เช้าวันต่อมา ตื่นมาด้วยอารมณ์อันเบิกบานแหม่..นอนดูพระจันทร์เต็มดวงพร้อมฟังเสียงกบร้องระงมทั้งคืน..ออกจะโรแมนติคแต่มิเชลบอกว่า พอหัวถึงหมอน แม่บุญขึ้นสวรรค์ไปก่อนแกแล้ว..งานนี้ช้าได้ไง ??ว่าแล้วก็อาบน้ำเตรียมเก็บของไปไว้ในรถ และกลับมากินข้าวเช้า...ขนมปังมากกว่าที่เจ้าของบ้านจัดไว้อย่างมากมายที่ระเบียงบ้านชั้นสอง
เห็นเป็นบ้านเก่า ๆ แบบนี้แต่ขอบอกว่าห้องครัวเธอเลิศมากกกก เครื่องใช้ต่าง ๆ โมเดิ้ลสุด ๆไม่ใช่ทำอาหารด้วยฟืนนะจ๊ะ ขนมปังบาเก็ตที่หั่นมาเป็นชิ้น ๆ นอนมาในตระกร้าหวายอันน้อย แยม..มากมายให้เลือกกินอันที่น่าสนใจที่สุดคือแยมที่ทำจาก..วอลนัท อร่อยมาก เข้มข้นไม่หวานจัดปาดลงบนขนมปังแล้วค่อย ๆ กินให้ได้รสชาติของวอลนัท..เธอไม่ยอมบอกสูตรแม้จะมีลูกค้าคนอื่น ๆ ที่มาพักถาม..อดเลยเรา..
จากนั้นก็เดินทางจากมาที่นี่เจ้าของบ้านออกจะไว้ตัว ไม่เป็นกันเองเหมือนสองบ้านแรกเราเลยไม่ได้คุยอะไรกันมาก กินเสร็จก็ลา..มิเชลขับรถย้อนไปทางเดิม ตั้งหลักใหม่วันนี้เราจะต้องไปบ้านที่เช่าเอาไว้หนึ่งสัปดาห์ ..เห็นในรูปสวยดี แต่จริง ๆเป็นไงต้องรอดู...
รถขับผ่านหมู่บ้านหนึ่ง..เขาจัดงานประกวดรถเก่ารถเต่า..รถตู้..มิน่า ตลอดทางเห็นรถเต่าเต็มถนน เก่า ๆทั้งนั้นแต่เจ้าของคงดูแลรักษาอย่างดี เลยยังเอี่ยมละออไปทั้งคัน แต่หลาย ๆคันก็เก่าแบบโทรม ๆ เหมือนกัน รถตู้หลากสีที่จอดอยู่กลางทุ่งหญ้าแม่เจ้าโว้ย..อะไรสีมันจะตัดกันสวยปานนั้นแต่โชเฟอร์ส่วนตัวขาเหยียบ...เบรคไม่ทันเสียแล้วอดเลยตรู...อยากจะถ่ายภาพไว้เสียหน่อย พี่แกบอกขืนเบรค คงโดนชนตูดงาม ๆ แน่ ๆแล้วก็เลยมาไกลหลายกิโล เพราะรถที่จอดมากมายจนแทบไม่มีที่จอดรถเลยต้องเลยตามเลย
ขับเลยมาอีกแห่ง...รถจอดยาวเหยียดดดดด...มองไปเห็นบ้านเรือนตั้งเรียงราวอยู่ริมเขาริมผาสูง สวยจัง...แต่มิเชลบอกอย่างไม่ใยดีว่า...นักท่องเที่ยวเยอะ ไม่ไปหรอกกว่าจะหาที่จอดรถได้หมดไปครึ่งวันพอดีโอ้พระจ้าช่วย..คนมันเยอะก็เพราะมันมีอะไรดีนะสิ ...พูดยังไงแกก็ไม่ยอมขยับตูดแต่ยังใจดีไปจอดให้อีกฝั่ง...เขาอีกลูกไกลซะขนาดนั้นนะ..แม่บุญเลยได้ถ่ายภาพแบบซูมสุดชีวิต...ได้มาแค่นี้แหละดูเอา..
