แคว้น Dordogne, Lot, Toulouse May 29th to June 12
เช้าตรู่ของวันที่29 ตอนตีสาม นาฬิกาที่ตั้งไว้ปลุกตรงเวลาเป๋ง...มิเชลรีบลุกพร้อม ๆ กับแม่บุญ ๆอาบน้ำให้สดชื่น แล้วก็ช่วยกันขนกระเป๋าไปใส่รถ ที่ก่อนหน้านี้ได้ขนอุปกรณ์สำคัญหม้อหุงข้าว และข้าวของที่จะใช้ทำอาหาร กระทะใบโปรดที่สามารถใช้กับเตาไฟฟ้า แก๊สและระบบใหม่ Induction หากไม่เตรียมไปแบบนี้มีหวังได้กลับบ้านเร็วจะหวังไปกินแต่ร้านอาหารมันแพง อีกอย่างไปถึงถิ่นที่ได้ชื่อว่ามีชื่อเสียงในด้านอาหาร เช่น เป็ด ฟัวกราส์ ไก่ และอีกสารพัดนอกเหนือจากการกินที่ร้านอาหารแล้วเราอยากเอามาลองทำอย่างอื่นกินกันบ้างเท่านั้นเอง ตามประสาคนชอบทำอาหาร
มิเชลขับรถยาวนานกว่าสองชั่วโมงหยุดดื่มกาแฟกันหนึ่งครั้งตอนหกโมงเช้าที่ร้านข้างทาง เป็นปั้มน้ำมันด้วยแล้วก็นอนพักประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็ตรงดิ่งผ่านชานเมืองปารีสขนาดยังไม่ทันแปดโมงเช้าแต่รถติดระเบิด มอเตอร์ไซค์ดูจะเป็นพาหนะที่เร็วที่สุดอีกหน่อยคงเหมือนกรุงเทพฯ บ้านเรา ที่วิ่งควักกันไปทั้งเมือง รถขยับไปได้ทีละนิดแม่บุญถือโอกาสนอนไปในตัว... แล้วเราก็ออกพ้นเขตรถติดในที่สุด
คราวนี้มิเชลหยุดพักทุกสองชั่วโมงระยะทางกว่าพันกิโลเมตร ขื่นไม่พักมีหวังได้พักข้างทางแทน บ่ายกว่า ๆที่ผ่านเมืองเล็ก ๆ แวะเติมน้ำมัน เหลือบเห็นร้านอาหารเป็นโรงแรมด้วยเลยหยุดดูรายการอาหาร น่าสนใจ ราคาไม่แพง ๑๕ ยูโรต่อคนว่าแล้วก็เลี้ยวรถเข้าไปทันที
แม่บุญสั่งอาหารเรียกน้ำย่อยเป็น หอยแมลงภู่อบส่วนมิเชลกินสลัดรวม หอยตัวโตที่นอนมาอวบอ้วนกินเต็มคำดีจริง ๆ อร่อยทีเดียวไวน์ที่สั่งมาครึ่งขวด ทำให้อาหารลื่นคล่องคอขึ้นจากนั้นอาหารจานหลักที่เราสั่งเหมือนกัน คือ เป็ด..ทอด ห่อหุ้มด้วยผลไม้แห้ง ทำให้เนื้อภายในยังแดงนิดๆ เคียงมาด้วย มันฝรั่งบดที่ใส่มาในถ้วย กับผักต้ม แต่งมาอย่างสวยงามเราสองคนกินไป คิดเมนูสำหรับลูกค้าไป อดไม่ได้พอเห็นอะไรดี ๆแล้วก็มักจะคิดเรื่องเมนูตลอด ...มันฝั่งในเส้นเลือดแล้วกระมัง ...
อิ่มอร่อยแล้วก็ต้องเดินทางต่อเพราะยังต้องไปอีกไกล มิเชลขอนอนพัก แม่บุญเลยนั่งดูแผนที่ ๆ เราจะไป ๆ พลาง ๆอยากหลับเหมือนกันแต่หลับไม่ลง รอจนมิเชลตื่น ก็เดินทางต่อมิเชลมีนัดกับบริษัทขายบ้านที่เมือง Monpazier เลยต้องหาที่พักที่ไม่ไกลมากทั้งนี้เราสองคนไม่ได้จองที่ไหนทั้งสิ้น กะมาตายเอาดาบหน้า ด้วยแน่ใจว่ายังไม่ถึงฤดูท่องเที่ยวเราคงหาที่พักได้สักแห่ง ผ่านไปเมืองไหนที่สวย ๆ เราก็จะแวะเที่ยวกันก่อนแม้จะเพลียกันทั้งคู่ แต่เมื่อเห็นเมืองสวย ๆ มันอดไม่ได้ต้องไปเดินชมกันก่อน
แคว้นที่เราตั้งใจจะมาเที่ยวทริปนี้อยู่ในแคว้น Dordogneชื่อดั้งเดิมคือ Périgord แบ่งเป็นเขตที่แตกต่างกันสี่เขตสี่สี แล้วเรียกตามสีคือPérigord vert, Périgord Blanc, Périgord Pourpre, Périgord Noirทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเขตนั้นมีอะไรมากก็ตั้งชื่อตามนั้น ส่วน Dordogne เป็นชื่อแม่น้ำสายใหญ่ที่ไหลพาดผ่านเป็นแม่น้ำสายหลักก็ว่าได้
หลาย ๆ เมืองที่เราจะไปเยี่ยมชมครั้งนี้ได้ชื่อว่าเป็น les Plus Beaux Villages de France de laVallée Dorgogne หรือ เป็นเมืองที่สวยที่สุดของฝรั่งเศสในแคว้น Dordogne เมืองต่างๆ ที่ว่า ประกอบด้วยSarlat , Belvès , Domme , Beynac , La Roque Gageac ,Pompazierเราจะทะยอยไปเที่ยวตามเมืองต่าง ๆ ที่ว่ามากัน โดยเราจะไล่ลงไปเรื่อย ๆไปจนถึง Toulouse แล้วถึงจะตีรถกลับบ้าน เมืองแรกที่แวะคือ Montignac ที่นี่แค่ชะโงกทัวร์วิ่งลงไปถ่ายรูปแล้วก็โดดขึ้นรถ เพราะมิเชลอยากไปเมืองอื่นที่สวยมากกว่าแม่บุญกลัวไม่ได้เห็นเมืองสวย ๆ อย่างเต็มที่เลยรีบวิ่งขึ้นรถตามคำขู่...
พูดถึงอาหารการกินที่มีชื่อเสียงในเขตนี้คือเห็ดราคาแพงราวกับทองคำ ชื่อ Truffes ที่เห็นส่วนมากเป็นสีดำ แล้วก็ เป็ด ตับเป็ด หรือ ฟัวกราส์ และ Le noix หรือวอลนัทเรียกว่าหากมาแล้วไม่ได้ลิ้มลองอาหารพวกนี้ อาจจะพูดได้ว่ายังมาไม่ถึงทีเดียว...