Group Blog All Blog
|
31>>>หมอกลวงรัก อิสย่าห์ หมอกลวงรัก...อิสย่าห์...อ่านจากปกหลัง...ดูเหมือนจะเป็นรักกุ๊กกิ๊ก...แต่...เอ๊ะ...หรือจะดราม่า...ดูแล้วไม่มั่นใจ...งั้นคงต้องลองหยิบมาอ่าน... เรื่องเริ่มจากสร้อยศนิฟื้นจากอุบัติเหตุก็พบว่าตัวเองความจำเสื่อม...คนเีดียวที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคือพัดพฤกษ์...แล้วมีหรือที่เธอจะไม่คว้าเขาเอาไว้เป็นที่พึ่ง...พัดพฤกษ์ (ชอบชื่อนี้จัง) พาสร้อยศนิ (ชื่อนี้ก็ชอบ) มาอยู่ที่โฮมสเตย์ของเขาที่จังหวัดเพชรบุรี "คุณแน่ใจนะว่าจะไปพักกับผม" "ฉันไม่มีทางเลือกคุณก็เห็น" "ก้ได้ แต่คุณจะไปอยู่ในฐานะอะไรไม่ทราบ"...เออ...นั่นสิ "ก็แขกของคุณยังไง ถามอะไรตลก" "ฝันไปหรือเปล่าแม่คุณ ถ้าจะไปอยู่กับผม ก็คงมีได้แค่ฐานะเดียว" "ฐานะอะไร"...แอบคิดๆๆๆ "รูปร่างหน้าตาอย่างคุณคงหนีไม่พ้นการเป็น..."....ว๊ายๆๆ "ฝันไปเถอะว่าฉันจะยอมตกเป็นนางบำเรอคนระดับล่างอย่างคุณ"...นั่นสิ...อย่ายอมนะ... "คุณนั่นแหละที่ฝัน ถ้าคุณจะไปพักกับผมก็มีแต่ตำแหน่งคนงานหรือคนรับใช้เท่านั้นที่ว่าง"...เอ่อ... "คนงานหรือคนรับใช้ คุณจะบ้าหรือไง ไม่มีทางที่ฉันจะยอมหรอก" "ถ้างั้นผมคงต้องขอตัวกลับก่อน" "โอเคๆ ฉันยอมก็ได้" ใช้งานนางเอกทุกอย่างไม่ว่าจะซักผ้า ล้างจาน รดน้ำต้นไม้ ทำความสะอาดบ้าน...เอ่อ...เพื่อแลกกับค่ารักษาพยาบาลกับที่พักและอาหาร... "เครื่องซักผ้าอยู่ที่ไหน" "ที่นี่ไม่มีเครื่องซักผ้า ต้องซักมือเอา" "นี่มันบ้านป่าเมืองเถื่อนหรือไง นอกจากจะไม่มีแอร์แล้ว ยังไม่มีเครื่องซักผ้าอีกต่างหาก"...เอ่อ...หนูสร้อยจ๊ะ...หนูอาศัยพี่เขาอยู่นะ... "ถ้าที่ไหนไม่มีแอร์ ไม่มีเครื่องซักผ้า แล้วต้องกลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน คุณรู้มั้ยว่านี่มันเป็นตรรกะของคนที่มีความคิดตื้นเขินเท่านั้น" "คุณต่างหากความคิดตื้นเขิน มีแต่คนแบบคุณเท่านั้นแหละที่ทนอยู่กับความอันศิวิไลซ์ของที่นี่ได้ ห้างฯก็ไม่มี ฟิตเนสหรูๆสักแห่งก็ไม่่เห็น มีแต่แม่น้ำกับต้นไม้บ้าๆเต็มไปหมด" "ทำไมจะขาดใจตายเลยหรือไง แค่ไม่มีห้างฯกับฟิตเนสหรูๆแค่เนี้ย ชีวิตของคุณที่ผ่านมานี่คงไร้ความหมายและห่างไกลธรรมชาติจนจิตใจคุณกระด้างสิ้นดี" "คุณนั่นแหละที่กระด้าง ฉันสุดจะทนกับคนหยาบคายอย่างคุณแล้ว"...ใจเย็นๆหนู...หนูไม่มีที่จะไปแล้วนะ... "ถ้าทนไม่ไหวก็ไปโดดน้ำตายซะ โน่นเขื่อนแก่งกระจานอยู่ข้างหน้านั่น หรือไม่ก็ไปผูกคอตายใต้ต้นไม้ต้นนั้นก็ได้ อย่างน้อยแม่น้ำกับต้นไม้พวกนี้จะได้มีประโยชน์ในสายตาคุณบ้าง"...ตรง แรง... พัดพฤกษ์พยายามฝึกนางเอกใ้้ห้เป็นคนอดทน และเปลี่ยนจากนิสัยที่เคยอยู่แต่ในที่หรูหราฟุ้งเฟ้อมาเป็นคนที่เข้าใจชีวิตมากขึ้นทีละนิดๆจนนางเอกก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน ความใกล้ชิดทำให้ทั้งคู่แอบสนใจกันเงียบๆ...และคงจะแฮปปี้เอ็นดิ้งถ้าความจริงจะไม่ถูกเปิดเผย...พร้อมกับการมาของรายการทีวีที่มาทำข่าวเกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาิติที่พระเอกเป็นประธานชมรมอยู่...และพิธีกรรายการนั้นคือคู่แค้นของนางเอกมานาน...เมื่อมาเห็น...ก็ถือโอกาสเปิดโปงซะเลย... "พวกคุณทำอะไรกัน"......"อย่าบอกว่าพวกคุณทำเรื่องน่าบัดสีนะ ทุเรศสิ้นดี คนหนึ่งก็มีศักดิ์เป็นพี่ผัว ส่วนอีกคนเป็นเมียน้องชาย พศินเพิ่งจะเสียไม่นานแต่พวกคุณกลับทำเรื่องน่าเกลียดกันได้ลงคอ ต๊าย ฉันรับไม่ได้ แซนดี้เธอนี่มันผู้หญิงคาวโลกีย์จริงๆเลยนะ นางพญาเทครัวชัดๆ ล่อทั้งน้องทั้งพี่ คำว่าสำส่อนยังน้อยไปสำหรับเธอ"....เ่อ่อ...แรงมากคำด่าแบบนี้ ความจริงที่ว่าคือสร้อยศนิจดทะเบียนสมรสกับพศินน้องชายต่างมารดาของพัดพฤกษ์ หลังจากที่พ่อของเธอเสียชีวิตลงไป...คุณหนูที่เคยเป็นนางฟ้าก็ต้องตกสวรรค์เมื่อรู้ว่าจริงๆแล้วมีหนี้สินอีกหลายล้าน...เลยจดทะเบียนสมรสกับคนที่คิดว่าน่าจะพึ่งพาได้มากที่สุด...แต่ก็มารู้ว่าเขามีเมียอยู่แล้วตอนกำลังจะมาฮันนีมูนที่เพชรบุรี ทั้งคู่ทะเลาะกันจน...เกิดอุบัติเหตุ พศินตายคาที่ส่วนเธอ...ตื่นขึ้นมาอย่างไร้ญาติขาดมิตรแถมหนี้สินอีกเพียบ...เลยหาวิธีหนีด้วยการแกล้งความจำเสื่อมและขออาศัยอยู่กับพี่ชายสามี... ตอนนี้ทั้งพระเอกนางเอกต่างก็มีใจให้กัน...พระเอกพยายามหาทางให้นางเอกอยู่กับเขา แต่นางเอกกลัวพระเอกจะเสียชื่อเสียงที่ต้องมาอยู่กับเมียน้องชายที่เพิ่งตายไปได้ไม่นาน...หาทางกลับกรุงเทพฯ หางานทำ...จะใช้ชดหนี้...โดยที่พระเอกก็แอบช่วยเหลืออยู่ห่างๆ จนเกิดเรื่องอีก...พระเอกเลยต้องปรากฏตัว...คราวนี้เลยกลายเป็นเจ้าหนี้นางเอกซะเอง...นางเอกก็พยายามจะหาทางใช้หนี้ด้วยการไปทำงานต่างประเทศ...พระเอกเลยต้องหาวิธีง้อ...เกลี้ยกล่อม... "แต่คุณน่าจะลองคิดดูให้ดีอีกที" "ทำไมฉันต้องลองคิดดูให้ดีอีกที เพื่ออะไร หรือคุณกลัวฉันจะหนีหนี้คุณ ไม่ต้องกลัวนะ ฉันรับปากคุณคำไหนคำนั้น" "ก็...ก็ไม่แน่ เกิดคณหนีไปจริงๆ แล้วผมจะไปตามคุณที่ไหน เงินตั้งหลายล้านนะ ไม่ใช่แค่หลายพัน"...เอ่อ...นี่คือการเกลี้ยกล่อมใช่ไหม??? "อ๋อ ที่แท้ก็กลัวฉันโกง เดี๋ยวฉันจะเซ็นสัญญาชำระหนี้ให้ก็ได้ แล้วจะส่งไปรษณีย์ไปให้ ทีนี้พอใจยัง" "ถึงมีสัญญาชำระหนี้ ก็ใช่ว่าคุณจะเบี้ยวไม่ได้นี่"...เอ่อ...วันนี้จะคุยกันสำเร็จไหม??? เมื่อเกลี้ยกล่อมไม่สำเร็จ...งานนี้เลยฉุด...ลักพาตัวนางเอกกลับไปโฮมสเตย์ซะเลย...ก็อยู่กันอย่างพ่อแง่แม่งอนสักพัก...ถึงจะแสดงออกว่าห่วงใยนางเอก...ชอบนางเอกแต่พระเอกก็ไม่เคยพูด...เพราะคิดว่านางเอกรักน้องชายตัวเองมาก...ช่วงนี้อ่านไปลุ้นไปจนเหนื่อย...เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย...ไหนจะมีมารมาขวางอีก...