Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
13 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

ก็เขาแค่ ‘หึง’ เอ๊ย ‘หวง’ เพื่อน




ผ่านคอนวีคแรกไปอย่างสะบักสะบอมทั้งนักล่าฝันแล้วก็ทรูแฟนเทเชีย
ส่วนคนดูอย่างเรา ก็แค่รำคาญสุดซึ้งแมนกับการลังเล เป๋ไปเป๋มาของรายการบ้านี่


นั่งมองเหตุการณ์ในคอนด้วยไม่รู้จะดูถูกตัวเองหรือดูถูกไอ้รายการนี้ดี
บ่นฮึ่มในใจ ตูดูเรียลลิตี้มาไม่รู้จะกี่รายการ แต่ไม่รู้สึกไม่เคยวางใจในตัวรายการไหนเท่ากับไอ้ทรูอคาเดมี่นี่เลย


ส่วนของความรำคาญของเหตุการณ์นี้ก็ตรงไอ้การ “โยนหินถามทาง” ของใครก็ไม่รู้ผู้มีอำนาจเต็มที่ควรจะรู้จักคำว่าความรับผิดชอบในมือนี่ล่ะ


‘คือทางเราจะมีบทลงโทษมาร์คด้วยการสกัดเส้นทางความฝันของเขาไว้แค่นี้ครับ จากนั้นกระผมก็ขอนั่งอยู่บนภูดูเสือสองฝ่ายขย้ำกันให้ตายไปข้าง ก่อนจะตัดสินใจว่าจะยื่นมือช่วยเสือขาวหรือเสือดำกันแน่นะครับ’


...นี่คือสิ่งที่เรารู้สึกตอนอาต้อยออกมาประกาศว่าทางพ่อแม่มาร์คไม่ต้องการให้ลูกตัวเองขึ้นโชว์



แม้มันทำให้เราอยากออกปากว่า มือสมัครเล่นจิฟเป๋ง แต่ก็ออกปากดูถูกได้ไม่เต็มปาก
มองย้อนไปในประวัติศาสตร์บ้านเมืองเรานี่ล่ะ ไม่รู้เริ่มมาตั้งแต่ยุคสมัยไหน สถานการณ์ไหน ก็ช่างพึ่งพาวิธีการโยนหินถามทางให้เห็นแทบจะทุกครั้งที่ต้องการชั่งน้ำหนักแรงต่อต้านว่ารุนแรงในระดับกี่ริคเตอร์ เพื่อที่จะได้กลับลำทันไงเล่า




ส่วนการโยนหินถามทางของทรูในครั้งนี้ ก็ช่างไม่ต่างจากการแก้ผ้าเอาหน้ารอด...ประชดไป เห็นภาพไป ดูไม่จืดเลยทีเดียว


การจะอยู่หรือจะไปของมาร์ค ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกติกาที่ทรูพยายามออกตัวอยู่ปาวๆหรอก
แต่เราว่ามันคือ กติ‘กู’ ของทรูที่เหล่าบรรดาแฟนเดนตายของรายการนี้จำต้องคุ้นชินต่างหาก


ไอ้การรอจนวินาทีสุดท้าย หลังจากปล่อยเด็กมันซ้อมแทบเป็นแทบตายมาทั้งวีค แล้วค่อยสั่งห้ามไม่ให้ออกไปโชว์
เหมือนกับว่าทรูมองเห็นความพยายามและทุ่มเทฝึกซ้อมนั่นไม่มีค่าอะไรสักนิด (ชาเย็นสักแก้วไหมครับพี่น้องครับ ความเย็นชาไม่มีขาย)


มันทำให้เรายิ่งสงสัย “ความเป็นมืออาชีพ” เหล่าผู้บริหารของทรูแฟนเทเชียเป็นกำลัง

ที่ไม่ออกมาประกาศก่อนหน้าคอนเสิร์ต เพราะคาดไม่ถึงหรือคาดหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรจนเกินรับมือ
...นี่มันช่างส่อถึงความลังเล มากกว่าจะสื่อเรื่องความรอบคอบด้วยซ้ำ


ถ้าผู้รับผิดชอบมีความเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ เมื่อถึงจุดที่ต้องตัดสินใจ ก็จะมีความกล้าพอเลือกสักทางหนึ่ง แล้วพร้อมที่จะยืดอกยอมรับผลที่ตามมาไม่ว่ามันจะดีหรือร้าย
ถึงแม้บางครั้งจะรู้ดีว่า ไม่ว่าเลือกทางใดก็โดนมันทั้งขึ้นทั้งล่อง
แต่ก็จะมี gut พอที่จะกล้าทำ


