เรื่องของนัตตี้(อีกแล้ว)
ไม่เคยดูAFปีไหนแล้วให้ความรู้สึกว่า "ผู้หญิงนี่น่ากลัวจิฟเป๋ง" ได้เท่าขนาดปีนี้มาก่อน
มันมีเหตุการณ์ผ่านสายตามาให้จับเรื่องแบบนี้ได้แทบทุกวัน แล้วตัวต้นเหตุ(ที่เขาคิดกัน) ก็ยังเป็นไอ้ตัวเล็กจอมโวยวายอย่างนัตตี้คนเดิม
นี่ขนาดเราให้ความเอ็นดูมันอย่างสุดแสนแบบที่ไม่เคยให้เด็กผู้หญิงรุ่นไหนมาก่อน(ด้วยที่ผ่านมาอิฉันมีสายตาไว้ส่องปู้ชายเท่านั้น)
เราก็ยังเผลอร้องเฮ้ออออลุ้นทุกครั้งที่นัตตี้ไปเกาะแกะ นัวเนีย ป้วนเปี้ยนกับใครเขานั่นล่ะ แล้วทุกครั้งที่ได้ยินเสียงนัตตี้ทำเสียงแหวดังขึ้น ชักสีหน้าไม่พอใจขึ้นมา.....พูดตรงๆอยากยื่น...ทะลุจอทีวีเอามันตรงนั้นเลย ...นี่พูดด้วยความเอ็นดูเด็กจริงๆนะเนี่ย
เมื่อลองเทียบว่าเราให้ความเอ็นดูนัตตี้ เรายังรู้สึกรำคาญซะขนาดนี้ แล้วไอ้คนที่เขาเต็มไปด้วยอคติ ขวางหูขวางตา เขาจะยิ่งไม่เปิดใจบวกรำคาญจนถึงที่สุดได้ไง
เราน่ะมักบ่นกับพี่คนนึงที่เขาเชียร์เจ้าหนูนี่มาตั้งแต่วันแรก(ด้วยจุดประสงค์แอบแฝงบางอย่าง)ว่า
"เมื่อไรนัตตี้มันจะรู้สึกตัวสักที"
ไอ้เรื่องรู้สึกตัวที่เราพูดถึงคือ "ไวกับความรู้สึกคนรอบข้าง"
ที่เราคิดว่านัตตี้ไม่ไวกับความรู้สึกคนเพราะเราเห็น ย้ำเลยว่า "เห็น" เห็นสีหน้าคนที่มันเข้าไปนัวเนีย หรือแม้กระทั่งแค่ "แค่" หันไปพูดกับเขา แล้วไอ้ที่ย่ำแย่กว่าอีกคือ ไม่ได้พูดกับเขา แค่พูดในกลุ่มโดยรวม ก็จะมีใครสักคนชักสีหน้าบางอย่าง แล้วส่งซิกไปให้บางคนที่รู้กัน ในแบบที่เรานั่งมองแล้วรู้สึกสะเทือนใจแทนเด็กมันก็แล้วกัน
แต่ในที่สุด ถึงจะความรู้สึกช้าแค่ไหน คนเรามันก็ใช่จะตายด้านจริงไหม
เรานั่งมองมาสองสามวัน เห็นจนไม่รู้จะเห็นยังไง
นัตตี้มันก็ "รู้" ในสไตล์ของมันจนได้
ทำเอาเราถอนหายใจยาวอีกรอบ "รู้ก็ดีแล้วไอ้น้องเอ๊ย"
รู้แล้วเจ็บจะได้รู้จักระวังตัวระวังใจ ไม่ใช่เอาแต่ไม่รู้จนไปก้าวก่ายสร้างความรำคาญใจคนอื่นเขาอยู่เรื่อยๆ
แล้วนัตตี้ช่วยอิป้าคนนี้อีกอย่างได้ไหมลูก
รู้แล้วก็ช่วย "จำ" บ้าง อะไรบ้าง จะได้ระวังตัวไม่ไปเตะเฝือกใครเขา
อย่างที่เราเคยพูดไว้นั่นละ
คนเรามีพื้นที่ส่วนตัวไม่เท่ากัน แล้วเขาก็มีสิทธิ์ทีจะเปิดหรือไม่เปิดให้ใครก็ได้ นี่คือสิทธิขั้นพื้นฐานนะ
เมื่อเปิดแล้ว แต่ละคนก็จะเปิดพื้นที่ให้คนอื่นได้ไม่เท่ากัน บางคนเข้าไปได้แค่ตรงปากประตูแง้มๆนั่นล่ะ บางคนถึงขั้นเข้าไปวิ่งเล่นอยู่ในนั้นได้ตามสบาย บางคนเข้าไปแล้ว โดนเจ้าของเขาไล่ออกมามันก็มี
นัตตี้ก็อย่าไปหวังว่าเมื่อตัวเองเปิดให้ใครคนนั้นจนหมดใจแล้ว จะได้พื้นที่กลับคืนมาอย่างเท่าเทียม บางคนเขาไม่แค่ไม่เปิด แต่ปิดประตูกระแทกหน้า แถมยังอยากไล่ไม่อยากให้แม้แต่มาป้วนเปี้ยนแถวหน้าประตูของเขาด้วยซ้ำ
ได้โปรดช่วยอ่านความรู้สึกคนให้ว่องกว่านี้เถอะน้อง ไม่อย่างงั้น "ใจ"ของเราต่างหากที่จะเป็นฝ่ายช้ำ
วิธีแก้ปัญหาให้นัตตี้อย่างแรกที่เราอยากทำก็คือ "การชักสีหน้า" ของเจ้าตัวนั่นล่ะ ไม่ว่าจะเป็นทีเล่นทีจริง หรือทีจริงมากกว่าทีเล่น
