Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
3 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
โต๊ะอาหารวีคที่ 10 กับห้าที่รอด



เย็นวันจันทร์
เป็นอีกครั้งที่สองหนุ่มอย่างที-แม็ค เสร็จสิ้นภารกิจในห้องน้ำก่อนสาวๆ
ก็...ลองฟังว่าตอนอยู่กันสองคนกับอาหารจำพวกข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่าง พวกเขาจะคุยอะไรกัน


“ปกติเวลากินไก่ ทีชอบกินส่วนไหนมากสุด” แม็คเริ่มเปิดประเด็นรสนิยมอาหารการกิน
ทีหันมองไปมา ขบคิดอย่างจริงจัง(กว่าคุณพี่จะตอบคำถามง่ายๆธรรมดาสามัญ...)
“ไม่น่องก็...จริงๆไม่มีส่วนไหน...” ทีงึมงำตอบมาอย่างไม่แน่ใจ
แม็คใจร้อน...รอนานไปเพื่อนทีไม่ตอบสักที สวนถามไปอีกว่า
“เป็นส่วนแรกที่หยิบอ่ะ”
“อาจจะเป็นน่อง” คราวนี้ทีตอบทันใจไม่ปล่อยให้ต้องรอ
“แม็คชอบอันนี้ว่ะ” แม็คเขี่ยๆส่วนไหนสักส่วนตรงจานไก่ย่าง “สะโพกหรือเปล่า! ใช่ป่ะ...หรืออก?”


...แม็คครับ น้องทำให้พี่วูบไปแว้บอ่ะ ‘สะโพกกับอก’ไก่...รูปร่างภายนอกมันเป็นไงหวา~?? มันเหมือนกันจนแยกแยะไม่ออกเลยรึ?!



“เราชอบหนังไก่...จริงๆแล้ว” หนุ่มผู้กังวลกับตัวเลขน้ำหนักทุกครั้งที่ต้องชั่งอย่างทีออกปาก “ชอบกินหนังไก่ที่สุด”
“เหมือนพี่เราเลย พี่เราชอบกินหนังไก่” แม็คบอก
“เป็นส่วนที่อร่อยมาก” ทีบอกกลั้วหัวเราะ “ส่วนอื่นก็แล้วแต่...น่องก็นุ่มดี”
“อย่างงี้ทีก็ต้องชอบกินหมูกรอบด้วยดิ” แม็คตั้งข้อสังเกต
“โอ้ว...แน่นอน” ทียอมรับ
“ถ้าเกิด...คนที่ชอบกินหนังไก่ก็ต้องชอบกินหมูกรอบ” แม็คย้ำ
“ชอบกินคากิมาก มาหมดเลย” ทีรับสภาพ
“ข้าวขาหมูก็ชอบกินหนังใช่เปล่า”
“หนังก็กิน ชอบกินหนัง”
“เข้าใจฟิล...นึกฟิลออก” แม็คเริ่มเข้าใจความเป็นทีมากขึ้น


แล้วอย่านึกว่าแม็คจะจบบทสนทนาง่ายๆนะ

“แล้วจะเป็นคนชอบกินของทอดด้วย” แม็คตั้งข้อสังเกตต่อเนื่อง “ใช่เปล่า?”
“เช่น?” ทีขอถามก่อนตอบ
“เช่นหนังไก่ทอด”
“นิดหน่อยว่ะ อันนั้นเราไม่กินเยอะ เพราะมัน...มัน กินบ้าง” ทีตอบ

...ขอแซวเหอะว้า~ หนังไก่น่ะไม่ว่าจะต้มทอดปิ้งย่าง มัน ‘มัน’ ตัวพ่อทั้งนั้นล่ะทีเอ๊ย




“อดใจบ่ไหว...เป็บซี่แม็กซ์” แม็คออกปากมาพร้อมลุกขึ้น
ทีหันขวับเหมือนรอมานาน แล้วก็...ตาม(ที)เคย
“กินหมดป่ะ?” ทีพูดเหมือนเป็นคำถามที่หาใช่คำถามไม่
และแม็คก็หัวเราะสวนมาอย่างรู้ทัน



ทีอย่างงี้ประจำ แม็คโดนบ่อยจนรู้ตัว
ไม่ว่าจะเป็นทีเองที่เริ่มก่อน หรือแม็คเริ่ม ผลลัพธ์อย่างเดิมเป๊ะ~!
...ไอ้การแบ่งเป็บซี่กันนี่นะ
พี่เองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ะ ว่าทำไมต้องแบ่ง
จะว่ากลัวอ้วนหรือกลัวปริมาณความหวานในน้ำอัดลม...มันก็ชวนแทม่งมาก
มันเป็บซี่ ‘แม็กซ์’ แล้วนะวะทีเอ๊ย

แล้วพอแบ่งกันนะ คนที่แบ่งให้ปริมาณเท่ากันระหว่างแก้วกับกระป๋องก็มีอยู่คนเดียว เทียบแล้วเทียบอีก ที่ไม่รู้ว่าเทียบได้ไง เพราะสัดส่วนในกระป๋อง ส่องขนาดไหนมันก็มองไม่เห็น
แล้วไม่ว่าทีจะเป็นคนหยิบ หรือแม็คเป็นคนหยิบกระป๋องก็ตาม แต่คนที่ได้ดื่มจากแก้วแชมเปญนั่น
ต้องเป็นทีเท่านั้น!

...เทียบไปเทียบมา
ใครคุณชายกว่ากัน...มันเห็นๆ



“ได้~แบ่งกันดิ” คำตอบแบบรู้ทันจากแม็ค
“กินไม่หมดแบ่งได้” ทีออกตัว
“ไอ้หมดน่ะมันหมด” แม็คตอบอย่างอารมณ์ดี “แต่แบ่งกับเพื่อนก็ด้ายยยย” แล้วตบท้าย “กินด้วยกันอร่อยดี”

แม็คพูดไปดินไปหยิบแก้วใบโปรดเพื่อนให้เสร็จสรรพ ก่อนหยิบกระป๋องเป็บซี่
พอมาถึงโต๊ะ ก็หมอบหมายหน้าที่(โปรด)ให้ที
“อ๊ะ~เทเลย”
ทีรู้หน้าที่ เปิดกระป๋อง เท ส่องวัดปริมาณ เทียบสัดส่วน ยื่นส่งประป๋องให้เพื่อน


หมดเรื่องทำความรู้จักกันให้มากขึ้นไปแล้ว
หัวข้อวิชาการทางการขอเริ่มต้นบ้าง....