แต่เหตุการณ์กลับกลายเป็นการผลักภาระความรับผิดชอบไปให้ทางครอบครัวเด็กแทน สะท้อนให้เห็นว่าคุณพี่กะขว้างงูให้พ้นคอ
จากนั้นก็ขอรอดูทิศทางลมว่าจะพัดงูไปไกลได้แค่ไหน หรือมีแรงหนุนคืนกลับมาเท่าไร
โดยหารู้ไม่ว่า งูมันอาจมีพลังบูมเมอแรง ย้อนกลับมารัดคอให้ตายไปตามกันด้วยเหมือนกัน















ทำไมข้าพเจ้าพล่ามไปได้ไกลเกินความตั้งใจทุกครั้งวะเนี่ย
...เอาน่าถือว่าเป็นหนึ่งในบทบันทึกของaf7 แล้วกัน กลับมาย้อนอ่านจะได้ไม่พลาดช่วงเวลาเด็ด




มาเข้าเรื่องที่อยากเขียนมากกว่าดีก่า

ตั้งแต่ช่วงคืนวันเสาร์ เข้ามาวันอาทิตย์ ล่วงสู่เช้าวันจันทร์
สิ่งหนึ่งสิ่งเดียวที่อยู่ในความสนใจของอิฉันก็คือ การลุ้นเรื่องราวระหว่าง ‘เด็ก’‘ผู้หญิง’ ทั้งสองอย่างปั๋มและนัตตี้

เรื่องมันเริ่มจากคลาสแอ็คติ้งวันนั้นล่ะ แล้วประเด็นยังค้าง คา(ใจ)เด็กต่างไม่จบ

นี่ถ้าเล่นเกมโชว์เกาหลี MCต้องยกไหล่ขึ้นลง ทำหน้าทำตามีเลศนัยแล้วร้องตะโกนว่า

“บรรยากาศครุกรุ่น ครุกรุ่น”






กรุ่นจนจะไหม้เกรียมในใจของเด็กสองคน ด้วยsomethingมันลอยให้เห็นออกนอกหน้า(นัตตี้)ซะขนาดนั้น


เด็กคนหนึ่งก็หน้าตึง ขึงปักสะดึงได้ แล้วไปเกาะแจอยู่กับเพื่อนสนิทคนใหม่
ทำเอาเด็กอีกคนยิ่งต้องเพิ่มระดับการทำเป็นเมิน เหมือนจะไม่มอง แต่แอบเช็คเขาเป็นระยะ


(...อิฉันเหมือนจะแต่งนิยายรักไงงั้นเลย ฮา~)


บอกตามตรง เรานั่งมองสถานการณ์ระหว่างเด็กผู้หญิงสองคนจนคิ้วผูกเป็นโบว์
พยายามคิด พยายามจะปะติดปะต่อเรื่องราว...มันก็รู้สึกจะเกินความเข้าใจกับคนประเภทข้าพเจ้า
ยิ่งพอทบทวนเมมของตัวเองว่าเคยเจอะ เคยประสพไอ้เรื่องทำนองแบบนี้มาบ้างไหมว้า
ต้องย้อนวันเวลาไกลมากกว่าตัวเองจะไปอยู่ ณ จุดเด็กสองคน แต่ความทรงจำไอ้เรื่องพรรณอย่างนี้ก็แรนด้อมไม่เจอ


เพื่อนแบบนัตตี้...ไม่เคยมีเพื่อนสนิทลักษณะนิสัยใจคอแบบนัตตี้ ไม่เคยจริง

เพราะอย่างงี้ล่ะมั้งทำให้เรามองดูเจ้าหนูนัตตี้ด้วยความสนุกสนานปนลุ้นด้วยคาดเดาอะไรไม่ได้เลยกับความเป็นนัตตี้

เหมือนนัตตี้จะดึงเรากลับไปช่วงมอต้น แล้วมาเริ่มสนิทกับเพื่อนหน้าใหม่ที่ไม่เคยคบมาก่อน
แล้วยิ่งพอได้รู้จักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นัตตี้ก็ทำเอาป้า(ฮา)หัวเราะเอิ้กอ้าก “ไอ้เด็กคนนี้น่ารักได้ใจว่ะ”


