Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

แดงไม่แดง ไม่เกี่ยว!!!





เราคือ “ประชาธิปัตย์” เป็นมาทั้งชีวิต


รักและเคารพท่านชวน หลีกภัย มาโดยตลอด
เพราะงั้น จึงเห็นภาพคุณอภิสิทธิ์มาตั้งแต่ยังหนุ่มแน่น เดินตามรอยทางของท่านชวน

และเห็นแม้แต่ความขัดแย้งระหว่างสองคนนี้ในช่วงเวลาหนึ่ง


จนคุณมาร์คก้าวมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย

เราไม่อายที่จะบอก ไม่กลัวที่จะพูดว่า

“คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คือหนึ่งในนายกรัฐมนตรีที่ชื่นชอบที่สุดในช่วงที่เราเกิดมา”

เราเคารพด้วยในฐานะและนับถือในความเป็น ‘คน’ ของเขา


แต่ก็ไม่เคยเห็นพรรคประชาธิปัตย์เป็นเทวดา

ออกปากด่าตอนรับเทพเทือกเข้ามา
ด่าอีกทีตอนร่วมมือกับเนวิน

...เป็นแบบนี้มาตลอดกับเส้นทางประชาธิปัตย์

มันคือเส้นทาง “ประชาธิปไตย” ที่เรารู้จัก





และแน่นอนว่า
เราก็ไม่เคยคิดกลัวที่จะเอ่ยปากว่า

“ไม่แค่เกลียด แต่รังเกียจบรรดาแกนนำเสื้อแดงเข้ากระดูก”

รังเกียจแม้จะเอาชื่อลงมาใส่ในบล็อก



ในช่วงเวลาเผาบ้านเผาเมือง
ไม่แค่ความรู้สึกเกลียดเท่านั้น ตัวเองยังพร่นคำผุสวาท ขุดกรุขึ้นมาด่า
ขอยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานด้วยซ้ำ






เพียงแต่ว่า...
ตัวเราเองต่างจากมาร์ค AF7 ตรงไหนรู้ไหม(นอกจากด่าคนละฝ่ายแล้ว)


คือเรา “โง่ โลว์เทคกว่า” เท่านั้นเอง

มันถึงไม่เหลือหลักฐานทางFB ให้คนเก็บเอาลากไส้ออกสาวแบบมาร์ค



เพราะงั้นเมื่อมองย้อนไปต่อเหตุการณ์ครุกรุ่นของคนคนนี้แล้ว
เอามาเทียบ...ไม่ต้องอื่นไกลหรอก...เทียบกับตัวเองนี่ล่ะ


ความรู้สึกตอนเผาบ้านเผาเมืองก็รุนแรงไม่ต่างกัน
อยู่คนละฟาก มองคนละมุม
แต่ก็...อารมณ์ขึ้นรุนแรงไม่ต่างกัน


ยิ่งตอนตามพ่อไปสภากาแฟตอนเช้า ยิ่งสนุก
แบ่งพรรคแบ่งพวก ต่างคนต่างด่าอีกฝ่าย บางทีแทบจะลุกขึ้นมาต่อยหน้ากัน
แต่พอมาอีกเช้าก็กลับมาที่เดิม นั่งด่ากันต่อเหมือนเริ่มยกใหม่
...นี่สิ เขาถึงเรียกประชาธิปไตยล่ะจริงไหม


เพราะงั้น...แม้แต่ตอนที่ได้อ่านครั้งแรก
ถึงได้แค่หัวเราะ หึ หึ หึ
แล้วแอบคิดในใจ “เอี้ย! เอ๊ย”


อ่านคำด่าโน่นด่านี่ ก็งึมงำแบบนั้นตามตลอด

แล้วก็ไม่รู้สึกรู้สาเพิ่มต่อจากนั้น แต่รู้ใจตัวเองดีว่าเราคนละทางกันแล้วล่ะ
เปิดเจอในบ้าน ถ้าอยู่คนเดียวก็..ใช้งานรีโมทมันสักหน่อย


อยู่ร่วมกับคนอื่น ‘เขาไม่เห็นเรา เราไม่เห็นเขา’

