ธรรมะจากหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช



อย่าเที่ยวรู้ออกไปนอก ให้รู้ปัจจุบันธรรมในกายและจิตของตน ด้วยจิตที่เป็นกลาง

คำตอบเพียงเท่านี้ สามารถแก้ปัญหาการปฏิบัติได้เกือบทั้งหมดแล้ว

กล่าวคือ กลุ่มปัญหาที่ชวนให้ฟุ้งซ่าน
ล้วนเป็นผลพวงของความคิดเท่านั้น
ยิ่งคิดมากก็ยิ่งสงสัยมาก และยิ่งสงสัยมากก็ยิ่งคิดมาก
และยิ่งคิดมาก ก็ยิ่งห่างไกลจากการเจริญสติสัมปชัญญะ ออกไปทุกที
ถ้าหันมารู้ปัจจุบันธรรมอยู่ภายในกายและจิตของตน
จะต้องสงสัยทำไมว่า นรก สวรรค์ ชาติก่อน ชาติหน้า ผีสางเทวดา มี หรือไม่มี
เพราะพอจิตสงสัย ก็รู้เท่าทันความสงสัยใคร่รู้นั้น ความสงสัยก็ดับไปเอง
เมื่อความสงสัยดับไปแล้ว จำเป็นอะไรที่จะต้องหาคำตอบต่อไปอีก

เมื่อรู้ปัจจุบันธรรมอยู่ในกายและจิตของตนแล้ว
กลุ่มปัญหาที่เกี่ยวกับเงื่อนไขของการปฏิบัติ
และปัญหาสภาพแวดล้อม ก็หมดความหมาย
เพราะการปฏิบัติธรรมไม่ได้เบียดบังเวลาทำมาหากิน
ไม่เกี่ยวกับอาหาร เครื่องนุ่งห่ม เวลา หรือพิธีกรรมต่างๆ

เมื่อรู้ปัจจุบันธรรมอยู่ในกายและจิตของตนแล้ว
กลุ่มปัญหาเกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นของการปฏิบัติ ก็หมดความหมาย
คำบริกรรม กิริยาท่าทาง อะไรต่างๆ เหล่านี้ ล้วนไม่ใช่สาระสำคัญ
แต่เป็นเพียงอุบายเบื้องต้น
เพื่อให้ผู้ปฏิบัติสามารถเข้ามารู้ปัจจุบันธรรมในกายในจิตของตนเท่านั้น

เมื่อรู้ปัจจุบันธรรมอยู่ในกายและจิตของตนแล้ว
กลุ่มปัญหาเกี่ยวกับอาการของจิตในขั้นการทำสมถะ ก็หมดความหมาย
เพราะอาการทั้งหมด เป็นเพียงสภาพธรรมที่ถูกรู้เท่านั้น
พอรู้แล้ว หากย้อนมาอ่านจิตใจตนเองให้แจ่มแจ้ง
อาการของจิตก็หมดความหมายไปในทันที
เช่น เมื่อปฏิบัติอยู่ แล้วเห็นภาพผีปรากฏขึ้นมา
ผู้ปฏิบัติไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์วิจัยว่าผีจริง หรือผีปลอม
เพราะจริงก็เหมือนเท็จ เท็จก็เหมือนจริง
คือมันเป็นสิ่งที่ถูกรู้เหมือนๆ กัน
ที่สำคัญคือ ให้ย้อนเข้ามาอ่านจิตตนเองให้ดี
มันกลัว มันอยากหนี มันสงสัย หรือมันอยากรู้
ให้รู้เท่าทันจิตตนเองไว้ สิ่งที่ปรากฏนั้น
ก็ไม่มีความหมายมากไปกว่าการเห็นรูปธรรมดาๆ รูปหนึ่ง
หรือเกิดรู้เห็นพระจุฬามณี หรือพระพุทธเจ้า
ก็ให้ย้อนมาอ่านจิตของตนเองเช่นกัน
เพราะรูปนิมิตภายนอกทั้งปวงนั้น
ไม่ใช่สาระแก่นสารเพื่อการยึดถือแต่อย่างใด

เมื่อรู้ปัจจุบันธรรมอยู่ในกายและจิตของตนแล้ว
กลุ่มปัญหาเกี่ยวกับวิธีเจริญวิปัสสนา ก็หมดความหมาย
จะต้องคิดทำไมว่าจะต้องรู้อะไร ในเมื่อทุกสิ่งที่ถูกรู้ก็มีค่าเท่ากันทั้งนั้น
หากจิตเขาจะรู้สิ่งใดชัด ก็เอาสิ่งที่กำลังรู้ชัดนั่นแหละมาเป็นอารมณ์
หรือเรื่องญาณนั้นญาณนี้ก็เป็นของสมมุติ
เราไม่ได้ปฏิบัติเพราะอยากได้ญาณ
มรรคผลนิพพานก็ไม่เห็นจะต้องอยากได้
เพราะหากจิตจะได้ เขาก็ได้ของเขาเอง
แต่ยิ่งเราอยาก ก็ยิ่งไม่ได้
ส่วนวิปัสสนูปกิเลสก็เกิดไม่ได้ ถ้าไม่หลงลืมตัวขาดสติสัมปชัญญะ

นักปฏิบัติที่คิดมาก มีปัญหามาก ก็เพราะไม่พยายามรู้ตัว
ไม่มีสติพิจารณาอยู่ในกายในจิตของตนเอง
เอาแต่หลงไปกับสิ่งที่ถูกรู้ เอาแต่พยายามแก้อาการของจิต
ปฏิบัติไปด้วยความอยากรู้ อยากเห็น อยากเป็น อยากได้

หากผู้ปฏิบัติพยายามรู้ตัวอย่างต่อเนื่องเข้าไว้
และมีสติสอดส่องอยู่ในกายในจิต
หรือในวงขันธ์ ๕ ของตนอย่างเป็นปัจจุบัน
ก็แทบไม่มีปัญหาจะต้องถามใครอีกต่อไปแล้ว

๒๓ กันยายน ๒๕๔๒


คอลัมน์ ธรรมะจากผู้รู้
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช
จากนิตยสารธรรมะใกล้ตัวฉบับที่ 26 พฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม 2550




 

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2550
15 comments
Last Update : 21 กันยายน 2553 16:54:39 น.
Counter : 1062 Pageviews.

 

มาอ่านธรรมะดีดีค่ะ
ใช่เลย ... รู้อะไรไม่สำคัญเท่ารู้ทันจิตตน .. รับทราบไปปฏิบัติเจ้าค่ะ
ขอบคุณนะคะคุณปุ๊ก สำหรับเรื่องดีๆ ที่เอามาฝากกัน

 

โดย: the Vicky 4 พฤศจิกายน 2550 2:10:51 น.  

 

ขอบคุณนะครับ

คุณปุ๊กนอนดึกจังครับเนี้ย

 

โดย: I.Brother 4 พฤศจิกายน 2550 2:46:12 น.  

 

บทความดีมากๆ ครับ ขอบคุณ

 

โดย: wildbirds 4 พฤศจิกายน 2550 8:44:45 น.  

 

นึกว่าจะเอามาจากหนังสือท่านเลย เข้ามาดูไว้ก่อน ถ้าเป็นงั้น คงต้องรบกวนให้เอาออก

อนุโมทนา ครับ

 

โดย: fv IP: 125.24.192.206 4 พฤศจิกายน 2550 10:18:41 น.  

 


วันนี้ตื่นมาก็อ่านธรรมะที่เพื่อนส่ง link มาให้แต่เช้า
เข้าบล็อกหนูปุ๊กก็มาเจออีก
ดีจังค่ะ

 

โดย: HoneyLemonSoda 4 พฤศจิกายน 2550 10:59:23 น.  

 

แค่หยุดที่ความคิดเท่านั้นเองนะคะ
แล้วทุกอย่างก็จะยุติ ขอบคุณธรรมะดี ๆ ที่เก็บมาฝากเตือนสติกันค่ะ
เป็นประโยขน์มากเลย

 

โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) 4 พฤศจิกายน 2550 16:15:54 น.  

 

หยุดคิดบ่ได้เด้อ....เพราะจิตมีหน้าที่คิด เป็นอนัตตา เขาจะคิดอะไรก็เรื่องของเขา บังคับบ่ด้ายยดอก.... หน้าที่เราก็เพียงเมื่อเขาคิด ก็ให้รู้ว่าคิดเด้อ....

 

โดย: ไข่ IP: 124.120.163.210 1 พฤษภาคม 2551 22:44:37 น.  

 

แม่นแล้วคุณไข่
อนุโมทนาเด้อ

 

โดย: Hobbit 3 พฤษภาคม 2551 16:57:35 น.  

 

สาธุ

 

โดย: อิ๊บ IP: 202.149.24.161 1 มิถุนายน 2551 14:54:24 น.  

 

ช่วงนี้ก็ฟังซีดีของหลวงพ่อปราโมทย์ และก็หัดตามดูจิตอยู่ครับ แต่ไม่กล้าไปส่งการบ้านกับพระอาจารย์ กะว่าจะฝึกอีกสักพักก่อนค่อยไปส่งการบ้านสักทีน่าจะดีกว่า

 

โดย: ติงลี่ IP: 124.121.126.176 27 ตุลาคม 2551 21:16:58 น.  

 

การปฏิบัติไม่ยาก ช่วงนี้ผมก็ฟังซีดีหลวงพ่อปราโมทย์ อยู่เหมือนกันครับ

 

โดย: ทินกร IP: 58.9.123.108 24 มกราคม 2552 19:13:23 น.  

 

สงวนลิขสิทธิ์สโลแกนหรือเปล่าคะ ขอยืมไปใช้นะคะ

"มนุษย์หัวโบราณ ต๊องๆ ฝันๆ มันส์ๆกับชีวิต ติดหนังสือพระ ตะกละเป็นบางเวลา หลั่นล้าได้ทู้กกกวัน" ^^

 

โดย: Glasses IP: 125.26.45.114 21 พฤษภาคม 2553 8:24:46 น.  

 

สาธุ ด้วยนะคะ
เป็นประโยชน์ต่อชีวิตมากๆ
เอาไว้อ่านเวลาหลงรู้ได้ดีมาก
ขอบคุณนะคะ

 

โดย: bybua IP: 58.147.19.164 11 สิงหาคม 2553 7:05:41 น.  

 

ขออนุโมทนาครับ

 

โดย: นุภาโว IP: 223.207.86.67 17 ตุลาคม 2553 18:09:48 น.  

 

ขออนุโมทนาครับ

 

โดย: นุภาโว IP: 223.207.86.67 17 ตุลาคม 2553 18:10:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Hobbit
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]











ตามรอยพระอริยะ
หลวงพ่อชา สุภัทโท
พระโพธิญานเถระแห่งหนองป่าพง





ฺประมวลธรรมเทศนา
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
อ่านออนไลน์ได้ที่นี่ค่ะ

ขอบคุณครูซุปเคมากนะคะที่ส่งให้ (-/l\-)
http://www.supkcenter.com






MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com






Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
4 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Hobbit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.