Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
ทานตะวัน
หลากเรื่องยุ่งอิลุงตุงนังมาแบกบาล
วิ่งตลอนตลุยไปกับนักล่าฝัน
เมื่อ...ผีเสื้อขยับปีก
touch de scène
Time Between Nat and Tol
Emotion
Tempus Fugit
My QS Project : เรื่องเขียนสลับกันอ่าน
<<
สิงหาคม 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
16 สิงหาคม 2553
Love Actually
All Blogs
พันผูกจนผูกพัน
หนูก็ออกตัวสุดๆ คำจากปากสาวสวย
พี่สอนน้องร้องเพลงempire state of mind
คิดถึงเราว่ะตัวเล็ก
อดทน
แบบไหน...ถึงจะเอาตัวเล็กอยู่!?
Love Actually
ให้ 'เกียรติ' อยู่ได้ในความ 'เกลียด'
พี่ชาย(อีกคน)ของไอ้ตัวเล็ก
พี่ชายของไอ้ตัวเล็ก
อาจเป็นสองคนนี้ที่ใกล้เคียงกันที่สุด
พี่อยากบอกให้รู้ พี่รักหนูนะนัตตี้
หนังก็(นัตตี้)เรื่องเดิม คนฉายก็เดิมๆ
เรื่องของนัตตี้(อีกแล้ว)
Picture says itself
Nutty Attack
ก็เขาแค่ หึง เอ๊ย หวง เพื่อน
แดงไม่แดง ไม่เกี่ยว!!!
ความฝันสีสวย เพียงแต่สังคมมันไม่สวยขนาดนั้น
บอก 'ที' ไม่เอาคำตอบ
6th sweet goes around
สำหรับ ความทรงจำ
ความเป็น ทีป์ชลิต
ไอคิวอีคิว...ผ่านเจอความน้อยใจ
คู่ปราบคู่ปรับกับหัวโจกประจำบ้านAF6
แม็ค วีรดนย์ กับภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
เริ่มด้วย...ปลาแรด จบตรงที่...สาคูถั่วดำ
ทีกับซานิ...เจอกันทีก็มวยถูกคู่ล่ะ
โต๊ะอาหารวีคที่ 10 กับห้าที่รอด
คนเรามีขึ้นมีลง
ตำรวจหนุ่มเจอะสาวจอมโก๊ะ vs โคโยตี้ก่อกวน(หัวใจ)หนุ่มขี้อาย
ก็...หนุ่มระวังตัวมาเจอหนุ่มขี้แกล้ง
ลวนลาม โลมเลีย
T-Mac The Unlimited Friendship
เกม(ซอล)เศรษฐี ที-แมคยาจก
บรรยากาศเช้านี้มัน หอมนวล ดี
คุณยายไม่มาหรือครับ~
สงสารนุกนิก
เช้านี้ของแม็ค
ทีที่ผิดคาด
ปัญญาอ่อน
รู้สึกใกล้ชิดกว่าที่เคย...ไหม???
มันอาจไม่เพราะ แค่คิดถึง
AB , NT , GP สามพี่น้องตระกูลAF
CHEER...กับปั๊ม ปิดท้าย AF5
ในที่สุด...AF5 กับภาพที่จะประทับในความทรงจำ
ปั๊ม(ลูก)น้อง(ชาย)เฮียกี๋
There Something About..............
True Love Story
ว่านไฉ เด็กแปลกๆที่น่าสนใจ
women are from venus
ราคาความฝัน
พวกเรา พวกเขา
Love Actually
.
.
.
บล็อกนี้เขียนจากที่ห่างไกล
.
.
.
.
.
