เช้านี้...แม่บุญตื่นเช้ามาถ่ายภาพบ้านไว้ถ่ายภาพกับเจ้าของบ้านด้วย เราร่ำลากันอย่างกับเพื่อนเก่า ราวกับรู้จักกันมานานเจ้าของบ้านเอาแยมที่ทำเอง ไวน์จากท้องถิ่นนั้นอีกหนึ่งขวด และของกินอีกอย่างพร้อมกับใบไทม์ โรสแมรี่ ใส่ถุงมาให้อีกห่อใหญ่ บอกว่าเอาไว้ทำกับข้าวแล้วก็ชวนเราสองคนกลับมาอีก มาเก็บเห็ดด้วยกัน เพราะปีที่แล้วพวกเขาเก็บกันได้ถึง๖๗ กิโล...ลองคูณเล่น ๆ กิโลละ ๒๘ ยูโรจ้า...น่าไปเก็บไหมหล่ะ ?? แถบนี้เป็นแถบที่เก็บเห็ดได้มากที่สุดขายส่งไปทั่วประเทศ เพื่อนแม่บุญเรียกเห็ดผึ้ง เพราะใต้ท้องเป็นรูเล็ก ๆ ถี่ยิบเหมือนรังผึ้งจริงๆ เคยเก็บได้สองดอกใหญ่ ๆ มิเชลเอามาผัดกับเนย โรยเกลือ พริกไทยอีกหน่อยปิ้งขนมปังร้อน ๆ แล้วทาคล้ายแยม...อร่อยเหาะ ว่าแล้วเราก็เตรียมที่จะมาเก็บเห็ด...เดือนกันยาโน้นแหละ...เอากระเป๋ามาสองใบว่างไว้หนึ่งใบเอาไว้ใส่เห็ดกลับบ้าน...
แปดโมงครึ่งที่มิเชลขับรถออกมาจากบ้านเจ้าของบ้านผู้หญิงเธอออกไปเดินออกกำลังในป่า วันนี้เป็นวันของเธอส่วนสามีจะเดินวันต่อไป นี่คือกิจกรรมของคนในชนบท ที่รักธรรมชาติเกาะกลุ่มกันเดินป่า ออกกำลัง เขาไม่ได้เดินแค่สองสามกิโลเมตรนะ แต่เล่นเดินกัน ๒๐กิโลเมตรเป็นอย่างต่ำ...ทั้งวันนั่นแหละ เดินเสร็จก็ทำบาบีคิวย่างกินกันก่อนแยกย้ายกลับบ้าน...ส่วนเราสองคนจากที่นี่จะแวะไปเรื่อย ๆ ก่อนจะไปถึงบ้านที่มิเชลจองไว้นอนคืนนี้...อีกเมืองหนึ่ง
ขับรถมาเรื่อยๆ ผ่านทุ่งกว้างใหญ่โตสุดลูกหูลูกตา...อีกแล้วอะไรแว็บ ๆ สีแดง ๆ สวยจริ้งงงง...อยากถ่ายภาพแต่ย้อนแสงเลยขับผ่านไป คราวนี้ผ่านทุ่งดอกป๊อปบี้สีแดงไปทั้งทุ่งอดใจไม่ไหว ...มิเชลจอดรถ พร้อม ๆ กับที่แม่บุญคว้ากล้อง เดินลิ่ว ๆลงไปที่ทุ่งกว้าง มิเชลตามมาติด ๆ เดินแซงลงไปถ่ายกันแบบจะ ๆรถที่วิ่งไปมามองเรา...พร้อมโบกมือให้ ตกลงได้ถ่ายภาพกันแบบหน่ำใจ...ก่อนจะเดินทางต่อ...
เมืองที่จะไปเยี่ยมชมวันนี้เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุด ชื่อ
Domme..
ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ๑๕๐ เมตรเหนือแม่น้ำบนหุบเขาของแถบ Dordogneและเป็นหมูบ้านที่สามารถมองเห็นวิวแบบพาโนรามาที่สวยที่สุดอีกด้วย ไปดูในเน็ตได้ที่ www.ot-domme.com มีประชากรอาศัยอยู่ไม่มาก บ้านเรือนไม่กี่ร้อยหลังคาเรือนขับรถผ่านแพล็บเดียวก็ดูหมดแล้ว แต่ละแห่งที่ไปดูจะอยู่ไม่ไกลกันมากก่อนเดินทางมิเชลศึกษาเส้นทางมาอย่างดี เราเลยไม่ต้องเสียเวลาตระเวณหาให้เมื่อย อีกอย่างแผนที่และ GPS จะขาดไม่ได้ไม่งั้นงมหากันแย่แน่ ๆ ใครคิดจะมาเที่ยวอย่าลืมพกมาด้วย...
ขับมาถึงสี่แยกที่จะขึ้นไปชมเมืองเก่าตาเหลือบไปเห็นป้าย Sawasdee Restaurant ชื่อมันคุ้นๆ ..เหมือนไทย...อ้าว..จริง ๆ ด้วย ร้านอาหารไทยว่าแล้วก็รีบบอกให้มิเชลเลี้ยวกลับไปดูเสียหน่อยเป็นไงมาไงถึงได้มาตั้งอยู่ห่างไกลขนาดนี้ ...
ที่หน้าร้านหญิงสาวคนหนึ่งกำลังรดน้ำต้นไม้โดยไม่ได้มองมาทางด้านที่เราเดินเข้ามาแม่บุญทักไปก่อนเป็นภาษาไทยว่า...สวัสดีค่ะ เธอหันขวับมามองแบบแปลกใจเช่นกันคงนึกไม่ถึงว่าจะเจอคนไทยหน้าเหมือนแม้ว...มาเที่ยวที่นี่
ว่าแล้วก็เจรจาพาที น้องต่าย...ชื่อเจ้าของร้านชวนเข้าไปในร้าน คุยกันคร่าว ๆ พอดีเธอกำลังเตรียมทำอาหาร ไม่มีเวลามากเราเลยบอกว่าจะไปชมเมืองแล้วจะกลับมาอุดหนุุนกินอาหารเที่ยงที่ร้านเธอ ...
