มองภาพแห่งความสำเร็จที่ชัดเจน เดินแต่ละก้าวอย่างมีสติ ด้วยใจที่สงบ
<<
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
28 พฤษภาคม 2554

การดูพื้นฐานหุ้น เปรียบเทียบกับราคา โดยคุณสาระขัน..

มีแฟนคลับของกระทู้นายสาระขัน อยากให้เขียนเรื่องการดูพื้นฐานของหุ้น
ผมก็เขียนมาให้อ่าน จากประสบการณ์ในตลาดหุ้นมากกว่า 10 ปี
รวมทั้งพื้นฐานความรู้ด้านบัญชี
หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่เข้ามาอ่าน
หากท่านใด มีข้อเสอนแนะ มีข้อมูลที่จะมาแลกเปลี่ยนกัน ก็ยินดีนะครับ

บทนำ

การเล่นหุ้น หรือ ลงทุนในหุ้น มีอยู่ 2 หลักใหญ่ คือ
1. เล่นเก็งกำไรเป็นหลัก โดยใช้เทคนิค
2. เน้นแบบลงทุน โดยดูพื้นฐาน
จะเล่นแบบไหน ก็แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน
ไม่ควรเล่นแบบเดาสุ่ม ซื้อตามข่าว ตามบทวิเคราะห์ที่เขามาเขียนเชียร์

การใช้เทคนิค

เป็นการดึงข้อมูลราคาหุ้นในอดีต มาเขียนเป็นกราฟ โดยใช้โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์
ก็ต้องไปศึกษาวิธีการ และซื้อโปรแกรมมาติดตั้ง รวมทั้งการดึงข้อมูลราคา
หลังจากนั้นก็ดึงกราฟหุ้นแต่ละตัวที่ต้องการดูออกมา หรือกราฟของดัชนีก็ได้
แล้วก็ต้องศึกษาวิธีการอ่านกราฟ มีเส้นกราฟราคา เส้นสัญญาณต่างๆที่จะบอกถึง
แนวรับและแนวต้าน รวมทั้งดูว่า อยู่ในเขตซื้อหรือขายมากไป และวิเคราะห์ดูว่า
แนวโน้มข้างหน้า จะขึ้น หรือ จะลง เพื่อตัดสินใจจะซื้อหรือจะขาย
ผมไม่ได้ศึกษาเทคนิค รู้แต่เพียงหลักการ ถ้าจะศึกษาแบบจริงจัง
ก็ต้องไปเรียนใช้เวลาพอควร

คนที่เล่นหุ้นวิธีนี้ ส่วนใหญ่จะไม่ดูข้อมูลของบริษัทนั้น ดูกราฟเป็นหลัก
เมื่อดูว่า มีสัญญาณให้ซื้อ ก็ซื้อ มีสัญญาณระบุว่า ให้ขาย ก็ขาย
แม้จะขายขาดทุน คือ Cut Loss ก็ขาย ลักษณะจะเป็นแบบ ชาวไล่ คือ
มักจะซื้อเมื่อหุ้นตัวนั้นขึ้นทะลุแนวต้าน ยิ่งมี New High ก็ยิ่งจะซื้อ
แบบว่า ไล่ซื้อตาม เพราะคาดว่า แนวโน้มจะขึ้นต่อ
แต่การอ่านหรือวิเคราะห์กราฟก็ไม่แน่นอน
หลายครั้ง นักเทคนิคแต่ละคน ก็วิเคราะห์แตกต่างกันในเรื่องเดียวกัน
การเล่นวิธีนี้ จะเล่นได้บ่อย มีกำไรและมีขาดทุน
เรียกว่า Take Profit และ Cut Loss
ใครเล่นได้ดี ก็จะมีกำไรมากกว่าขาดทุน
ผมไม่ได้ศึกษาเทคนิค อาจจะมีบางอย่างเขียนผิดไป
ใครศึกษาเทคนิคมา จะมาให้ความเห็น ก็ยินดีครับ