ตัวเรามักรู้สึกว่า การพูดว่าความรู้สึกเฉยๆ มันก็คือความเกลียดในอีกรูปแบบหนึ่ง
...ปีนี้นี่อาจจะเป็นบทพิสูจน์ได้อีกหนึ่งตัวอย่าง



เพราะงั้นเราถึงบอกตัวตนของมาร์ค(ในบ้าน)ไม่ได้เลย
จนกระทั่งเมื่อคืนวันอังคาร
ก็เล่นเล่าเรียงต่อแบบนั้น คนสอดรู้สอดเห็นขั้นสูงอย่างอิฉันจะเปลี่ยนผ่านก็ใช่ที่


ก่อนไอ้หัวข้อเรื่องน่าอายที่ไม่เคยคิดจะเล่าให้ใครฟังเริ่ม


จะว่าเราอคติก็ได้มั้ง
มันแทม่งมาตั้งแต่หลังจากทั้งปอทั้งกรีนเล่าอย่างกินใจผ่านไป

ในช่วงเวลาที่หลายคนไปเข้าห้องน้ำ(จำไม่ได้แฮะว่ามาร์คไปแล้วกลับมาก่อน หรือว่าไม่ได้ไปเข้าเลย)

ในสายตาเขาชิงช่วงเวลามาเล่าเรื่องตัวเองให้มากขึ้น
ด้วยการบอกทำนองว่า ตัวเองก็ลำบากเหมือนกันในการที่จะต้องมาออดิชั่น เพราะเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก
แล้วก็บลา บลา บลา


นะ...คนมันอคติ...ก็ใช้อคติฟัง

เรื่องเล่าตอนแรกมันธรรมดาสู้เขาไมได้ใช่ไหมเล่า...เฮอะ(ขอทำซาวด์น่ารังเกียจประกอบ)




ยิ่งพอมาถึงต้องเล่าเรื่องน่าอาย

ขอบอกว่าเราตกใจจริง ไม่คิดว่ามาร์คจะพลีชีพเล่าอย่างละเอียดขนาดนั้น
นอกจากเนื้อหาชวนขนลุกในเรื่องที่ทำ ที่รู้สึกกับแม่ตัวเองแล้ว
คำพูดกูมึงที่ใช้กับแม่ตัวเอง ทำเอาคนหลังยุคมิลเลเนียมอย่างอิฉันอ้าปากค้าง


นึกถึงพ่อตัวเองขึ้นมาทันที
ว่าถ้าตัวเองหลุดแบบนี้ต่อหน้าต่อตาพ่อแม่
พ่อคงไม่แค่พูดว่ารู้งี้เอาขี้เถ้าอุดปากตั้งแต่ยังเกิดก็ดี
แต่พ่อคงเอาขี้เถ้ายัดปากอิฉันมันเอาตอนนั้นเลย




ก่อนหน้ามาร์ค เด็กบางคนก็เล่าเรื่องความน่าอาย ความรู้สึกผิดที่มีต่อพ่อแม่หรือญาติตัวเอง
มีแม้แต่ว่าในตอนนั้นรู้สึก “เกลียด”



เรากลับเข้าใจและยอมรับได้โดยไม่ติดใจ
เพราะคนเรา ยิ่งในตอนเด็กที่ โลกแทบทั้งใบของเขา ก็คือพ่อกับแม่
ความรู้สึกกดดัน ความคาดหวังที่พ่อและแม่ถาโถมเข้ามาใส่
มันก็ทำให้ใจคนเหมือนลูกโป่ง เป่าลมเข้าไปจนเหมือนจะแตกถ้าไม่ได้ระบายออกมาบ้าง
อาจไม่ได้ออกจากปาก แค่คิดในใจก็ดูจะบางเบาลง


แต่เราเชื่อว่าหลังจากที่รู้สึกเช่นนั้นกับพ่อแม่ตัวเองแล้ว
ลูกนั่นล่ะจะเป็นคนที่รู้สึกแย่กว่าคืนกลับมา
จะรู้สึกว่าตัวเอง ผิด ผิด และผิด