มิเชลเลยขับรถพาแม่บุญขึ้นไปบนเขาอีกหน่อยแล้วก็ลงเดินชมเมือง แดด..ที่ส่องมาบนหัวมันร้อนได้ใจจริง ๆ นึกว่าเดินอยู่กทม.เสียอีกถ้าไม่เกรงใจฝรั่งกะจะควักร่มมากาง...ฝรั่งคงค้อนกันขวับเพราะที่นี่เขาบ้าแสงแดดกันตากแดดจนตัวแดงเหมือนกุ้ง...ถ้าเป็นแม่บุญคงดำมัน...เลื่อมไปทั้งตัว คิดแล้วขนลุกราศรียิ่งไม่ค่อยจะมี ..
พอเดินพ้นลานจอดรถไปสักพัก เมืองเล็ก ๆแบบเก่าแก่ข้างหน้า ดึงดูดให้เดินไปข้างหน้าเรื่อย ๆ อะไรมันจะสวยขนาดนี้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่กำลังเดินเข้าออกร้านขายของ ทำให้แปลกตาเพราะตั้งแต่มาถึงวันแรก เราไม่เคยเจอนักท่องเที่ยวชาวเอเชียเลยคงเป็นเพราะระยะทางอันไกล และไม่ใช่เมืองแห่งการช้อปปิ้ง..เลยทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวเอเชียขาช้อป ไม่ค่อยมาที่นี่ จริง ๆแล้วเมืองที่แวะเที่ยวกันตั้งแต่แรก เหมาะกับคนที่รักธรรมชาติ ของเก่าดูบ้านเรือนแบบโบราณ บรรยากาศแบบเงียบ ๆ ดื่มด่ำกับธรรมชาติจริง ๆหากต้องการซื้อของแบรนเนมคงจะผิดหวัง เพราะหาไม่มีสักแห่ง ..
มาเดินกันต่อ เที่ยงแล้ว..ร้านอาหารน่ารัก ๆหลายร้านคนแน่นเพียบ เราเดินผ่านกันอย่างเย่อหยิ่ง...แหม่...อาหารไทยรออยู่อดใจอีกหน่อย
เราเดินไปจนถึงจุดชมวิวแบบพาโนราม่า ถ่ายภาพแล้วก็ยืนชมวิวให้หน่ำใจ
จากนั้นก็ เดินดูบ้านเรือนที่สร้างด้วยหิน ผู้คนหายไปไหนกันหมดนะ ? เงียบดีจริง ๆจะมีเพียงนักท่องเที่ยวเท่านั้นที่เดินไปมา แม่บุญถ่ายภาพมากมายจะสังเกตุว่าแทบจะไม่มีภาพผู้คนมากมายให้เห็นกันเลย
จากนั้นก็ขับรถตรงดิ่งไปที่ร้าน แต่..หลงทางต้องจอดรถ ใส่ที่อยู่ให้เจ้า GPS ผู้ฉลาดปราดเปรื่องพาไปส่ง...ที่ร้านมีลูกค้านั่งอยู่ก่อนหลายโต๊ะ..แม่บุญเลือกได้ที่นั่งใกล้ประตูติดกับครัว เอาไว้วิ่งไปสัมภาษณ์เจ้าของร้าน น้องต่ายกับสามีมาเปิดร้านที่นี่ได้เกือบสองปีแล้วและย้ายมาจากที่อื่นตอนนี้กำลังจะขยายกิจการเพราะขายดีเป็นเททิ้ง..จากที่คิดว่าจะขายไม่ได้กลับมีลูกค้ามากมาย มื้อค่ำหากไม่จอง...อดนะจ๊ะ เห็นแล้วก็ชื่นใจ ชื่นชมอาหารไทยน้องต่ายทำอาหารให้เราสองคนกินแบบที่เมืองไทย หายคิดถึงบ้านไปหนึ่งวัน...จากนั้นก็ลากัน
บ่ายสี่โมง..ถึงเวลาต้องเดินทางไปที่บ้านพักที่มิเชลจองไว้ทางอินเทอร์เน็ตเพราะอยู่ไกลพอสมควร รถวิ่งผ่านบ้านเรือนถนนหนทางเล็ก ๆ กับทุ่งกว้าง เราเลือกเส้นทางเก่า โดยไม่ใช้ถนนสายหลักทำให้เข้าออก มุดไปมุดมาระหว่างหมู่บ้าน ไม่อยากบอกว่า...อิจฉาตัวเอง..ผิดหรือเปล่า ?? ที่มีโอกาสมาเยือนบ้านเมืองสงบ สวยงามเหล่านี้
ห้องสะอาดมาก
มิเชลขับรถมาถึงบ้านเก่าๆ คล้ายโรงนาเก่า อันนั้นมองจากภายนอกตอนขับรถเข้ามาแต่เมื่อมาถึง...ห้องที่เราจองไว้หน้าต่างหันออกไปที่ทุ่งกว้าง สวยงามเกินบรรยายรีบจัดการอาบน้ำเพราะความร้อน ถามเจ้าของบ้านว่ามีอะไรให้ดูบ้างในแถบนี้และร้านอาหารที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน จากนั้นก็ตรงดิ่งไปตามคำแนะนำ....
รออ่านต่อนะจ๊ะ..
สวยมากๆ เลยค่ะแม่บุญ