ต้นฉบับเขียนด้วยดินสอที่ขอยืมจากเด็กหญิงตัวเล็กๆลงบนพื้นหลังของแผ่นพับโฆษณา
สายฝนโปรยปรายมาตั้งแต่กลางดึกของคืนวาน
ตกแล้วหยุด หยุดแล้วตก ตกตก หยุดหยุด จนชวนฉงนในจุดประสงค์ของเบื้องบน
ท่านอาจทรงอยากบอก ความเฉื่อยชาในอารมณ์ก็ใช่จะเป็นเรื่องเกินยอมรับ ความเกียจคร้านก็นำพาความสงบคืนจิตใจได้...กระมัง
กลิ่นกาแฟคั่วบดลอยคลุมจนทั่วร้านเล็กๆแห่งนี้
ฝาผนังฉาบปูนป้ายเนื้อหยาบอย่างจงใจ ทาทับด้วยสีเหลืองสดสดใสตัดด้วยสีแดงพระอาทิตย์อีกด้าน
ตัดขอบสีม่วงไวโอเล็ตของส่วนคานและเสา
ตอนที่เราก้าวโหย่งๆเพื่อหาที่หลบฝน จึงถูกสีสันเหล่านี้ดึงดูดให้ก้าวข้ามมาหา
เจ้าของร้านใจกล้าจริงๆ...เราคิด
นอกจากโต๊ะและเก้าอี้ขนาดหนึ่งหรือสองคนนั่ง พื้นไม้ปูทางยาว
...ซึ่งเป็นสีของเนื้อไม้ธรรมชาติแล้ว
อ้อ!บวกอุปกรณ์การชงกาแฟและการครัวแล้วล่ะก็
ทุกสิ่งทุกอย่างแม้ช้อนกาแฟ กระดาษโน๊ตแผ่นเล็กต่างเล่นสีสันของแม่สีโดยไม่มีการเบรกแม้สักนิด
แถมบางจุดยังตกแต่งเป็นลายดอกไม้เล็กๆสีสันพร่างพราวราวกับทุ่งดอกไม้
และคงเพราะฝน
ผู้คนในร้านมีไม่กี่โต๊ะ...ในร้านที่โต๊ะมีไม่กี่ตัว
แต่ในแต่ละคนของทุกโต๊ะ ควันจางๆจากถ้วยกาแฟเรียกอารมณ์เหม่อลอยของทุกคน
เสียงฝนเล็กๆตกกระทบพื้นหินดังเปาะแปะ
เด็กผู้หญิงตัวเล็ก บางกะจ้อยร่อยนั่งพิงอยู่ตรงประตูบานพับไม้หน้าร้าน
มือน้อยๆยื่นรอเล่นกับสายฝน ตากลมดำขลับแหงนมองตามสายของฝน
หนูน้อยคงรู้ตัวที่ถูกแอบมองอยู่นาน
เธอหันกลับมา จ้อง แล้วยิ้มอายๆจนแก้มบุ๋มกับผมม้าสั้นเต่อ
นั่นล่ะ...คือตอนที่เรานึกถึงใครบางคน
ไม่น่าเชื่อเลย เดินทางมาตั้งไกล ก็ยังมีเด็กน้อยทำให้เรานึกถึงเด็กน้อยอีกคนจนได้
.
.
.
.
.
คืนเด็กเปิดใจกันเอง จนมาคืนวันที่ครูรักให้เด็กเปิดใจ
เรานั่งฟัง ส่ายหัวกับทัศนคติ อึดอัดกับความรู้สึก
หลายสิ่งอาจว่าเคลียร์
แต่สำหรับคนแบบเรา เรากลับเห็นภาพบางอย่างที่ไม่คิดว่ามี กลับชัดเจนในตัวมันเอง
แล้วถึงบอกกับตัวเอง ไม่ไหวแล้ว ต้องพักแล้ว
ขอไปเติมออกซิเจนก่อน แล้วอาจกลับมาสู้ทนกับเด็กรุ่นใหม่ได้ไหวต่อ
พอเดินห่างออกไป
อารมณ์ในความรู้สึกกลับไม่เหลือเรื่องราวความวุ่นวายระหว่างผู้คนในบ้านหลังนั้น
ในตอนนี้ ณ ช่วงเวลานี้ที่นั่งจรดดินสอ
เรากลับจับความรู้สึกสวยงามบางอย่างเอาไว้อย่างไม่น่าเชื่อ
เราอยากเขียนเรื่องราวในอดีต ไม่นานนัก...แต่ทำไมราวกับห่างเป็นร้อยปีนะ?!