พอเราคิดแบบนั้น มามองย้อนกรณีมาร์ค...เราก็ยังขนลุกอยู่ดี

เราจะให้ความเข้าใจแบบนั้นกับกรณีของมาร์คได้ไหม

ถ้าบอกว่าได้นี่...คงเป็นการโกหกคำโตเลยล่ะตัวเอง


แต่เราก็ออกปากว่ามาร์คไม่ได้นะ เรียกว่าไม่มีสิทธิ์ดีกว่า
ก็นั่นแม่เขาอ่ะ(บ่ใช่แม่เรา)
เขาแม่ลูกกัน
แม่เขาเองยังไม่ถือสา ยังออกปากขอโทษลูกตัวเองด้วยซ้ำ


ทำเอาคนนอกอย่างเรา ต้องรีบยั้งไม่สอดเกือกเข้าไปทันที


งั้นขอวิเคราะห์ในส่วนที่คิดว่าแตะได้ดีกว่า....
เราไม่รู้ว่าที่มาร์คถึงกับยอมพลีชีพเล่าเรื่องราวขนาดนี้ เพราะความคาดหวังอะไรบางอย่างหรือเปล่า
...ส่วนหนึ่งที่เราคิดแบบนี้เพราะเรารู้ว่า มาร์คไม่ใช่คนที่เพิ่งมารู้จักเกมส์ รายการนี้
เขาเคยดู เขาอยากเข้ามา

คือว่าถ้านี่เป็นการเล่นเกม ก็ต้องบอกว่าเขาไม่เชี่ยวพอสำหรับรายการนี้จริงๆ คำพูดคำจาระดับนี้ สะท้อนแง่ลบกลับมามากกว่าแง่บวกอยู่แล้ว มันเกินการยอมรับได้ของคนบางคน บางกลุ่มน่ะ(คนอย่างอิฉันนี่ล่ะ)
แถมยิ่งมีคดีติดตัว(โดนตัวเองยังไม่รู้แบบนั้น) ต้องถึงกับเอ้อเฮอ~เลยทีเดียว

แต่ถ้าคิดว่าเป็นแค่เด็กตรงๆ ไม่คิดซับคิดซ้อน
งั้นก็ต้องถือว่าเป็นแค่อารมณ์พาไปในช่วงเวลานั้น พ่อเจ้าประคุณเล่นเล่าซะจินตนาการหดเลยทีเดียว




ไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดไงในเวลาที่นั่งฟังมาร์คเล่านะ
แต่สำหรับเราถึงบางอ้อทันทีว่า ไอ้ที่ทุกอย่างหลุดออกมาทางอินเตอร์เน็ตนั่นน่ะมันจิ๊บๆไปเลยล่ะ


และยิ่งให้เรารู้สึกว่าเขาคือเด็กที่พร้อมจะสาดยาพิษใส่คนอื่นเมื่อใจตัวเองเดือดปุดๆโดยไม่คำนึงถึงหน้าอินทร์หน้าพรหม
และเหมือนจะย้ำอย่างที่เราเคยรู้สึกมาก่อนหน้า
ไปๆมาๆคงเป็นแค่เด็กปากเสีย พล่ามไปเรื่อย โดยไม่ได้คิดอะไรอื่นนอกจากตัวเองเป็นศูนย์กลางโลกด้วยซ้ำมั๊งเราว่า



เมื่อก่อนเราเคยคิดว่าเด็กที่มีเหลี่ยมมีมุมแบบนี้ล่ะเหมาะในการเข้าบ้านaf


เด็กที่เกิดมาพร้อมโลกหมุนรอบตัวเองแบบนี้
เข้ามาเจอการปรับการตบอย่างแรงในบ้าน ไม่ว่าอยู่นานแค่ไหนก็กลมกลิ้งออกมา เหลี่ยมมุมหายเกลี้ยง
หลายรุ่นแล้วที่เด็กมาโตในบ้านทางด้านความคิดและจิตใจ


ยกตัวอย่างเด็กในสังกัดอย่างปั๊ม
ปั๊มร้อยกระทู้นั่น
เชื่อไหมว่า คนเราสามารถเกลียดคน พ่นคำด่า สาปแช่งกับคนที่แค่มองเห็นผ่านหน้าคอมพ์ได้รุนแรงขนาดไหน