“เดี๋ยววันนี้ต้องเก็บเนื้อเก็บเพลงให้เสร็จ ว่างั้นเหอะ” ทีเริ่ม “พวกเรื่องเนื้อ เมโลดี้อะไรอย่างนี้”
“ถูก!” แม็คเห็นด้วยเต็มที่ “ถ้าเป็นไปได้เก็บเนื้อให้ได้หมด...ใช่เปล่า แล้วเริ่มฟังเพลงน้อง แล้วคิดได้แล้วว่าท่าเต้นคืออะไร พรุ่งนี้จะได้ไปคุยกับน้องต่อได้”
“คือวันนี้เราจะเก็บเพลงตัวเองให้เสร็จ ส่วนของเรื่องการร้อง...ให้มันขึ้นใจอ่ะ” หนุ่มผู้ขอให้ซานิมั่นใจในการคิดท่าให้ของตนวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน “ถ้ามีเวลาเหลือก็จะฟังเพลงของซานิ เรื่องท่าเต้นนี่......” หนุ่มทีหยุดไปนานกว่าจะยอมบอกความรู้สึกคับข้องในใจออกมา “ต้องใช้เวลา เกิดมาไม่เคยคิดท่าเต้นเลย”



“มีส้มตำไทยปูด้วยเหรอ” แม็คถามอย่างสงสัยหลังจากจ้องเมนูอยู่นาน
“นี่ไง!” ทีพยักหน้าบอก แต่พอแม็คส่งเสียงขัดขึ้น ทีเลยชี้แล้วถาม “อันนี้หรือว่าอันนี้”
“เฮ้ย!อันนั้นไม่ใช่ส้มตำ”
“อันนี้คือส้มตำใช่เปล่า” ทีชี้
“อื๋อ~อันนี้ไข่เค็ม” แม็คทำเสียงปฏิเศษ




.

..เอ่อ ตกลงสองหนุ่มนี่รู้จักใช่ไหม....ไอ้ส้มตำเนี่ย
ขอเอาภาพจานอาหารใบที่ทีป์ชลิตชี้ละกัน
ห้องคอนโทรลเค้าอุตส่าห์ซูมให้หลังจากสองหนุ่มนี้ขบปัญหานี้กัน





ปัญหาทีป์ชลิตยังไม่จบ
“แล้วแกงอ่อมคืออันไหนอ่ะ” หนุ่มล้านนาถาม
...สาวเหนืออย่างพี่ร้องโอ๊ทส์~ตาม...ไม่รู้จักหน้าตาแกงอ่อมรึไอ้น้อง...!
“อันโน้น” หนุ่มบางกอกเป็นคนตอบพร้อมถาม “ทีไม่กินเหรอ”
“ไม่” ทีอุบอิบเสียงอ่อย
“เผ็ดใช่เปล่า” แม็คเข้าใจ
“เผ็ด” ทียอมรับ


...มีทุกซีซั่น หนุ่มกินเผ็ดไม่ได้


ทีป์ชลิตเมียงมองวีรดลย์โซ้ยอยู่นานใช้อดใจไม่ไหว ถามขึ้น
“ส้มตำเป็นไงมั่ง”
“อร่อย” แม็คขยายความอย่างเข้าใจ “ไม่เผ็ดเลย”
“เหรอ” ทีก็เลยยอมตักมาชิมบ้าง ด้วยไว้ใจใบรับประกันของเพื่อน



แม็คเปิดประเด็นเรื่องทางบ้าน หลังจากตะโกนถามผ่านหน้าจอว่าทางบ้านทานข้าวกันหรือยัง
แล้วย้อนมาถามทีว่า
“ปกติบ้านเราเขาจะกินข้าวไปดูทีวีไป แล้วบ้านทีดูป่ะ”
“ไม่”
“เวลากินข้าวไม่ดูทีวีเหรอ”
“เพราะว่าทีวีมันอยู่อีกห้องนึง” ทีอธิบายเหตุผลเพิ่มหลังจากเห็นว่าแม็คดูจะแปลกใจกับคำตอบที่แตกต่าง


เงียบไปอีกพัก

ทีขอเริ่มบทสนทนาบ้าง
“แต่คิดถึงไข่เจียวฝีมือคุณยาย”
“ใส่หมูสับด้วยหรือเปล่า” หนุ่มคล่องสังคมกว่าต่อบทสนทนาให้
“ไม่ใส่ ไข่เจียวธรรมดา ไข่เจียวที่แบบ...ไม่สุกมากอ่ะ”
“ฟังดูน่ากินเนอะ”
“ไข่เจียวที่มันไม่สุกมาก ที่มันเหลืองอ่อนอ่ะ แบบเพิ่งขึ้นจากกระทะ อารมณ์แบบประมาณแค่แป็บเดียวอ่ะ”
“เหมือนไข่คนป่ะ” แม็คพยายามนึกให้
“ไข่คน?! ไม่เละขนาดนั้น ไข่คนมันจะเละหน่อย” ทีพยายามอธิบายตอบ “มันจะไข่เจียวแบบ เทปู๊บบบบ เอาลงแป็บเดียว ประมาณสักนาทีเดียวแล้วขึ้นเลย”
“เหมือนกึ่งออมเล็ตป๊ะล่ะ...ถ้าอย่างนั้น มันจะไม่ฟูด้วยใช่ป่ะ ถ้าอย่างงั้น” แม็คพยายามเพิ่ม
“ไม่ฟู”
“แล้ววางบนข้าว โปะบนข้าวเลย”
“แค่นั้นล่ะ ไข่เจียว”


เคยไหม...แบบว่าลุ้นเวลานั่งฟังคนเค้าพูดคุยกันน่ะ
ว่า...มันจะไปรอดไหมว้า~!?
แบบไม่ใครก็ใครสักอ่ะ...ต้องทำงานกร่อย หรือไม่ก็ล่มใบเรือ(กร๊ากกกก)
ทีน่ะเป็นคนที่ให้ความรู้สึกคล้ายๆแบบนี้ล่ะ ก็รู้อยู่ล่ะว่าเขาไม่ได้มีอะไร ไม่ได้จงใจ แต่ลุ้นมากกกกเวลาคุยกับใครน่ะ
ลุ้นขนาดใจหายใจคว่ำ จนถึงกับต้องถอนหายใจเฮือกเวลามันราบรื่นไปได้ด้วยดี

ต่างจากแม็ค
แม็คนี่เราจะฟังแบบสบายๆไม่เคยต้องลุ้น ทุกอย่างมัน...ขอยื้มสโลแกนการบินไทย ‘smooth as silk’