เรามาคิด คือว่า เด็กผู้หญิงจะมีtypeแบบนี้กันอยู่ใช่ไหม
คืออีกที เราเติบโตมาโดยอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่มีอะไรก็พูด พอใจก็พูด ยิ่งไม่พอใจยิ่งต้องพูดจะได้เคลียร์มันให้จบๆ ถ้าไม่จบก็ตัดมันทิ้งไว้ตรงนั้นล่ะ(กร๊ากกกก)


เราพยายามมองย้อนกลับไปช่วงมัธยม(อีกสักที) ก็คิดว่า เอ๊อ~ มันคงจะมีล่ะ ในกลุ่มอื่น ถึงแม้ไม่ได้สนิทสนมหรือเข้าไปยุ่งด้วย ก็พอจะมีให้เห็นให้รู้สึกอยู่

งั้นเด็กอย่างนัตตี้ก็ไม่ประหลาดน่ะสิ
คงดูประหลาดแค่ในความคิดป้าคนนี้เท่านั้นมั้งอีหนู


เจ้าหนูนัตตี้มาโชว์ให้เห็นเต็มในบ้าน ทำให้เราชักคิด “ช่วงเวลานั้น ตัวเราก็พลาดเรื่องราวไปเยอะเหมือนกันแฮะ”
ถ้าได้เจอกับเพื่อนขี้งอน ขี้น้อยใจ แล้วดันแอบเฝ้ารอให้ง้ออยู่อย่างเงียบๆ...ช่วงชีวิตมัธยมของเราคงหลากสีไปจากเดิม



งั้นเพื่อนแบบปั๋มล่ะ...
ชีวิตวัยเรียนของเราน่ะเป็นเด็กหลังห้องที่คอยมองเด็กหน้าห้องด้วยความชื่นชมปนอิจฉา
ด้วยความที่พวกเขามันช่างแสนเพอร์เฟ็ค คนละระดับกับคนอย่างเราไปซะทุกอย่าง(เศร้านะเนี่ย)
คนสองกลุ่มก็ได้เลยแต่เดินเฉียดไปเฉียดมา


จนมาเข้ามหาลัยนั่นล่ะ ถึงได้ต้อง(จำใจ)มาพบเจอแถมเหมือนถูกมัดมือชกให้มาเป็นเพื่อนกับสาวสุดเพอร์เฟ็คแบบนั้นเข้าจนได้
แล้วพอได้คบกันไป ทุกอย่างมันไม่ได้ยากอย่างที่กังวลไปล่วงหน้า(ด้วยความที่อิฉันเป็นพวกวิตกจริต)
ไปๆมาๆ ก็คนไม่ต่างจากเรานี่ล่ะ มีข้อบกพร่องเป็นส่วนหนึ่งของความเพอร์เฟ็คของมัน เอ๊ย เจ้าตัว

แล้วก็มาซึ้งแมนว่า ไอ้คนที่เรามองว่าสมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง เจ้าตัวกลับไม่เคยมองตัวเองว่าเพอร์เฟ็ค แถมชอบทอนตัวเองให้ต่ำกว่าความเป็นจริงอีกต่างหาก

คนเรามักเกินความคาดเดาอยู่เสมอ...นะ




ในสายตาเรา เรามองเหตุการณ์ชุลมุนระหว่างเจ้าหนูนัตตี้กับคุณหนูปั๋มด้วยความสนุกสนานปานนั่งดูนิทานดิสนี่ย์


ความคิดแรก คือ เด็กจิฟเป๋ง
ความคิดต่อมา คือ ‘ผู้หญิง’

ฮา

ตบสุดท้ายด้วย น่าสนใจเจงๆเด็กน้อยคู่นี้



ความบาดหมางของเด็กสาวสองคนนี้ มันชวนลุ้นจริงว่าจะเอาล่อเอาเถิดกันไปนานแค่ไหน
ดูสิว่าใครมันจะระเบิด เอ๊ย ก้าวเข้าไปหาก่อน


ลุ้นซะจนมาเช้าวันจันทร์ ในที่สุดเด็กความอดทนต่ำอย่างเจ้าหนูนัตตี้ก็เล่นต่อไม่ไหว เริ่มโอดครวญกับเพื่อนอย่างเกรบ
เกรบน่ะอ่านนัตตี้ขาดจริงๆ เล่นไม่เข้าข้าง แต่กลับชี้ตรงประเด็นว่านัตตี้น่ะเอาแต่งอนให้ปั๋มง้อ จนเขาต้องเลิกง้อ

แล้วประโยคหนึ่งที่เจ้าหนูนัตตี้พูดขึ้นมา ทำเอาอิฉันระเบิดเสียงหัวเราะ ลงไปกองอยู่หน้าจอ ในที่สุดก็มาถึงสถานีบางอ้อจนได้ตู หลังจากมึนกับเรื่องราวอยู่นาน



เจ้าหนูนัตตี้หลุดปากเผยความรู้สึกออกมาหลังจากที่เกรบบอกให้นัตตี้หาทางไปคุยกับปั๋มซะ ด้วยว่าตัวเองก็อยากเข้าไปเคลียร์กับปั๋ม แต่...