มันอาจเป็นเพราะ...
เหมือนคนกำลังเฝ้ารอ คาดหวังเอาไว้อย่างเงียบเชียบกับการแทงยอดอ่อนของเมล็ดพันธ์ความรู้สึกเมื่อเจออากาศอบอุ่นเพียงพอ
แต่แล้ว...การเฝ้ารอลุ้นกลับหายไปแค่เพียงกระพริบตา
อากาศอบอุ่นที่หวังไว้ กลายกลับเป็นลาวาอันเดือดพล่านทำลายเมล็ดพันธ์นั้นแห้งกรอบ ทิ้งลึกอยู่ใต้ผืนดิน
เราเคยแตะพอผ่านกับเรื่องราวนี้มาครั้ง...บางคนอาจแทบไม่สะกิดใจ
พอเรื่องราวมันผ่านกลับกลายไป เราก็ไม่อยากแตะให้(ใครบางคน)เจ็บไปกว่าเดิม
ด้วยเขาเฝ้าลุ้นกับเรื่องราวคู่นี้มาตั้งแต่แรก ทั้งพยายามชี้ชวนให้เรารู้สึกตาม(ให้จงได้)
ตอนแรกๆเราได้แต่บอก อย่าคิดมาก อย่าคิดมาก เด็กจะตาย เด็กสิบห้าเองพี่
ทั้งที่เราบอกพี่เขาไปอย่างนั้น แต่สายตาเราก็กลับจ้องคู่นี้ไม่ยอมห่าง
นัตตี้น่ะเป็นเด็กชอบสัมผัส โหยหาความอบอุ่น
เป็นเด็กน้อยที่ต้องการความอบอุ่น พอวางใจใคร เด็กก็เอนหาเขาโดยอัตโนมัติแบบไม่มีลิมิต
เพียงแค่เขามอบความใจดีด้วย น้องก็พร้อมให้เขาทั้งใจ
ซึ่งในขณะเดียวกัน พอโดนกระทำโต้กลับแม้เพียงเล็กน้อย น้องก็เก็บเอามาเจ็บหนักปางตาย
เราถึงได้เคยบอกไว้ไงว่า หัวใจตัวเล็กน่ะเหมือนฟองน้ำ อุ้มทุกความรู้สึกเอาไว้
จนบางครั้งมันล้นทะลักออกมา ก็กลับกลายเป็นน้ำตา สะอื้นจนตัวโยนแบบนั้นทุกครั้งไป
เพราะการที่เรามองนัตตี้เป็นเด็กแบบนี้
เราถึงได้เตือนพี่สาวที่เฝ้ามองหาอะไร...ในบางความรู้สึกนั้นอยู่เสมอ
...ไม่ใช่อะไรหรอก เรากลัวพี่เขาจะอกหัก(แทนเด็ก)
แล้วก็เป็นดังคาด...
พี่เขาอาการหนักจริงๆ เมื่อเรื่องมันกลับกลาย
แม้หลังจากนั้นหลายครั้ง ที่พี่เขาออกปากว่าไม่อะไรแล้ว
แต่อาการเจ็บช้ำมันก็แฝงมาในบางเรื่องราวให้จับได้ทุกครั้ง
แต่ว่าเราก็ว่า...โทษพี่เขาไม่ได้จริงๆ
ปอกับนัตตี้เป็นอะไรที่เขาพูดกันว่า มีchemistryต่อกัน
...ไม่ขอพูดว่าทุกคนต้องรู้สึกแบบนั้นนะ เอาเป็นว่าคนประเภทเราก็แล้วกัน (ขี้เกียจเกิดปัญหาโต้แย้ง)
เคยไหม...กับภาพบางคน แค่ยืนใกล้กัน แค่มองตากัน แค่เอียงหัวเข้าหากัน
คนมองเห็นก็ต้องรีบกัดริมฝีปากไม่ให้ร้องกรี๊ดกร๊าดออกมาดังๆ ยิ้มที่อมไว้ก็แทบทำให้แก้มปริ
เล็บจิกไว้กลางฝ่ามือจนเกิดร่องรอยน่ะ
สำหรับเราแล้ว นัตตี้กับปอมันให้ความรู้สึกแบบนั้นเลย
ทั้งๆที่พยายามเตือนทั้งตัวเองและพี่(เขา)ว่า เด็กพี่เด็ก เด็กสิบห้า
แถม...
นัตตี้น่ะเป็นเด็กชอบซบเวลาเข้าใกล้ใครไม่ว่าหญิงหรือชาย
ก็นั่นสินะ...ทั้งๆที่ตัวเล็กก็ทำแบบนั้นไปจนทั่วถึงซะขนาดนั้น
แต่...แต่ทำไมไม่มีใครทำให้เรารู้สึกใจเต้นกระตุกขึ้นมาได้แบบตอนนัตตี้อยู่ใกล้ปอก็ไม่รู้สิ
ปอสำหรับเราแล้ว เป็นเด็กผู้ชายที่เป็นผู้ชาย โตกว่าอายุโดยเฉพาะทางความคิดและวิธีจัดการตัวเอง
คงเพราะน้องต้องดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็ก
อย่างที่เราเคยรู้สึกกับปอมาตั้งแต่ที่ปอเล่าเรื่องการผจญภัยตอนออดิชั่นนั่นแล้ว
ปอเป็นเด็กประเภทถ้าเรามีลูก ก็อยากให้ลูกตัวเองเข้มแข็งได้แบบนี้
ในโลกโหดร้ายใบนี้ เราคงไม่ห่วงอะไรมากมายถ้าต้องปล่อยมือให้เขาก้าวเดินด้วยตัวเอง
และถ้าเผื่อเกิดอะไรไม่คาดฝันเราคงตายตาหลับว่าลูกเราสามารถเอาตัวเองรอดได้ (...คิดไปถึงไหนวะเนี่ย~)
ซึ่งเราว่าความเข้มแข็งในหัวใจของปอนั้น
คงส่งออกมาให้เด็กโหยหาความมั่นคงอย่างนัตตี้รู้สึกได้
นัตตี้ถึงได้ถูกดึงดูดเข้าหาปอมาตั้งแต่แรก เป็นผู้ชายคนแรกที่นัตตี้ตามติดแจด้วยรู้สึกถึงความปลอดภัย
พี่สาวคนที่เราอ้างถึงเขาถึงแทบตายกับภาพบางภาพที่เขาเห็นมาโดยตลอดตั้งแต่วันแรก
มือที่จับกันไว้ ใบหน้าเอียงเข้าหากัน ใบหน้าเล็กๆซบลงบนเข่า
แขนจ้อยร่อยรวบกอด ตัวเล็กๆซุกอยู่กลางแผ่นอกโดยแขนแข็งแรงอีกคู่รวบกอดไว้จนแน่น
มือน้อยๆลูบสัมผัสใบหน้าโดยอีกฝ่ายยอมแต่โดยดี
ทำเอาเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในทันควัน
ซึ่งตัวเราก็ได้แต่แย้ง นัตตี้ก็เป็นแบบนั้น เด็กมันนึกว่าเป็นน้องชายหรือเปล่า เห็นเป็น...หรือเปล่า?!