มะ...มาคุยเรื่อง ‘ไข่เจียว’กันต่อ


“แล้วใส่ซีอิ๊วหรือว่าราดซอส” แม็คถามต่อ
แต่...ทีไม่ได้ฟัง กำลังติดพันความคิดในหัวตัวเอง
“บ้านเราเค้าเรียก ‘ไข่เอ๊าะเอ๊าะ’” หนุ่มเจียงใหม่บอกสวนขึ้นมา
“ไข่เอ๊าะเอ๊าะเหรอ” แม็คตามน้ำ (เก่งอ่ะ...เก่ง)
“เอ๊าะเอ๊าะ เกือบสดสดเลย” ทีเพิ่มอย่างติดตลก
“ถ้ามีโอกาสแม็คอยากทำให้กินว่ะ” เชฟแม็คขอนำเสนอ “ไข่คนหมูหยอง สูตรเด็ดที่เราชอบมาก”
“เหรอ ไข่คนหมูหยอง”


ไข่เจียวของสองหนุ่มยังไม่จบ

“แค่ไข่เจียวก็...แตกต่างกันแล้ว แต่ละคนทำ” ทีตั้งข้อสังเกต แล้วขอบ้าง “เราก็ทำใช้ได้นะ ไข่เจียวอ่ะ” แล้วสารภาพเสียงอ่อยตามมา “เป็นอาหารไม่กี่อย่างที่ทำเป็น ก็มีไข่ดาวไข่เจียว”

เพื่อนทีสารภาพความจริงไป
แล้วเพื่อนแม็คจะตอบโต้อย่างไร?
...ความคาดไม่ถึง มีให้เห็นได้เสมอ

“เราก็ทำง่ายๆว่ะ” แม็คพูดเสียงนิ่ม “ทำแบบแนวก๋วยจั๊บ ลาดหน้า...อะไรอย่างงี้” แม็คยังไม่หยุดความ ‘ง่าย’ ปิดด้วย “หูฉลาม”
“โห~” ทีผงะกับคำตอบกวนติฟของเพื่อน แต่ยังทันอยู่ “ซื้อมาแล้วก็ฟันถุงเอาเหรอ”
“ล้อเล่น” แม็คหัวเราะ “ทำเป็นแต่อย่างงั้นล่ะ ไข่เจียว ไข่คน ผัดกะเพรา หมูกระเทียม...อะไรอย่างงี้”


รับรู้ความชอบของหนุ่มทีไปแล้ว มาสู่ความชอบของหนุ่มแม็คกันบ้าง

“สองสิ่งเบสิคในชีวิตเรา ไม่สั่งข้าวหมูกระเทียมพริกไทยไข่ดาว ก็ผัดกระเพราหมูสับไข่ดาว”
เล่าไป จู่ๆหนุ่มแมคก็หยุด...แล้วขำอะไรสักอย่างที่พุ่งเข้ามาในสมองเดี๋ยวนั้น
“มีครั้งหนึ่งให้พี่ในบ้านไปสั่งให้ แม็คสั่งข้าวกะเพราหมูกุ้ง” แม็คเล่าไปตลกตัวเองไป
“หมูกุ้ง?” ทีทวนตาม
“เขาก็งงกัน หมูกุ้งไปด้วยกันได้ยังไง”
“มันก็เนื้อเหมือนกัน” ทีช่วยตอบแทนให้
“แล้วแม็คมีอีกสูตรเด็ดนึง คือข้าว...” แม็คพยายามนึก(ตกลงเรื่องของตัวเองแน่ใช่ไหมแม็ค... แซว แซว) “เอ๊ย~ไม่ใช่! มักกะโรนีกุ้งปลาหมึก มักกะโรนีกุ้งปลาหมึกใช่เปล่า...แล้วก็สั่งไก่ทอดมากินข้างๆ”
“อืม”
“สุดยอด”
สองหนุ่มพยักหน้ากันไปมา
“เราว่ามันอาจจะดูแตกต่าง แต่จริงๆแล้วมันก็ได้นะ” ทีเข้าข้างเพื่อน “อาจจะอยากกินอะไรที่มันแตกต่างพร้อมกัน”
“อืม”

...ประมวลความแล้ว ตกลงแม็คต้องชอบกินหมูคู่กับกุ้งจริงไหม


“ถ้าเมนูประจำเราก็ต้องเป็น ข้าวคะน้าหมูกรอบกับไข่ดาวด้วยนะ” ทีบอกบ้าง
“อาหารตามสั่งต้องมีไข่ดาวตลอดเนอะ” แม็คเห็นด้วย
“ใช่”
“ติดมากอ่ะ”


จบเรื่องไอ้หนุ่มไข่ดาวของสองหนุ่มไป



ทีเปลี่ยนเรื่องบ้าง



“เคล็ดลับของการคิดท่าเต้นคืออะไรอ่ะ” ทีถาม
“เคล็ดลับเหรอ” แม็คผู้เต้นได้อักเสบพอกันนึกแล้วตอบ “ต้องรู้สึกก่อนป่ะแล้วค่อยทำ”
ทีหลุดหัวเราะออกมาทันที
“ต่ะกี้แม็คเดินทั้งเพลง” ทีได้ทีแซวเพื่อนพร้อมติดสำเนียงบ้านคิงบ้านฮา
“แม็คไม่ได้รู้สึกไง” แม็ครีบแก้ตัว “จนมีบางท่าที่รู้สึกถึงทำ”


“อืม เราชอบท่าเนี่ยะ” ทีทำท่า(เอ่อ...)เลียนแบบ แล้วชม “มันโจ๊ะดีอ่ะ ฟิลอาทิตย์นี้คือโจ๊ะ เราต้องฝึกท่าโจ๊ะๆไว้ แต่มันจะเข้ากับเนื้อเพลงรึเปล่าอีกเรื่องนึง”
“ท่าไหนวะ” เจ้าของท่านึกไม่ออก
“ท่าท่อนฮุคอ่ะ” ทีชักไม่แน่ใจเมื่อเห็นแม็คทำท่านึกตามเต็มที่ เลยออกปาก “จำไม่ได้ว่ะ”
“มือข้างเดียว...อย่างงี้เหรอ” แม็คพยายามทบทวน
“มันมันอ่ะ” ทีทั้งอธิบายทั้งทำท่า “ที่แบบย่อเข่าด้วย ทำอย่างงี้ด้วย”
“อย่างงี้เหยอ” แม็คออกท่าทางตาม
“ประมาณนั้น”
“ไอ้ใหญ่ๆอ่ะเหรอ” แม็คย้ำเพื่อความแน่ใจ
“ที่ย่อเข่าด้วย ย่อแล้วแบบ...” ทีออกท่าทางตามเต็มที่ “อะไรอย่างงี้”
“เฮ้ย~ทำได้ทีเดียว ลืมไปแล้ว” แม็คสารภาพ
“น่าจะหัดไว้เนอะ” ทีเสียดายแทนเพื่อน “มีท่าดีดีโผล่มา”



...ตูว่าแล้ว ว่าหวยมันต้องออกมาแบบนี้
คนทำไม่ได้จำ คนจำไม่ได้ทำ



โต๊ะอาหารที่มีกันแค่สองหนุ่ม(ผู้รอด)
มันทำให้เกิดความรู้สึกโหวงเหวงบางประการ
จนต้อง...


“มะ...มาฉลอง” ทียกแก้ว
“เชียส!” แม็คยกกระป๋อง “แด่มิตรภาพ”
“บ้านขนาดนี้ ถ้าอยู่กันแค่คนสองคนต้องถือว่าเป็นคฤหาสน์เลยนะเนี่ย” ทีหมุนมองจนรอบ
“อืม” แม็คก็เห็นด้วยแล้วชักสงสัย “พื้นที่เท่าไรเนี่ย”
“ประมาณ สี่จุดแปด...48 เอเคอร์ จุดห้า” ทีกะประมาณกวนโอ้ย
“ไม่ใช่ป่า!” แม็คสวน “นั่นบ้านป่าละ”

~เริ่มทันกันละ


“จริงๆแล้วบ้านไม่จำเป็นต้องใหญ่เนอะ” ทีบอกความรู้สึก “แต่แค่ให้เหมาะสมกับจำนวนคนเท่านั้นเอง”
“อืม” แม็คยังกินอยู่(กินจุชะมัด!)
“บ้านใหญ่ขนาดนี้ ถ้าอยู่คนน้อยก็เหงา”
“ถูก!”



สองหนุ่มหายเหงาละ สาวๆทยอยกันมา

คู่หูคู่กัดคู่แรกเปิดฉาก....

“เป็นไงพี่ ฟังเพลงแล้วเป็นไง” ซานิถามคู่หูที่ต้องคิดท่าให้
“พี่ชอบ” ทีตอบ(คิดว่า)จริงใจ “เดี๋ยวพี่จะทำท่าลิงหงอคงให้” ทีทำท่าปล่อยพลัง “ท่านี้อ่ะ”
“ร้ายกว่าลิงอ่ะเหรอ” ซานิตามน้ำ “จะดีเหรอพี่”
“~ร้ายกว่าลิงหงอคง~” ทีร้องพร้อมท่า
“มีด้วยเหรอ คำว่าลิงหงอคง” แม็คชักสงสัย
“มี” ทีเน้นเสียงเข้มโทษน้อง “ก็ซานิบอก”
“บ้า!” ซานิชักตามน้ำตามทีไม่ไหว ขอแก้ “ลิงหนอคน”
“ก็พี่จะให้เปลี่ยนเนื้อด้วยไง” ทีกวนโอ้ยสุดๆ “ไม่ต้องไปตามเค้าไง”
“เป็นตัวของตัวเองดิ” แม็คตามเพื่อน
“ใช่ เป็นตัวของตัวเอง” วันนี้ทีร้ายมากกก ย้อนถามอีกว่า “พี่จะคิดให้ จะปฏิเศษเหรอ” พี่ชายจอมกวนกำหราบน้องสาวจอมดื้อด้วย “เดี๋ยวฟ้องครูเป็ดนะ”


กร๊ากกกกกกก
คู่นี้น่ะอย่างงี้ประจำ
สมแล้วที่ซานิออกปากว่าพี่ทีน่ะกวนสุดๆ
ทีเป็นคนเดียวในบ้านที่ซานิ...ต้องใช้คำนี้เลย...หือไม่ขึ้น แพ้ทางกันด้วยความอาวุโส
เวลาได้ยินซานิแทนตัวเองว่า “หนู” กับพี่ที ทีไร...มันน่ารักจริงๆอ่ะ
ซานิดูเป็นน้องส๊าว น้องสาว ที่ไม่เหลือคราบ ‘น้องชาย’ ให้เห็นเลยสักนิด




ทียังแกล้งไม่หนำใจ
“เดี๋ยวพี่จะออกแบบให้เป็นแนวซูเปอร์ฮีโร่...เพลงนี้” ทีกวนต่อเนื่อง “ท่าแปลงร่างหลายๆอย่างมาผสมกัน”
“พี่ทีจะเอาประสบการณ์การอ่านการ์ตูนของพี่ทีมาใช่เปล่า” แม็คตาม
“หนูชักไม่มั่นใจแล้วค่ะครูเป็ดขา” เจ้านิโอดผ่านอากาศ
“เดี๋ยวพี่จะเอาท่าเจ็ทแมน ท่า...” ทีขู่ต่อ
“เราเข้าใจฟิลว่ะ” แม็คแทคมือตามเพื่อนอีกรอบ “เฮ้ย!เดี๋ยวเราจะทำอย่างงั้นเหมือนกัน” แม็คก็มีเหยื่ออยู่ในมือไม่ต่างกัน “น้องแอน ดาวมหาลัยอ่ะ เอาไปเลย...ไรเดอร์ มดเอ็กซ์”


...เขาเรียกว่า ร้ายตามกัน haha


แล้วก็มีหนึ่งเด็กน้อย อยากเล่นด้วยตามพี่เขาบ้าง
มาดูกันเห๊อะ ว่าน้องจะเล่นได้ไหม....


“พี่แม็คคะ เดี๋ยวหนูอยากเปลี่ยนท่าพี่แม็คเป็นแบบ.....”
หนูซอลกะแกล้งพี่เขากับเขาบ้าง แต่เผอิญไม่ใช่ทางเลยหาทางไปไม่ค่อยจะถูก อ้ำอึ้งอยู่นานกว่า...หรือว่าก็หาทางไปเองยังไม่เป็นกันแน่หวา~?? ต่อท้ายตามมาด้วย
“อ่า...แนวแบบ...แนวแบบพี่ทีก็แล้วกันค่ะ จะได้ต่อจากพี่ที”
“ดีครับดี พี่ชอบ” แม็คใจดีกับน้องน้อย
กุญแจซอลหัวเราะอย่างถูกใจ
แล้วรีบแก้ “พูดเล่น หนูพูดเล่นพี่แม็ค”

...แถวบ้านพี่ อ่อนแบบนี้ต้องโดนเย้ยนะอีหนู ‘ไม่ใจเลยว่ะ!’
‘ใจ’ น่ะ ต้องอย่างพี่ซานิของหนูนี่ล่ะ