เด็กมันรู้ตัวไหมว่ามันกวนโอ๊ย กวนอารมณ์คนมองให้ขุ่นขึ้นมาในบัดดล คนรอบข้างเขาไม่มีหน้าที่ต้องมารองรับอารมณ์เรานะเฟ้ย
ทำแบบนี้ในกลุ่มคนที่เขารักและเอ็นดูเราก็พอทำไปได้หรอก เขาพอมองผ่านไปได้พร้อมให้ความเข้าใจ แต่การเข้ามาในสังคมใหม่ รู้จักกันไม่นานแบบนี้ ใครเขาจะมามัวมอบความเข้าใจให้
พอทำไปมากๆ เขาเจอจนไม่อยากมอง มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆที่เขาจะเกิดความรำคาญจนกลายเป็นความขวางหูขวางตาไปซะทุกเรื่องทุกคำที่เราพูดออกมาจนได้
แต่...ก็มีแต่จนได้นะเรา ที่เราเห็นและยอมรับจนมองผ่านไปได้ก็คือ พอนัตตี้ปึงปังขึ้นมา เจ้าตัวก็จะหนีไปเงียบๆ ไปจมกับอารมณ์ตัวเองก่อน ส่วนจะคิดได้คิดไม่ได้ก็อีกเรื่องละ
แถมยังเป็นเด็กที่ไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นเป็นกับใครเขา จนถึงขนาดที่เราแอบฮึ่มฮั่มในใจว่า "รู้จักจำบ้างดิว้า" ...นี่ควรจะเป็นข้อดีที่ไม่ควรเปลี่ยนมั้งนะนัตตี้ พวกเจ้าคิดเจ้าแค้นน่ะ ใจไม่เป็นสุขหรอก
เราว่าการสั่งสอนให้นัตตี้โตขึ้น ไม่ต้องไปบอกให้เด็กมันเร่งเป็นผู้ใหญ่หรอก แค่พูดอย่างจริงจัง ไม่เอาทีเล่นทีจริง เตือนอย่างตรงไปตรงมาถึงข้อบกพร่องของเจ้าตัว พูดในเรื่องที่ไปทำให้คนรอบข้างขวางตาในตัวนัตตี้ แล้วให้เด็กกลับไปคิดว่าจะแก้เองอย่างไร พร้อมทั้งบอกให้เจ้าตัวรู้จักการอยู่กับตัวเอง(บ้าง) แบบที่คนรอบข้างเขาต้องการพื้นที่ส่วนตัวของเขานั่นล่ะ
ส่วนเรื่องการพูดจาแบบไม่กลายเป็นตัวทำลายบรรยากาศนั่นน่ะ เราดูลักษณะนิสัยของนัตตี้แล้ว รู้สึกจะเป็นเรื่องยากที่จะแก้ในระยะเวลาอันสั้น เด็กมันประสบการณ์ชีวิตน้อยเกิน การรู้จักสมาคมในสังคมติดลบ เรื่องพรรณนี้มันจึงต้องอาศัย "เวลา" มาเป็นตัวกล่อมเกลา
ถ้านัตตี้โตในเรื่องการควบคุมสีหน้าตัวเองได้แล้วล่ะก็...เราว่าเราก็ไม่ขออะไรมากไปกว่านี้ในช่วงเวลาสั้นๆขนาดนี้แล้ว แค่นี้ก็เป็นเรื่องใหญ่โตเกินตัวกรอบๆของไอ้ตัวเล็กนี่แล้วล่ะ
ส่วนกลุ่มกรณี(ไม่ใช่แค่คู่กรณีนะ..ฮ่วย)นั่น ถ้าเปิดใจให้เพื่อน(หรือเปล่า)ไม่ได้ด้วยศรศิลป์ไม่กินกันหรืออะไรก็เถอะ ก็ขอแค่อย่างรวมหัวกันกดดันโดยไร้เสียง พูดกันผ่านสายตาข้ามหัวกันก็พอแล้ว
คนอย่างเราเห็นแล้วขนหัวลุก นึกไปถึงหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นที่เคยอ่านเรื่องการกลั่นแกล้งเพื่อนในห้องไปโน่น
แม้เด็กเรามัน พอมองลงไปในรายละเอียดแล้ว ไม่แปลกใจถ้าจะโดนก็ตามเถอะ
แต่คนเราก็ไม่มีใครควรโดนหรือควรทำกับใครแบบนั้น
นัตตี้เอ๊ย พี่น่ะเล็งเรื่อง "ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย" ของเราอยู่นะ เมื่อไรจะรู้ตัวสักทีวะ ช่วยรีบๆจบเรื่องดราม่าประจำคืนสักทีเถอะ พี่และเพื่อนอุตส่าห์ตั้งตารอ "พระเอก" พระเอกเราก็เครียดเหลื๊อเกิน
ไอ้แม่สื่อแม่ชัก มันก็วัวพันหลักของเราดีๆนี่เองล่ะอีหนู
Create Date : 23 กรกฎาคม 2553 |
|
5 comments |
Last Update : 23 กรกฎาคม 2553 13:12:01 น. |
Counter : 657 Pageviews. |
|
|
|