หมู่บ้านบนเขาที่ว่าชื่อ Rocamadourดูภาพสวย ๆ ที่นี่จ้า...
https://www.google.be/search?q=rocamadour&hl=fr&biw=1600&bih=799&prmd=imvnse&tbm=isch&tbo=u&source=univ&sa=X&ei=wiQBUKDjG6aW0QWiyLChBw&ved=0CIMBELAE
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้มาเยี่ยมชมเป็นอันดับสองรองจากSaint-Michel โบสถ์ที่ตั้งอยู่กลางทะเล มีเวลาน้ำขึ้น น้ำลงที่เขาจะอนุญาตให้ลงไปเดินบนหาดได้ พูดแล้วก็...มิเชล..ไม่พาไปดูบอกว่านักท่องเที่ยวเยอะ..เบื่อ..เซ็งเป็ดเลยตรู..อดไป..
มาว่ากันต่อ Rocamadourหมู่บ้านบนเชิงเขาที่ว่า มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๑และอยู่ยงคงกระพันมาจนถึงศตวรรษนี้ โบสถ์เก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ชื่อ Saint-Sauveur ต้องเดินขึ้นบันไดกันถึง๒๑๖ ขั้น ได้รับขึ้นเป็นมรดกโลกไปเรียบร้อย ประวัติศาตร์อันยิ่งใหญ่ยาวนาน
เสียดายมากที่ไม่ได้ไปดู ทั้ง ๆที่อยห่างไม่ถึงสิบกิโลเมตร
สักวันแม่บุญจะกลับไปดูให้ได้..ถ่ายภาพ..ชะโงกทัวร์แล้วก็เดินทางต่อ มิเชลแกอ้างว่า บ้านที่เช่าไว้อยู่ไกลต้องรีบไป..เดี๋ยวเจ้าของบ้านไม่อยู่
บ่ายสองโมงกว่าที่เราไปถึงบ้านที่เช่าไว้เจ้าของบ้านไม่อยู่จริง ๆ หมู่บ้านอันเงียบเหงา ไร้ผู้คน มองหาใครก็ไม่มีหมาแมวยังไม่มีเดินให้เห็นเลย เรารอกันนาน แม่บุญเลยเดินดูรอบ ๆ บ้านลองเปิดประตู
ไม่ได้ล็อค แต่มีกุญแจค้างอยู่ เจ้าของบ้านคงออกไปข้างนอกแล้วทิ้งกุญแจบ้านคาไว้ ..ดีนะที่เป็นบ้านนอกไม่งั้นป่านนี้ข้าวของในบ้านคงถูกยกเค้าหมดแล้ว
ดูจากภายนอกบ้านเก่าแก่หลังนี้สร้างจากหินที่เอามาเรียงกัน เปิดประตูเข้าไปในบ้าน ขวามือเป็นเคาท์เตอร์สูง ด้านหลังเป็นครัว มีเตาแก๊ส ตู้เย็นในตู้เก็บของ มีหม้อ กระทะ ถ้วยชาม ช้อน แก้วไวน์..ขาดไม่ได้และอุปกรณ์ทำครัวครบครัน ด้านในค่อนข้างมืด มีโต๊ะกินข้าว โซฟาและทีวีจอแบนที่ดูจะทันสมัยที่สุดในบ้านตั้งอยู่
เดินขึ้นบันไดชั้นบน มีห้องนอนสองห้อง ๆใหญ่..เตียงเดียวอยู่ขวามือ มีห้องน้ำ ห้องสุขาขั้นกลาง ซ้ายมือเป็นห้องนอนเด็กมีเตียงสองเตียง พัดลมหนึ่งตัว เพราะหน้าร้อน ๆ เอาเรื่องทีเดียวอ้อ
มีเครื่องซักผ้าให้ด้วย สำรวจคร่าว ๆ แล้วก็พากันขนของเข้าไปในบ้านนอกจากเสื้อผ้า เรายังเตรียมหม้อหุงข้าว ๆ สาร ซีอิ้วขาว น้ำปลาเครื่องแกงเขียวหวาน ต้มข่า ยังกับยกครัวไทยมาเองเครื่องเคราอาหารฝรั่งมาหาเอาข้างหน้า เพราะหาได้ง่ายกว่า
จากนั้นก็อาบน้ำร้อนจริง ๆ สักพัก เราก็ออกไปชมหมู่บ้านอีกแห่ง แต่ที่นี่ไม่ธรรมดาเพราะพึีงได้รับการโหวต ให้เป็นหมู่บ้านที่สวยเป็นอันดับที่ ๑ ของปีนี้ทีเดียว ที่สำคัญ ดูมีชีวิตชีวา มีคนเดิน คนอาศัยในบ้านให้เห็น ไม่เหมือนหมู่บ้านอื่น ๆ ที่ผ่านมา
Saint-Cirq-Lapopie...เปิดดูรูปที่นี่
