การดูพื้นฐานหุ้น เปรียบเทียบกับราคา โดยคุณสาระขัน..
มีแฟนคลับของกระทู้นายสาระขัน อยากให้เขียนเรื่องการดูพื้นฐานของหุ้น ผมก็เขียนมาให้อ่าน จากประสบการณ์ในตลาดหุ้นมากกว่า 10 ปี รวมทั้งพื้นฐานความรู้ด้านบัญชี หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่เข้ามาอ่าน หากท่านใด มีข้อเสอนแนะ มีข้อมูลที่จะมาแลกเปลี่ยนกัน ก็ยินดีนะครับ
บทนำ
การเล่นหุ้น หรือ ลงทุนในหุ้น มีอยู่ 2 หลักใหญ่ คือ 1. เล่นเก็งกำไรเป็นหลัก โดยใช้เทคนิค 2. เน้นแบบลงทุน โดยดูพื้นฐาน จะเล่นแบบไหน ก็แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน ไม่ควรเล่นแบบเดาสุ่ม ซื้อตามข่าว ตามบทวิเคราะห์ที่เขามาเขียนเชียร์
การใช้เทคนิค
เป็นการดึงข้อมูลราคาหุ้นในอดีต มาเขียนเป็นกราฟ โดยใช้โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์ ก็ต้องไปศึกษาวิธีการ และซื้อโปรแกรมมาติดตั้ง รวมทั้งการดึงข้อมูลราคา หลังจากนั้นก็ดึงกราฟหุ้นแต่ละตัวที่ต้องการดูออกมา หรือกราฟของดัชนีก็ได้ แล้วก็ต้องศึกษาวิธีการอ่านกราฟ มีเส้นกราฟราคา เส้นสัญญาณต่างๆที่จะบอกถึง แนวรับและแนวต้าน รวมทั้งดูว่า อยู่ในเขตซื้อหรือขายมากไป และวิเคราะห์ดูว่า แนวโน้มข้างหน้า จะขึ้น หรือ จะลง เพื่อตัดสินใจจะซื้อหรือจะขาย ผมไม่ได้ศึกษาเทคนิค รู้แต่เพียงหลักการ ถ้าจะศึกษาแบบจริงจัง ก็ต้องไปเรียนใช้เวลาพอควร
คนที่เล่นหุ้นวิธีนี้ ส่วนใหญ่จะไม่ดูข้อมูลของบริษัทนั้น ดูกราฟเป็นหลัก เมื่อดูว่า มีสัญญาณให้ซื้อ ก็ซื้อ มีสัญญาณระบุว่า ให้ขาย ก็ขาย แม้จะขายขาดทุน คือ Cut Loss ก็ขาย ลักษณะจะเป็นแบบ ชาวไล่ คือ มักจะซื้อเมื่อหุ้นตัวนั้นขึ้นทะลุแนวต้าน ยิ่งมี New High ก็ยิ่งจะซื้อ แบบว่า ไล่ซื้อตาม เพราะคาดว่า แนวโน้มจะขึ้นต่อ แต่การอ่านหรือวิเคราะห์กราฟก็ไม่แน่นอน หลายครั้ง นักเทคนิคแต่ละคน ก็วิเคราะห์แตกต่างกันในเรื่องเดียวกัน การเล่นวิธีนี้ จะเล่นได้บ่อย มีกำไรและมีขาดทุน เรียกว่า Take Profit และ Cut Loss ใครเล่นได้ดี ก็จะมีกำไรมากกว่าขาดทุน ผมไม่ได้ศึกษาเทคนิค อาจจะมีบางอย่างเขียนผิดไป ใครศึกษาเทคนิคมา จะมาให้ความเห็น ก็ยินดีครับ
การดูพื้นฐาน