“พี่ว่าทำจริงเหอะ” ซานิเริ่มแปลงร่างเป็น ‘ตัวบ่าง’ “พี่หมั่นไส้แม็ค”
“อื้อ...ทำไมอ่ะ” แม็คอ้อนถามเสียงอ่อน
“ไม่รู้เหมือนกัน” หนูนิตวัดเสียงตอบ
“ทำมายอ๊ะ ทำมายต้องหมั่นไส้เราอ๊ะ” เด็กอนุบาลปีหนึ่งงอแงถาม
“เนี่ย! เนี่ยล่ะหมั่นไส้ตอนนี้” ซานิขว้างค้อนจนตากลับ


...คู่นี้ เคยคุยกันดีเกินหนึ่งนาทีบ้างไหมวะเนี่ย



หนูซอลชักมีปัญหากับตัวเอง
“พี่แม็คพี่ทีพี่แอน หนูหน้าขาวไปเปล่า” หนูซอลร้องขอความมั่นใจ(ผิดคนล่ะ...พี่ว่า)
“ขาว” พี่ทีจ้องอยู่นานก่อนตอบตามตรง
“มากเลยอ่ะ” พี่แม็คย้ำตาม
“หนูเผื่อไว้ก่อนไง เดี๋ยวต้านลมมันก็คลายไปเอง” หนูซอลมีข้ออ้างแทม่งๆ
“น้องจะไปเล่นเจ็ทสกีเหรอครับ” แม็คแซวน้อง
ทีหัวเราะรับคู่หู



หนูซอลหัวเราะจนจมูกย่น
แก้ตัวเสียงอ่อย “เดี๋ยวมันก็คลายไปเองพี่แม็ค” แล้วร้องขอ “พี่แม็คอย่าแซวสิ”
“อยู่บ้านจะมีลมอะไรเนี่ย” พี่แม็คตั้งข้อสังเกต
“มี” หนูซอลแก้ตัวน้ำใสแจ๋ว “เดี๋ยวคอยดูนะ นั่งไปเรื่อยๆเดี๋ยวมันก็เริ่มคลาย”

...หนูน้อย จะให้ใครคอยนั่งดูหน้าขาวๆของเราล่ะ
ฮิ้วววววว~ พี่แซวเอาใจพี่สาวคนนึงที่เค้าเป็นจิ้นเรนเจอร์(อีกแล้ว)




ขณะพี่ทีช่วยหนูแอนพูดเป็นภาษาเหนือคำว่า “ใครมีแฟนหลายใจบ้างคะ” เพื่อเอามาใช้กับเพลง จ๊างมันเต๊อะ
หนูซอลก็บอก
“พี่ทีคะ คุณพ่อหนูก็เป็นคนเหนือเหมือนกัน”
“จริงเหรอ” ทีแปลกใจ แล้วนึกได้ “ใช่ ใช่ เคยคุยกัน”

เจ้าหนูจำไมเริ่มต้นขึ้น
“พี่ทีคะ เบิ่งแปลว่าอะไรคะ”
“เบิ่งแปลว่าดูไง” ทีตอบ “แต่ภาษาเหนือเป็น ‘ผ่อ’ นะ ผ่อแปลว่าดู ถ้าเบิ่งนี่เป็นภาษาอื่น”
“เบิ่งเป็นภาษาเกาหลี” ซานิที่กลับจากตักอาหารพอดี แทรกขึ้น
“ภาษากีเหลาน่ะเหรอ” ทีย้อน





รบกวนพี่ทีเสร็จแล้ว คราวนี้ถึงคิวพี่ซานิบ้าง
“พี่ซานิ หนูลืมไปแล้ว คำว่าเบื่อเราใช้คำว่าอะไรนะ” หนูซอลพยายามชง
“เฝือ เฝือ” พี่ซานิรีบตบเอาใจ
“เฝือแปลว่าเบื่อ” หนูซอลพยายามอีกครั้ง “อะไรนะ...โมเสสแปลว่า”
“โพรเสส” ซานิกับแอนตะโกนแก้ให้พร้อมกันทีเดียว
“โพรเสส แปลว่า โครงสร้าง” ซอลพยายามแล้ว(พี่เข้าใจ)
“กระบวนการ!” พี่ซานิคำรามบอก
“หนูไม่ได้พูดมาสองวันลืมเลย” ซอลแก้ตัวเสียงอ่อย
...เด็กเอ๊ยเด็ก



...ขอเล่าย้อน วีคที่ผ่านมา
บนโต๊ะอาหารคล้ายวันนี้ ต่างตรงขาดไปหนึ่งคือนุกนิก
เมื่อซานิเปิดประเด็นด้วย...
“ฮิพฮอพเค้าจะพูดแบบเป็นโทนเดียว”
“เช่น” ทีชง
“เยเบเบพีทีกินไอติม” ฮิพฮอพสาวนิแร็พโย่ออกมา
“เอาใหม่ดิ๊” แอนขอ
“อย่าเล่นบ่อย เฝือ!” ซานิเล่นตัว
“เฝือแปลว่าเบื่อ” หนูซอลรอจังหวะเล่นด้วยอยู่นานมากขอแปล





แม็คก้มหน้าก้มตาทำอะไรสักอย่าง...บนตักตัวเอง
“แกะข้างบนดิ แกะข้างบน เดี๋ยวมันเป็นมุม” ซานิเย้าขึ้น
“มีความลับเหรอแม็ค แกะข้างบนดิ” ทีเล่นตาม
“กลัวมันเป็น ฉ ฉิ่ง กลัวเป็นมุม” ซานิเข้าใจมุมกล้อง


กร๊ากกก...ถ้ากล้องตัดอีกมุมนะ
อย่างคำหนูนิว่าล่ะ ฉ ฉิ่ง ขึ้นปั้ง!แทน ท ทหารอดทนแน่นอน
แม็คเล่นก้มกำและแกะ ‘ขวดน้ำดื่ม’ อย่างขะมักเขม้น
ภาพ(ในฟามคิด)มันชวนป๋วยปีแปกอมากเลยอ่ะ




“อันนี้...หกร้อยได้ขวดนึงใช่ไหมครับ” หนุ่มสุภ๊าพ สุภาพเริ่มบ้าง
“ไม่ใช่เด็กปั๊ม” ซานิแหวสุดเสียง
“ทำไมขวดเล็กจัง” ทีตั้งข้อสังเกต