https://www.google.be/search?q=saint-cirq-lapopie&hl=fr&biw=1600&bih=799&prmd=imvns&tbm=isch&tbo=u&source=univ&sa=X&ei=gCQBUOvGEKie0QX93tGtBw&ved=0CH4QsAQ
หมู่บ้านบนเชิงเขาเช่นกัน ช่วงที่กำลังขับรถขึ้นไปทางชันมากถนนแคบเห็นวิวสวย ๆ หลายจุดแต่จอดรถไม่ได้ เพราะมีรถวิ่งสวนไปมาตลอดอย่างว่าแหละที่สวย ๆ ใคร ๆ ก็อยากมาชม
ที่นี่เราจะไม่ค่อยเห็นนักท่องเที่ยวชาวเอเชียจะมีก็แต่แถบยุโรปบ้านใกล้เรือนเคียงหรือไม่ก็คนที่รู้จักว่าที่นี่สวยจึงจะดั้นด้นมาดู เห็นหน้าตาแปลก ๆก็มีแม่บุญนี่แหละ
ตอนที่เราไปถึงมันบ่ายห้าโมงกว่า ๆ เข้าไปแล้วแต่แดดยังส่องจ้า ดีที่อยู่บนเขาเลยไม่ร้อนมากนัก เราหาที่จอดรถได้ไม่ไกล จากนั้นก็เริ่มต้นเดินชมหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้
เราสองคนเดินเข้าออกซอยเล็กซอยน้อย เดินชมบ้านแบบเก่าแก่ที่สร้างด้วยหินกันอย่างสำราญใจทั้ง ๆ ที่อยู่บนเขาสูงชาวเมืองก็ยังดั้นด้นสร้างบ้านได้สวยงามน่าอยู่จนปัจจุบันแม้จะมีนักท่องเที่ยวมาชมมากมายไม่เว้นแต่ละวันแต่ดูเหมือนชาวเมืองจะพร้อมใจกันอนุรักษ์ของเก่าเอาไว้อย่างดี
ร้านอาหารหลายๆ ร้านเปิดอยู่ตามเชิงเขา มองเห็นวิวสวยงามสุดสายตามิเชลตะโกนเรียกให้ขึ้นไปดูวิวบนยอดเขา เดินตามขึ้นไปเรื่อย ๆ ถ่ายภาพไปด้วยพอไปถึงยอดเขา มองลงมาข้างล่าง แม่น้ำสายน้อยที่ไหลพาดผ่าน ไกลออกไปมีบ้านเล็ก ๆมีกังหันน้ำหมุนอยู่ เวลากังหันหมุน ชาวบ้านจะใช้พลังงานจากน้ำที่พัด นำพาเครื่องจักรไปบดข้าวสาลีข้าวบาเลย์ ออกมาเป็นผงละเอียด เอามาไว้ทำขนมปังต่าง ๆ เรียกว่าใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าทีเดียว
เมื่อดูรายการสารคดีเมื่อไม่นานมานี้ ที่เขาจัดอันดับหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศสหมู่บ้านนี้ได้รับรางวัลที่หนึ่งของปีนี้แม่บุญเลยมานั่งลำดับภาพที่เห็น ออกจะเห็นด้วยไม่น้อย แต่...มีอีกหลายแห่งเช่นกันที่เราไปแล้วคิดว่าสวยไม่แพ้กัน อาจจะได้รางวัลในปีต่อไปก็ได้ ...ใครจะรู้ ?
เดินกันจนเมื่อย เพราะต้องขึ้น ๆ ลง ๆ ตลอดมิเชลถอดใจด้วยความเจ็บเท้า ปล่อยให้แม่บุญลุยเดียว...ไปดูให้ชื่นใจ ตัวแกนั่งรออยู่บนรั้วหินทางลงนั่นแหละงานนี้เลยได้เดินสมใจ แต่ขอบอกว่าเหนื่อยจนหอบ ตอนเดินลงไม่เท่าไหร่แต่พอเดินขึ้นนี่สิ...หัวใจแทบกระโดดออกมาเต้นระบำข้างนอกดีที่หัวใจไม่วายตายก่อน...
ทุ่มกว่า...ที่เราหันหัวรถกลับบ้านพัก...หากจะดูตามแผนที่ตามสายน้ำที่ไหลไปไกล เราเที่ยวกันอยู่แถบ ๆ นั้นบ้านที่เราเช่าไว้ก็อยู่ช่วงกลางระหว่างแหล่งท่องเที่ยวที่กล่าวมาใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เราก็กลับมาถึงบ้าน เก็บแรงไว้เดินทางวันพรุ่งนี้ ....
ชอบทั้งวิวและตัวหมู่บ้านเลยค่ะ