Bloggang.com : Hobbit : ไปเป็นลูกโยคี...ตอนที่ 2 : ที่พัก การเดินทาง และอาหาร

ไปเป็นลูกโยคี...ตอนที่ 2 : ที่พัก การเดินทาง และอาหาร

ที่พักและการเดินทาง

ขึ้นรถตู้ที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งห้างเซ็นเตอร์วัน
โดยขึ้นรถที่บอกว่าไปฉะเชิงเทรา แล้วบอกว่าไป “สำนักวิปัสสนาสอนทวี”
อย่าลืมขอเบอร์คนขับไว้ด้วยเพราะขากลับโทรเรียกให้เค้ามารับได้ค่ะ
(ข้อมูล ณ วันที่ 16 พ.ย. 52)

สำหรับรถยนต์ส่วนตัว ขับไปตามเส้นทางในแผนที่ได้เลยค่ะ

Click ดูแผนที่

ที่พัก

สำหรับที่นี่จะมีที่พักสองแบบคือแบบหอพักรวม และแบบกุฏิ
เนื่องจากจขบ.อยู่กุฏิจึงไม่ค่อยรู้รายละเอียดเกี่ยวกับที่พักรวมมากนัก
ทราบมาคร่าวๆ ว่านอนรวมกันแต่ไม่แออัด สะดวกสบายทั้งเรื่องที่นอนและห้องน้ำห้องท่า
ดังนั้นเลยจะขอเจาะลึกในรายละเอียดเกี่ยวกับที่พักแบบกุฏิแทนนะคะ

ลักษณะกุฏิของที่นี่จะสร้างด้วยปูน หลังเล็กกระทัดรัด
แม้จะตั้งไม่ห่างกันนัก แต่ก็สงบเงียบดีทีเดียว มักจะได้ยินแต่เสียงธรรมชาติ
ไม่มีเสียงเอะอะมะเทิ่งอะไรให้รำคาญใจเลยค่ะ

แต่ละหลังจะเหน็บไม้กวาดไว้ให้
ส่วนด้านหลังจะมีก๊อกน้ำและมีราวตากผ้า+ไม้แขวนให้ค่ะ
แต่ก็ต้องวัดดวงกันนิดนึง หลังที่เราอยู่ราวตากผ้าใกล้พังแล้ว
ตากไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่ ต้องระวังดีๆ เวลาตาก

อ๊ะ มีแมวมอง

จขบ.ได้อยู่หลังนี้จ้า

เปิดออกมาก็จะเจอกับเตียงไม้ เสื่อ พัดลม
จริงๆ มีหมอน และผ้าห่มให้ด้วยค่ะ
แต่พอดีถ่ายตอนวันกลับต้องเอาไปวางไว้หน้าห้องให้จนท.ซัก ลืมเอามาเข้าฉาก
สำหรับผ้าห่มค่อนข้างบางนิดนึง ถ้าใครขี้หนาวเตรียมมาอีกซักผืนก็กำลังดีค่ะ
ส่วนประตูที่เห็นในภาพเปิดออกไปหลังห้องได้

อีกมุมของห้อง เอาไว้เก็บข้าวของเครื่องใช้
บางห้องก็มีตู้เสื้อผ้าให้ด้วยค่ะ
ส่วนข้างๆ คือห้องน้ำ มีพร้อมทั้งฝักบัว อ่างล้างหน้า ที่วางของ ราวพาดผ้า
ที่วางสบู่ ถังน้ำใช้ และโถส้วมแบบนั่งแต่ไม่มีชักโครก ใช้ตักน้ำราดเอาค่ะ

แถมมุมเก็บของอีกรูป
(ในภาพเป็นของที่มีอยู่ในกูฏิแต่แรกแล้วค่ะ)

มีโต๊ะให้หนึ่งตัวพร้อมเก้าอี้
ที่เห็นวางอยู่คือกระบอกน้ำและแก้วน้ำที่จนท.มอบให้ติดตัวตลอดการอบรมค่ะ

บริเวณใกล้ๆ ที่พักมีผลไม้หลากหลาย อย่างอะเซโรล่าเชอร์รี่ในรูป
เพื่อนบอกว่ามีมัลเบอร์รี่ด้วย แต่ยังไม่ออกผล ก็ดูกันสวยๆ นะคะ
จขบ.ก็ไม่ได้เก็บกินง่ะ กลัวบาป >_<"

บริเวณรอบๆ ถือว่าสัปปายะดีทีเดียว
เพราะแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่ม อากาศดี
อาจจะเพราะไปช่วงหน้าฝนด้วย
วันไหนฝนตกหนักตอนกลางคืนก็อาจจะเย็นหน่อย แต่ไม่ถึงกับหนาวค่ะ
(อากาศในฝันเลยนะเนี่ย)

ทางเดินใกล้ๆ กันกับที่พัก
เวลาแสงอาทิตย์สาดมาจะร่มเย็น ดูผ่อนคลาย บรรยากาศดีแท้ๆ
(แต่มือถือมีฟามสามารถถ่ายได้แค่นี้อ่ะค่า แหะๆ

)

ส่วนบริเวณที่ปฏิบัติธรรมรวมกัน
ก็คือส่วนสำนักงานของสำนักฯ นี่เองค่ะ
ซึ่งเป็นทั้งห้องกรรมฐานในตัว และชั้นบนยังเป็นที่พักรวมของโยคีหญิงอีกด้วย
ส่วนโยคีชายจะพักตึกใกล้เคียงและกุฏิที่ตั้งอยู่รอบๆ อีกด้านหนึ่งค่ะ

อาหาร

ที่นี่จัดเตรียมอาหารให้อย่างเต็มอิ่ม เรียกได้ว่าไม่มีอดแน่นอน
ยกเว้นใครที่ถือศีล 8 เคร่งครัดก็อาจจะต้องเตรียมน้ำปานะมาเองบ้าง
เพราะที่นี่มีน้ำปานะให้ก็จริง แต่เค้าเรียกว่า “เครื่องดื่ม” มากกว่า
เพราะมักจะไม่ตรงกับน้ำปานะที่ควรจะเป็น เช่น นมถั่วเหลือง นมวัว เป็นต้น ตามหลักจะทานไม่ได้ค่ะ

แต่ทางหลักสูตรฯไม่ได้กำหนดว่าต้องถือศีล 8 อยู่แล้ว
(ที่นี่ถือศีลสำหรับผู้ครองเรือน หรือ "อาชีวัฏฐมกศีล")
ก็บอกไว้เป็นข้อมูลสำหรับคนที่ถือศีล 8 จะได้เตรียมไปเองด้วยนะคะ
ส่วนใครที่ไม่ถือ 8 ข้อก็เรียกได้ว่าไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกินเลยค่ะ

ที่ตึกที่พักรวม ด้านล่างจะมีมุมเครื่องดื่มและของว่างแสตนด์บายตลอด 24 ช.ม.
มีทั้ง น้ำร้อน กาแฟ โอวัลติน ผลไม้ ขนมชนิดต่างๆ บางทีก็มีมาม่า
โจ๊กสำเร็จรูป และยังมีชาระบายสำหรับคนท้องผูกเตรียมไว้ด้วย
แถมตอนปฏิบัติเสร็จช่วงค่ำก็มีเจ้าภาพใจดีเตรียมของว่าง อาหาร เครื่องดื่มมาเลี้ยงอีก
จำนวนที่แจกมีจนเกินพอ ไม่มีขาดตกบกพร่องเลยล่ะค่ะ

อีกอาคารหนึ่งจะเป็นที่ทานอาหาร ค่อนข้างกว้าง สะดวกสบายทีเดียว
อาหารที่นี่จะเป็นมังสวิรัติทั้งสามมื้อ เน้นผัก เต้าหู้ ผลไม้ รสชาติก็ถือว่าไม่เลวค่ะ
ยกตัวอย่างเมนูเช่น ต้มยำเห็ด เต้าหู้ผัดผงกะหรี่ ผัดกุ้ยช่ายเห็ดหอม ฯลฯ
และยังมีขนมหวาน ผลไม้ ปิดท้ายในแต่ละมื้อด้วย

วิทยากรบอกว่าการกินมังสวิรัติทำให้ร่างกายเราสบาย
เป็นผลดีต่อการปฏิบัติมากขึ้น ซึ่งก็เห็นด้วยนะคะ สบายขึ้นจริงๆ
จนกระทั่งวันนี้ยังไม่ค่อยอยากจะกินเนื้อเลย เพราะมันลำบากตัวกว่าอย่างเห็นได้ชัดค่ะ

ตอนต่อไป

*ระเบียบปฏิบัติตนและตารางการปฏิบัติ

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2552

Last Update : 16 พฤศจิกายน 2552 18:43:02 น.

0 comments

Counter : 3711 Pageviews.