“ก็ปั๋มเขาตัวติดกับนิวตลอดเวลา”





โอย...หัวเราะจนน้ำตาเร็ด
นึกว่าน้อยใจอะไร เด็กเอ๊ยเด็ก


ไอ้เด็กคนนี้เล่น ‘หึง’ เอ๊ย ‘หวง’ เพื่อนสนิทเข้าขั้น
ประมาณว่า...เค้าอุตส่าห์จองของเค้ามาตั้งแต่รอบ 100 คน
แล้วอยู่ดีๆเหมือนมีแมวมาคาบปลาย่างไปเชยชมให้เห็นต่อหน้าต่อตา


เจ้าเหมียวนัตตี้ก็เลยได้แต่คำรามอย่างไร้เสียง ด้วยความอิจฉา



ยิ่งพอเด็กสองคนลากกันไปเข้าห้องสารภาพเพื่อปรับความเข้าใจกัน
เรื่องราวที่คุยกัน ทำเอาอิป้าอย่างอิฉันนั่งหัวเราะจนตัวโยน

แล้วต้องจิ้นไปถึงเสียงในใจเจ้าหนูนัตตี้

‘ปั๋มอย่าไปเป็นของใคร’

เอ๋ย~ม่ายช่ายแระ

‘ปั๋มอย่าไปสนิทกับใครมากกว่าเราได้ไหม’

แล้วตามด้วย

‘ปั๋มน่ะเป็นของนัตตี้นะรู้ไหม’

กร๊ากกกกกก





วิธีการงอนการง้อของเด็กผู้หญิงสองนี่เอาชั้นเอาเชิงกันแบบไม่มีใครยอมใคร
...ทำเอาดิฉันนึกเห็นภาพทั้งเกรบทั้งนิว แล้วอยากตบบ่าปลอบใจ พร้อมพี่ออฟใส่พานมาร้อง “~ไอ้เรามันตัวสำรองคนหนึ่ง~” ให้ฟัง


ไม่คิดอย่างงั้นได้ไงก็แต่ละประโยคที่หลุดความในใจออกมา อีหนูสองคนนี่ช่าง....น่ารักจริงน่ารักจัง


เริ่มด้วยเจ้าตัวต้นเหตุอย่างเจ้าหนูนัตตี้ยอมแบไต๋ เปิดหมดหน้าตัก โอดครวญด้วยน้ำเสียงน้อยใจประมาณกิโลกับอีกหนึ่งขีดว่า

“เอะอะอะไรก็นิว”


ฮ่า ฮ่า ฮ่า หนูปั๋มเอ๊ย เพื่อนเขารักเราแค่ไหน รู้ตัวบ้างไหมจ๊ะ

ตกลงเรื่องราวต่างๆนาๆอย่างเรื่องปั๋มหลุดปากแซวนัตตี้ไม่ให้ลงเรือ กลัวเรือจมนั่น มันกลับไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริงเล้ย


เรื่องราวเปิดเผยออกมาเป็นว่า...ก็แค่เด็กกลัวโดนแย่งเพื่อนสนิทไปก็เท่านั้นเอ๊ง เท่านั้นเอง
ก็นะ...เพื่อนสนิทของเขา เขาอุตส่าห์ตีตราจอง ประกาศป่าวร้องให้ใครต่อใครรับรู้มาตั้งนานนี่นะ



คุณหนูปั๋มมาเจอลูกอ้อนสารภาพต่อหน้าต่อตาเข้าไป ก็เลยยอมหลุดปากความในใจตัวเองคืนมาว่า

“แกเอาเกรบไป ฉันก็เหลือแต่นิวใช่เปล่า”

แล้วง้อต่ออีกนิดด้วย

“ฉันไม่ได้อะไรก็นิว”







โอย~หายใจไม่ทัน หัวเราะปานจะขาดใจ กับปัญหาเด็ก15 ทั้งเหตุผลของเด็ก 15

เก็บความทรงจำช่วงนี้ไว้ดีๆนะน้องเอ๊ย มันประเมินค่าไม่ได้



จากกระง้องกระแง้งออกจากห้องกันมา

ปั๋มก็คืนกลับมาเป็นของนัตตี้ (ฮ่า ฮ่า ฮ่า)