เป็นการดูว่า ควรจะซื้อหุ้นตัวหนึ่งตัวใด โดยดูราคาเปรียบเทียบกับพื้นฐาน การซื้อหุ้นของผม จะใช้วิธีนี้ และไม่เคยดูกราฟ มีเข้าไปดูกราฟและการวิเคราะห์ดัชนีไทยของเวบต่างประเทศ ก่อนจะซื้อหุ้นตัวใด ที่ผมยังไม่เคยดูข้อมูล จะต้องเข้าไปดูข้อมูลก่อนจะตัดสินใจซื้อทุกครั้ง วิธีการก็ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องไปวิเคราะห์อะไร แค่ดูข้อมูลของหุ้นตัวนั้นก็พอ คือ 1. ดูว่าราคาสูงเกินพื้นฐานปัจจุบันหรือไม่ ก็ดูจาก P/E (Price/Earing) Ratio 2. ดูผลประกอบการที่ผ่านมา ย้อนหลังไป 4 ปี และผลประกอบการล่าสุด 3. ดูราคาที่ผ่านมา ย้อนหลังอย่างน้อย 4-6 เดือน 4. ดูอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ผ่านมา 5. ดูสถานะทางการเงิน โดยดูจากงบการเงิน ถ้าเป็นหุ้นที่ผมจะซื้อถือเป็นหลัก ไม่ใช่ถือลุ้น Turn Around ซึ่งผมมีน้อยมาก ตัวไหนมีผลประกอบขาดทุน หรือยังมีขาดทุนสะสมอยู่ ไม่ซื้อ รวมทั้งถ้าผลประกอบล่าสุดขาดทุน หรือมีกำไรลดลงมาก ถ้าจะซื้อต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
การดูข้อมูล
ก็เข้าไปดูที่เวบของตลาดหลักทรัพย์ ได้ตลอดเวลา ไม่ต้องไปดูที่อื่น เอาเม้าส์มาจ่อ แล้วคลิกซ้ายไปดูได้เลย //www.set.or.th จะเล่นหุ้น ควรเข้าไปดูข้อมูลทุกเช้าและบ่ายก่อนตลาดเปิด เพราะจะมีข้อมูลแจ้งผลประกอบการล่าสุด การเพิ่มทุน/ลดทุน การประกาศจ่ายเงินปันผล และอื่นๆ
การดู P/E
Price/Earning Ratio เป็นการดูว่า ราคาหุ้นสูงเกินไปหรือไม่ คำนวณได้จาก เอาราคาหารด้วยผลกำไรต่อหุ้น ออกมาเป็นกี่เท่า ถ้าสูง ก็แสดงว่า ราคาสูง P/E ควรจะอยู่ 10-12 เท่า หุ้นที่มี P/E สูงมากเช่น มากกว่า 30 เท่า ให้ประเมินในเบื้องต้น ได้เลยว่า เป็นหุ้นปั่น แม้จะเป็นตัวที่เขามาวิเคราะห์ว่าผลประกอบการจะเติบโต แบบก้าวกระโดด ผมก็ไม่เสี่ยงซื้อครับ เพราะมันเป็นสิ่งที่ยังไม่เกิด ยังไม่แน่นอน ดู PTL เป็นตัวอย่าง ก่อนหน้าวิเคราะห์อนาคตสดใส หลายคนไปซื้อที่ราคาสูงมาก ก่อนหน้าผมเคยเขียนเตือน แต่ราคาลงมาตอนนี้ ผมก็ซื้อ ข้อมูลในอดีตและปัจจุบัน เห็นได้ชัดเจน ไม่ต้องคาด ไม่ต้องเดา หุ้นมีหลายร้อยตัวในตลาด เราเลือกได้ หาดูให้ดีครับ การจะดู P/E ก็เข้าไปที่เวบของตลาด แล้วไปที่แถบ ข้อมูลบริษัท/หลักทรัพย์
ไล่ลงมาที่ ตราสารทุน ตามด้วย ข้อมูลรายบริษัท/หลักทรัพย์ ไปที่รายชื่อบริษัท ซึ่งเรียงตามตัวอักษร แล้วเลือกบริษัทที่ต้องการ แล้วไปคลิกที่แถบ งบการเงิน/ผลประกอบการ ก็จะได้ข้อมูลออกมา จะลองคลิกไปดูเลยก็ได้
//www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=BANPU&language=th&country=TH
ผมเอาข้อมูลของ BANPU มาให้ดูเป็นตัวอย่าง จะเห็นได้ว่า P/E 6.54 เท่า ณ ราคา 750 บาท ถ้าราคาตลาดเปลี่ยน P/E ก็จะเปลี่ยน
ดู P/E ปี 2551 อยู่ที่ 6.54 เท่า เท่ากับตอนนี้พอดีเปะ ถ้ามีคนมาซื้อ P/E ขยับขึ้นไปเป็น 10 เท่า เท่ากับปี 2552 กับ 2553 ราคาก็จะขยับขึ้นไปที่ 910 บาท
การดูผลประกอบการที่ผ่านมา
ก็ดูที่เดียวกัน แต่ดูด้านบน ให้ดูที่ กำไรต่อหุ้น จะเห็นได้ว่า ตั้งแต่ปี 2550-2553 มีกำไรต่อหุ้น 24.49 33.96 52.36 และ 91.00 บาท ตามลำดับ งวดล่าสุด (งวด 3 เดือน) มีกำไรต่อหุ้น 33.72 บาท ถ้ากำไรต่อไปเท่าเดิม ทั้งปีจะมีกำไร 33.72 x 4 = 134.88 บาทต่อหุ้น กำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ต่อไปจะลดลง ก็ไม่น่าจะต่ำกว่าปีก่อนหน้า
การดูราคาย้อนหลัง
ก็ไปดูในส่วนที่เดิม คลิกที่แถบ ราคาย้อนหลัง จะมีราคาให้ดูย้อนหลังไป 6 เดือน BANPU ผมก็เล็งไว้นานแล้ว เพราะราคาไหลลงมาต่ำกว่าพื้นฐานมาก แต่ตอนราคากำลังไหลลง แม้จะเป็นหุ้นพื้นฐานดีราคาต่ำ ก็ต้องใจเย็น เพราะเท่าที่อ่านมา เห็นว่า MSCI จะลดน้ำหนักการลงทุนของ BANPU ก็คือว่า ต่างชาติที่ซื้อไว้ก่อนหน้า จะเอาออกมาขาย อันนี้ ยิ่งน่าซื้อ เพราะราคาไม่ได้ลงเพราะผลประกอบการจะแย่ลง นึกถึง LH เมื่อไม่นาน ก็เป็นแบบนี้ MSCI ถอดออกจากการคำนวณ เหตุผลแค่นี้เอง ราคาไหลรูดลงไปต่ำกว่า 5 บาท ผมก็ซื้อครับ แล้วก็ขายทำกำไรไป 5 บาทกว่า ราคาตอนนี้ ยังเกิน 6 บาท BANPU ราคาเริ่มไหลลงมานานพอควร ผมก็จ้องอยู่ คิดว่า จะเข้าซื้อตอนใกล้ 720 บาท แต่ก็ใจยังร้อน ไปซื้อที่ 742 ยังไหลลงต่อ ก็ไปซื้อเพิ่มที่ 718 แล้วราคาก็ดีดกลับ ผมขายที่ 742 ครึ่งหนึ่ง ขึ้นต่อไปถึง 768 แล้วก็ไหลลงอีก ผมซื้อกลับที่ 722 ยังมีลงไป Low เดิม 718 แล้วขึ้นมาอีก ผมก็ขาย 742 ครึ่งหนึ่ง ตอนนี้อยู่ที่ 750 ผมยังเหลือ ๑ ไม้ ทะยอยซื้อ ทะยอยขาย ตามสไตล์ผม เพราะเล่นแบบปลอดภัยครับ
ใครอ่านกระทู้ผมมาตลอด จะเห็นว่า ผมไม่มีขาย Cut Loss มีแต่ขายทำกำไร กับ ขายหมู ผมแสดงรายการซื้อขาย กับ พอร์ต ให้ดูโดยตลอด คือแสดงให้เห็นการเล่นของผม แม้จะต้องรอนานหน่อย ก็รอได้
อย่าง LHK ผมซื้อมาก่อนหน้า มีซื้อขาย ซื้อขาย มีขายไป แล้วซื้อกลับ ต้นทุนในพอร์ตสูงกว่า 3 บาท แต่ต้นทุนจริงต่ำกว่า 3 บาท ผมแนะนำให้ซื้อ ตอน 3 บาท หรือต่ำกว่า บางคนอาจซื้อที่ 2.96 ราคายังไหลลงไป 2.84 แล้วราคาก็ดีดกลับมาเกิน 3 บาท ผมเดาว่า หลายคนคงขายไป แต่หวังว่า จะไม่ขาย Cut Loss นะครับ แล้วราคาก็ขึ้นไปอีก เมื่อวานนี้ ผมก็ขายไป ๑ ไม้ 3.44 เหลืออยู่ ๒ ไม้ ราคาตอนนี้อยู่ที่ 3.32