เชื่อเถอะว่ามันทำได้จนเกินขีดความจำกัดที่คิดว่าจะเป็นได้เลยทีเดียว


เมื่อเอาเรื่องของปั๊มมาคิด
เราว่าหลายคนลองมองย้อนดูตัวเองหน่อยท่าจะดี เหมือนหรือต่างจากFBของมาร์คaf7นี่ไหม


ไอ้ปั๊มโดนรุมนั่นล่ะ ลองไล่คู่กรณีดูแล้วจะต๊กกะใจ(เฮือกกกกกก!!!!!)




สำหรับปั๊ม เราคิดว่าเด็กคนนี้โชคดี
น้องโดนตบแรงมาก โดนมันเอาทุกวีคจนแม้คืนสุดท้ายในบ้าน
เหลี่ยมมุมแม้ออกจากบ้านยังพอติดตัวบ้างก็พอเป็นสีสัน


และขอยืนยันอีกทีว่าปั๊มน่ะโชคดี มีคนที่รักเขารอบกายเป็นเกราะอย่างดี เกราะอดทนประมาณสีทนได้เลยทีเดียว
เด็กมันถึงผ่านพ้นมาได้โดยไม่บอบช้ำปางตายอย่างที่หลายคนถึงกับภาวนาอยากเห็น(เชื่อไหมว่าถึงกับภาวนากันเลย... )


เด็กอย่างปั๊ม ถ้าไม่ได้เข้าบ้านaf
ต้องใช้เวลาอีกยาวนานกว่าจะกะเทาะโลกที่หมุนรอบแค่ตัวเองออกไปได้
แล้วพี่คิดว่าคงจะเจ็บหนักเลยล่ะปั๊มเอ๊ยกว่าจะทรงตัวได้
เพราะกว่าจะเรียนรู้ของจริง(อย่างมาเจอตอนเป็นaf) ก็คงต้องเข้าวัยทำงาน รับผิดชอบทุกอย่างด้วยตัวเอง
ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น คงโดนเขมือบแล้วเขมือบอีกเป็นเหยื่อฉลามในน่านน้ำไทย




แต่กรณีปั๊ม ก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดได้กับทุกคน
เรียกว่าจะหาความโชคดีแบบปั๊มนี่คงไม่ง่ายนะ


เราได้มาเจอกรณีของเด็กคนนึง
ทำให้ต้องกลับมาทบทวนว่า จริงๆแล้วการเข้าบ้านก็ไม่ได้เหมาะกับเด็กทุกคนแม้แต่เด็กที่เราคิดว่าเหมาะมาลบเหลี่ยมลบคมก็เถอะ


เพราะว่าพอเข้าอยู่ในบ้านก็ดูจะเข้ารูปสวยขึ้น
แต่พอออกจากบ้านไป ไม่รู้ว่ามันคือการคืนกลับมา หรือ งอกไอ้ที่ร้ายกาจกว่าเดิม
ด้วยความกดดันสารพัด โดยเฉพาะเมื่อเกิดการเปรียบเทียบ ไม่เท่าเทียม
มันก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลงกว่าเดิม


คนเรามันก็มีทั้งเปลี่ยนแปลงได้(ในทางที่ดี)
กับ
คนให้ตายก็ไม่เปลี่ยนก็มีอยู่เหมือนกัน



ไอ้ให้ตายก็ไม่เปลี่ยนนี่ มันก็ดันสื่อเป็นเรื่องในทางลบซะส่วนใหญ่ด้วยสิ





เราว่าเราไม่เกลียดมาร์คหรอกกนะ
ไม่ปลื้ม...อืม...ใช้คำนี้ท่าจะดี
ไม่ปลื้มก็จริง


แต่เราก็อยากเห็นการเติบโตทางความคิดและจิตใจของเขานะ อยากให้เขาเข้าใจว่า โลกที่หมุนแค่รอบตัวเอง ก็จะเหลือแค่ตัวเองในท้ายที่สุด
จะเปิดรับใครเข้ามาก็ไม่ได้ พอจะออกไปก็ติดกับความเป็นตัวเองเอาไว้ ยังงั้นโลกมันก็จะแคบลงเรื่อยๆ
คือไม่ใช่ว่าจะให้เขาเปลี่ยนความคิดอ่าน หรือกล่าวหาว่าความคิดของเขาผิด
(แม้อยากตะโกนว่าไอ้ความคิดอยากออกไปบอมบ์ใครน่ะมันเลวร้ายสุดๆเลยนะเว้ย แม้จะบอกว่าเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบก็เถอะ แต่เหตุการณ์เลวร้ายต่างๆนาๆที่เกิดขึ้น มันก็มาจากอารมณ์ชั่ววูบแบบนี้ซะส่วนใหญ่เลยนะเฟ้ย!)

เพียงแต่ อยากแค่ให้ตัวเขารับฟัง รับรู้ว่ายังมีอีกหลายด้านหลายมุม
เพื่อจะเรียนรู้ให้อยู่ร่วมกันได้ต่อไป (ไม่ต้องออกมาฆ่ากันทางความคิดอีก)
...ชักใบออกอ่าวไทย





พูดไปก็เหมือนสร้างภาพเป็นคุณหญิงตราตั้ง
แต่สังคมไทยทุกวันนี้มันแย่จริงๆ น่ากลัวขึ้นทุกวันนะ


ไม่รู้เพราะสิ่งแวดล้อมมันแย่ลง หรือเพราะคนเรามันห่วยลงทุกวันกันแน่
ถ้ามีคนที่สามารถโตขึ้น ใจเย็นขึ้น มุมมองหลายมุมขึ้นอีกแค่คนเดียวหรือเท่าไรก็เถอะ
มันก็น่าจะลดความเฮงซวยของโลกใบนี้ได้บ้างล่ะ




(....พอมีหลานแล้ว ดูจะห่วงโลกมากขึ้นแยะเลยตู )





อ้อ!อีกนิดไม่เกี่ยวกับAF
แต่ถ้าไม่ได้ระบายต้องอึดอัดใจตายแน่
อาหารกลางวันวันนี้คือ"ปลาหมึกย่าง" !!!




 

Create Date : 08 กรกฎาคม 2553
6 comments
Last Update : 8 กรกฎาคม 2553 13:21:34 น.
Counter : 557 Pageviews.

 

เขียนบล็อกติดกันแบบนี้ เอามาตอบที่นี่นะ

หนูผึ้ง...พี่ยังไม่ได้ชอบใครเป็นพิเศษนะ
คงต้องรอไปอีก...ไม่รู้ปีนี้จะเจาะจงไหม...อาจดูทั่วๆ

เป็นคำตอบให้คุณfor family ไปในตัว
อยากมีหมวกคัดสรรจังเล้ย
คงง่ายกว่านี้เยอะ

 

โดย: Quaver 8 กรกฎาคม 2553 13:15:31 น.  

 

สารภาพอะพี่คิว

ว่าตู่ยังไม่ได้ดูเอเอฟเจ็ดเลยแฮะ
ได้เปิดทีวีไปดูตอนรวมกันเป็นร้อย แล้วปวดหัว

เลยปิดไป



เปิดมาใหม่ ดูตอนเลือกเหลือ 12 คนแบบงงๆ
(มันเหลือ 50 คนตอนไหน ทำไมไม่เห็น?)



ไปต่างจังหวัด + งานยุ่งจนไม่สามารถโงหัวได้ซะหลายวัน
กลับมาเงยหน้าได้อีกที เห็นมีแต่เรื่องมาร์คคนนี้
เต็มไปหมด



บอกไม่ถูก


ว่าจะรู้สึกยังไงดี

ก็บังเอิญสเป็คเราดันเป็นการชอบคนที่ "ความคิด" ซะด้วยซี - -"



แต่ว่า

"เขาคือเด็กที่พร้อมจะสาดยาพิษใส่คนอื่นเมื่อใจตัวเองเดือดปุดๆโดยไม่คำนึงถึงหน้าอินทร์หน้าพรหม"

โอ้โฮ.... ขนาดนั้นเลยฤา?
นี่มันบุคลิกเด็กรุ่นใหม่เด๊ะๆ เลยนา

เค้าอายุเท่าไหร่เหรอคะ?