ก็เจ้าหนูนัตตี้เล่นเดินควงแขนประกาศความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ เดินกุมมือกันไปตักอาหารพร้อมต่อล้อต่อเถียงเรื่องเดิมไม่จบไม่สิ้น

จากนั้นทั้งวันนัตตี้ก็ไม่ปล่อยปั๋ม ทั้งเกือกกลิ้งกันไปบนโซฟาคู่กันตอนดูรีรัน(รอบที่เท่าไร!?)
แถมประกาศเรียก ‘ที่รัก’ กลางคลาสแดนซ์ ย้ำซ้ำอีกดอก



พี่รู้เราน่ะความรัก(เพื่อน)น่ะมันล้นใจ
แค่นี้หนูปั๋มเขาก็ไปไหนไม่รอดแล้วเจ้าตี้เอ๊ย





เด็ก 15 เองเนอะ โลกใบไม่ใสตอนนี้จะไปมีสีสันตอนไหนเล่า



ค่อยๆนะ ค่อยๆเรียนรู้กันไป ทะเลาะกันบ้าง ง้อกันบ้าง
ความเป็นเพื่อนช่วงระยะเวลาแบบนี้ มันหาไม่ได้อีกแล้วล่ะอีหนู
ใช้เงินทองมากมายก็หาซื้อคืนกลับมาไม่ได้
ใช้ได้แค่หัวใจดวงใสๆแลกใจอีกดวงเท่านั้นเอง


แล้วไอ้หัวใจคนเรา ยิ่งนานวันก็กลับไปสดใสอย่างในวัยแรกเริ่มไม่ได้อีกแล้วด้วยสิ






 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2553
4 comments
Last Update : 13 กรกฎาคม 2553 11:12:09 น.
Counter : 906 Pageviews.

 

เด็กหนอเด็กจริงๆค่ะ

มีอะไรก็เขียนมาให้อ่านกันอีกนะค่ะ
เพราะว่า ปีนี้ไม่ได้ดูในบ้านเลย 555+

 

โดย: บางส้มเปรี้ยว 13 กรกฎาคม 2553 13:25:36 น.  

 

อิอิ มิน่า ป้า ๆ ลุง ๆ บ่นกันอุบว่าปีหน้าขอ 18 ขอบายสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "เด็ก"

อ่านแล้ว คิดถึงตัวเอง เราเองก็ไม่ห่างความบ๊องแบบนั้นเท่าไหร่

ถึงตอนนี้ลืมไปหมดแล้ว

แต่เมื่อได้ย้อนรำลึก หนู ๆ ก็ทำให้ป้ามีความสุขขึ้นมารำไร

นี่ คุณคิว ปีนี้ เราต้องเป็นป้ากันแล้ว ชิมิ เด็กก็เด็กลงทุกปี ส่วนไอเราก็แก่ขึ้น ๆ ทู้กปี

แต่ก่อนรู้สึกว่า AF ทำให้ปีแต่ละปีมีความสุข สงสัยต้องกลับไปคิดใหม่ว่า AF มาย้ำให้ฉันรู้และต้องยอมรับความจริงซะที (เฮ้อ น่าอนาถ)

 

โดย: for Family 13 กรกฎาคม 2553 22:04:58 น.  

 

คิดแล้วเชียวว่าต้องมีอะไรให้อ่าน 555
มีจริงๆ เอิกซ์

ชอบๆ เอาอีก เอาอีก

 

โดย: puie (papasea ) 15 กรกฎาคม 2553 12:51:59 น.  

 

วิเคราะห์ ปั๋ม นัตตี้ได้เด็ดขาดมากค่ะ ตรงใจสุดๆอ่ะ พอย้อนนึกไปถึงเรื่องสองคนที่เค้าไปเคลียร์กันก็อดยิ้ม อดขำไม่ได้

จนป่านนี้ น้องนัตตี้ก็ยังหวงน้องปั๋มอยู่ดี และคงจะเป็นคนเดียวที่เวลาพูดนัตตี้ยอมฟังอย่างสงบจริง ฮ่าๆๆ

 

โดย: ~*พะแนงผัดเต้าหู้ใส่หมูสับ*~ 30 กรกฎาคม 2553 16:08:13 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Quaver
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ




Friends' blogs
[Add Quaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.