หาข้ออ้างให้ตัวเองสารพัด เพื่อต่างจะได้ไม่ถลำลงลึก
นัตตี้น่ะอ่านปอออกเกินกว่าที่เราคาด
น้องน้อยบอกว่าพี่ปอน่ากลัว พี่ปอเจ้าชู้
ไม่ว่าจากครั้งไหนที่นัตตี้พูดออกมา
เราก็อดหัวเราะตามไม่ได้...ในใจก็คิด...ใช้ได้นี่อีหนู
คนเรามักนึกในแง่ลบกับคำว่า น่ากลัวและเจ้าชู้
โดยมักลืมไปว่ามันก็มีความเป็นแง่ชวนระทึกในคำเหล่านี้ตามมาด้วยเหมือนกัน
ผู้ชายประเภทที่ทั้งน่ากลัวและเจ้าชู้ ก็ผู้ชายที่มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามมากๆนั่นล่ะ
มันตรงกับสำนวนทางภาษากับคำว่า dangerous guy
ซึ่งมีแรงดึงดูดทางเพศสูง ดึงให้คนเข้าหาโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ(อยากเทียบกับที่รัก; im Chuck Bass
)
ผู้ชายที่ไม่มีวันจืดจนชืด ราบจนเรียบ แต่กลับมีเสน่ห์บางอย่างชวนหลงใหล...น่านล่ะ
คงคุ้นเคยกับการบอกเลิกด้วยข้ออ้างที่ว่า เธอดีเกินไป จากทั้งฝ่ายหญิงและชาย
คนถูกบอกก็ได้แต่งงเป็นไก่...ไก่ตาแตก
ได้แต่ย้อนถาม(ในใจ)ว่า ชอบคนเลวหรือไงวะ
ความจริงก็มีคำอธิบายง่ายดายแค่...
คนคนนั้นไม่อาจทำให้หัวใจเราเต้นไม่เป็นจังหวะได้
งั้นสรุปให้ไหม...
ปอน่ะเป็นผู้ชายประเภทที่ทำให้ผู้หญิงอยู่ใกล้ใจเต้นตึกตักได้อย่างไรล่ะ
ไม่อยากนึกว่าเมื่อปอโตเท่าพี่น้ำแข็งละก็นะ...
น้ำแข็งน่ะยังไม่มีความ dangerous อย่างที่ปอเป็นเลยนะ
พี่คนที่เราพูดถึงนี่เขาแทบตายตอนได้ยินปอพูดว่า คุยกับนัตตี้แล้วอารมณ์เสีย ครั้งแรก
เราเองก็ได้แต่ปลอบใจว่า เราไม่รู้บริบทของเรื่องราว อย่าเพิ่งไปด่วนสรุป
พอออกจากปากปอครั้งที่สองตอนคุยกับครูปุ้ม
พี่เขาก็อกหักแทนนัตตี้ทันที ฟาดงวงฟาดงาไปหลายดอกเวลามีเรื่องปอมาคุยกัน
เราก็ได้แต่เตือนว่า พี่อย่าไปอกหักแทนเด็ก เมล็ดพันธ์แค่ฝังตัวยังไม่ทันงอกเลยพี่ โดนกระทืบจมดินซะลึกแบบนี้ก็ดีกว่าแตกหน่องอกงามแล้วโดนหักทิ้งนะ
ความจริงเราก็ปลอบพี่เขาไป โดยปลอบตัวเองไปด้วยนั่นล่ะ
ไม่ถึงขั้นอกหักหรอกปอเอ๊ย...พี่แค่เสียดายน่ะ เสียดายเพราะนัตตี้กับปอสองคนเคมีมันตรงกันมากมาย
แรกเห็นทีไร พี่งี้ยิ้มจนแก้มปริ เล็บจิกจนเนื้อจะฉีก
หลังจากนั้น...เราก็มาทำความรู้จักกับคำว่า อารมณ์เสีย ของปอ
เราไม่เคยสังเกตมาก่อนหน้านี้ เพิ่งมาจับได้ตอนหลังจากนั้น
ปรากฏว่าคำว่าอารมณ์เสียของปอ มันคือคำพูดติดปากที่เรามักได้ยินปอพูดถึงในหลายครั้งหลายสถานการณ์
อย่างเวลามีอะไรแล้วปอบอกว่า ไม่อยากพูด พูดแล้วจะอารมณ์เสีย...ประมาณนั้น
อาจเป็นแค่การคิดฝ่ายเดียวของตัวเองก็ได้ว่า
เหมือนตัวเองพูดคำว่า ไม่ชอบ ไม่ล่ะ...อะไรเทือกๆนั้น โดยไม่ได้มีความหมายขั้นจริงจัง ติดลบอะไร
...นี่พี่เข้าข้างปอมากไปไหมเนี่ย
แรกๆที่พี่สาวคนนี้เขาหลงรักเด็กสองคนนี้มากมาย
พอเขาถามความเห็นเราที่มีเด็กสองคนนี้มีต่อกัน ว่าพอจะมีหวังไหม
(โปรดเข้าใจว่ามันเป็น หวัง ของคนชอบจิ้นนะ)
คำตอบของเราก็คือ เราว่าเด็กสองคนนี้ยังไม่รู้ตัวหรอกว่าไอ้แรงดึงดูดที่ต่างคนต่างดึงเข้าหากันน่ะมันมีความหมายอะไร
มันอาจเป็นแค่ความอ่อนโยน การถูกอกถูกใจบางอย่าง การตามใจหรือแค่สบายใจเวลาอยู่ใกล้กัน
รับรองได้เลยว่ามันยังไม่ลงลึกไปถึงแม้แต่การชอบพอกันระหว่างชายหญิงด้วยซ้ำ
เราก็ได้แต่บอกค่อยๆเป็นพี่เป็นน้องกันแบบนี้ไปก่อนล่ะ แล้วถ้าใช่มันก็ใช่เองล่ะ
คนเฝ้ารอแค่ขอเห็นภาพเด็กสองคนเขยิบมาใกล้กัน หัวชิดกัน กระซิบกระซาบกัน
ขอแค่นี้เอง~
แต่...ไม่นึกเล้ย...อกหักกันเป็นทิวแถว...ไอ้คนบรรดาเฝ้ารอเฝ้าลุ้นนั่นน่ะ
พี่ก็บอกแล้วให้รีบๆจบเรื่องดราม่าซะ นี่เล่นยืดมาหลายเอพิโซดแบบนี้ โรแมนติกก็ไม่รอท่าสิไอ้น้อง
.
.
.
.
.
เคยดูหนังเรื่อง โลลิต้า
เป็นเรื่องราวความลุ่มหลง ความใคร่ระหว่างเด็กผู้หญิงยังไม่เต็มสาวกับหนุ่มใหญ่วัยกลางคน
(ไม่ขอลงลึกเรื่องจิตวิทยาที่ผู้แต่งนวนิยายเรื่องนี้ตั้งแกนไว้
...บอกแค่ใครชอบศึกษาเรื่องประเภทนี้น่าจะลองหาอ่านดู ผู้แต่งใช้ภาษาได้บาดศีลธรรมจนสมัยนั้นถึงกับแบนนวนิยายเรื่องนี้ทีเดียว)
ผู้แสดงเป็นโลลิต้านั้น เป็นสาวน้อยที่รวมความสวยกับความน่ารักอย่างลงตัว
แต่ที่เหนือกว่านั้นคือในความใสบริสุทธิ์ดั่งเด็กน้อยนั่น กลับมีเสน่ห์ของหญิงสาวฉายออกมาอย่างจับตา
โลลิต้านั้นเป็นเด็กสาวที่ขาดความอบอุ่นจากครอบครัว เธอจึงติดกับกับความรักที่หยิบยื่นมาให้อย่างง่ายดาย
ทั้งๆที่หนุ่มใหญ่นั้นห่างไกลคำว่าหนุ่มหล่อทรงเสน่ห์
เป็นเพียงแค่หนุ่มวัยกลางคนหน้าตาธรรมดา จืดชืด ไร้ซึ่งเสน่ห์ดึงดูดทางเพศ รูปร่างผอมกะหร่อง ไม่มั่นใจในตัวเอง
การที่ตัวหนังกำหนดนักแสดงของฝ่ายชายไว้เช่นนี้
มันแสดงให้เห็นความเป็นจริงเรื่องหนึ่งของชีวิตว่า ไม่ใช่ว่าคนเราจะติดกับในสิ่งสวยงามภายนอกเสมอไป
เสน่ห์ของคนเราก็ใช่ขึ้นกับรูปร่างหน้าตา
สิ่งที่โลลิต้าติดกับนั้นอาจคือความเข้าใจที่ฝ่ายชายมอบให้
บางคนถึงกับมองลึกไปว่า เป็นฝ่ายชายต่างหากที่ติดกับฝ่ายหญิง
เด็กสาวยั่วยวนเพื่อจะ ได้ ในสิ่งที่เธอต้องการ เธอหลอกล่อจนฝ่ายชายลุ่มหลงทั้งๆที่ประสบการณ์ด้วยอายุของเขาอาจมากกว่ามาก
การเดินทางนั้นแท้จริงแล้วทำตามความต้องการของใครกันแน่
เกิดมาจากมารยาของผู้หญิง ความมืดบอดทางอารมณ์ของฝ่ายชาย มากกว่าเป็นเรื่องความไร้เดียงสาที่ถูกล่อลวง
เด็กสาวคนนั้นก็ต้องการเพียงที่ยึดเหนี่ยว
เธอต้องการสิ่งที่เป็นของเธอทั้งหมดสักครั้งในชีวิต ได้ครอบครองความรักมากมายของคนหนึ่งคน
เธอ รัก ความรู้สึกที่ถูกรัก
.
.
.
.
.
.
.
เด็กแบบนัตตี้น่ะไม่เหมาะกับเด็กผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกันหรอก
น้องน่ะเป็นเด็กที่ต้องการความรักและความเข้าใจเยอะมากเป็นพิเศษ
เด็กสาวแบบนี้น่ะเหมาะกับผู้ชายอายุมากกว่าเป็นสิบปี และมีพร้อมด้วยความอดทนเป็นพื้นฐาน
ถึงจะเอานัตตี้อยู่
และ...
น้องสิบห้าเอง!
ยังมีเวลาอีกสิบปีในการปรับตัว ปรับบุคลิก เติบโตทางความคิด
รวมทั้ง
รูปร่างหน้าตา
ให้ทายไหมล่ะ เด็กน้อยคนนี้ของเราพอเป็นสาวเต็มตัว
หน้าเต็ม รูปร่างเต็ม(แม้จะคงไม่สูงไปกว่านี้ก็เถอะ) จะสวยจนหาตัวจับยากคนนึงเลยล่ะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมั่นใจในตัวเองมากกว่านี้
อาการหลังโก่งเพื่อปกปิด...การซ่อนรูปของเจ้าตัว...ก็จะหายไป
น้องก็จะยิ่งเป็นที่จับตามองของหนุ่มๆอีกเยอะกับบุคลิกโหยหาความรักแบบนี้ล่ะ
เพราะฉะนั้นหยุดอกหัก(แทนเด็ก)เถอะ
ตัวเด็กเองยังไม่รู้สึกรู้สาไปกับคนดูสักกะติ๊ดเล้ยพี่ก็...
ก่อนจบเรื่องราว...
ตัวเราน่ะเก็บภาพหนึ่งภาพระหว่างปอกับนัตตี้เอาไว้
ภาพภาพนี้ทำเอาเราใจเต้นรัวตึกตักเพียงแค่นึกถึง
จำได้ว่าตัวเองถึงกับกัดริมฝีปากจนแทบห้อเลือด ณ เวลานั่งมอง
กล้องจับภาพกว้างมุมบนในห้องอาหาร
มุมหนึ่งของภาพเป็นเด็กคู่หนึ่ง โดยเพื่อนที่เหลือคุยกันระงมตรงโต๊ะอาหาร
เด็กผู้ชายเปิดประตูตู้แช่ค้างเอาไว้ โดยมีสาวน้อยค่อยๆวางมือตัวเองลงบนมือของอีกฝ่าย
ตัวเล็กแหงนมองคุยอะไรบางอย่าง ฝ่ายชายก้มหน้าลง ยิ้มแล้วพยักหน้าตาม
เหมือนกับว่าโลกทั้งใบนั้นมีเพียงแค่เราสองคน
อบอุ่นด้วยบรรยากาศ อบอุ่นทั่วความรู้สึก
ณ ตรงนั้น อาจไม่มีอะไรมากมาย
แต่ไม่รู้ทำไม...ภาพภาพนั้นกลับติดอยู่ในใจเรามาโดยตลอด
ความรู้สึกเขินจนต้องอมยิ้ม เราก็ยังจำได้จนวันนี้ที่เหตุการณ์มันแปรเปลี่ยนไปแล้วโดยสิ้นเชิง
.