ปล.

ไม่รู้ทำไม ตู่รู้สึกว่า ยิ่งนานวัน คนเรายิ่งใจแคบลง

พี่คิวรู้สึกเหมือนกันมะ?

 

โดย: tazzz 8 กรกฎาคม 2553 22:09:34 น.  

 

เฮ้ย เฮ้ย พี่คิว (ทำไมคำเรียกมันสุภาพจัง? ฮา)

เปล่านะ เค้าไม่ได้โดนอะไรเรื่องทวิตเตอร์
ตู่แค่เข้าไปเห็นหลายๆ เรื่อง แล้วมันละเหี่ยใจ
ที่แฟนคลับเค้าหาเรื่องกันได้ไม่หยุดหย่อน ไม่หยุดทำการตะหากล่ะ


นี่ตู่ตัดได้แทบจะขาดแล้วนะเนี่ย
แค่จะไปดูคอนเดี่ยวนัท แค่แอบยิ้มเวลาบังเอิญได้ฟังเพลงนัทในวิทยุ

แต่ที่เหลือ ไม่เคยได้เข้าไปร่วมหรือทำอะไร และไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองขาดอะไรไปเล้ยยย




ที่เราคิดว่าเด็กสมัยนี้ยังไ่ม่รู้จักคิด เพราะเค้ายัง "เด็ก" รึเปล่าพี่?
โตขึ้นอาจจะคิดในมุมกว้าง มองโลกในหลายทิศทางได้มากขึ้นก็ได้นะ


ตู่ก็แค่พยายามมองโลกในแง่ดีล่ะ ฮะ ฮะ


อยากบอกว่า อาชีพที่ทำอยู่นี่ ทำให้ต้้องเจอคนเยอะมาก ทั้งเด็ก ทั้งแก่ หลากแบ็คกราวน์ หลายนิสัย

ไปๆ มาๆ มันทำให้ตู่ปลงได้เยอะเลยล่ะ


คนไทย

อยากทำให้ตัวเองเหมือนฝรั่ง

จะลอง Aggressive กับเค้าบ้าง
ก็ัดันเป็น Aggressive แบบก้าวร้าว ไม่ใช่ แข็งขัน

และยังไม่พัฒนาจิตใจให้สามารถ "ยอมรับความต่าง" ไ้ด้อย่างที่ควรจะเป็น



สงสัยเราจะอยู่ในสังคมยุค "จะเปลี่ยนผ่าน" แหละมั้ง?

คงต้องดูว่า กระโดดข้ามไปได้ หรือกลับมาตกปุ๊ลงเหวอยู่ที่เดิมเนอะพี่คิวเนอะ ฮ่า ฮ่า





เนี่ย จริงๆ นะ น้องคุณช่างน่ารักอะไรเยี่ยงนี้
ไม่เคยคิดว่าจะมีเด็กคนไหนทำให้เรายิ้มไปด้วยได้มากขนาดนี้เลย

ตู่เองชอบน้องคุณ แต่ไม่ได้ตามอะไรมาก (ตอนติดเอเอฟ ติดกว่านั้นแยะะะะะะะะ)
แต่อยากบอกว่า ทุกเรื่องที่ได้รับรู้มาเกี่ยวกับน้องคุณ ทำให้ยิ้มได้ตลอด



ต้องตามห่างๆ แบบนี้มั้ง ถึงจะมีความสุข อิ อิ
(เหมือนพ่อคุณคิมุระ ทาคุยะ นั่นยังไงละ ฮะ ฮะ)

 

โดย: tazzz 9 กรกฎาคม 2553 13:12:09 น.  

 

ปล. น้องพอลออกจะน่ารัก ทำให้เราได้เงินกลับมาบ้างจากพนันบอลพันทิป!! (พนันฟรี มิได้เสียตังคืแต่อย่างใด)


คำเตือน - การพนันเป็นสิ่งไม่ดี เด็กดีไม่ควรเล่น!

 

โดย: tazzz 9 กรกฎาคม 2553 13:17:00 น.  