ไม่ว่าจะคู่แค้นเก่าที่คราวนี้เอาเรื่องออกมาประจาน...พ่อและแม่เลี้ยงของพระเอกที่รังเกียจนางเอกอย่างออกนอกหน้า....กว่าทั้งคู่จะฝ่าฟันและกว่าพระเอกจะยอมบอกรักนางเอก...คนอ่านลุ้นเหนื่อยเลยค่ะ... อ่านจบ...ชอบค่ะ...ได้ติดตามงานของอิสย่าห์มาหลายเรื่องแล้ว...ไม่ผิดหวัง...เรื่องนี้บอกไม่ถูกว่าจะเป็นรักกุ๊กกิ๊กหรือดราม่าดี...คือมีกุ๊กกิ๊กนิดหน่อย...ส่วนใหญ่...แยกเขี้ยวใส่กันซะมากกว่า....ดราม่ามีบ้าง...เรื่องนี้เหมือนพ่อแม่รังแกฉันเลย...นางเอกไม่เคยทำงาน อยากได้อะไรก็ได้ ไม่เคยสนใจใคร เพราะพ่อที่รักมากประเคนให้ทุกอย่าง ขนาดครอบครัวย่ำแย่ยังไงก็ไม่ยอมบอก ปล่อยให้หลงระเริงกับความฟุ้งเฟ้อ...จนวันหนึ่งร่วงตกจากสวรรค์ก็ตั้งตัวไม่ติด...เรื่องนี้เห็นพัฒนาการของนางเอกเยอะค่ะ...จากไม่ได้เรื่องกลายเป็นคนที่มีความอดทน ความรับผิดชอบ เป็นผู้ใหญ่ขึ้น...และพระเอกก็น่ารักมาก...หวังดีกับนางเอก คอยฝึกให้...และไม่ฉวยโอกาสกับนางเอกทั้งที่อยู่กันสองต่อสอง...ขนาดรัก...และไม่สนใจด้วยซ้ำว่านางเอกเคยแต่งงานมาก่อน...แต่...ที่ไม่กล้าบอกรักนางเอกเพราะคิดว่านางเอกรักคนอื่นอยู่...ถึงจะอ่านไปขัดใจไปบ้าง...ว่าไม่หวานกันสักที...โผล่ฉากหวานตอนท้ายเรื่องนิดหน่อย...แบบจัดหนัก...แต่ก็ชอบค่ะ ... ...มันช่วยไม่ได้นี่ที่คนบางคนมีค่าก็เพราะเงิน แต่...พอไม่มีเงิน คนคนนั้นก็อาจไร้ค่า แต่สุดท้ายผมก็เชื่อว่าเงินไม่ใช่ตัวตัดสินว่าคนเรามีค่าหรือไม่มีค่า เวลาต่างหากที่จะเป็นตัวพิสูจน์ คนบางคนอาจโชคร้ายเกินกว่าจะได้รับเวลามากพอเพื่อตามหาคุณค่าของชีวิต ดังนั้นถ้าเราได้รับสิ่งนั้น เราก็ควรใช้มันอย่างคุ้มค่า... ชอบผลงานของนักเขียนท่านนี้เช่นกันค่ะ
โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:22:15:44 น.
เศร้าเลย อ่านละเอียดเลยสปอยล์ตัวเองไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ... คงต้องทิ้งระยะห่างให้ลืม ๆ ไปก่อน ค่อยหาอ่าน...ดูน่าสนใจดี โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:8:11:41 น.
คุณเหมือนพระจันทร์...ติดตามมาหลายเรื่องแล้วค่ะ
คุณพุดน้ำบุศย์...ไม่เศร้านะคะ...พล็อตเรื่องแปลกดี อย่าลืมจนไม่ได้หามาอ่านนะคะ โดย: Aneem วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:19:40:42 น.
ของนักเขียนท่านนี้เคยอ่านแค่ชุดมาเฟียเลือดมังกรเองค่ะ เขียนสนุกใช้ได้ ทำให้อยากหาเรื่องอื่นๆ มาอ่านบ้าง
โดย: เบบูญ่า วันที่: 1 มีนาคม 2556 เวลา:16:31:00 น.
คุณเบบูญ่า...ชุดมาเฟียเลือดมังกร ยังไม่เคยอ่านเลยค่ะ
โดย: Aneem วันที่: 1 มีนาคม 2556 เวลา:19:46:49 น.
|
Aneem
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?] ปีนี้+++ตั้งเป้าไว้ว่าจะพยายามซื้อหนังสือให้น้อยลง...แต่จะอ่านของเก่าที่ดองอยู่ให้มากขึ้น...จำทำได้มั้ยนะ!!! Friends Blog
Link |