.
.
.
.
ยิ่งอยู่ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย ภาพเบื้องหน้าเลือนรางราวกับอยู่ในความฝัน
ความเงียบจนชวนเหงาแบบนี้ยิ่งทำให้โรแมนติกยิ่งกว่าเคย
.
.
.
เราชอบเดินทางเมื่อเวลาของฝนเดินทางมาถึง
บรรยากาศที่ได้รับจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
หนทางดูสงบเงียบ ผู้คนดูสงบนิ่ง
เราจับเรื่องราวได้ลึกในที่ลับสายตาของผู้คน
กลิ่นดินโชยจางจากสายฝน มักเรียกอดีตกลับมาทักทายได้งดงามในตัวมันเอง
...ลองปันเวลา สัมผัสดูด้วยตัวเองสักครั้งสิคะ
กลับมาพร้อมรับข่าวโจทย์ใหม่ของวีคนี้
ชะตาบางอย่างก็เล่นตลกกับคนเราเสมอ
Create Date : 16 สิงหาคม 2553
Last Update : 16 สิงหาคม 2553 16:13:16 น.
4 comments
Counter : 587 Pageviews.
Share
Tweet
หัวเราะก่อนตอบ รู้สึกโดดพาดพุง คิคิ
กลับมาซะที ก่อนเราจะอกแตกตาย 555
ในที่สุดโลลิน้อยของพวกเราก็พาตัวเองมาถึงวีคเพลงคู่จนได้
แล้วที่เราเคยคิดไว้ล่วงหน้าว่าใช่ไม่ใช่ จะดีหรอ
วีคที่พวกเรามีเรื่องเม๊าส์เด็กกันสนุกที่สุด
ทีขำกว่า ไม่รู้ว่ารู้รึยังว่า เด็กมันคู่กันจนได้ ฮ่าฮ่าฮ่า
คิดถึงจ้า
โดย: puie (
papasea
) วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:17:46:17 น.
Welcome back นะคะ
... ไม่เคยรู้มาก่อนเลย
... มิน่า อีกคนที่ดูออก จึงออกอาการเขม่นกัน
... (หรือเปล่าคะ) หรือเราคิดมากไป
อิอิ
วีคนี้ตั้งใจดูคู่นี้ดีกว่า
เล่ามาซะโรแมนติกเชียว หุหุ ป้าชอบ
โดย:
for Family
วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:17:47:45 น.
hahaha
ปีนี้เชียร์กันคนละขั้วเลย
โดย:
NaNongPloy
วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:9:55:24 น.
แน่ๆๆ น้องปอ ก็ดึงดูดพี่คนนี้เหมือนกันค่ะ 555+
โดย:
บางส้มเปรี้ยว
วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:13:46:46 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
Quaver
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [
?
]
เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ
artists
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add Quaver's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
กลับมาซะที ก่อนเราจะอกแตกตาย 555
ในที่สุดโลลิน้อยของพวกเราก็พาตัวเองมาถึงวีคเพลงคู่จนได้
แล้วที่เราเคยคิดไว้ล่วงหน้าว่าใช่ไม่ใช่ จะดีหรอ
วีคที่พวกเรามีเรื่องเม๊าส์เด็กกันสนุกที่สุด
ทีขำกว่า ไม่รู้ว่ารู้รึยังว่า เด็กมันคู่กันจนได้ ฮ่าฮ่าฮ่า
คิดถึงจ้า