Group Blog
 
 
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
27 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
ราคาความฝัน

เมื่อเราก้าวเข้าสู่โลกใบที่ธุรกรรมทางการเงิน แทรกแซงไปทุกซอกทุกมุม

 


จึงถึงเวลาที่พ่อค้าต่างดิ้นรนหาหนทางใหม่ๆเพื่อหยิบนำมาเก็งกำไร

 


มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใช่ไหม ที่แม้แต่  "ความฝัน" ยังถูกนำมาตีราคา

 



 


ไม่ว่าสิ่งใดในโลกเมื่อมี Demand ย่อมมี Supply

 


ดีมานด์ที่ยิ่งสูงเท่าไร ราคาของมันก็ยิ่งทวีค่าตามมาเป็นเงา

 


พ่อค้าที่ดีจะไม่ทำการค้าที่ขาดทุน...นี่คือความจริงในโลกธุรกิจ

 


แต่คำคำนี้มันจะบาดลึกความรู้สึกยิ่งกว่าเมื่อ การค้าก้าวเท้าเข้าครอบครองโลกแห่งศิลปะ

 


โลกที่คนในนั้น "ใช้ความฝัน" หล่อเลี้ยงชีวิต  โลกที่ไม่ใช้ "ราคา" ประเมินค่า "ความรู้สึก"

 


แต่

 


ในโลกศิลปะ ก็ไม่อาจอยู่ได้ถ้าไม่มี "ราคา"

 


คนที่ท้องกิ่วอาจสร้างสรรค์งานศิลปะที่ประเมินค่าไม่ได้ แต่มันก็อาจ ตาย อยู่อย่างเงียบๆถ้าไม่มี "ราคา"

 


.....นี่ความจริงที่เจ็บปวดในโลกศิลปะ

 



 


และเมื่อมันมี ราคา  ก็ย่อมมี  พ่อค้า

 


การแสวงหาผลกำไรที่สูงสุด  ทำให้ศิลปะถูกตีราคา

 


ยิ่งถ้าเป็นงานศิลปะที่ถูกปั่นราคาให้สูงได้  ก็จะถูกตีตราด้วยคำพูด  "ประเมินค่ามิได้"

 


ที่มันแฝงด้วยความหมายว่า ประเมินได้  ถ้า....ได้ราคาที่มากพอ

 


เจ็บปวดยิ่งกว่า.............

 



 


และในวันนี้  วันที่พ่อค้าไม่ขอเป็นแค่ผู้ประเมินราคา แต่เอามือก้าวมาหยิบจับงานศิลปะ

 


ก่อให้เกิดคำว่า Commercial Arts

 


เป็นโลกที่การเงินนำหน้าศิลปะ ซึ่งเป็นที่แน่นอนคือการหยิบเอาศิลปะมาค้ากำไร

 


มันจะไม่มีทางที่ระหว่างสองสิ่งจะอยู่ร่วมกันครึ่งต่อครึ่ง  มันมีแต่อะไรจะมากกว่าอะไร

 


แต่เมื่อพ่อค้าเป็นมือผู้ครอบครอง ศิลปะจึงเป็นได้แค่ฐานที่ถูกเหยียบเพื่อแสวงหาผลกำไร

 



 


เมื่อในโลกปัจจุบันที่ความฝันดูจะเป็นสิ่งที่น่าเล่นมากที่สุด โดยเฉพาะความฝันของเด็ก

 


เพราะมันยังดูบริสุทธิ์และงดงาม  และเล่นง่าย

 


รายการแบบอคาเดมี่แฟนเทเชีย ถึงได้กำเนิดขึ้น

 


จากแค่ความคาดหวังเล็กๆที่ทำพอไม่ขาดทุนและเป็นรายการขัดตาทัพรอเวลาพรีเมียร์ลีค

 


แต่เมื่อมันกลับกลายเป็นมากกว่านั้น

 


ทำให้พ่อค้าตกใจถึงกำไรที่ได้มาง่ายดายเกินคาด การต่อยอดเพื่อให้ได้กำไรสูงสุดจึงได้ทวีการขึ้น

 


ทำให้หรูหราขึ้น สร้างเรื่องราวเพื่อกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกให้มากขึ้น

 


ไม่ใช่เพื่อเด็กที่ก้าวเข้ามาล่าฝัน

 


แต่เพื่อ

 


คนดูที่รับเอาความฝันของเด็กมาอยู่ในกำมือ รู้สึกให้มาก และมากยิ่งกว่า

 


เพราะพ่อค้ารู้ดีว่า

 


คนมากมายที่เฝ้าดูรายการนี้ ไม่ใช่แค่มองเห็นนักล่าฝัน แต่ มองเห็นเด็กเหล่านั้นเป็นตัวแทนความฝันที่พวกเขาอาจได้โยนทิ้งไปหรือก้าวไปไม่ถึงด้วยเหตุผลร้อยแปด

 


การต่อยอดทางอารมณ์ถึงได้รุนแรงยิ่งกว่าเด็กที่เป็นผู้รับสายตรงเสียอีก

 


และมันมีเหตุผลแฝงที่ดูน่าหัวร่อ จนอาจถึงตกใจได้  เมื่อรายการนี้ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 5