ณ ปั๊มป่ามปั๊ม

“ห้าร้อยได้หนึ่งค่ะ” หนูนิเด็กปั๊มตอบเจ้าของรถ
“เอางี้พันนึงพี่ขอสองขวดได้ไหมน้อง” แม็คเจ้าของรถสุดหล่อขอต่อรอง(ประหลาดๆแบบเด็กตกเลขเป็นประจำ) “เติมบ่อยนะเนี่ย ที่เนี่ย”
“เอางี้พี่ออกไปซื้อข้างนอกดีกว่าค่ะ” หนูนิประชดกลับ(ตามประสาเด็กตกเลขมาด้วยกัน)





บทสนทนาบนโต๊ะอาหารย่างกรายมาสู่จุดอันตราย...ของหญิงสาว
ซึ่งคนเริ่ม...ไม่ใช่ใคร สาวน้อยเหม่งโก๊ะของพี่ๆนี่เอง


หนูซอลขยับไปนั่งกินมะม่วงอยู่คนเดียว
ในขณะพี่ๆกำลังกินของคาวอยู่
“ทำไมกินเร็วจัง พี่กินตั้งนานยังกินไม่เสร็จเลย” คำออกตัวแรกมาจากพี่ใหญ่สุดอย่างที
“โกรธ~ กุญแจซอลแซงอ่ะ” คำออกตัวสองปนแกล้งเจ็บใจออดๆจากปากพี่คนรองอย่างแม็ค

....สรุปสองหนุ่มกินล่วงหน้าสาวๆไปตั้งเกือบยี่สิบนาทีนั่นน่ะ
บ้านพี่เขามีคำเรียกนะ...


หนูซอลแก้ตัวว่า “หนูต้องรู้ว่าหนูอ้วน” แล้วรีบโบกมือปฏิเศษอย่างร้อนตัว “ไมได้ว่านะ หนูว่าหนูอ้วนแล้วไง หนูก็พอ”
“เจ้หนักเลยลูก” สาวร่างบางอย่างแอนก็กลุ้มเหมือนกัน
“แอนหนัก เจ้จะแตกอยู่แล้วนี่” ซานิปลง
“น้องแอนอ้วนหรือเปล่าครับ” พี่แม็คถามอย่างบริสุทธิ์ใจที่ขอสาบานว่าไม่มีซับเท็กซ์ใดใด
“อ้วนขึ้นค่ะ” แอนยอมรับแต่โดยดี
“พี่แม็ค แอนไม่เคยทำอะไรพี่แม็คเลยนะ” ซานิย้ำ
“พี่แม็ค...พี่แม็คกินพริก ‘เผ็ด’ อยู่แล้วใช่ไหมคะ” หนูแอนของขึ้นเพราะย้ำ “อยาก ‘เผ็ด’ กว่านั้นไหมคะ”
“ทำไงอ่ะ” ทีชง ‘เจื๋อน’ เพื่อน
“ไม่อยากครับ” พี่แม็คกลับรีบยอมง่ายดายเกินคาด
“อ้าว...แม็คกลัว” ทีปรามาสเพื่อนด้วยความเสียดายแทน “จบเลย”
“แล้วทำไมทีแอนกลัววะ” ซานิถามเหมือนไม่เข้าใจ
“คงเพราะน้องแอน ‘ฮอต’ กว่านั้นใช่ไหมครับ” พี่แม็คชม...หรือว่า?
“ไม่ใช่” แอนก็ยอม...เหมือนกัน


ประเด็นน้ำหนักยังไม่จบ แถมเปิดประเด็นคุณหมอกับกุญแจซอลได้อีก
คนเริ่มก็สาวน้อยคนเดิม(อีกแล้ว)

หนูซอลร้องบอกขึ้นมา ว่าวันนี้เราต้องเจอคุณหมอและต้องชั่งน้ำหนักกัน
ปฏิกิริยาโต้ตอบเป็นดังนี้...
“พี่ไม่ชั่ง! ไอ้แอนก็ไม่ชั่ง” ซานิสวน
“ไม่ชั่ง!” แอนส่ายหน้ายิก
“ปฏิเศษความจริง” แม็คปรามาส
“รับไม่ได้” แอนไม่เถียง
“พี่ซานิ พี่แอน พี่ที พี่แม็ค” กุญแจซอลเรียกจนครบคน
“นี่ต้องเรียกหมดเลยเหรอ” ซานิสะกิด “ดีนะที่มีกันห้าคนถ้ามียี่สิบนี่ตายเลย”
“ถ้ามีสิบสองคนครบ” แอนเสริมตาม

....น้องเค้าใส่ใจ น้องเค้าเอาใจใส่


หนูซอลไม่สนที่โดนแซว ความอยากเล่ามีมากกว่า
“มีครั้งนึงอ่ะ หนูไม่กล้าชั่งเหมือนกัน พอคุณหมอคุยกับคนไข้ใช่เปล่า หนูก็เลยเอาตาชั่งย้ายฝั่ง หนูก็บอกคุณหมอคะหนูขอยืนตรงโน้นนะคะ หนูรีบชั่งหนูรีบลงเลย”
“เออ เจ้เห็นวันนั้น” แอนบอกแล้วสะกิดใจบางอย่างรีบหันไปปรึกษาพี่แม็ค “วันนี้เราเข้าก่อนน้องไหม...นะ”
“ไม่ใช่หรอก ล็อคตัวไว้ก่อน ผูกไว้ก็ได้กับโซฟา” แม็คเสนอ
“หลับจริงอ่ะ” แอนยืนยัน “หลับจริงๆ ถามพี่แม็คดิ แอนก็หลับจริง”
“แม็คกับแอนหลับจริงๆอ่ะ” แม็คก็ยันตาม “หลับแบบกอดหมอนกันงี้หลับอ่ะ น่าเกลียดมาก หมออยู่ข้างหน้า นอนอย่างงั้นอ่ะ”
“แล้วกุญแจซอลเห็นพี่เค้าหลับก็ยังถามไม่เลิกใช่เปล่า” พี่ซานิตั้งคำถาม
“อ๊าย” หนูซอลเขินแล้วรีบบอก “พี่ๆแป็บนึงนะคะหนูขอโทษ จริงๆนะคะหนูขอโทษ”
“คือตอนแรกเรากะแกล้งหลับประชดไง” พี่แม็คขอสารภาพ “หลับจริง”
“ไม่..ตอนแรกหนูไม่เห็น หนูเห็นตอนพูดเสร็จพอดี อ้าว...เฮ้ย!” หนูซอลหน้าจืดลงเรื่อยๆ
“พี่ๆพยาบาลเขาหันมาเห็นแล้วก็ขำ คือพี่เขาก็ยืนรอตอนที่คุณหมอบอกว่าเอาแล้วคุณหมอจะจัดยานี้ให้ เขาก็ยืนรอ” แอนหยุดเล่าไปขำก่อน “แล้วถามเรื่องคุณแม่ต่ออีกยาววว พี่เขายืนรออยู่อย่างงั้น”
“ถามเผื่อคุณแม่ หนูบอก...แม่ แม่ หนูรู้ว่าคุณแม่อาจจะได้ดูใช่เปล่า” หนูน้อยผู้วางแผนรัดกุมประหยัดค่าหาหมอ “แม่ แม่...แม่ได้ดูแน่เลย แม่ฟังไว้นะ ถามแทนแม่”
“คุณหมอเลยสรุปว่า...แนะนำให้คุณแม่มาตรวจกับคุณหมอ” แอนสรุปจบท้าย


