Strawberry Shortcake สวัสดีปีใหม่ 2010 กับสตรอเบอรี่สีแดงสดลูกโต
สวัสดีครับ กระผมนายเกี้ย หายไปนานมากกกกกกกกกกกกก ก่อนอื่นขอสวัสดีปีใหม่ทุกท่านในก้นครัวนะครับ คิดถึงมากๆ แต่ไม่ค่อยจะมีเวลาเท่าไหร่ ไม่ทราบยังมีใครจำได้บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ 5555 ตอนนี้งานเยอะมากครับ จริงๆก็ถ่ายรูปขนมที่ทำเก็บๆไว้บ้าง แต่ก็ไม่สวยบ้าง ไม่กล้าเอามาลง หุหุ พร้อมกับช่วงปลายปีงานเยอะมากครับ ทั้งงานราษฎร์ งานหลวง ทำมาหากินจนโงหัวไม่ขึ้นกันทีเดียว พอได้พบสบโอกาสทำขนมก็เลยเอามาให้ดูกันอีก ถือเป็นกระทู้แรกของผมในปี 2010 ครับผม ก็เลยอยากเบิกฤกษ์ด้วยอะไรที่สีสันสดใสหน่อย ก็เลยเอานี่แหละ "Strawberry Shortcake" จริงๆเคยทำแล้วครั้งนึง แต่ดูไม่ได้เลย บีบครีมได้อัปลักษณ์มากกกกกกกกกก ถึงมากที่สุด สาเหตุเพราะว่าดันใส่หัวบีบผิด 5555 ไม่ค่อยได้ทำเค้กครีมเท่าไหร่ ทำให้สับสน ดันไปเอาหัวบีบไว้นอกถุงแล้วก็บีบ ออกมาเละเทะมาก จริงๆแล้วมันต้องไว้ในถุงต่างหาก เอ๋อมากกกก พอได้มีโอกาสแก้ตัว หน้าตาพอดูได้แบบมือใหม่หัดบีบครีม ก็เอามาให้ดูกันอีกที ไม่พลาดละ ไม่สวยที่สุดอย่างใครๆ แต่ก็ไม่ขายหน้าละกันนะคับ หุหุ ว่าแล้วไปชมรูปแรกกันก่อนเลยนะครับ วิธีทำก็เหมือนพี่ๆท่านอื่นๆ แต่เด๋วจะเอามารีวิวให้ดูละกันนะครับ พล่ามมานานแล้วไปดูรูปกันเลยดีกว่าครับผม วิธีทำเนื้อเค้ก ก็คือสปันจ์สูตรคุณแหม่ม Tiara นี่แหละครับ เหมือนเค้กส้ม แต่ผมเปลี่ยนกลิ่นส้ม เป็นกลิ่นสตรอเบอรี่แทน แล้วก็มีปรับนิดหน่อย เผอิญเนยหมด ก็เลยใส่น้ำมันพืชแทน 55555 มักง่าย ไปดูส่วนประกอบละกันนะครับผม หุหุส่วนผสม (สูตร 3 ปอนด์นะครับ ใครจะทำ 2 ปอนด์ หารสัดส่วนเอานะครับ)- แป้งเค้ก 100 กรัม- ผงฟู 3/4 ช้อนชา- น้ำตาลทรายป่น 80 กรัม- เกลือ 1/2 ช้อนชา- น้ำ 40 กรัม- นมข้นจืด 30 กรัม- ไข่ไก่ เบอร์ 0 จำนวน 3 ฟอง- เนยสดละลาย (เค็ม) 75 กรัม (ผมใช้น้ำมันพืชแทนครับ ปริมาตรเท่ากัน)- เอสพี 2 ชช.- กลิ่นสตรอเบอรี่ 1 ช้อนชา- กลิ่นนมเนย 1 ช้อนชา (ไม่ได้ใส่เนยก็เลยขอเติมกลิ่นนิดนุงนะครับ)ส่วนวิธีตีนะครับ รายละเอียดตามภาพเลยนะครับ1. ใส่ส่วนผสมที่ร่อนแล้ว แป้ง+น้ำตาลป่น+ผงฟู ลงไปในโถตีเลยครับ จากนั้นใส่เกลือ+น้ำ+นม+ไข่ ตามลงไปเลย พรวดเดียว 2. จากนั้นก็เอาสปาร์ตูล่าตีให้เข้ากันก่อน เพื่อไม่ให้ส่วนผสมมันฟุ้งขึ้นมาครับ3. ปาดเอสพีที่หัวตะกร้อเลยครับ จากนั้นตีสูงไปเลยครับ 7 นาที แล้วก็ตีต่ำอีก 1 นาที จะได้ส่วนผสมที่มีความข้นเหมือนในรูปเลยครับ หุหุ4. จากนั้นใส่กลิ่นสตรอเบอรี่ และนมเนยลงไปครับ แล้วก็ตีให้พอเข้ากัน5. ค่อยๆทยอยใส่น้ำมันพืชครับ จนหมด แล้วก็ตีต่ำไปอีก 2 นาทีเลยครับ6. พอครบเวลาแล้ว ก็ตีสูงอีก 20 วินาทีครับ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย7. เทใส่พิมพ์เลยนะครับ เพื่อเตรียมเอาเข้าเตาอบครับผม ยัดเข้าเตาอบไปเลยครับ สังเกตเตาอบของผมนี่เป้นเตาอบง่อยๆนะครับ ยี่ห้อผมเองยังไม่คุ้นเลยครับ ของน้องสาวเอามายืมใช้เป็นปีละ ยังไม่ได้คืนเลย มีโครงการว่าจะซื้ออยู่ แต่ยังหาความลงตัวไม่ได้ ไม่รู้จะเอายี่ห้ออะไรดี 5555 คิดเยอะมากกกกกกกก แต่ใครที่เพิ่งหัดทำขนมก็ดูนะครับ เตาไม่มียี่ห้อแบบผมก็ทำได้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่หัดทำขนมครับผมเม้าท์นาน จะบอกว่าผมอบไฟล่างอย่างเดียว 180 องศาเซลเซียส ประมาณ32 นาที นะครับ ลองดูเตาคนอื่นอาจจะช้าเร็วกว่านี้ต้องลองเช็ค ที่ง่ายสุดเหมือนที่พี่ๆน้องๆในนี้บอกก็คือ ถ้าได้กลิ่นหอมลอยออกมาแล้วละก็ ก็คอยแบบดูละกันครับรูปสุดท้ายสไลด์ให้ดูเนื้อใน งามๆเนียนๆด้วย หุหุจากนั้นเราพักเค้กไว้ มาตีวิปครีมกันก่อน ผมใช้ของแองเคอร์นะครับ เพราะพี่หน่องบอกว่าตีง่ายดี ตีง่ายและอร่อยกว่าโฟร์โมสต์ ก็เลยลงทุนไปซื้อมาครับส่วนผสมนะครับ1. วิปปิ้งครีม 3 ถ้วยตวง2. ไอซิ่ง 4.5 ช้อนโต๊ะ3. กลิ่นวนิลา 2 ช้อนชาใส่ทุกอย่างลงไปเลยครับในโถ ผมเอาอุปกรณ์ทุกอย่างไปใส่ช่องฟรีสก่อนครับ แล้วก้ค่อยมาตี แถมเปิดแอร์ตีด้วย 55555 กลัวมันตีไม่ขึ้น เวลาตีผมตีกลางครับ ค่อยๆสังเกตเอาว่าเริ่มมีรอยตะกร้อ แล้วข้นเรื่อยๆ แล้วก็เช็ค พยายามดูเวลาทุก 1-2 นาทีด้วยนะครับ เพราะพี่ๆน้องๆในก้นครัวว่ากันว่า ห้ามตีเกิน 5 นาทีไม่งั้นมันจะแตกตัวครับ ก็จะได้ข้นๆประมาณนี้ครับ ดีใจที่ตีไม่เสีย หุหุ จากนั้นมีสตรอเบอรี่เท่าไหร่โปะลงไปเลยครับ เอาให้เต็มๆเลย แต่ผมใส่ได้เท่านี้ กลัวว่าจะไม่พอแต่งหน้าครับ 5555555 สีสวยจังเลย ชอบสีรสตรอเบอรี่ที่สุด แถมเป็นผลไม้ที่เข้ากับวิปครีมมากๆๆๆๆๆๆ อร่อยสุโค่ยยยยยเลยก็ว่าได้ครับ 55555 ปาดครีมครับ แต่ปาดยังไงก็ไม่เรียบแบบพี่ๆ ผมก็ฝีมือไม่ถึง ก็เลยเอาบีบซ่อนลายให้หมด ไม่ให้เห็นริ้วรอยข้างใน 55555รูปสุดท้ายนี่พยายามปาดให้งามที่สุดแล้วครับ แต่ได้เท่านี้แหละ ได้เวลาโชว์ละ ต่อไปจะซูมให้ดูเรื่อยๆนะครับ ค่อยๆซูมเข้าไปเรื่อยๆ ให้เห้นสีสวยๆชัดๆ หุหุ ชอบจิ๊งงงงงงงง ซูมเนี่ย 5555 สุดท้ายละครับ ไปก่อนนะครับ ยังไงจะพยายามแวะเข้ามาตอบเรื่อยๆ ขอให้สุขีสุโข สวัสดีปีใหม่ทุกท่าน รวยๆๆๆๆๆๆๆๆ นะครับ
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [