Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
7 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
ความฝันสีสวย เพียงแต่สังคมมันไม่สวยขนาดนั้น






เปิดฉากAF7 แล้วอย่างแท้จริง(สำหรับตัวเอง)
คงเป็นเหตุการณ์การเปิดใจในคลาสแอ็คติ้งเมื่อคืน
หลังจากนั่งเปิดสลับไปมา พร้อมกับการจำชื่อเด็กแต่ละคนให้ตรงกับหน้ามาหลายวัน
มันยากลำบากสำหรับคนวัยข้าพเจ้าไปแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า ยอมรับอย่างหน้าซื่อ(ใจคด)

เด็กผู้ชายไม่มี๊ ไม่มีปัญหาเท่าไร...ไม่ต้องว่าเรื่องความบ้าปู้ชาย(กร๊ากกกก)
คือว่ามันจำง่ายกว่าจริงๆอ่ะ
ไอ้ภาพเงากับภาพตัวจริง มันก็เหมือนกันเด๊ะ!!


ส่วนเด็กผู้หญิง
เจอภาพตอนเมคอัพขึ้นมา เทียบกับใบหน้าใสๆตามคลาสต่างๆ
ขนาดโปรโม่ขึ้นมาเทียบ อิฉันครางฮือ~~~ นกถึดทือสิงร่าง
“ใครวะ!!!”



แต่เหตุการณ์ดราม่าเมื่อคืน ทำเอาจำชื่อเด็กได้ครบเกลี้ยง
ฮ่า ฮ่า ฮ่า







เรานั่งฟังเส้นทางความฝันของเด็กๆ...
แรกๆก็ฟังเหมือนผ่าน มันคือความฝันระดับพื้นฐานของเด็กafทุกปี


จนมาเจอกับสองหนุ่มอย่างปอกับกรีน



ปอ...เด็กอายุเท่าไร...15 16 หรือเปล่า หน้าตาเด็กมอต้นชัดๆ
...แบบแทนตัวเป็นพี่ก็กระดาก ฮ่วย!


บอกตามตรงเรานั่งฟังเรื่องราวที่ปอเล่าเกี่ยวกับการเดินทางโดยลำพัง ขึ้นรถบขส. แล้วมารอโบกรถข้างถนนกลางดึก การไม่รู้ว่ากลับไปโคราชแล้วจะหาที่นอนที่ไหน ความหิวที่สะสมมาตลอดการเดินทาง

เรื่องเล่าที่ออกจากปาก มันยังไม่กระทบใจเท่ากับท่าทางที่เด็กสื่อออกมา

การพยายามสะกดอารมณ์เพื่อจะเล่าต่อจนตัวงอ
มือป้องหน้าไว้จนแน่นเพื่อจะหยุดน้ำตาที่กำลังจะไหล


มันคือความเข้มแข็งที่เด็กผู้ชายคนหนึ่งพยายามกดความอ่อนแอและความกลัวในใจของช่วงเวลานั้น


เด็กอายุ 15 เองนะ
เดินทางกลางดึก ไม่รู้ทิศทาง อยู่ตามลำพัง


สู้เพื่อคว้าความฝันที่ฝันไว้มาทั้งชีวิต


บอกตามตรงเรานึกภาพตามไปแล้วกลัวแทน
...ถ้าเราเป็นพ่อแม่ของเด็กคนนี้
แล้วจากนั้นเราคงภูมิใจที่มีลูกชายที่เข้มแข็งขนาดนี้
แล้วคงวางใจว่าลูกเราคงเอาตัวรอดไปได้ในโลกเฮงกะบ๊วยขึ้นทุกวันใบนี้

อายุและประสบการณ์อาจเป็นแค่เด็กวัยรุ่นตอนต้น
แต่หัวใจน่ะ...
กล้าเกินอายุจนต้องชื่นชมเลยทีเดียว






จากนั้นก็เข้มข้นต่อด้วยเรื่องราวของกรีน
หนุ่มที่ไม่กล้าใช้คำว่าตัวเองหน้าตาไม่ดี ไม่หล่อ
...พ่อคุณเลี่ยงตลอด พูดให้คนฟังรู้เอาเอง
พี่อยากบอก พูดออกมาเถอะพ่อ ฟังแล้วได้ใจกว่านี้แยะ


กรีนบอกว่าเพราะตัวเองหน้าตาแบบนี้ถึงไม่กล้าจะบอกใครถึงความฝันที่จะเป็นนักร้อง(ป้า เอ๊ย พี่ สรุปให้เสร็จสรรพ)
ได้แต่เก็บความฝันตัวเองเอาไว้
แล้วหันไปทำความฝันที่ตัวเองคิดว่าหน้าตาไม่เกี่ยว(เอิ้กกกก)

จนมาพบว่าเพื่อนที่พร้อมกว่าตนในทุกๆด้าน(โดยเฉพาะเรื่องหน้าตา...สรุปให้อีกอ่ะ)
ก็ยังไม่สามารถคว้าความฝันได้
ประมาณว่า กรีนกล้าจะเข้ามาคว้าฝันเพราะคิดว่าหน้าตาอาจไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่ง(สรุปเองอีกตู!)


แล้วก็สมเป็นเด็กห้องคิงส์
ความทุ่มเท เมื่อตกลงใจจะคว้าความฝันนั้นแรงกล้า(พี่ร้องโห...ตอนนั่งฟัง)
การฝึกร้องเพลงทุกวันไม่ต่ำกว่าวันละครึ่งชั่วโมงมาตั้งแต่มกรา
หนุ่มหัวฟูย้ำ ‘ทุกวัน’ ไม่ว่าจะกลับบ้านมาดึกดื่นแค่ไหนก็จะร้องเพลงในห้องน้ำทุกวัน
จนแม่ขอร้องให้หยุดร้อง
โดยที่ตัวเองกักไว้ในใจก็ไม่กล้าบอกใครว่าที่ทำนั้นมีเพื่อจุดประสงค์เพียงแค่สองสามนาทีในอีกสี่ห้าเดือนต่อมา




เรานั่งฟังเส้นทางความฝัน โดยเฉพาะจากสองหนุ่ม
ความคิดหนึ่งที่กระทบใจก็คือ “ความฝันนี้ สีสวยจริงๆ”



มันเปล่งประกายออกมาท่ามกลางความขมุกขมัว
แล้วกลับน่ามองเอามากๆจนแสบตาไปหมด




แต่พอประเด็นอีกประเด็นเปิดมา “เรื่องที่ไม่เคยคิดจะบอกใคร”


หึ หึ หึ

ก็อิฉันเป็นคนช่างคิด เป็นพวกหัวหาเรื่อง


ประเด็นนี้เปิดมาเพื่อ!!?

เพื่อใครบางคนหรือเปล่า
เพื่อเปิดโอกาสแบบเนียนๆให้ใครหรือเปล่า


ช่างมันเถอะ คิดไปก็เท่านั้น
เพราะไม่ว่าไง เด็กๆในนั้นที่เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับความรู้สึกในครอบครัวตัวเอง


สำหรับเรามันแรงปึ้ง!!! เลยล่ะ


เด็กรุ่นนี้เป็นGenไหนแล้วนะ


ประวัติศาสตร์โลกเรา(ไม่ใช่แค่ประเทศใดประเทศหนึ่ง)มันมีการขยับจากโลกยุคเก่า

มันมีช่วงที่เรียกว่ายุคเบบี้ส์บูม
เด็กในยุคนี้คือเด็กที่เกิดจากพ่อแม่ฮิปปี้ที่รักและเชื่อในอิสรเสรีภาพ

บรรดาลูกๆที่เกิดมาจึงถูกเลี้ยงมาต่างจากยุคเดิมที่เข้มงวด
พ่อแม่ต่างให้อิสระลูกมากมาย เลี้ยงเด็กอย่างธรรมชาติ
ห้ามการตีและไม่มีการบอกลูกว่าห้ามเถียง หรือต้องเชื่อฟังทุกอย่างที่ผู้ใหญ่สั่งสอน


เด็กเหล่านั้นเติบโตมาเป็นเด็กในยุคGenX

แล้วเด็กยุคเจ็นเอ็กซ์ก็กลายมาเป็นพ่อแม่

แล้วงั้นลูกๆของพวกเขาเป็นไงล่ะ


ก็แบบลูกๆในยุคสมัยนี้ทั่วโลกล่ะ

เป็นยุคที่ “พ่อแม่กลัวลูกไม่รัก”
ไอ้คำว่า “ลูกบังเกิดเกล้า” น่ะ มันก็ช่วงเด็กพวกนี้ล่ะ


เด็กยุคความอดทนต่ำ พร้อมอาละวาด ฟาดงวงฟาดงากับคนที่คิดว่ารักตัวเองที่สุด
(ไม่อยากคิดเลยว่าเมื่อเด็กพวกนี้กลายเป็นพ่อและแม่ เด็กรุ่นจากนั้นจะหนักข้อขึ้นไปขนาดไหน)



เด็กยุคความอดทนต่ำเตี้ย
มาเจอสังคมเฮงกะบ๊วย

ถามจริง...มีเด็กคนไหนบ้างที่ไม่เคยเรียนพิเศษสักครั้งในชิวิต

สังคมมันบีบบังคับให้ทำตามๆกัน
ไม่ใช่แค่เป็นเรื่องความรู้มากขึ้นที่จะได้รับ
แต่มันกลายเป็นแฟชั่น การเป็นกรอบสังคมที่เด็กที่ไม่ทำตามจะรู้สึกแปลกแยก

มันคือโลกวัตถุนิยมแบบจำต้องกรอกลงคอ
เรื่องเรียนพิเศษบ้าบอ กิจกรรมเสริมทักษะ ข้าวของเครื่องใช้ที่พ่อแม่เพื่อนคนอื่นสามารถหามาบำรุงบำเรอได้อย่างง่ายดาย


มีเด็กไม่กี่คนหรอกที่จะกล้าแหวกกรอบ ยากจะขัดขืน
เพราะมันปลอดภัยกว่าจริงไหมที่จะทำตามๆกันไป


เพราะงั้น เราฟังที่ปอเล่าถึงได้เข้าใจปอมากเลย
ปอก็เด็กที่พบเห็นได้ในสังคมนี่ล่ะ


สังคมของเด็กอย่าคิดว่ามันสะอาดกว่า เข้มงวดน้อยกว่าในโลกของผู้ใหญ่วัยทำงาน
เพราะนั่นคือโลกทั้งใบของพวกเขา
เขาต้องต่อสู้ในโลกแบบนั้น เพื่อเอาตัวรอดออกมาสู่โลกโหดร้ายอีกใบที่รออยู่อีกช่วงชีวิต



ไม่รู้ว่าเด็กที่ไม่ใช่แค่เด็กAFจะรู้บ้างไหมว่า
ตัวเองโชคดีขนาดไหนที่ยังอยู่ในช่วงที่จะฝันได้ มีเวลาไขว้คว้าความฝัน ค้นหาความฝัน
โดยโลกเบี้ยวๆใบนี้มีโอกาสอำนวยความฝันได้หลากหลายเส้นทางกว่ายุคเก่าก่อน(คือยุครุ่นป้ารุ่นลุงนี่ล่ะลูก)
แม้ว่าเส้นทางความฝันมันแฝงทางลวงไว้เยอะตามก็เถอะ

แต่ถ้ามีใจมุ่งมั่นพอ กล้าพอ
ความฝันนั้นก็สีสวยเสมอล่ะ


ในฐานะคนที่เลยช่วงเวลาไขว่คว้าฝันมาแล้ว
มันมีความอิจฉาเรื่อง “เวลา” อยู่นะ
เวลาที่เหลือในทางข้างหน้า มันไม่เพียงพอจะละทิ้งความเป็นจริงเพื่อไปไขว้คว้าความไม่แน่นอน


แต่เด็กน้อย
เวลาที่พวกเขาเดินผ่านมา มันกลับกระตุ้นให้เขากล้าบิน เพื่อคว้าเมฆสีสวยบนท้องฟ้า


ในความอิจฉา มันแฝงความน่าเศร้าปนอยู่เยอะ
เมื่อผ่านวันเวลาเหล่านั้นมาไกลแล้ว ถึงได้เข้าใจ...แย่จริงๆ






แล้วเหตุการณ์เมื่อคืนก็ปิดท้ายด้วยดราม่าเด็กมอต้น
อิฉันนั่งฟังเด็กผู้หญิง แล้วต้องหัวเราะเอิ้กอ้ากตาม “เด็กจิฟ”
กระเง้ากระงอด งุ้งงิ้ง วุ้งวิ๊ง ตามประสาเด็ก ‘ผู้หญิง’

เพราะงี้เขาถึงว่าผู้หญิงน่ะมาจากต่างดาว ดาวอะไรก็เอาเถอะ เข้าใจยากชะมัด
(พูดเหมือนตัวเองไม่ใช่ผู้หญิง)
ก็ขนาดเป็นผู้หญิงเหมือนกันนี่ล่ะ เราฟังแล้วเอิ้กกก กุมขมับ
เห็นหน้าครูย้ง ยิ่งปล่อยกร๊าก อยากกระซิบบอก
“ผู้หญิงอ่ะครูขา วัยไหนก็แบบนี้ล่ะ ความรู้สึกชวนเข้าใจลำบากจริง”


ฮ่า ฮ่า ฮ่า




แต่เชื่อไหมเรานั่งฟังจนขี้เกียจฟัง ทั้งการแก้ การไข การปรับ การยุ่ง จากพี่และเพื่อน
เราว่าเราเข้าใจความรู้สึกนัตตี้ในเวลานั้นนะ
เด็กมันเหมือนโดนรุมน่ะ

ไม่ต้องหาใครผิดใครถูกหรอก
เรื่องของอารมณ์หาผิดถูกแยกแยะยาก

แต่นัตตี้คงเหมือนโดนรัวหมัดแย็บ นั่นก็ปึ้งที นี่ก็ปึ้งที
ขยับตัวทางไหนก็โดนหมด


คือครูบอกให้เด็กยอมรับ ให้พูดตรงไปตรงมากับความรู้สึก

คิดเหรอว่ามันง่าย มันไม่ง่ายเพราะคนเราหล่อหลอมมาต่างกัน
การจะโดนหลอมอีกเบ้าหนึ่งมันต้องใช้เวลา
หลอมไม่ดี เร่งไฟไป มีหวังเบี้ยวแย่เลยครู


แต่ก็ติดใจอีกเรื่องคือ มันคือการมองเพียงมุมเดียวหรือเปล่า


ในอีกมุมหนึ่ง

มันก็ต้องมีการสั่งสอนว่าคนเราจะอยู่ในสังคมมันต้องมี “การอลุ้มอล่วย” ต่อกัน
อย่าแค่คิดถึงแค่ "ใจตัวเอง" คิดถึง "ใจคนอื่น" ด้วย(บ้าง)
ยิ่งการมารวมกันอยู่โดยต่างที่มาแบบนี้
ไม่ว่ากับฝ่ายไหนก็เถอะ
ไม่ต้องรักกันหรอก แค่ให้เกียรติอีกฝ่ายเท่ากับให้เกียรติตัวเองก็พอ





จนจบเมื่อคืน
เราเห็นมุมมองบางส่วนของเด็กแต่ละคน
เห็นบุคลิกเด็กแต่ละคนชัดขึ้น


ทำเอาร้องอ๋ออย่างเข้าใจ

เด็กเกินครึ่งนี่ typeครูรักชัดๆ
ทั้งหญิงทั้งชาย


ประมาณว่าในปีแรกๆ เด็กบุคลิกแบบนี้ติดเอเอฟมารุ่นละคนสองคน
พอให้ครูรักกระชุ่มกระชวย(เอิ้กกกกก)


คราวนี้ครูรักคงใช้สิทธิ์ ใช้เสียงมือวางอันดับหนึ่งเต็มที่
เด็กถึงได้ยกโขยงมาเป็นเนอสเซอรี่แบบนี้



ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ แต่ออกปากชอบก็ไม่เต็มปาก
ครือว่า
หนูอยากเก็บดอกไม้หลายๆพันธ์น่ะครู
สวยแต่ไม่หอม หอมแต่ไม่สวย ทั้งสวยทั้งหอม ไม่สวยไม่หอม
ทั้งนำเข้า ทั้งพื้นเมือง


มันจะเป็นสวนที่ใจกว้างมากทีเดียว









Create Date : 07 กรกฎาคม 2553
Last Update : 7 กรกฎาคม 2553 13:18:00 น. 2 comments
Counter : 486 Pageviews.

 
บอกตามตรงค่ะ ตอนที่เหลือ 25 คน แล้วให้เลือกเอา 12 คน

กว่าครึ่ง เดาผิด ค่ะ

ก็คงติดตามดูคอนเสิร์ตต่อไปค่ะ แต่อาจจะตามในบ้านน้อยลง กว่าทุกปี
ความเห็นส่วนตัวนะค่ะ ไม่ได้ดูถูกความฝันเด็กอายุ 15

แต่รู้สึกว่า เอาเข้ามา เด็กเกินไปอะค่ะ
ผึ้งเอง อาจจะคิดมากไปมั้ยไม่รู้ แต่โอกาสอีกเยอะอะค่ะ ในขณะที่คนอื่น ล่าฝันครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ได้แย่ไปกว่าคนอื่น หรือด้อยกว่า เด็ก 15 เลย...

ไม่รู้คิดอะไรอยู่นะค่ะ....แน่ๆ ผึ้งคงคิดมาก 555+

ที่แน่ๆ สนใจ น้องปอค่ะ ตั้งแต่ ออดิชั่นแล้ว
เราจะเชียร์คนเดียวกันอีกมั้ย คุณคิว


โดย: บางส้มเปรี้ยว วันที่: 7 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:39:11 น.  

 
เย่ คุณคิวมาตั้งแต่วีคแรกเลย ... ดีจริง ๆ เราจะได้มีอะไรอ่านได้บ่อย ๆ

เรายังไม่ได้เริ่มดูเลยง่ะ แรก ๆ จำอะไรไม่ได้เลยค่ะ ... สมองน้อย ... เด็ก ๆ เหมือนกันหมด นับวันยิ่งเด็กลง หรือเราแก่ขึ้นกันแน่ (อื้ม ถูกทั้งข้อ ก และ ข)

วันนี้กลับช้า ไม่ได้ดูเดลี่ ไม่ค่อยเฝ้าดูน้องในบ้านเท่าไหร่ ความอดทนมีน้อย ขอแบบสรุป ๆ ดีกว่า (ความจริง คือ กินแรงคุณคิวไง เล่าให้ฟังหน่อยน๊า)

ตอนนี้ที่เรามอง ๆ ก็ คนดังตามข่าว, กรีน (หน้าตาไม่ดี แต่เข้ามาได้ ต้องมีอะไรดีแน่ น่าสนใจ ยิ่งได้ฟังคุณคิวเล่า ยิ่ง โห ดับเบิ้ลน่าสนใจโพด ชอบ ๆ ), แล้วก็น้องเกรฟ เปล่าคะ ที่หน้าคล้าย ๆ ซอล (ครือ ชอบซอลมากน่ะค่ะ เลยแอบมองน้องที่คล้ายกัน)

... คุณคิวชอบใคร เลือกดี ๆ นะ เพราะเราเป็นผู้ตามที่ดี ปีที่แล้ว เห็นว่าถึงที อ่ะ ทีก็ที ตามมาเรื่อย ๆ แต่สุดท้ายหัวคะแนนก็แพ้หัวใจตัวเอง แพ้เด็กน่ารักจิ๊บแบบซอล ชอบความฮา บร้า เท่ ของซานิ แล้วก็ความหล่อ ความขาวของแม็ค

ไว้มาอ่านใหม่นะคะ ขยัน ๆ โด้ย (ไม่ได้สั่ง แต่บังคับ -- พูดเล่นนะคะ อย่าโกรธนะ ร้ากพี่น้าท โอเคเปล่า อิอิ)


โดย: for Family วันที่: 7 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:58:40 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Quaver
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ




Friends' blogs
[Add Quaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.