 


ที่ระบบแฟนคลับก้าวมาเป็นระบบระเบียบราวกับบริษัทข้ามชาติ ที่มีการวางกำลัง วางแผนเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อส่งนักล่าฝันของตนก้าวสู่ตำแหน่งสูงสุด

 


มันอาจมีความรักเป็นพื้นฐานและถือเป็นเหตุผลใหญ่ก็จริง แต่มีอีกหนึ่งเหตุผลแฝงด้านหน้าตาของกลุ่มตามมา

 


เคยได้ยินไหม...เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้

 


มันเกิดกับบางกลุ่มคนที่เริ่มรู้จักกันในหมู่แฟนคลับ  การเกทับเล่นๆที่กลายเป็นจริงเป็นจัง

 


กลุ่มหน้าเดิมๆที่อาจเคยผิดหวังมา จนเริ่มรู้เริ่มคิดถึงวิธีการจะเล่นอย่างไรที่ตนเองจะสมหวัง

 


ตนเองสมหวัง...ไม่ใช่เด็กสมหวังนะ

 



 


เมื่อการล่าฝันของเด็กกลายเป็นสงครามแฟนคลับ การเล่นของพ่อค้าก็ยิ่งง่ายดาย

 


แต่...บางทีจังหวะเรียบๆอาจดูไม่เพียงพอ  ความกระหายในความสำเร็จที่ “ต้อง” มากกว่าที่ผ่านมา

 


ทำให้พ่อค้าต้องสั่งรัวจังหวะกลอง ต้องเพิ่มบีทเพื่อความเร้าใจ ต้องการกดอารมณ์เพื่อเพิ่มอารมณ์

 


ต้องการดราม่าเพื่อสร้างความฮือฮา   ต้องการเห็นหุ่นที่ถูกชักเชิดตามจังหวะปี่กลอง

 


จนลืมไปว่า...สิ่งที่พ่อค้ากำลังเล่นอยู่นั้น

 


คือ...  คนที่มีชีวิต มีจิตใจ และมีอารมณ์ความรู้สึก

 


ซึ่งไม่ว่าจะเก่งกาจมาจากไหนก็ไม่สามารถควบคุมไปจนถึงคาดเดาถึงผลลัพธ์ที่ตามมาได้

 


ผลมันอาจเป็นไปในแง่บวก หรือสุดขั้วที่แง่ลบ

 


แต่ก็น่าแปลก

 


ไม่ว่าผลเป็นอย่างไร ก็กลับจบลงตามแผนที่พ่อค้าวางไว้อยู่ดี

 


คือ ความสำเร็จของรายการ

 


และ กำไรมหาศาลตามอย่างเคย

 


และหลงเหลือ

 


คนที่บอบช้ำและสูญเสียมากกว่าที่ได้รับ

 


คือ

 


เด็กที่มองหาเส้นทางความฝันและหลงอยู่ในเส้นทางนั้น

 


ที่จ่ายราคาความฝันด้วย

 


จำนวนหยดน้ำตาและความเป็นตัวตนที่ถูกถากถูกเฉือนให้ถูกครรลองความพอใจของคนส่วนมาก

 


นี่มันเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม น่ายินดี หรือ...น่าเศร้ากันแน่นะ

 



 


ยังมีสิ่งที่ค้างอยู่ในความรู้สึก คือ ถ้ารายการนี้ตกอยู่ในมือของคนแบบพี่เต๋อ เรวัติ พุฒินันท์  รายการนี้มันจะดำเนินไปในรูปแบบไหนนะ

 


นักล่าฝันอาจไม่ใช่แค่สินค้า

 


ความฝันของเด็กอาจไม่ต้องจ่ายเป็นจำนวนหยดน้ำตา

 


ความฝันที่เด็กมาล่าจะถูกส่งเสริมด้วยจินตนาการที่กว้างไกลขนาดไหน

 


เส้นทางความฝันจะถูกต่อยอดไปในทิศทางที่มันควรเป็น

 


และศิลปะคงไม่แค่เป็นฐานที่ถูกเหยียบ  แต่คงเดินเชิดหน้าเคียงข้างกับการแสวงหาผลกำไร

 


มันคงเป็นไปได้แค่...ความฝัน...ในโลกที่ทุกอย่างถูกตีราคา

 


จริงไหม!?!

 






Free TextEditor


Create Date : 27 มิถุนายน 2551
Last Update : 27 มิถุนายน 2551 10:02:13 น. 1 comments
Counter : 576 Pageviews.

 
เขียนได้ดีมากเลยค่ะ
สินค้าที่ได้ชื่อว่ามนุษย์ นี่ยากจะหยั่งถึง
และยากที่จะวัดคุณภาพ เพราะมันเป็นคุณภาพทางด้านจิตใจ
ที่ไม่รู้ว่าสำหรับใคร อย่างไหนจะดีกว่า
แต่ที่แน่ๆ มันต้องมีความสุขแฝงอยู่ในนั้น
นั่นแหละค่ะ keyword ของสินค้าชิ้นนี้


โดย: ps_37 (ps_37 ) วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:24:02 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Quaver
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ




Friends' blogs
[Add Quaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.