“เออ แม่พี่ก็เป็น ปวดหลังใช่เปล่า” ซานิชักเห็นข้อดีตามน้อง
“หนูถามเผื่อให้แล้วพี่ซานิ หนูจะอธิบายให้ฟัง คุณหมอบอกว่า...นั่นแหล่ะ” กุญแจซอลกลับลำซะบรรดาพี่ๆที่รอฟังแทบหลังหัก
“อ้าว...เฮ้ย!” แม็คร้องแทนซานิ
“อะไรอ่ะ ตัดจบดื้อๆเลย” พี่ทีอ่อนใจ “ซอลกวนนะเนี่ย”
“บอกหน่อยดิ เค้าว่าไง” พี่ซานิขอ
“บอกว่า หนูบอกว่าแม่หนูต้องไปกายภาพอะไรอย่างงี้” ซอลตอบ(แปลกไหม...แปลกนะ วางประธานผิดหรือเปล่าอีหนู)
“ปวดหลังหรือครับ” พี่แม็คถามบ้าง
แต่...ซอลไม่ได้ยิน
“ที่คุยมามีเนื้อแค่นี้ล่ะค่ะ” ซอลสารภาพเสียงอ่อยอย่างคนที่รู้จักตัวเองดี๊ดี


ประเด็นใหม่เกิดจากการโยงประเด็นเดิม เปิดด้วยความสงสัยธรรมดาสามัญของ....

“ตกลงแม่ซอลเป็นอะไรครับ” พี่ทีชักสงสัยอีกคน
“เป็นอันนั้นค่ะ กระดูกสันหลัง” อันนี้ซอลตอบ
“เป็นแฟนพ่อซอล” อันนี้ซานิตอบ
“เฮ้ย! จริงเหรอ เหมือนกันเลยอ่ะ” แม็คเล่นบ้าง “แม่เราก็เป็นแฟนพ่อเราอ่ะ”
“เฮ้ย! จริงเหรอ” ซานิโวยวายกลับ “แม่เราก็เป็นแฟนพ่อเรา”
“เฮ้ย! จริงป่ะ” แม็คประหลาดใจกว่า
“เฮ้ย! เหมือนกันหลายเรื่องว่ะ เฮ้ย! ถูกชะตาว่ะ”
“เฮ้ย!”







สองหนุ่มสาวถูกสายลมแห่งโชคชะตาพัดพามาเจอ ถึงกับ high five กันด้วยความตื่นเต้นดีใจ




“ที่เหมือนกันอีกอย่างหนึ่ง” ทีบอกหน้าตาเฉย “ปัญญาอ่อนเหมือนกัน”
สองหนุ่มสาวหันหน้าเข้าปรึกษาหารือเพื่อรับมือหนุ่มที่เหลือ
“เดี๋ยวเรียก...ทารก ฮันนี่มา” แม็คเตรียมหาตัวช่วย
“Yeah! common baby honey” ซานิแปลกลับซับนรก(ที่เล่นกันสนุกเมื่อวีคที่แล้ว)
“เดี๋ยวเรียกทารก น้ำผึ้งมาจัดการ” แม็คแปลซับนรกอีกรอบให้ครบสูตร




ย้อน...ย้อนให้คนตามไม่ทัน
วีคที่แล้วบนโต๊ะอาหารกลางวัน(สักวัน)

ซานิเริ่มเรื่องใหม่กับพี่ที(ตามเคย)
“เคยดูไอ้นี่...รุ่นพี่นิเคยดูแบบ..”
“ไม่เคย!” เสียงสวรรค์จากน้องสาวอย่างแอนขัดปึ้ง
“โอ๊ย~!!” ซานิขัดใจที่ถูดขัดคอ

เรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้าง
“เบรก สกัดดาวรุ่ง” พี่ทีเย้า
แต่เบรกแค่ไหน ก็หยุดความอยากเล่าของสาวนิไม่ไหว
“เคยดูหนังที่แบบ...เขากำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกันอ่ะ เป็นภาษาอังกฤษแล้วเขาต้องแปลเป็นภาษาไทยใช่เปล่า”


เอ่อ...ขอเบรกบ้าง ฟังแล้วอยากสะกิด
ตอนฟังครั้งแรกมันแบบผ่านๆ แต่ตอนไอ้ย้อนกลับมาฟัง มัน...ลึกใช้ได้
ไอ้ช่วง ‘เข้าด้ายเข้าเข็ม’
กับประโยคพวกนั้น...ที่สาวนิพูดออกมาเนี่ย
ไอ้ ‘หนังที่แบบ...’ นั่น มันแบบไหนอ่ะ





“Oh! Common Baby,Honey” สาวนิสปรีคอิงค์ลิช “ในภาษาไทยแปลว่า โอ้ว!มานี่ ทารก น้ำผึ้ง”
“อารมณ์หายหมดเลย” หนุ่มแม็คหัวเราะร่วนอย่างเข้าอกเข้าใจ

เอิ่ม...เบรคปิดท้าย
อารมณ์อะไรที่มันหายล่ะแม็ค






มาฟังสองหนุ่มที่นิสัยชักทอนอายุลงไปเป็นเด็กอนุบาลหมีน้อยเข้าไปทุกวันต่อล้อต่อเถียงปิดท้ายกันดีกว่า

“อืม” แม็คส่งเสียงแห่งความพึงพอใจออกมา
“อะไร” ทีสงสัย
“มะม่วงอร่อยเนอะ”
“เพิ่งจะได้กินเหรอ” ทีก็ยังสงสัย
“เปล่า”
“ตักมาตั้งนานแล้ว” ทีเหน็บเพื่อนเล็กๆ
“เพิ่งอยากพูด” แม็คก็ไม่ยอม กวนกาละแมกลับ






ซานิกลับมาจากการตักข้าวเหนียวมะม่วง กำลังโซ้ยอย่างเมามัน
“พี่คิดออกละนิ จะให้นิเต้นท่าอะไร” ทีโพล่งขึ้นมา
นิเหลือบมอง ยังไม่พูด
“พี่ให้นิฟรีทั้งเพลงเลย”
“จะ ‘บ้า’ เหรอพี่ที” นิตะโกนสวนไม่รอช้า
ทีเลยอ่อนข้อ
“เอางี้...พี่จะคิดให้เจ็ทแมนกับจีบันให้ อย่างละสองแปด”
“ไม่เอา!” ซานิคำรามปฏิเศษ
“ร้องเพลงจีบันเป็นรึเปล่า” แม็คถามที
“ร้องไงนะ”
“~จีบ๊านนนนน จีบัน ชีโคโม่ะโต่เม๊ เต่โม่ะ~” เด็กชายแม็คแหกปากร้อง
“แล้วก็ใส่ท่อนนี้ไปด้วย” ทีได้ทีเล่นตามบอกซานิ
“~ชิโคโม่ะกูอ้าหยี่ โย้โม อี่โคอุเจ จีบ๊านนนนนน~” เด็กชายแม็คก็ยังสนุก
....ยิ่งอยู่กันไป คู่หูพาเพลินมากกกกคู่นี้


อย่าเพิ่งนึกว่าประเด็น ‘จีบัน’ จะจบแค่นี้นะ
ประเด็นใหม่แม็คเป็นคนเปิด


“พี่แม็คเคยได้ของขวัญวันเกิดจากม่าม้าเป็นจีบันนั่งมอเตอร์ไซค์ เท่มากอ่ะ” พี่แม็คหันไปคุยกับแอนผู้ไม่รู้จักจีบัน
“ต้องเป็นเด็กผู้ชายถึงรู้จัก” ทีออกตัวแทนแอนให้
“โตขึ้นมาอีกได้แบ็ทแมนแบบเกาะกระโดนร่ม” คราวนี้แม็คหันไปเล่าให้ซานิฟังบ้าง
“ขี้อวด” ซานิสวนใส่
“มีหรือเปล่าอ่ะ” แม็คเย้ย
“แม่เราซื้อลูกโป่งวิทยาศาสตร์ให้” ซานิไม่ยอมแพ้หลังจากอึ้งไปวูบกับคำตอกกลับ
“แม่เราก็มีตังส์ซื้อให้” แม็คโอ่ทับไลน์กันเห็นๆ
“แม่เราซื้อ ‘เพื่อนเล่น’ มาให้” ซานิกัดฟันเกทับ
“แล้วทุกวันนี้หา ‘เพื่อนแท้’ ได้ยัง” แม็คดูถูกถมเข้าไป


สองคนนี้เด็กอนุบาลโรงเรียนอะไรวะเนี่ย


ยัง...สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร


ซานิไตร่ตรองอยู่นานมากกกกก
“เออว่ะแม็ค พูดจริง” ซานิจ้องกลับนิ่งๆแล้วยิ้ม “พูดจริง”


ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ซานิ...น้องเจ๋งสุด สุดเจ๋ง
...นี่ล่ะsubtextแห่งปีของบ้านaf6



แม็คของ้อด้วย...
“อยุ่ตรงนี้ไง” หนุ่มแม็คพูดเสียงอ้อน



ยัง...สงครามก็ยังไม่จบอยู่ดี

ทีป์ชลิตนั่งฟังอยู่นาน
ขอมีส่วนร่วม....
“จะหาเพื่อนแท้ได้ไง ทุกวันนี้ ‘เพศ’ ยังไม่แท้เลย”


โอ้โฮ! แรงว่ะที แรง!!
ต้องเตือนเลยว่ะเฮ้ยน้อง
บางเรื่องน่ะ ถึงสนิทกันระดับตบหัวลูบหลังกันได้เขาก็ไม่เล่นกันนะ





“อ้าว! เฮ้ย!!” ซานิตะโกน
“อ้าว! เฮ้ย!!” แม็คตะโกนตาม
“โกรธเหรอ” ทีง้อเสียงอ่อน(ผิดกับน้ำเสียงปกติ)
“ไม่โกรธ ไม่โกรธ” ซานิส่ายหน้ายิก ตบด้วย...“แต่ ‘เกลียด’”
“เกลียดเลยเหรอ” ทีกลั้วหัวเราะ
แล้วทันใดนั้น...
สองหนุ่มหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
“คิดได้ไงวะ” แม็คถามเหมือนชม?!
“พี่ขอโทษนะ” พี่ทีส่งเสียงอ่อนง้อหนูนิอีกรอบ “ไม่รู้จะแกล้งใครดีอ่ะ”



ซานิชนะล่ะศึกครั้งนี้
...แม้แผลจะพรุนก็ตาม
แต่อีกสองหนุ่มน่ะ...ยับเยิน







ขอดูแบบนี้อีกสักสองวีคได้ไหม~






Create Date : 03 กันยายน 2552
Last Update : 4 กันยายน 2552 9:50:53 น. 6 comments
Counter : 649 Pageviews.

 
เง้อ พี่ Q น่ารักอ่ะ

สี่น้องกะหนึ่งพี่...ผู้รอดเนี่ย น่ารักเนอะ

ขอแบบเดียวกะพี่ Q เลย เอาแบบนี้อีกสัก2wk

ก็ดีเน้...
มาเก็บรายละเอียดน้องหกจาก blog พี่ Q เนี่ย

สนุกกว่าดูเองอีกค่ะ


โดย: Little Aom วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:22:03:07 น.  

 
น่ารัก...

อยากหยุดเวลาไว้ไม่ให้หมด season เลยอ่ะ...





โดย: Kitten ConCerto วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:23:26:21 น.  

 
ชอบจังเลยค่ะ น่ารัก


โดย: บางส้มเปรี้ยว วันที่: 4 กันยายน 2552 เวลา:14:36:32 น.  

 
แว๊บมาก่อน ค่อยมาอ่านต่อพรุ่งนี้นะ


โดย: dolores วันที่: 6 กันยายน 2552 เวลา:21:07:13 น.  

 
มีช็อตให้จิ้นตั้ง 1 ช็อต ขอบใจมากนะ คิว


โดย: NaNongPloy วันที่: 7 กันยายน 2552 เวลา:14:55:33 น.  

 
ฮาหลายชอตเลยอะ

คิดถึงจังเลย จบซีซั่นแล้วอ่า


โดย: คุณหนูแพนด้าตัวน้อย วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:17:51:59 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Quaver
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ




Friends' blogs
[Add Quaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.