กับหญิงเรากวนใจ กับชายเรากวนตีน
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
8 กรกฏาคม 2553

ผจญภัยในญี่ปุ่นแบบหมาป่าโดดเดี่ยว วันที่1 -เหินฟ้าาา-

23 พฤษภาคม 2553

ตื่นเอาe-Ticketไปออกตั๋วตั้งแต่ตี4ที่เคาท์เตอร์ United Airline

เป็นครั้งแรกที่เดินทางด้วยสายการบินนี้เพราะการไปเวียดนามและมาเลย์ 2ครั้งก่อนขึ้นการบินไทยตลอด

ที่ครั้งนี้ไม่ขึ้นการบินไทยก็ไม่ใช่เพราะอะไร เพราะครั้งนี้ออกค่าตั๋วเองน่ะสิ 555 (ครั้งก่อนๆไปทำงาน บ.ออกให้ แหะๆ)

และ UA ก็เฮี้ยบสมคำร่ำลือ ผมต้องโดนรื้อเป้ไป2รอบกว่าจะได้ขึ้นเครื่อง




ตอนออกตั๋วผมแจ้ง จนท.ไปว่าอยากได้ที่นั่งริมหน้าต่างฝั่งที่เห็นภูเขาไฟฟูจิ

แต่คุณ จนท.แจ้งว่าที่นั่งฝั่งฟูจิเต็ม ผมเลยได้ที่นั่งริมหน้าต่างอีกฝั่งแทน

กระนั้นก็ยังโชคดีอยู่บ้างตรงที่ที่นั่งติดกับผมไม่มีคนนั่ง ถัดไปอีกที่จึงมีหนุ่มญี่ปุ่นจับจองอยู่

ผมเลยหยิบไดอารี่มาเขียนมั่ง หยิบหูฟังมาฟังเพลงมั่ง หยิบหนังสือมาอ่านมั่ง จากเป้ที่วางใต้เบาะที่ว่างได้บ่อยโดยไม่ต้องกลัวรบกวนคนข้างๆ




เมื่อเครื่องไต่ระดับได้ที่แล้วแอร์กับสจ๊วตก็เริ่มเสิร์ฟอาหาร




อาหารมีให้เลือก2อย่างคือไอ้รูปข้างบนและสปาเกตตี้ไก่

และไม่น่าเชื่อว่าUAจะเสิร์ฟอาหารจานนี้ให้โดยให้มาแค่เกลือ

เดชะบุญที่เมื่อวานหยิบซอสจาก7-11มาเยอะตอนซื้อไส้กรอก ไม่งั้นมื้อนี้สำหรับผมคงกร่อยน่าดู




หลังเก็บถาดอาหารเสร็จสจ๊วตก็เอาใบเข้าเมือง-ออกเมืองมาแจก

สจ๊วตที่เอาเอกสารมาแจกเป็นชาวญี่ปุ่น แถมตัดสกินเฮดเหมือนผมซะด้วย

ไม่รู้ว่าเพราะผมทรงเดียวกันรึเปล่า พี่สจ๊วตเลยเหมาเอาว่าผมเป็นคนญี่ปุ่น

แล้วก็แจกเอกสารภาษาญี่ปุ่นล้วนมาให้ซะงั้น

...หน้าฝรั่งขนาดนี้ดูยังไงเป็นคนญี่ปุ่น




เครื่องบินเรียบตลอดทางขัดใจคนอยากเจอหลุมอากาศแบบผมเป็นอย่างยิ่ง

และเมื่อใกล้ถึงสนามบินนาริตะเหล่า พนง.ต้อนรับบนเครื่องบินก็เดินแจกอาหารว่างอีกครั้ง

คือเจ้านี่...




ขนมปังประกบแฮมและชีส ถ้าเป็นพวกชีสเลิฟเวอร์คงจะชอบ แต่สำหรับผมมันไม่อร่อยเอาซะเลย

ถ้าไม่ได้ชาเติมครีมและน้ำตาลช่วยเสริม ผมคงกินไม่หมดตั้งแต่ชิ้นแรกและคงไม่ขอเพิ่มอีกชิ้น

...ก็ตอนนั้นมันหิวง่ะ




เมื่อเครื่องจอดสนิท ผมนับเป็นคนที่ไปถึงด่านผู้โดยสารขาเข้าเป็นคนแรกๆของอีโคโนมีคลาสเพราะผมมีเป้ไปใบเดียว ไม่ต้องรอโหลดกระเป๋า

กระนั้นแล้วท้ายแถวที่ต่อก็ยังอยู่ตรงป้าย"รอคิวประมาณ15นาที"

แต่เพราะปวดฉี่ผมเลยยังไม่ไปต่อแถวแต่ไปเข้าห้องน้ำแถวนั้นก่อน พอออกมาแถวก็เลยจากป้าย15นาทีมาอีกเท่าตัว

...กรูจะรีบลงเครื่องมาเพื่ออะไรวะ

แถมท้ายแถวที่เคยมีคนไทยมากมายก็กลายเป็นชาวต่างชาติไปซะหมด

เพิ่งจะบินเดี่ยวครั้งแรกยังไงผมก็อยากมีคนไทยอยู่ใกล้ๆให้อุ่นใจน้า




โอ๊ะๆ ผู้ชาย3คนที่เพิ่งมาต่อแถวถือพาสปอร์ตสีเดียวกับเรามาเลย

เช็คหน้าตาแล้วก็คนไทยชัวร์ อะ ยอมไปต่อท้ายแถวอีกรอบเพื่อความอุ่นใจ

...แต่เอ ทำไมคนไทย3คนนี้มันสำเนียงแปลกๆ ฟังไม่ค่อยออกเลยฟะ?




บทเรียนครั้งนี้สอนให้รู้ว่า หน้าตาเหมือนคนไทย ถือพาสปอร์ตสีเดียวกับพาสปอร์ตไทย อาจจะไม่ใช่คนไทย

ในเมื่อไม่มีคนไทยใกล้ๆให้อุ่นใจผมก็ต้องทำใจ แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

...ขั้นตอนเอกสารจบลงหมดแล้ว จากนี้ก็นั่งรถไฟเข้าเมืองซะที




พอรถไฟเริ่มเข้าเขตตัวเมืองผู้คนก็เริ่มขึ้นจากสถานีรายทางมากขึ้นเรื่อยๆ

แล้วผมก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง...

ชาวญี่ปุ่นมากมายทั้งชายหญิงไม่มีใครเลยที่ใส่เสื้อยืดแขนสั้นตัวเดียวเหมือนผม(ซึ่งมาจากประเทศเมืองร้อนอย่างประเทศไทย)

แต่ละคนใส่เสื้อ2-3ชั้นกันทั้งนั้น

...จะไหวมั้ยวะเนี่ย




เมื่อลงรถที่สถานีอาซาคุสะผมก็พบว่าความหนาวนั้นไม่เป็นอุปสรรคเลย เย็นไปนิดแต่ไม่ถึงกะหนาว

ฝนตะหากที่เป็นอุปสรรคแต่เนื่องจากโฮสได้บอกไว้ว่าให้เอาเสื้อกันฝนไปด้วย

ดังนั้นผมก็ผ่านอุปสรรคนี้ไปได้อย่างสบายๆ

...และอายๆ




ทำไมต้องอายน่ะรึ ก็กว่า 98% ของคนญี่ปุ่นเค้าใช้ร่มกันน่ะสิครับ

อะไรนะ? ก็ยังมีคนใช้เสื้อกันฝนอีก2%เหรอ

ใช่ครับ ผมเห็นคนใส่เสื้อกันฝัน2คนจริงๆ

แต่2คนนั้นคือ โนบิตะคุง(นามสมมุติ)อายุ5ขวบกับชิสุกะจัง(นามสมมุติ)อายุ3ขวบ

ที่สำคัญสีของเสื้อกันฝนมัน...เอ่อ...เคยเห็นสีส้มสะท้อนแสงแบบพวกทำงานจราจรใส่มั้ยครับ

นั่นแหละ ส้มเด่นเห็นชัดพร้อมแถบสีเงินสะท้อนแสงที่เห็นได้แม้รถที่อยู่ห่างไป3โลขณะฝนตกหนัก

...ตอนเตรียมไปก็นึกว่าจะได้ใส่ทำงานแค่ที่ไร่ที่สวน ที่ไหนได้ล่อแหม็งซะที่อาซาคุสะเลย



13617/445




Create Date : 08 กรกฎาคม 2553
Last Update : 12 กรกฎาคม 2553 23:17:00 น. 10 comments
Counter : 1173 Pageviews.  

 
ตามมาอ่านรวดเดียวจบเลย ^ ^


โดย: Beam of Love วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:31:08 น.  

 
อุตส่าห์พกซอสจากเซเว่นขึ้นเครื่องไปด้วย

ไม่มีใครรอบคอบเท่านายอีกแระ ฮ่าๆๆ...


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:12:54:50 น.  

 
ถ้าแวะที่ 7/11 (ไม่ว่าจะสาขาไหน) เข้าไปทีไร ซื้อแต่ขนมปังโฮลวีท จุ่มกินกับ yoghurt รสธรรมชาติ สัก 2 แผ่น ติ๊ต่างว่าเป็นนมข้นหวานล่ะกัน
เสร็จแล้วล้างปากด้วยนมพร่องมันเนย low fat กล่องเล็ก อิ่มท้อง แถมได้ประโยชน์จากสารอาหารครบถ้วน อิอิ


โดย: I_sabai วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:30:06 น.  

 
เด่นดี นำแฟชั่น ทันสมัย 555


โดย: Tree Rose วันที่: 14 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:55:19 น.  

 
อาหารบนเครื่องบินสมัยนี้ลดคุณภาพไปมาก เเถมช้อนซ้อมใช้พาสติกไม่เหมือนเเต่กอ่น

สายการบินนี้บริการไม่ดีเท่าควร เเต่อย่าไปสนใจค่ะ
ถึงที่หมายเป็นใช้ได้..


ตอนนี้สถานที่ท่องเที่ยวเเหล่งต่างๆที่ไป
มีเเต่คนจีนค่ะ..

ได้วีซ่าเเบบไม่กำหนดรายได้ ..เยอะมากๆ บางเเห่งที่ไป 99%


โดย: YUCCA วันที่: 15 กรกฎาคม 2553 เวลา:1:13:36 น.  

 
โห..พี่คีย์เส้ือกันฝนชนะเลิศจริงๆ
ให้มันรู้ไปเลยว่ามาจาก..ไทยแลนด์


โดย: ชะเอมหวาน วันที่: 19 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:46:51 น.  

 
ย้อนมาอ่านบล๊อกนี้ก่อน บรรยายได้สนุกดีค่ะ

ตอนซิ่งมอ'ไซค์ไปทำงาน และฝนตก
ก็ใส่เสื้อกันฝนสีสดๆ เหมือนกัน
กลัวสิบล้อเอาไปกินเพราะไม่เห็นว่าเป็นมอ'ไซค์


โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 19 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:35:28 น.  

 
ตกเครื่องค่ะ ตามมาอ่านเก็บตก ตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ
เขียนได้น่าติดตามอีนะคะ


โดย: CoffeeBake วันที่: 25 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:51:52 น.  

 
วันที่คุณหมาป่าไป เราก็กลับจากญี่ปุ่นพอดี
แอบอิจฉาคนไปวูฟ...


โดย: hollaneung IP: 125.25.184.99 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:33:06 น.  

 
ขอบคุณรีวิวมากครับ สนุกมากครับ อยากไปญี่ปุ่นจัง


โดย: วาชิ อิบาโตะชา IP: 101.109.175.30 วันที่: 16 เมษายน 2556 เวลา:12:18:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kirofsky
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




บล็อกนี้ไม่ใช่บล็อกไร้สาระนะเพียงแต่...

แอบซ่อนสาระขนาดนาโนไว้ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด

ถ้าผู้อ่านท่านใดต้องการสาระควรปฏิบัติตัวดังนี้

- อดทนต่อความไร้สาระที่เคลือบไว้หลายชั้นซะเหลือเกิน

- ทำสมองเบลอๆ (แบบที่ทำตาเบลอเวลาดูภาพสามมิติ) แล้วคุณอาจจะมองเห็นสาระที่แอบซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัด

- ติดตั้งตะแกรงกรองสาระตาละเอียดที่สุดไว้ที่สมอง (ถ้าตะแกรงไม่ละเอียดจะไม่เหลือสาระติดตะแกรงนะเออ)

- ถ้าทำตามทุกข้อแล้วยังหาสาระไม่เจอก็ไม่ต้องแปลกใจ จากข้อมูลของสถาบันเอลิด้า ปารีสระบุว่ามีผู้อ่านบล็อกนี้เพียง0.000186%เท่านั้นที่หาสาระเจอ

..ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบครับ 555+
New Comments
[Add kirofsky's blog to your web]