มีร้านหนังสือเช่ามาแนะนำครับ
กลับมาแล้วครับหลังจากที่ห่างหายจากการอัพบล็อกไป...ไป...เอาเป็นว่านานละกันครับ แหะๆ
พอดีช่วงหลังซื้อหนังสือการ์ตูนยกชุดมาอ่านน่ะครับ เลยไม่ค่อยได้มานั่งคิดเรื่องจะอัพซักเท่าไหร่
แต่เรื่องที่อัพวันนี้ไม่ต้องคิด แค่เอาเรื่องจริงมาบ่นให้ฟังเฉยๆ
...คิดซะว่ายังไงก็ดีกว่าเข้ามาแล้วไม่เจอเรื่องใหม่ละกันนะครับ แหะๆ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ตลาดรังสิต ยังมีร้านหนังสือเช่าร้านหนึ่งชื่อ(เพื่อเป็นการปกปิดชื่อร้าน ผมขอเรียกย่อๆว่า)"พีที"
ร้านนี้ตั้งอยู่ด้านนอกตลาดรังสิต ริมถนนเส้นที่จะไปตัวเมืองปทุมและอยู่ติดกับร้านอินเตอร์เนท (ใช้ชื่อย่อแต่บอกที่ตั้งซะละเอียด 555+)
ด้วยว่าร้านนี้อยู่ริมถนน และผมยังไม่เจอสาวๆสวยๆให้เข้าไปถามว่าในตลาดมีร้านหนังสือเช่าร้านอื่นอีกไหม ผมจึงเลือกใช้บริการร้านนี้
ผมเริ่มใช้บริการร้านนี้ตั้งแต่ช่วงกีฬาโอลิมปิก และจากที่ใช้บริการมาจนถึงวันนี้ผมก็พบว่าร้านนี้มีการบริการที่แทบจะไม่ขาดตกบกพร่องเลย
เรื่องเกี่ยวกับการบริการเรื่องเดียวที่ยังดีไม่พอคือ ผมเคยถามว่าการ์ตูนเรื่องAเล่มXอยู่มั้ย (คนที่น่าจะเป็น)เจ้าของร้าน(แหม็ง)ตอบว่า...
"น้องดูบนชั้นเลย ถ้าไม่เจอก็คือไม่อยู่"
ก็กรูหาไม่เจอไงฟะเลยหวังจะให้มรึงเช็คจากคอมให้ (ร้านนี้ทำบาร์โค้ดติดหนังสือไว้น่ะครับ)
แต่เรื่องนี้ก็เฉยๆอะครับ ไม่เก็บมาใส่ใจมาก หลังจากนั้นหาไม่เจอก็ไม่ถาม จบ
ส่วนเรื่องที่ทำให้ผมตั้งใจว่าพอกันทีกับร้านนี้ก็คือ
- ครั้งแรกเกิดขึ้นวันที่มวยไทยชกชิงเหรียญทองโอลิมปิกเลย (แต่ผมจำไม่ได้นะว่าคู่ปัญหานี่ใครต่อยอยู่ จำได้แต่ว่าเวลาราวๆบ่าย2 แหะๆ)
วันนั้นผมนั่งอ่านหนังสืออยู่ในร้าน มีผู้ชายนั่งอ่านอยู่ด้วยอีก1คน
พอมวยเริ่มชกผมหยุดอ่านแล้วเดินไปใกล้ทีวีเพื่อดูมวย พี่อีกคนก็เช่นกัน
ยก1-3ผ่านไปด้วยดี นักมวยไทยชกได้ดีทำคะแนนนำนักมวยฝ่ายตรงข้าม
เหลือยก4ซึ่งเป็นยกสุดท้าย แค่ประคองตัวรักษาคะแนนที่นำอยู่เราก็จะได้เหรียญทอง
ผมทั้งลุ้นทั้งตื่นเต้นและคิดว่าพี่คนข้างๆก็เช่นกัน แต่ตี๋แว่น(เจ้าของร้านนั่นแหละ)ไม่เป็นเช่นนั้น
พอจบยก3แล้วตัดโฆษณา พี่แกเปลี่ยนไปดูละครหน้าตาเฉย
ตอนแรกผมก็คิดว่าเดี๋ยวมวยมาแหม็งคงเปลี่ยนกลับให้ดู
แต่เวลาผ่านไป มวยน่าจะมาแล้ว พี่แกก็ยังคงดูละครต่อไป ไม่สนใจซักนิดว่ายกสุดท้ายนักมวยของเราจะรักษาคะแนนนำได้จนจบมั้ย ไม่ไยดีที่จะอยากเห็นชัยชนะของนักมวยไทยที่เป็นตัวแทนคนไทยทั้งชาติ
ถามว่าตี๋แว่นผิดมั้ยที่ไม่สนใจถ่ายทอดมวย ผมตอบแทนให้เลยว่าไม่ผิด ก็ถ้าคนเค้าไม่ชอบมันก็ไม่แปลกที่จะไม่ดู ได้ดูมา3ยกก็นับเป็นบุญแล้ว
แต่ขอโทษ ลูกค้าของพี่2คนยืนลุ้นกันไม่เป็นอันอ่านหนังสือเนี่ยมรึงจะมีน้ำใจให้ดูยกสุดท้ายหน่อยไม่ได้รึไงฟะ
...แล้วเมล็ดพันธุ์แห่งความหงุดหงิดใจก็ถูกเพาะขึ้นจากเหตุการณ์นี้
- เหตุการณ์ต่อจากนี้ เกิดขึ้นทั้งหมดในวันเดียว นั่นก็คือวันนี้ และมันก็ทำให้มันเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะใช้บริการของร้านนี้ด้วย
ผมเลือกหนังสือแล้ว จ่ายเงิน หยิบเก้าอี้(เอง...ร้านนี้ไม่มีการเตรียมเก้าอี้ไว้รอคนมานั่งอ่านในร้าน อยากอ่านในร้านเชิญหยิบเอง)แล้วก็นั่งอ่าน
อ่านไปยังไม่จบหน้าแรกก็รู้สึกว่าที่ๆนั่งอยู่มันไม่ค่อยสว่าง ซึ่งก็ไม่แปลก ตำแหน่งหลอดไฟมันไม่ตรงหัว ผมเลยเลื่อนเก้าอี้ไปนั่งตรงหลอดไฟ
"น้องครับ ไม่ให้นั่งตรงนั้นนะครับ เลื่อนเก้าอี้ไปนั่งตรงสุดด้านหลังนั่นนะครับ"
สาบานเถอะ ตรงที่ผมเลื่อนไปนั่งมันไม่ได้ไปเกะกะอะไรใครแน่ๆ เพราะมันไม่ได้ติดกับชั้นหนังสือเลย
...แถมมันก็แนวเดียวกับไอ้ที่ๆตี๋แว่นบอกนั่นแหละ แต่เลื่อนขึ้นมาเมตรเศษ
ที่สำคัญอาทิตย์ที่แล้วผมก็นั่งอ่านตรงนี้แหละ
เอาน่าสงสัยเพิ่งจะดูฮวงจุ้ยมา ถ้ามีคนไปนั่งตรงนั้นร้านเค้าจะเจ๊ง...ผมคิดเข้าข้างตี๋แว่นเพื่อระงับความเซ็ง
จากนั้นผมก็นั่งอ่านไปเรื่อยๆจนกระทั่งตอนบ่าย
จากที่ช่วงนี้อากาศมันเย็น อยู่ๆก็รู้สึกจมูกตันๆขึ้นมา ผมก็เดินไปหยิบทิชชูในกระเป๋าออกมาสั่งน้ำมูก พอสั่งเสร็จผมก็วางไว้ข้างกระเป๋า
...เหตุการณ์ทั้งหมดคงอยู่ในสายตาตี๋แว่นโดยตลอด พอทิชชูแตะพื้นเท่านั้น ประโยคนี้ก็"สั่ง"ออกมา
"น้องครับ เอาทิชชูออกไปทิ้งข้างนอกเลยครับ"
"คงกลัวกรูไม่เอาไปทิ้งมั้ง" ผมคิดในแง่ดี...เพื่อไม่ให้หงุดหงิด
ผมหยิบทิชชูเดินไปทิ้งหน้าร้านแล้วพอเข้าในร้านอีกทีตี๋แว่นก็หล่นมาอีกประโยค
"แล้วทีหลังช่วยออกไปสั่งน้ำมูกข้างนอกร้านด้วยนะครับ"
...
...
...
"ผึง" เสียงของความอดทนขาดออกจากกัน
อึ้กอั้ก ตุ้บตั้บ ผัวะผัวะ
555 ไม่ได้สมชายจรดปลายเท้าขนาดนั้นคร้าบ
ก็แค่คิดว่าคราวหน้ากรูก็ไม่มาร้านมรึงแล่วไอ้แว่น สาดดด
16453/260
Create Date : 16 มกราคม 2552 |
|
16 comments |
Last Update : 16 มกราคม 2552 22:32:35 น. |
Counter : 2418 Pageviews. |
|
|
ว่าแต่..หัวบล็อกกับเนื้อหานี่คนละทางเลยนะ 555+
ขอบคุณที่ไปร่วมแสดงความยินดีนะคะ