อีกประการหนึ่ง แม้จะเป็นหุ้นที่พื้นฐานดี ราคาดูแล้ว ก็ไม่สูง P/E ก็ค่อนข้างต่ำ แต่เมื่อดูราคาย้อนหลังแล้ว ราคาขึ้นมาสูงมากแล้ว เช่น IVL อันนี้ ผมไม่ซื้อครับ เพราะโอกาสที่ราคาจะขึ้นต่อ มีไม่มาก มีโอกาสจะถูกเทขายทำกำไร ราคาไหลลง ยิ่งถ้าตลาดปรับฐานเป็นเวลานาน ราคามีโอกาสจะไหลลงต่อ เงินลงทุนเรามีจำกัด ไปเลือกตัวอื่นดีกว่า หรือ ถ้าจะซื้อก็ต่อเมื่อ ราคาไหลลงมา ถึงจุดที่อยากซื้อครับ
การดูอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ผ่านมา
ก็ดูที่เดิม ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา จะเห็นว่า อัตราเงินปันผลน้อย แต่ก็ต้องดูราคาเปรียบเทียบด้วย เช่นราคาปี 2550 อยู่ที่ 400 บาท ปี 2551 อยู่ที่ 228 บาท ถ้าใครไปซื้อตอนนั้น คิดจากเงินปันผลตอนนี้ ก็อยู่ในอัตราสูงขึ้น อีกอย่างหนึ่งที่จ่ายไม่สูง เพราะยังมีภาระเงินกู้ที่ต้องชำระก่อน เพื่อลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย แต่ได้ยินมาว่า กำลังจะออกหุ้นกู้เพื่อลดดอกเบี้ยลง
การดูสถานะทางการเงิน
สิ่งสำคัญหลังสุดที่ควรดู ก็ไปดูจากงบการเงิน งบการเงินที่สำคัญก็มีงบดุลกับงบกำไรขาดทุน แต่สถานะทางการเงินก็ดูจากงบดุลหรืองบแสดงฐานะการเงิน ในส่วนของ งบการเงิน/ผลประกอบการ ก็คลิกที่ งบการเงินล่าสุด อยู่ด้านบนขวา ใต้ ราคาย้อนหลัง คลิกไปดูได้เลย //www.set.or.th/set/companyfinance.do?type=balance&symbol=BANPU&language=th&country=TH สิ่งสำคัญที่ควรดู ในงบแสดงฐานะการเงิน ได้แก่ เงินสดคงเหลือ มี 15,152.87 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 200,201.57 ล้านบาท หนี้สินรวม 123,632.42 ล้านบาท มีทุนที่ออกและชำระเต็มมูลค่าแล้ว 2,717.48 ล้านบาท มีกำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรร 57,269.50 ล้านบาท (เหลือเยอะมาก เมื่อเทียบกับทุน) ในงบกำไรขาดทุน ที่สำคัญ ได้แก่ ต้นทุนทางการเงิน ก็คือค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 770.89 ล้านบาท
ลองเข้าไปดูข้อมูลของหุ้นยอดนิยมคือ TRUE สิครับ ถ้าใช้พื้นฐาน ราคา 4 บาท ก็ไม่ควรซื้อ
แต่อย่างที่ผมบอก เล่นได้ทุกตัวครับ ถ้าพร้อมที่จะ Take Profit และ Cut Loss
บางคน ไปเล่นหุ้นที่ราคามันสูงเกินพื้นฐานมากมาย ประเภทมีเจ้าเข้าประทับ พอถึงเวลา เขาออกของหมด แล้วเลิกเล่น ปล่อยให้คนที่ถืออยู่เล่นกันเอง ราคาก็จะไหลลง ไหลลง ใครไม่ยอมขาย Cut Loss ก็จะติดดอย และหุ้นพวกนี้ ส่วนมาก จะไม่มีเงินปันผล ถือไว้ ก็ไม่ได้อะไร ถ้าไม่ชอบ Cut Loss อยากเล่นเก็งกำไรเป็นหลัก ก็เล่นกับหุ้นพื้นฐานดี มีจ่ายเงินปันผลนะครับ
ถ้าจะใช้เทคนิค ก็ไม่ต้องดูอะไร ดูกราฟอย่างเดียวครับ และต้องมีวินัย มีสัญญาณให้ขาย ก็ต้องขาย ขาดทุนก็ต้องขาย เดี๋ยวกลับไปซื้อใหม่ได้ อย่าไปหวังแบบเลื่อนลอยว่า เดี๋ยวราคามันคงจะดีดกลับขึ้นมา มั้ง
SIRI ผมซื้อก่อน XD ที่ 5.70 เพราะมีจ่ายทั้งเงินปันผล มีแจกหุ้นฟรี เฉพาะหุ้นฟรี 6:1 ก็มีส่วนลดแล้ว 16.66% แต่พอไปดู PRIN หลัง XD ราคาไหลลงตลอด SIRI พอขึ้น XD มีกำไร ผมก็ขายออกหมด กำไรลดลง เมื่อเทียบกับถ้าขายก่อน XD พอหุ้นใหม่เข้า ราคาเปิดเท่าวันก่อนหน้า 4.66 ผมก็ขายหุ้นฟรีออกหมด ได้กำไรมาเล็กน้อย เพราะผมดูอาการแล้ว ราคามันไหลลงไม่หยุด สังเกตุดูแล้ว คาดว่า ขาใหญ่กำลังทะยอยปล่อยของ อันนี้ จะทำให้ราคาขึ้นยาก ว่าซื้อได้ถูก มันจะมีถูกกว่า ลองดูนะครับ ช่วงภาคเช้า จะมี offer ไม่มาก มีเคาะทำราคาให้ออกเขียว 1-2 ช่อง พอมาในช่วงบ่าย Offer จะมากขึ้น แล้วก็มีทะยอยขาย ปิดออกแดง วันละช่อง สองช่อง ราคาทำ low ไปเรื่อย เมื่อวานนี้ ก็ปิดออกแดง จากที่ก่อนหน้าทำราคาปิดขึ้นไป 2 ช่อง อีกอย่าง ผลประกอบการ กำไรลดลง ข้อมูลเรื่องการขายบ้านหรือรายได้ข้างหน้า ผมไม่มีครับ อย่างที่บอก ผมดูผลประกอบการในอดีตกับหลังสุดเป็นหลัก เลยยังไม่แน่ใจที่จะเข้าซื้อ และมีตัวอื่นที่น่าสนใจกว่า เช่น BANPU KGI รอสอยเพิ่ม
ใช่ครับคุณสาระขัน SIRI มันทำท่าแบบนั้นจริงๆ
แต่สังเกตุดีๆตามเนื้อเรื่องนะครับ
ผมมองว่าคุณเศรษฐาเข้ามาซื้อหุ้น SIRI ที่ 5 บาทแพงกว่าผู้ถือหุ้นเดิมเยอะ การทำการเพิ่มทุนเป็นกลเพื่อที่จะลดราคาต้นทุนในมือตัวเองให้เท่ากับคนอื่นๆและสามารถเพิ่มกระแสเงินสดเพื่อทำโรงงานผนังสำเร็จให้สำเร็จได้อีกด้วย ซึ่งกลตรงนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่เขารู้ก่อนเลยเทขายทำกำไรออกมามากมายตั้งแต่ 5.70 - 6 บาท
เรื่องกระแสเงินสดที่คุณ sweetoil กล่าวก็เป็นความจริงครับ แต่ผมมองว่าอาจเป็นกลเม็ดการทำตัวเลขให้เป็นไปดังกล่าวเพื่อที่จะเพิ่มทุนได้ยังไงล่ะครับ หลังจากที่คุณเศรษฐาได้ตัวเลขต้นทุนเท่าๆกับคนอื่นๆแล้ว ผมมองว่า SIRI กำลังจะเดินเครื่องครั้งสำคัญแล้วล่ะ
ถ้าเริ่มเก็บตัวนี้ผมมองไปอีก 2 ปีครับคิดว่าไม่น่าพลาดเพราะเคยลองจังหวะ'เดินเครื่อง'ของ PS, LPN และ SPALI มาแล้ว เชื่อว่าครั้งนี้ก็มองจังหวะของ SIRI ไม่พลาดเหมือนกันครับ
จากคุณ : everandever
ขอบคุณ คุณ everandever สำหรับข้อมูลครับ
เรื่องราคา ส่วนมาก ขาใหญ่ จะเป็นคนนำ ดูอย่าง CPALL เมื่อไม่นาน ถูกเทขาย ไหลลงตลอด ผมจ้องมานาน ซื้อได้ถึง 32.75 บาท ตั้งใจจะถือยาวบางส่วน แต่ก็ขายหมดหลังสุด 38.75 บาท กลายเป็นขายหมู เพราะราคามันวิ่งขึ้นไป 47 บาท แสดงว่า มีขาใหญ่ อีกฝ่าย มาซื้อ
ใครดู MCS เมื่อวานก็จะเห็น ราคาวันก่อนหน้า 11.30 บาท ผมก็รอซื้อกลับ มีตั้ง Bid รอซื้อไม่ใช่น้อย ถูกขาใหญ่ เทขายพรวด ไหลลงไป offer 10.80 แป๊บนึง ผมได้แต่จดๆจ้องๆ เอายัง เอายัง ปรากฎว่า ขาใหญ่อีกฝ่ายซื้อสวนกลับ ตั้ง Bid มากขึ้น แล้วเคาะซื้อสวน กลับขึ้นไปปิด 11.20 ออกแดงช่องเดียว
จากคุณ : สาระขัน
ส่วน PTL มีขาใหญ่ คอยกดราคาอยู่ฝ่ายเดียว ยังไม่มีขาใหญ่ มาซื้อสวน วิธีการ เหลือรับประทานครับ มีตั้ง Bid หลอก มีซื้อสวน ทำท่าจะขยับขึ้น แล้วก็วางขาย รายย่อย เคาะซื้อกันใหญ่ เขาก็เติมขวาไม่หยุด พอเริ่มจะเคาะซื้อน้อยลง เทขายพรวด มาตั้งราคาขายต่ำลง แล้วก็ทำแบบเดิมอีก ไปปิด Low ของวัน ผมก็โดนหลอก กับเขาด้วย ซื้อมา 24.60 กับ 24.10 ก่อนหน้า ก็ทำกำไร มาหลายรอบ จะจ่ายเงินปันผลอีก 1.35 บาทต่อหุ้น ใครซื้อ 23.50 บาท เท่ากับว่า ซื้อที่ราคา 22.15 บาท คาดว่าใกล้ XD คงจะมีคนมาซื้อเยอะ (เข้าข้างตัวเอง ) แต่ผมยังดูอยู่ครับ ถ้าคิดว่านิ่ง อาจจะซื้ออีก ๑ ไม้
จากคุณ : สาระขัน
พอคุณสาระขันพูดถึง CPALL เลยนึกถึง CPALL เมื่อ 5 ปีก่อนตอนนั้นยังเป็น CP7-11 ราคาไหลไป 5 บาทกว่าๆเพราะเจ๊งมาจากธุรกิจเมืองจีนผมเคยยังเข้าเก็บไว้เลย (ตอนนั้นรวยจาก LPN พอดีที่มันขึ้นไป 5.25 บาท)
Banpu ตอนเรือขนถ่านหินล่มไหลไป 127 บาทผมก็เคยลองช้อนเอาไว้พอ 176 ก้ปล่อยไปตามระเบียบ
โอกาสเก็บหุ้นดีๆมันต้องสวนครับแต่จะทนทายาทถือได้นานๆต้องไม่โลภมาก ซึ่งอันหลังนี้ผมต้องไปฝึกฝนใหม่ :P
พุดถึงหุ้นดีๆพวกนี้เวลาไหลจะมีอะไรแปลกๆเช่น โวลุ่มอยุ่ๆหายไป
วิธีเก็บหุ้นดีๆพวกนี้ของผมคือเข้าตอนโวลุ่มหายไปสุดๆนี่แหละ ตอนเก็บ SPALI ช่วง 3.12 หรือ AP ตอน 2.30 นี่อารมณ์แบบเก็บ SIRI ตอน 4.56 นี่เลยคือซื้อได้แค่แสนหุ้นใน 1 ชั่วโมง หลังจากซื้อสำเร็จแล้วก็ทุบให้หลุด 1 ช่องแต่ไร้โวลุ่มแล้วพอไม่มีใครเก็บอีกซัก 1 ชั่วโมงค่อยมีโวลุ่มมาเสริมให้เสียวเล่นๆ
ผมว่าไม่น่าพลาดนะครับ...ตึกๆๆ ( แอบมีเสียว อิ อิ )
จากคุณ : everandever
เล่นหุ้นให้รวยนาน และยั่งยืน.. //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=greenpluss&month=05-2011&date=02&group=32&gblog=1
Create Date : 28 พฤษภาคม 2554 |
|
18 comments |
Last Update : 28 พฤษภาคม 2554 11:51:40 น. |
Counter : 9988 Pageviews. |
|
|
LHK ต่ำกว่า 3
PTL ต่ำกว่า 23
GEN 0.32
BCP ต่ำกว่า 21