่อกับที่ดินจะมีขั้นตอนอะไรบ้าง เพื่อให้ลูกรู้ว่าถ้าต้องไปติดต่อราชการเองจะต้องทำอย่างไร)

หากแม่เสียชีวิต ลูกจะได้ติดต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทรัย์สินนั้นๆ เช่น เจ้าหน้าที่ธนาคารที่กำลังผ่อนรถหรือผ่อนบ้าน เพื่อผ่อนต่อหรือถ้าส่งต่อไม่ไหวก็ขาย การจัดการเรื่องเอกสารที่กรมที่ดิน



เรื่องนี้อภินิหารเงินออมได้เรียนรู้ช่วงที่คุณพ่อเสียชีวิต พ่อเป็นข้าราชการจึงมีเอกสารที่เกี่ยวข้องเยอะมาก ท่านเก็บเอกสารทุกอย่างตั้งแต่เริ่มทำงานจนถึงปัจจุบันเก็บใส่แฟ้ม หลังจากพ่อเสียชีวิต แม่ก็ต้องติดต่อกับหน่วยงานหลายฝ่ายเพื่อเบิกเงินต่างๆของพ่อ หากเจ้าหน้าที่เรียกเอกสารอะไร แม่ก็จะมาหยิบที่แฟ้มนี้ เมื่อหลักฐานครบก็ทำให้ได้รับเงินเร็วขึ้น



สำหรับคนที่ต้องการรู้เรื่องพินัยกรรม สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ พินัยกรรม ทำเลย! ไม่ต้องรอ https://www.posttoday.com/life/life/501355



คลิปส่งท้าย ^_^
นอกจากคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวต้องดูแลเรื่องเงินเองแล้ว ยังต้องมีจิตวิทยาสอนลูกให้เชื่อฟังอีกด้วย หนึ่งในคนที่ได้รับเสียงชื่นชมว่าสอนลูกดีมากๆ นั่นคือ คุณหมู พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ ดาราสาวแม่เลี้ยงเดี่ยวสุดสตรอง เธอมีวิธีสอนลูกชายอย่างไรให้ออกมาเป็นหนุ่มขวัญใจสาวเล็ก สาวใหญ่ได้มากมายขนาดนี้ ฟังเคล็ดลับได้เลยจากคลิปสัมภาษณ์นี้นะคะ




ที่มา : https://youtu.be/mQVxkeRPQX8



ดูจบคลิปนี้แล้วฟินกันเลยนะคะ ได้ทั้งความรู้ ความรักและความอบอุ่นใจที่แม่คนหนึ่งทำทุกอย่างเพื่อลูก ในขณะที่ลูกก็รับรู้ได้จากความจริงใจที่แม่มอบให้ อภินิหารเงินออมหวังว่าเรื่องราวทั้งหมดในบทความนี้น่าจะเป็นแนวทางให้กับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ นะคะ ^^


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://aommoney.com

เมื่อต้องมาเป็น "Single Mom" วางแผนยังไงดี


สาขาBusiness​ Blog/ สาขา Education Blog



newyorknurse




Create Date : 11 กันยายน 2561
Last Update : 30 กันยายน 2561 2:40:34 น. 0 comments
Counter : 1644 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณกะว่าก๋า, คุณmoresaw, คุณtuk-tuk@korat, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณNior Heavens Five, คุณสองแผ่นดิน, คุณมยุรธุชบูรพา, คุณSweet_pills, คุณผีเสื้อยิปซี, คุณยังไงก็ได้ว่ามาเลย


newyorknurse
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]






เริ่มเขียนBlog
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553

ยินดีต้อนรับค่ะ

จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ
ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ
เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ

จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า
รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ
ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย
สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness
เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ
จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย

จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ
เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์
เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป

จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้
ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ
ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน
และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ
ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ

"A time to enjoy,
a time to spend time with your family
and a time to be with your friends
all comes with retirement"


*****


"Live The Moment"

อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น
ในอดีตและกลัวหรือกังวล
สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้"
คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !!
ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า
น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา
และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ
หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ


*********


ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด
ทุกๆคะแนน นะคะ

BG Popular Award # 19


BG Popular Award # 18


BG Popular Award # 17


BG Popular Award # 16


BG Popular Award # 15


BG Popular Award # 14


BG Popular Award # 13


BG Popular Award # 12


BG Popular Award # 11


BG Popular Award # 10


BG Popular Award # 9


BG Popular Award # 8

**********



ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ


ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
Flag Counter
New Comments
Group Blog
 
<<
กันยายน 2561
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
11 กันยายน 2561
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add newyorknurse's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.