Macadamia Caramel Fudge หอมนุ่มนึบหนับ กรอบกรุบ หวานมัน ทานเพลินจริงๆ
สวัสดีครับ หายหน้าหายตากันไปนานอีกแล้ว เห็นแว่บๆว่าป้าอ้วนเหนียวเนื้อ คนเดิมของเรากลับมาแล้ว ยินดีต้อนรับกลับบ้านอีกครั้งนะครับ ส่วนผมก็ไปๆมาๆ ขึ้นอยู่กับเวลา และงานที่ทำ จะอำนวยมากน้อยแค่ไหน วันนี้ก็เอาเมนูขนมอร่อยๆมาให้ชมกันอีกแล้วครับ เค้กก้อนนี้มาจากวันเกิดน้องที่ออฟฟิศเก่า แล้วก็มีการโทรมาบอกว่าทำเค้กให้หน่อย จะเอาเค้กอะไรก็ได้ มาปู้ยี้ปู้ยำสไตล์ "นายเกี้ย" นั่นแหละ เขาอยากให้ลองทำเค้กอะไรก็ได้ที่เขายังไม่เคยทานกัน ผมก็เลยคิดๆๆๆๆๆๆ จับเอานั่นมาผสมนี่ จับเอานี่มาผสมนั่น ก็เลยออกมาเป็นตัวนี้แหละครับ "Macadamia Caramel Fudge"การทำก็ไม่ยากเลยครับ ผมว่าทุกท่านที่ทำขนมเป้นน่าจะทำตามกันได้ เพราะผมคิดเอาส่วนผสมที่คิดว่าน่าจะเข้ากันได้ มาผสมๆ ประกอบกัน มาเป็นเค้กก้อนนี้ครับ ชอบไม่ชอบ ติชมกันได้นะครับ เพราะผมว่าผมยังบีบครีมไม่งามอย่างที่อยากได้ ออกมาเลยดูล้นๆไปหน่อย 5555 ไปชมกันเลยดีกว่าครับผม อย่าให้เสียเวลา 5555 มาต่อเลยนะครับก่อนอื่นผมก็เลือกสปันจ์ช็อคโกแลตมาครับ เลือกสูตรน้องวรรณ แมวอ้วนมาเลย ชอบครับ หอมอร่อยนุ่มนิ่ม แต่ด้วยความที่ขี้เกียยจใช้เนย ผมก็เลยเปลี่ยนจากเนยเป็น น้ำมันดอกคาโนล่า ในปริมาณที่เท่ากันนะครับ เด๋วขอ Copy ของน้องวรรณมาเลยนะครับ ในสูตรที่ให้ไปของน้องวรรณเป็น 3 ปอนด์นะครับ แต่ผมทอนสูตรลงเหลือ 2 ปอนด์ ลองคำนวณเอาดูนะครับแป้งเค้ก 100 กรัมผงฟู 1/2 ช้อนชาเบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชาเกลือ 1/4 ช้อนชาน้ำตาล 100 กรัมเนยสด 80 กรัม (อันนี้ผมเปลี่ยนเป็นน้ำมันดอกคาโนล่าครับ)น้ำ 40 กรัมนมข้นจืด 40 กรัมเอสพี 10 กรัมไข่ไก่เบอร์ 0 3 ฟองผงโกโก้ 25 กรัมวิธีทำ1. ร่อนแป้ง ผงฟู เบคกิ้งโซดา รวมกัน แล้วอุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ไฟล่าง2. ไข่ นม น้ำ น้ำตาลเทรวมกันในอ่างผสม ป้ายเอสพีที่ตระกร้อ แล้วตีด้วยความเร็วสูงสุด 5 นาที3. เมื่อตีครบ 5 นาทีแล้วหยุดเครื่องใส่แป้งที่ร่อนแล้วลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำ 1 นาที4. หลังจากนั้นตีด้วยความเร็วสูง 6 นาที และระหว่างที่ตี 6 นาทีนี้ก็ปาดอ่างเป็นระยะนะคะ5. เมื่อตีครบ 6 นาทีแล้วเปลี่ยนมาตีต่ำ 1 นาที แล้วใส่น้ำมันพืชที่ผสมกับผงโกโก้ ตีต่ำต่ออีก 2 นาที และ ตีต่อด้วยความเร็วสูงอีก 10-20 วินาทีแล้วปิดเครื่อง6. เมื่อปิดเครื่องแล้วใช้พายคนส่วนผสมให้เข้ากันอีกรอบ แล้วเทลงในพิมพ์ 2 ปอนด์ ที่รองด้วยกระดาษไข แล้วนำเข้าอบ ประมาณ 30 นาทีได้ออกมาหน้าตาแบบนี้เลยครับ แล้วก็สไลด์เตรียมไว้ แค่ 2 ชั้นพอครับ ต่อด้วยทำ Dark Chocolate Fudge ง่ายมากๆครับผม ส่วนผสมตามนี้เลยDark Choc 100 กรัมวิปปิ้งครีม 100 กรัมเนยสด 30 กรัมเอาดาร์คช็อคกับวิปปิ้งครีมละลายนะครับ แล้วพอเขากันดีแล้ว ก็เอาเนยสดใส่ลงไป ปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็น คอยคนไปเรื่อยๆให้มันข้นขึ้น ถ้ากลัวไม่ข้นเอาเข้าตู้เย็นก็ได้นะครับ จากนั้นก็เอามาปาดบนเนื้อเค้กเลยจ้า เห็นมะไม่ยากกก จากนั้นก็เอาวิปครีมป้าย และปาดเลยครับ ผมไม่ค่อยชอบพวกบัตเตอร์เท่าไหร่ ก็เลยใช้วิปครีมแทนครับ ชอบมากกว่าอ่าครับ ส่วนผสมตามนี้เลยนะวิปปิ้งครีม 2 1/2 ถ้วยตวงน้ำตาลไอซิ่ง 3 ช้อนโต๊ะวนิลา 1 ช้อนโต๊ะ (ผมใช้แบบน้ำครับ ไม่ค่อยห่วงว่าจะขาวไม่ขาว ขอให้อร่อยก็พอ)เอาทุกอย่างตีผสมรวมกันเลยครับ จนข้นขึ้นพอปาดได้ก็หยุด อย่าตีนานนะครับ เด๋วมันจะแยกตัวเป็นไขมันกับน้ำ ต้องทิ้งอย่างเดียวเลย แต่จะให้ดีก่อนดี เอาโถตี ตะกร้อ ถ้วยตวง ทุกอย่างไปแช่ฟรีสซักพักให้มันเย็นๆ จะได้ตีขึ้นเร็วๆอ่าครับ จากนั้นก็เอามาปาดๆ บีบๆ ตามใจชอบเลยครับผม ลองดูนะ ไม่ยากเลย จากนั้นเรามาทำส่วนสุดท้ายกันดีครับ ก็เป้นส่วนคาราเมลที่ผสมกับแมคคาเดเมียกรุบกรอบนั่นเอง ไปเอามาจากพี่หน่อง wee_nong คนสวย ส่วนผสมดังนี้ครับน้ำตาลทราย 70 กรัมน้ำตาลทรายแดง 70 กรัมวิปปิ้งครีม หรือ น้ำข้นจืด 200 กรัมเนยสด 70 กรัมแมคคาเดเมียอบสุก 80 - 100 กรัม (ผมใส่ไป 100 เลย เห็นมะครับ ตอนราดบนเค้กจะล้นๆหน่อย 555)วิธีทำก็ไม่ยากครับ เอาน้ำตาลทราย และน้ำตาลทรายแดง ไปตั้งไฟให้ละลายนะครับ จนเป็นคาราเมลเลย จากนั้นก็ใส่นมข้นจืด หรือ วิปปิ้งครีมลงไปครับ คนจนละลายเป็นส่วนผสมเดียวกัน จากนั้นใส่เนยสดลงไป พอละลายหมดปิดไฟครับ อันนี้พี่หน่องบอกว่าเนยต้องอุณหภูมิปกตินะครับ เพราะถ้าใส่เนยเย็นๆ คาราเมลจะเป็นก้อนแข็ง แล้วจะละลายยาก เอาเนยนุ่มๆ เอาออกมาทิ้งไว้ข้างนอกพักนึงเลยครับ รอจนคาราเมลเย็นตัวลงนะครับ จากนั้นก็ใส่แมคคาเดเมียที่อบสุกแล้วลงไปเลยครับ คลุกเคล้ากัน ตามนี้เลยครับ พอคาราเมลเย็นสนิท ใส่แมคคาเดเมียคลุกเคล้าไปแล้ว จับราดเลยครับท่าน ชอบเยอะราดเยอะ ชอบน้อยราดน้อย แต่อย่าลืมทำเขื่อนกันมันด้วยนะ เด๋วล้นหมดอ่าครับ อร่อยดีครับ ลองทำกันดูนะครับผม หุหุ
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [