กับหญิงเรากวนใจ กับชายเรากวนตีน
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
16 มกราคม 2552

มีร้านหนังสือเช่ามาแนะนำครับ

กลับมาแล้วครับหลังจากที่ห่างหายจากการอัพบล็อกไป...ไป...เอาเป็นว่านานละกันครับ แหะๆ

พอดีช่วงหลังซื้อหนังสือการ์ตูนยกชุดมาอ่านน่ะครับ เลยไม่ค่อยได้มานั่งคิดเรื่องจะอัพซักเท่าไหร่

แต่เรื่องที่อัพวันนี้ไม่ต้องคิด แค่เอาเรื่องจริงมาบ่นให้ฟังเฉยๆ

...คิดซะว่ายังไงก็ดีกว่าเข้ามาแล้วไม่เจอเรื่องใหม่ละกันนะครับ แหะๆ



กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ตลาดรังสิต ยังมีร้านหนังสือเช่าร้านหนึ่งชื่อ(เพื่อเป็นการปกปิดชื่อร้าน ผมขอเรียกย่อๆว่า)"พีที"

ร้านนี้ตั้งอยู่ด้านนอกตลาดรังสิต ริมถนนเส้นที่จะไปตัวเมืองปทุมและอยู่ติดกับร้านอินเตอร์เนท (ใช้ชื่อย่อแต่บอกที่ตั้งซะละเอียด 555+)

ด้วยว่าร้านนี้อยู่ริมถนน และผมยังไม่เจอสาวๆสวยๆให้เข้าไปถามว่าในตลาดมีร้านหนังสือเช่าร้านอื่นอีกไหม ผมจึงเลือกใช้บริการร้านนี้



ผมเริ่มใช้บริการร้านนี้ตั้งแต่ช่วงกีฬาโอลิมปิก และจากที่ใช้บริการมาจนถึงวันนี้ผมก็พบว่าร้านนี้มีการบริการที่แทบจะไม่ขาดตกบกพร่องเลย

เรื่องเกี่ยวกับการบริการเรื่องเดียวที่ยังดีไม่พอคือ ผมเคยถามว่าการ์ตูนเรื่องAเล่มXอยู่มั้ย (คนที่น่าจะเป็น)เจ้าของร้าน(แหม็ง)ตอบว่า...

"น้องดูบนชั้นเลย ถ้าไม่เจอก็คือไม่อยู่"

ก็กรูหาไม่เจอไงฟะเลยหวังจะให้มรึงเช็คจากคอมให้ (ร้านนี้ทำบาร์โค้ดติดหนังสือไว้น่ะครับ)

แต่เรื่องนี้ก็เฉยๆอะครับ ไม่เก็บมาใส่ใจมาก หลังจากนั้นหาไม่เจอก็ไม่ถาม จบ



ส่วนเรื่องที่ทำให้ผมตั้งใจว่าพอกันทีกับร้านนี้ก็คือ

- ครั้งแรกเกิดขึ้นวันที่มวยไทยชกชิงเหรียญทองโอลิมปิกเลย (แต่ผมจำไม่ได้นะว่าคู่ปัญหานี่ใครต่อยอยู่ จำได้แต่ว่าเวลาราวๆบ่าย2 แหะๆ)

วันนั้นผมนั่งอ่านหนังสืออยู่ในร้าน มีผู้ชายนั่งอ่านอยู่ด้วยอีก1คน

พอมวยเริ่มชกผมหยุดอ่านแล้วเดินไปใกล้ทีวีเพื่อดูมวย พี่อีกคนก็เช่นกัน

ยก1-3ผ่านไปด้วยดี นักมวยไทยชกได้ดีทำคะแนนนำนักมวยฝ่ายตรงข้าม

เหลือยก4ซึ่งเป็นยกสุดท้าย แค่ประคองตัวรักษาคะแนนที่นำอยู่เราก็จะได้เหรียญทอง

ผมทั้งลุ้นทั้งตื่นเต้นและคิดว่าพี่คนข้างๆก็เช่นกัน แต่ตี๋แว่น(เจ้าของร้านนั่นแหละ)ไม่เป็นเช่นนั้น

พอจบยก3แล้วตัดโฆษณา พี่แกเปลี่ยนไปดูละครหน้าตาเฉย

ตอนแรกผมก็คิดว่าเดี๋ยวมวยมาแหม็งคงเปลี่ยนกลับให้ดู

แต่เวลาผ่านไป มวยน่าจะมาแล้ว พี่แกก็ยังคงดูละครต่อไป ไม่สนใจซักนิดว่ายกสุดท้ายนักมวยของเราจะรักษาคะแนนนำได้จนจบมั้ย ไม่ไยดีที่จะอยากเห็นชัยชนะของนักมวยไทยที่เป็นตัวแทนคนไทยทั้งชาติ

ถามว่าตี๋แว่นผิดมั้ยที่ไม่สนใจถ่ายทอดมวย ผมตอบแทนให้เลยว่าไม่ผิด ก็ถ้าคนเค้าไม่ชอบมันก็ไม่แปลกที่จะไม่ดู ได้ดูมา3ยกก็นับเป็นบุญแล้ว

แต่ขอโทษ ลูกค้าของพี่2คนยืนลุ้นกันไม่เป็นอันอ่านหนังสือเนี่ยมรึงจะมีน้ำใจให้ดูยกสุดท้ายหน่อยไม่ได้รึไงฟะ

...แล้วเมล็ดพันธุ์แห่งความหงุดหงิดใจก็ถูกเพาะขึ้นจากเหตุการณ์นี้

- เหตุการณ์ต่อจากนี้ เกิดขึ้นทั้งหมดในวันเดียว นั่นก็คือวันนี้ และมันก็ทำให้มันเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะใช้บริการของร้านนี้ด้วย

ผมเลือกหนังสือแล้ว จ่ายเงิน หยิบเก้าอี้(เอง...ร้านนี้ไม่มีการเตรียมเก้าอี้ไว้รอคนมานั่งอ่านในร้าน อยากอ่านในร้านเชิญหยิบเอง)แล้วก็นั่งอ่าน

อ่านไปยังไม่จบหน้าแรกก็รู้สึกว่าที่ๆนั่งอยู่มันไม่ค่อยสว่าง ซึ่งก็ไม่แปลก ตำแหน่งหลอดไฟมันไม่ตรงหัว ผมเลยเลื่อนเก้าอี้ไปนั่งตรงหลอดไฟ

"น้องครับ ไม่ให้นั่งตรงนั้นนะครับ เลื่อนเก้าอี้ไปนั่งตรงสุดด้านหลังนั่นนะครับ"

สาบานเถอะ ตรงที่ผมเลื่อนไปนั่งมันไม่ได้ไปเกะกะอะไรใครแน่ๆ เพราะมันไม่ได้ติดกับชั้นหนังสือเลย

...แถมมันก็แนวเดียวกับไอ้ที่ๆตี๋แว่นบอกนั่นแหละ แต่เลื่อนขึ้นมาเมตรเศษ

ที่สำคัญอาทิตย์ที่แล้วผมก็นั่งอ่านตรงนี้แหละ

เอาน่าสงสัยเพิ่งจะดูฮวงจุ้ยมา ถ้ามีคนไปนั่งตรงนั้นร้านเค้าจะเจ๊ง...ผมคิดเข้าข้างตี๋แว่นเพื่อระงับความเซ็ง

จากนั้นผมก็นั่งอ่านไปเรื่อยๆจนกระทั่งตอนบ่าย

จากที่ช่วงนี้อากาศมันเย็น อยู่ๆก็รู้สึกจมูกตันๆขึ้นมา ผมก็เดินไปหยิบทิชชูในกระเป๋าออกมาสั่งน้ำมูก พอสั่งเสร็จผมก็วางไว้ข้างกระเป๋า

...เหตุการณ์ทั้งหมดคงอยู่ในสายตาตี๋แว่นโดยตลอด พอทิชชูแตะพื้นเท่านั้น ประโยคนี้ก็"สั่ง"ออกมา

"น้องครับ เอาทิชชูออกไปทิ้งข้างนอกเลยครับ"

"คงกลัวกรูไม่เอาไปทิ้งมั้ง" ผมคิดในแง่ดี...เพื่อไม่ให้หงุดหงิด

ผมหยิบทิชชูเดินไปทิ้งหน้าร้านแล้วพอเข้าในร้านอีกทีตี๋แว่นก็หล่นมาอีกประโยค

"แล้วทีหลังช่วยออกไปสั่งน้ำมูกข้างนอกร้านด้วยนะครับ"

...

...

...

"ผึง" เสียงของความอดทนขาดออกจากกัน

อึ้กอั้ก ตุ้บตั้บ ผัวะผัวะ

555 ไม่ได้สมชายจรดปลายเท้าขนาดนั้นคร้าบ

ก็แค่คิดว่าคราวหน้ากรูก็ไม่มาร้านมรึงแล่วไอ้แว่น สาดดด



16453/260




Create Date : 16 มกราคม 2552
Last Update : 16 มกราคม 2552 22:32:35 น. 16 comments
Counter : 2413 Pageviews.  

 
อย่าไปสนับสนุนค่ะร้านอย่างนี้ ไม่ไหวอ้ะ เราว่าจขบ.นี่ความอดทนสูงมากๆ เลยนะคะนี่

ว่าแต่..หัวบล็อกกับเนื้อหานี่คนละทางเลยนะ 555+



ขอบคุณที่ไปร่วมแสดงความยินดีนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:12:44:03 น.  

 
ไปเถอะ...ไปอีกซักครั้งนึง









...ไปขอเบอร์ตี๋แว่นให้ออมหน่อย


ปล.เป็นออมเดินออก+ไม่เข้าร้านนี้อีกตั้งแต่แม่งเปลี่ยนช่องละ
ไม่ต้องรอให้มันมาด่าเรื่องขี้มูกหรอก


โดย: *~LiTtlE SpAce~* วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:19:02:00 น.  

 
น่าจะเผาร้านมันเนอะ...อิอิ...หนังสือคือเชื้อเพลิงอย่างดี...

..............................

หายไปนานเลยนะจ๊ะคีย์...

กลับมาพร้อมกับ เมล็ดพันธืแห่งคงามหงุดหงิดใจที่งอกงามขึ้น..


โดย: ทากชมพู วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:19:38:05 น.  

 
ร้านงี่เง่า คนเล่างอแง


โดย: babyblythe วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:20:03:24 น.  

 


โดย: นู๋นิด (happypig@nk ) วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:20:48:26 น.  

 
วัวควายที่มีคนมาไถ่ชีวิต ที่โรงฆ่าสัตว์ก็จะมีเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์เขามารับไปดูแลต่อคะ แล้วก็จะส่งต่อไปให้ชาวนาที่ยากจนเอาไว้ใช้งานค้า


โดย: IndyMania วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:21:28:31 น.  

 
หายไปนานอีกแล้วนะท่านนะ... เดี๊ยะส่งมาเฟียมารื้อบล็อกเลยนิ


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:2:09:50 น.  

 

พี่คีย์ก๊ะ อิอิ..ไอว่านะ ...ตบโต๊ะขู่ไปสัก 1 ครั้งดีมั้ยเนี่ย

เปล่าค่ะ ล้อเล่นนะ...ใจเย็นไว้ค่ะ ...

ขอ Add ไว้นะพี่คีย์นะ...


โดย: I_sabai วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:15:00:13 น.  

 
emo...พี่ตี๋แว่นแกคงไม่อยากทำอาชีพนี้หน่ะค่ะ ... คุณคีย์
อาจโดนบังคับมาทำ เลยรวน ๆ ซะ ร้านจะได้เจ๊ง แกจะได้ไปทำอย่างอื่นหน่ะค่า
เพียงแต่แกอาจโดนตรีนตายซะก่อนนี่สิ...


โดย: ลิตช์ (Litchi ) วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:0:51:59 น.  

 


มาชวนไปดื่มกาแฟกันค่ะ

ทานอาหารกลางวันหรือยังเอ่ย


โดย: I_sabai วันที่: 20 มกราคม 2552 เวลา:11:54:07 น.  

 
หายไปอีกแล้ว

ไม่รู้เจ้าของร้านเช่าสั่งเก็บ...รึไงสิน่ะ...

มาเมื่อไหร่...ไปเยี่ยมหน่อยนะจ๊ะ...

..................................


โดย: ทากชมพู วันที่: 20 มกราคม 2552 เวลา:19:20:31 น.  

 
ค ว ย


โดย: เลว IP: 124.121.85.90 วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:20:20 น.  

 
คุณสมบัติผู้ดีมีมั่งป่าวเนี่ย

ว่าคนอื่นเค้า ดูตัวเองบ้างเถอะ

ไปสั่งน้ำมูกที่ร้านคนอื่นแล้ววางไว้เนี่ยน่ะ

อายุเท่าไหร่แล้วถ้าซัก4ขวบจะไม่ว่าเลยน่ะ

ถ้าเป็นคุนมีคนไปสั่งน้ำมูกไว้ที่บ้านคุนแล้ววางไว้

คุนจะนั่งดูเค้าเฉยๆหรอค่ะแล้วถ้าเพื่อนมันลืมไว้หล่ะ

คุนจะหยิบทิชชู่เพื่อนไปทิ้งโดยที่ไม่บ่นหรอค่ะ

เข้าใจว่าเป้นลูกค้าน่ะแต่คุนก็น่าจะให้เกียรติสถานที่กันบ้างน่ะค่ะ

มันที่ทำมาหากินของเค้าแล้วก็เป็นร้านหนังสือด้วย

เฮ้อ..มันก็อยู่ที่จิตสำนึกอีกอ่ะค่ะถ้าคิดว่าไม่ผิดมันก็คือไม่ผิดจิงมั้ยค่ะ


โดย: คนกลาง IP: 124.121.85.90 วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:29:11 น.  

 
****โปรดใช้ความเป็นกลางและมองอย่างคนดีดีทั่วไป ในการอ่าน***
ขอตอบทีละประเด็นเลยนะครับ
เรื่องเกี่ยวกับการบริการเรื่องเดียวที่ยังดีไม่พอคือ ผมเคยถามว่าการ์ตูนเรื่องAเล่มXอยู่มั้ย (คนที่น่าจะเป็น)เจ้าของร้าน(แหม็ง)ตอบว่า...

"น้องดูบนชั้นเลย ถ้าไม่เจอก็คือไม่อยู่"

ก็กรูหาไม่เจอไงฟะเลยหวังจะให้มรึงเช็คจากคอมให้ (ร้านนี้ทำบาร์โค้ดติดหนังสือไว้น่ะครับ)

แต่เรื่องนี้ก็เฉยๆอะครับ ไม่เก็บมาใส่ใจมาก หลังจากนั้นหาไม่เจอก็ไม่ถาม จบ

ประเด็นนี้ขอตอบก่อนเลยนะครับ
คุณมาที่ร้านแต่ละทีเลือกเป็นคึ่ง ชม . บางที่ก็เช่า บางทีก็ไม่เช่า เช่าที่ก็เล่มเดียว แต่อ่านไปไม่รู้กี่เล่ม
ทำพฤติกรรมแบบนี้มาหลายครั้ง อ่านพอใจเสร็จแล้ว ก็ทำมาเป็นถามหนังสือที่ไม่อยู่ (คุณก็ดูแล้วก็รู้ว่าไม่อยู่ทำมาแกล้งเป็นถาม) พอผมตอบว่าไม่อยู่คุณก็เดินออกไป (หลังจากอ่านฟรีไปแล้ว)
แล้วที่ตอบว่า "น้องดูบนชั้นเลย ถ้าไม่เจอก็คือไม่อยู่" มันผิดตรงไหนครับ ในเมื่อคุณก็ดูแล้วมันไม่อยู่จิงๆ จะให้ผมไปเสกมาจากไหนครับ แล้วคนแบบคุณ ลองผม ตอบไปเลยว่าหนังสือไม่อยู่ คุณก็มาหาว่าผม แมร่งยังไม่ทันดูให้เลย ก็ตอบว่าไม่อยู่แล้ว แล้วการพูดจาของคุณเวลามาถามก็ไม่ได้ดีเลยนะ หัดดูแล้วก็พิจารณาพฤติกรรมตัวเองก่อนด้วยครับ อยากให้คนอื่นพูดจาดีๆด้วยคุณก็ควรเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ทั้งการพูดจาและท่าทาง

ก็กรูหาไม่เจอไงฟะเลยหวังจะให้มรึงเช็คจากคอมให้ (ร้านนี้ทำบาร์โค้ดติดหนังสือไว้น่ะครับ)
อันนี้ แล้วคุณเคยมั้ยที่จะบอกให้ผมช่วยหา ทั้งจากในคอมและบนชั้นหนังสือ ก็ป่าวเลย แล้วการที่คุณหาแล้วไม่เจอ หนังสือมันไม่อยู่คนเช่าไป มันเป็นความผิดผมหรือครับที่หนังสือไม่อยู่
แล้วพอเวลาผมเห็นคุณเลือกหนังสือนานๆ ผมไปถามคุณว่าหาเรื่องอะไรอยู่ หลังจากคุณเปิดอ่านไปหลายเล่มแล้วเดินวนไปวนมา คุณก็เงียบไม่ตอบ หรือตอบก็บอกว่าดูอยู่ พฤติกรรมชอบอ่านฟรีก่อนแบบคุณ ผมว่าไม่มีร้านเช่าร้านไหนชอบหรอกครับ แต่ผมก็พยายามอดทนกับพฤติกรรมของคุณมาตลอด แล้วถ้าจำไม่ผิด คุณก็ไม่ได้เป็นสมาชิกที่ร้าน แค่มาอาศัยอ่านครั้งเป็นคราว ผมก็ยังพยายามอดทนกับพฤติกรรมของคุณ


ส่วนเรื่องที่ทำให้ผมตั้งใจว่าพอกันทีกับร้านนี้ก็คือ

- ครั้งแรกเกิดขึ้นวันที่มวยไทยชกชิงเหรียญทองโอลิมปิกเลย (แต่ผมจำไม่ได้นะว่าคู่ปัญหานี่ใครต่อยอยู่ จำได้แต่ว่าเวลาราวๆบ่าย2 แหะๆ)

วันนั้นผมนั่งอ่านหนังสืออยู่ในร้าน มีผู้ชายนั่งอ่านอยู่ด้วยอีก1คน

พอมวยเริ่มชกผมหยุดอ่านแล้วเดินไปใกล้ทีวีเพื่อดูมวย พี่อีกคนก็เช่นกัน

ยก1-3ผ่านไปด้วยดี นักมวยไทยชกได้ดีทำคะแนนนำนักมวยฝ่ายตรงข้าม

เหลือยก4ซึ่งเป็นยกสุดท้าย แค่ประคองตัวรักษาคะแนนที่นำอยู่เราก็จะได้เหรียญทอง

ผมทั้งลุ้นทั้งตื่นเต้นและคิดว่าพี่คนข้างๆก็เช่นกัน แต่ตี๋แว่น(เจ้าของร้านนั่นแหละ)ไม่เป็นเช่นนั้น

พอจบยก3แล้วตัดโฆษณา พี่แกเปลี่ยนไปดูละครหน้าตาเฉย

ตอนแรกผมก็คิดว่าเดี๋ยวมวยมาแหม็งคงเปลี่ยนกลับให้ดู

แต่เวลาผ่านไป มวยน่าจะมาแล้ว พี่แกก็ยังคงดูละครต่อไป ไม่สนใจซักนิดว่ายกสุดท้ายนักมวยของเราจะรักษาคะแนนนำได้จนจบมั้ย ไม่ไยดีที่จะอยากเห็นชัยชนะของนักมวยไทยที่เป็นตัวแทนคนไทยทั้งชาติ

ถามว่าตี๋แว่นผิดมั้ยที่ไม่สนใจถ่ายทอดมวย ผมตอบแทนให้เลยว่าไม่ผิด ก็ถ้าคนเค้าไม่ชอบมันก็ไม่แปลกที่จะไม่ดู ได้ดูมา3ยกก็นับเป็นบุญแล้ว

แต่ขอโทษ ลูกค้าของพี่2คนยืนลุ้นกันไม่เป็นอันอ่านหนังสือเนี่ยมรึงจะมีน้ำใจให้ดูยกสุดท้ายหน่อยไม่ได้รึไงฟะ

ประเด็นนี้ การที่ผมเปลี่ยนไปดูละคร เพราะแม่ของผมเขาต้องการดูละคร ซึ่งดูอยู่เป็นประจำ แล้วผมผิดด้วยหรอที่จะเปลี่ยนช่องไปให้แม่ผมดูเนี่ย(ซึ่งผมเองก็ยังอยากดูมวยเหมือนกัน) ไม่ทราบว่าการที่ผมกตัญญูต่อแม่ผม ผิดด้วยหรือครับ แล้วที่คุณว่าผมไม่มีน้ำใจนะ คุณอยากดูมากขนาดนั้น ทำมั้ยคุณไม่บอกผมละครับ ว่าพี่ผม ขอดูมวยต่อหน่อย ถ้าคุณบอกแล้วผมไม่ให้ดูสิครับ คุณค่อยมาว่าผมว่าผมไม่มีน้ำใจ ไม่ใช่เอาไปเก็บกด แล้วมาต่อว่าคนอื่นลับหลัง ให้ร้ายผมในทางเสียหาย

...แล้วเมล็ดพันธุ์แห่งความหงุดหงิดใจก็ถูกเพาะขึ้นจากเหตุการณ์นี้

- เหตุการณ์ต่อจากนี้ เกิดขึ้นทั้งหมดในวันเดียว นั่นก็คือวันนี้ และมันก็ทำให้มันเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะใช้บริการของร้านนี้ด้วย

ผมเลือกหนังสือแล้ว จ่ายเงิน หยิบเก้าอี้(เอง...ร้านนี้ไม่มีการเตรียมเก้าอี้ไว้รอคนมานั่งอ่านในร้าน อยากอ่านในร้านเชิญหยิบเอง)แล้วก็นั่งอ่าน

อ่านไปยังไม่จบหน้าแรกก็รู้สึกว่าที่ๆนั่งอยู่มันไม่ค่อยสว่าง ซึ่งก็ไม่แปลก ตำแหน่งหลอดไฟมันไม่ตรงหัว ผมเลยเลื่อนเก้าอี้ไปนั่งตรงหลอดไฟ

"น้องครับ ไม่ให้นั่งตรงนั้นนะครับ เลื่อนเก้าอี้ไปนั่งตรงสุดด้านหลังนั่นนะครับ"

สาบานเถอะ ตรงที่ผมเลื่อนไปนั่งมันไม่ได้ไปเกะกะอะไรใครแน่ๆ เพราะมันไม่ได้ติดกับชั้นหนังสือเลย

...แถมมันก็แนวเดียวกับไอ้ที่ๆตี๋แว่นบอกนั่นแหละ แต่เลื่อนขึ้นมาเมตรเศษ

ที่สำคัญอาทิตย์ที่แล้วผมก็นั่งอ่านตรงนี้แหละ

เอาน่าสงสัยเพิ่งจะดูฮวงจุ้ยมา ถ้ามีคนไปนั่งตรงนั้นร้านเค้าจะเจ๊ง...ผมคิดเข้าข้างตี๋แว่นเพื่อระงับความเซ็ง

จากนั้นผมก็นั่งอ่านไปเรื่อยๆจนกระทั่งตอนบ่าย

ผมเลือกหนังสือแล้ว จ่ายเงิน หยิบเก้าอี้(เอง...ร้านนี้ไม่มีการเตรียมเก้าอี้ไว้รอคนมานั่งอ่านในร้าน อยากอ่านในร้านเชิญหยิบเอง)แล้วก็นั่งอ่าน

ประเด็นนี้ มันแปลกหรือผิดตรงไหนหรอครับ มันเป็นบริการเสริมของทางร้าน ซึ่งบางร้านก็ไม่ได้มีบริการให้ลูกค้ามาเช่าอ่านในร้าน แล้วการที่คุณต้องยกเก้าอี้ซักตัวนึงมานั่งอ่านเองมันลำบากมากหรอ หรือว่ายกไม่ไหว ทำมั้ยไม่บอกละครับ ผมเปิดร้านมาจะ 10 ปีไม่เคยมีใคร บ่นเรื่องเก้าอี้เลยซักคนเดียว เพิ่งเจอคนแบบคุณนี้แระ ที่ไม่ค่อยเข้าใจและยอมรับกฏกติกาของผู้อื่น

ส่วนประเด็นที่นั่ง ที่คุณว่าแค่เมตรเศษ ไม่มากมาย เข้าใจว่าที่บ้านคุณของใหญ่โตกว้างมากเลยบอกว่าเลื่อนออกมาแค่เมตรเศษไม่ได้มากมายอะไร แล้วที่ว่าไม่เกะกะชั้นหนังสือ แต่มันเกะกะคนเดินนะครับ แถมคนต้องมาเดินข้ามหน้าข้ามตาคุณไปอีกคุณก็คงไม่ชอบ คนเดินก็คงเกรงใจอึดอัด ส่วนที่คุณบอกว่า อาทิตย์ก่อนคุณเคยอ่านตำแหน่งนั้น นั้นเพราะครั้งนั้น มีคนนั่งตำแหน่งนั้นก่อนคุณแล้ว ผมเลยให้คุณนั่งถัดมาจากด้านหน้าเขา ทั้งที่จิงผมก็ไม่อยากให้คนนั่งตำแหน่งนั้นเท่าไร เพราะคนเดินไม่สะดวก แต่ถ้าผมไม่ให้คุณนั่งอ่าน คุณก็คงมาเปิดประเด็นกล่าวร้ายผมอีก แล้วที่คุณว่าไฟสว่างไม่พอ อันนี้ก็ไม่มีเห็นมีลูกค้าคนอื่นพูดอะไร หรือไม่งั้นทำมั้ยคุณไม่บอกผมละครับ บอกเหตุผลผมมั้งสิครับ ไม่ใช่เก็บกดแล้วไปใส่ร้ายผมลับหลังแบบนี้
ส่วนเรื่องฮวงจุ้ย ตลกมากเลยนะครับ ผมเปิดร้านมาจะ10ปีแล้ว ร้านไม่เจ๊งหรอกครับ(ไม่ต้องมาคิดแทนหรอกครับ) แต่ผมกลับรู้สึกว่าพอคุณไม่มาร้านผมอีก ร้านผมเจริญขึ้นมากมาย แล้วผมก็สบายใจไม่ต้องมาทนกับพฤติกรรมลูกค้าเกรดล่างแบบคุณอีก แล้วถ้าพฤติกรรมผมแย่อย่างคุณว่าจิงทั้งหมด ผมคงไม่เปิดร้านมาเกือบ10 ปีหรอกครับ ผมก็ยอมรับว่าผมคงไม่ได้พูดจาดีกับคุณซะเท่าไร ผมพฤติกรมที่คุณแสดงออกมาก่อน ถึงลูกค้าคือพระเจ้า แต่ลูกค้าบางคนในร้านหนังสือก็คือ ปิศาจร้ายในคราบคน เช่น พวกชอบขโมยหนังสือ ยืมแล้วไม่คืน มายืนอ่านฟรี อ่านสักฟรีสัก5 เล่มค่อยเช่าอ่านสัก 1 เล่ม พวกชอบทำท่าอย่างกับตัวเองเป็นผู้ยิ่งใหญ่ จะเอาอะไรต้องให้ได้ ถ้าหนังสือไม่อยู่ กลายเป็นเจ้าของร้านผิด บริการต้องถูกใจทุกอย่าง อยากนั่งตรงไหนก็จะนั่ง อยากจะทิ้งขยะก็ทิ้ง ฉะนั้นอยากให้คุณพิจารณาตัวเองด้วย
หรือเพราะผมเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิงคุณเลยมีพฤติกรรมไม่ให้เกรียติคนอื่น ตามคอนเซป ของคุณที่ว่า กับหญิงเรากวนใจ กับชายเรากวนตีน ซึ่งพฤติกรรมคุณ ก็เป็นแบบนั้นจิงๆ ผมพยายามอดทนกับการกระทำของคุณ อยากจะบอกคุณ ว่าไม่ต้องมาที่ร้านผมอีกตั้งแต่วันแรกๆที่คุณมาที่ร้านผมแล้ว แต่ผมก็พยายามอดทน ตามที่เขาบอกว่า ลูกค้า คือพระเจ้า แต่กับคุณมันไม่ไหวจิงๆ ผมพยายามแสดงออกไปแล้วว่าไม่อยากให้คุณมาที่ร้าน ผมอีก แต่คุณก็ยังบากหน้ามา ผมก็ ok คุณยังกล้ามา ผมก็ปล่อยคุณไป ให้คุณเช่าไป เพราะคุณไม่เป็นสมาชิกนานๆจะมาที

จากที่ช่วงนี้อากาศมันเย็น อยู่ๆก็รู้สึกจมูกตันๆขึ้นมา ผมก็เดินไปหยิบทิชชูในกระเป๋าออกมาสั่งน้ำมูก พอสั่งเสร็จผมก็วางไว้ข้างกระเป๋า

...เหตุการณ์ทั้งหมดคงอยู่ในสายตาตี๋แว่นโดยตลอด พอทิชชูแตะพื้นเท่านั้น ประโยคนี้ก็"สั่ง"ออกมา

"น้องครับ เอาทิชชูออกไปทิ้งข้างนอกเลยครับ"

"คงกลัวกรูไม่เอาไปทิ้งมั้ง" ผมคิดในแง่ดี...เพื่อไม่ให้หงุดหงิด

ผมหยิบทิชชูเดินไปทิ้งหน้าร้านแล้วพอเข้าในร้านอีกทีตี๋แว่นก็หล่นมาอีกประโยค

"แล้วทีหลังช่วยออกไปสั่งน้ำมูกข้างนอกร้านด้วยนะครับ"

ประเด็นนี้ ผมละสุดทนกับพฤติกรรมของคุณมากๆ ที่คุณว่าเดินมาหยิบกระดาษในกระเป๋าแล้วสั่งน้ำมูกเนี่ย กระเป๋าที่คุณว่ามันไม่ได้วางห่างจากที่ผมนั่งเลย มีคนมายืนสั่งน้ำมูกไม่ไกลจากตัวคุณนี่ ถามหน่อยว่ามีใครที่ไหนชอบมั้ย ผมก็พยายามอดทนไม่ว่าไรคุณในตอนนั้น พยายามคิดว่าคนเรามันมีหลายประเภท คนที่มีมารยาททางสังคมกับ ไม่เข้าใจโลก พอใจทำไรก็ทำ ไม่มีความเกรงใจคนอื่น แต่ไม่เท่านั้น คุณก็ยังไม่หยุดพฤติกรรมน่าขยะแขยงของคุณ โดยการวางกระดาษที่เต็มไปด้วยน้ำมูกอันโสโครกของคุณข้างๆกระเป๋า ซึ่งไม่ห่างจากตัวผมเลย แล้วผมก็บอกคุณดีๆ ด้วย ว่า ตามที่คุณพิม "น้องครับ เอาทิชชูออกไปทิ้งข้างนอกเลยครับ" มันเลวร้ายตรงไหนครับ ประโยคเนี่ย กับพฤติกรรมที่คุณทำ แล้วผมไม่เข้าใจว่าการที่คุณจะหยิบกระดาษ แล้วออกไปสั่งน้ำมูกนอกร้านให้เรียบร้อย แล้วทิ้งไปในถังขยะด้านนอกเนี่ย (ซี่งเป็นการกระทำ ที่คนดีดี ทั่วไปเข้าปฏิบัติกัน) มันลำบากมากหรืองั้ยครับ ส่วนที่ผมบอกคุณไปว่า "แล้วทีหลังช่วยออกไปสั่งน้ำมูกข้างนอกร้านด้วยนะครับ" ประโยคนี้ผมก็จำเป็นต้องบอกคุณ เพราะหวังดีกับคุณ ไม่อยากให้คุณทำพฤติกรรมแบบนี้อีก ไม่ว่าจะกลับที่ร้านผม หรือสถานที่อื่นๆ แล้วผมก็ใช้ประโยคที่สุภาพกับคุณแล้ว ไม่ได้พูดจาไม่สุภาพกับคุณเลยสักนิดเดียว แต่คุณมาพูดจาให้ร้ายผมซะเสียหาย แล้วที่คุณบอกว่าหลังจากวันนั้นคุณก็ไม่มาร้านผมอีก ผมก็คิดว่าคุณจะไม่มาจิงๆ แต่คุณก็ยังกลับมาพร้อมกับพฤติกรรมท่าทางกวนๆ ของคุณ ตาม สโลแกนของคุณ กับหญิงเรากวนใจ กับชายเรากวนตีน จนผมเริ่มหมดความอดทน และบอกคุณไปว่าไม่ต้องมาที่ร้านผมอีก นั่นแระคุณถึงไม่มา และผมก็เข้าใจนี้คงเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณไม่พอใจ เลยมาพิมใส่ร้ายผม ว่าร้ายเสียๆหายๆโดยไม่มอง พฤติกรรมตัวเองเลย

ความจิงผมก็ไม่อยากใส่ใจอะไรกับคนที่ไม่รับความจิงแบบคุณ กลับดำเป็นขาว กลับขาวเป็นดำ พูดจาอย่างกับตัวเองเป็นคนดีนักหนา แต่ใส่ร้ายคนอื่น ประเภทเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น
แต่ที่ผมต้องออกมาชี้แจ้ง เพราะลูกค้าที่ร้านบังเอิญไปเจอ เรื่องที่คุณเขียน และมาบอกผม ตอนแรกผมก็ว่าจะไม่เข้ามาตอบโต้คุณ แต่ลูกค้าคนนั้น ได้เข้าไปตอบโต้กลับคุณเอง ซึงผมก็ได้ตำหนิ การที่น้องเขาใช้ถ้อยคำไม่สุภาพไปแล้ว แล้วก็ต้องมาขอโทษคนที่เข้ามาอ่านแล้วเจอแทนน้องเขาด้วยนะครับ

แล้วหลังจากที่คุณมาเปิดประเด็น ภาคต่อการใส่ร้ายของคุณ ผมเลยคิดว่า เพื่อให้คนอ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่ใช่ข้อมูลจากฝ่ายเดียว คนของที่โมโหและเสียหน้า จากการที่ผมไม่ให้คุณมาใช้บริการที่ร้านอีก ไม่ใช่คุณไม่มาเอง

ปล. โปรดใช้ความเป็นกลางและมองอย่างคนดีดีทั่วไป ในการอ่าน
ปล. 2 หวังว่าคุณจะไม่ตัดทอนข้อความที่ผมพิมไป
ปล. 3 รบกวนถามผู้รู้การที่คุณเอาชื่อร้านผม มาว่าร้ายแบบนี้ยังชัดเจนทางสาธารณะ เป็นการหมิ่นประมาณทาง กม. หรือป่าวครับ
ปล.4 ผมไม่ได้ออกมาเพื่อเถียงกับคุณ แต่แค่ออกมาให้ข้อมูลของจริงเท่านั้น


โดย: เจ้าของร้านที่คุณใส่ร้าย IP: 124.122.225.119 วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:11:54:39 น.  

 
ตามอ่านจนเหนื่อย...




โดย: MeJayya วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:15:55:30 น.  

 
ช่ายลุ้นอยู่เหมือนกานอ่ะ


โดย: 5555+ IP: 58.11.40.62 วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:14:39:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kirofsky
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




บล็อกนี้ไม่ใช่บล็อกไร้สาระนะเพียงแต่...

แอบซ่อนสาระขนาดนาโนไว้ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด

ถ้าผู้อ่านท่านใดต้องการสาระควรปฏิบัติตัวดังนี้

- อดทนต่อความไร้สาระที่เคลือบไว้หลายชั้นซะเหลือเกิน

- ทำสมองเบลอๆ (แบบที่ทำตาเบลอเวลาดูภาพสามมิติ) แล้วคุณอาจจะมองเห็นสาระที่แอบซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัด

- ติดตั้งตะแกรงกรองสาระตาละเอียดที่สุดไว้ที่สมอง (ถ้าตะแกรงไม่ละเอียดจะไม่เหลือสาระติดตะแกรงนะเออ)

- ถ้าทำตามทุกข้อแล้วยังหาสาระไม่เจอก็ไม่ต้องแปลกใจ จากข้อมูลของสถาบันเอลิด้า ปารีสระบุว่ามีผู้อ่านบล็อกนี้เพียง0.000186%เท่านั้นที่หาสาระเจอ

..ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบครับ 555+
New Comments
[Add kirofsky's blog to your web]