 

อ่านตั้งแต่วันแรกแล้วค่ะ

แต่ไม่รู้จะเขียนอะไรดี ...

อยากให้เด็กคนนี้ ได้รับการอบรมที่ดี ... ยังเด็ก ยังพอที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองและความคิดได้

หลาย ๆ อย่างค่อนข้างพร้อมแล้ว ขาดแค่สิ่งสำคัญที่สุดอีกอย่างเดียว

ขอสังคมให้โอกาส แล้วเราจะได้คนดีมาแทน ... เฮ้อ ... สงสาร คนที่ไม่รู้ตัวว่า ประพฤติปฏิบัติตัวแบบนี้ แล้วจะถูกตอบรับ/ปฏิเสธอย่างไร

อีกอย่าง .. เขาคงมีแฟนคลับประมาณหนึ่ง อยากได้ฟค ที่ไม่อวย ... เพราะถ้าอวยคนแบบนี้ ... ไม่อยากคิดต่อเลย

 

โดย: for Family 9 กรกฎาคม 2553 17:12:27 น.  

 

เหมือนเคยได้อ่านที่ไหนซักที่

เค้าบอกว่า



ถ้าคุณเริ่มรู้สึกว่า "รับ" กับสิ่งที่เด็ก ณ ปัจจุบันเป็นไม่ได้
แปลว่าคุณเริ่มที่จะ แก่ และออกไปทางคอนเซอร์เวทีฟแล้ว


ตู่ว่า ตู่ก็คงแก่ในนัยยะหนึ่ง
แต่ไม่ได้ถึงขนาด รับไม่ได้แล้วต้องแอนตี้อะ - -"


จริงๆ นะ ถ้าคนไทยเริ่มยอมรับการ "คิดต่าง" ได้เมื่อไหร่ ประเทศไทยมันคงจะพัฒนาไปได้อีกเยอะ


ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ จะบังคับให้ชอบคงไม่ได้
แต่ไม่ชอบแล้วแอนตี้อย่างรุนแรงเนี่ย พฤติกรรมเด็กมีปัญหาชัดๆ - -"




โอ๊ะ เราเข้าไปเื่รื่องนี้ได้ยังไง??



ตู่รู้เรื่องโยโกฮาม่าค่าาาาา
ก็ตู่อ่านมาอย่างดี จาก "มนต์รักโยโกฮาม่า" ของอ.ยามาโตะ วากิ กันเลยทีเดียว อิ อิ

(ไหน ใครว่าการ์ตูนไม่มีประโยชน์? เค้าเรียนประวัติศาสตร์จากการ์ตูนก็เยอะนะเออ)


แต่สุดท้าย ญี่ปุ่นเค้าก็สามารถผสมกลมกลืนกันได้นะพี่ คนใส่กิโมโนเดินบนถนนเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาก็ยังมี... แต่ลองให้ใครไปนุ่งสไบกลางถนนในเมืองไทยซี คงได้ฮือฮากันพิลึก

ขอให้เมืองไทยเป็นอย่างนั้นได้มั่งแล้วกันเนอะ




ตู่ได้ดูเอเอฟเจ็ดแล้วแหละ เมื่อวานเปิดไปดูตอนเค้าแจกโจทย์เพลงอะ
แบบว่า แอบกรี๊ดกันกะที่บ้าน "โจทย์วีคนี้มันหลอกให้เราดูกันชัดๆ นี่หว่า"


ฮ่า ฮ่า

แบบว่า ทันทุคเพลง รู้จักทุกยุค กร๊ากกกก


แค่มองผ่านๆ รู้สึกว่าเด็กรุ่นนี้เด็กจริง อะไรจริง หลายพฤติกรรมไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต (เช่น อยู่ดีๆ ก็กรี๊ด... กรี๊ดทำไม? กรี๊ดเพื่ออะไร? งง)

แต่ยังไม่เห็นนิสัยแต่ละคนแบบชัดๆ เลย (สงสัยจะไม่ได้เห็นด้วย ไม่รู้จะเปิดดูอะไร - -")

 

โดย: tazzz 12 กรกฎาคม 2553 9:57:47 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Quaver
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ




Friends' blogs
[Add Quaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.