การดูพื้นฐาน

เป็นการดูว่า ควรจะซื้อหุ้นตัวหนึ่งตัวใด โดยดูราคาเปรียบเทียบกับพื้นฐาน
การซื้อหุ้นของผม จะใช้วิธีนี้ และไม่เคยดูกราฟ
มีเข้าไปดูกราฟและการวิเคราะห์ดัชนีไทยของเวบต่างประเทศ
ก่อนจะซื้อหุ้นตัวใด ที่ผมยังไม่เคยดูข้อมูล จะต้องเข้าไปดูข้อมูลก่อนจะตัดสินใจซื้อทุกครั้ง
วิธีการก็ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องไปวิเคราะห์อะไร แค่ดูข้อมูลของหุ้นตัวนั้นก็พอ คือ
1. ดูว่าราคาสูงเกินพื้นฐานปัจจุบันหรือไม่ ก็ดูจาก P/E (Price/Earing) Ratio
2. ดูผลประกอบการที่ผ่านมา ย้อนหลังไป 4 ปี และผลประกอบการล่าสุด
3. ดูราคาที่ผ่านมา ย้อนหลังอย่างน้อย 4-6 เดือน
4. ดูอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ผ่านมา
5. ดูสถานะทางการเงิน โดยดูจากงบการเงิน
ถ้าเป็นหุ้นที่ผมจะซื้อถือเป็นหลัก ไม่ใช่ถือลุ้น Turn Around ซึ่งผมมีน้อยมาก
ตัวไหนมีผลประกอบขาดทุน หรือยังมีขาดทุนสะสมอยู่ ไม่ซื้อ
รวมทั้งถ้าผลประกอบล่าสุดขาดทุน หรือมีกำไรลดลงมาก
ถ้าจะซื้อต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

การดูข้อมูล

ก็เข้าไปดูที่เวบของตลาดหลักทรัพย์ ได้ตลอดเวลา ไม่ต้องไปดูที่อื่น
เอาเม้าส์มาจ่อ แล้วคลิกซ้ายไปดูได้เลย
//www.set.or.th
จะเล่นหุ้น ควรเข้าไปดูข้อมูลทุกเช้าและบ่ายก่อนตลาดเปิด
เพราะจะมีข้อมูลแจ้งผลประกอบการล่าสุด การเพิ่มทุน/ลดทุน
การประกาศจ่ายเงินปันผล และอื่นๆ

การดู P/E

Price/Earning Ratio เป็นการดูว่า ราคาหุ้นสูงเกินไปหรือไม่
คำนวณได้จาก เอาราคาหารด้วยผลกำไรต่อหุ้น ออกมาเป็นกี่เท่า
ถ้าสูง ก็แสดงว่า ราคาสูง P/E ควรจะอยู่ 10-12 เท่า
หุ้นที่มี P/E สูงมากเช่น มากกว่า 30 เท่า ให้ประเมินในเบื้องต้น
ได้เลยว่า เป็นหุ้นปั่น แม้จะเป็นตัวที่เขามาวิเคราะห์ว่าผลประกอบการจะเติบโต
แบบก้าวกระโดด ผมก็ไม่เสี่ยงซื้อครับ เพราะมันเป็นสิ่งที่ยังไม่เกิด
ยังไม่แน่นอน ดู PTL เป็นตัวอย่าง ก่อนหน้าวิเคราะห์อนาคตสดใส
หลายคนไปซื้อที่ราคาสูงมาก ก่อนหน้าผมเคยเขียนเตือน
แต่ราคาลงมาตอนนี้ ผมก็ซื้อ
ข้อมูลในอดีตและปัจจุบัน เห็นได้ชัดเจน ไม่ต้องคาด ไม่ต้องเดา
หุ้นมีหลายร้อยตัวในตลาด เราเลือกได้ หาดูให้ดีครับ
การจะดู P/E ก็เข้าไปที่เวบของตลาด แล้วไปที่แถบ ข้อมูลบริษัท/หลักทรัพย์

ไล่ลงมาที่ ตราสารทุน ตามด้วย ข้อมูลรายบริษัท/หลักทรัพย์
ไปที่รายชื่อบริษัท ซึ่งเรียงตามตัวอักษร แล้วเลือกบริษัทที่ต้องการ
แล้วไปคลิกที่แถบ งบการเงิน/ผลประกอบการ ก็จะได้ข้อมูลออกมา
จะลองคลิกไปดูเลยก็ได้

//www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=BANPU&language=th&country=TH

ผมเอาข้อมูลของ BANPU มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
จะเห็นได้ว่า P/E 6.54 เท่า ณ ราคา 750 บาท ถ้าราคาตลาดเปลี่ยน P/E ก็จะเปลี่ยน

ดู P/E ปี 2551 อยู่ที่ 6.54 เท่า เท่ากับตอนนี้พอดีเปะ
ถ้ามีคนมาซื้อ P/E ขยับขึ้นไปเป็น 10 เท่า เท่ากับปี 2552 กับ 2553
ราคาก็จะขยับขึ้นไปที่ 910 บาท



การดูผลประกอบการที่ผ่านมา

ก็ดูที่เดียวกัน แต่ดูด้านบน ให้ดูที่ กำไรต่อหุ้น
จะเห็นได้ว่า ตั้งแต่ปี 2550-2553
มีกำไรต่อหุ้น 24.49 33.96 52.36 และ 91.00 บาท ตามลำดับ
งวดล่าสุด (งวด 3 เดือน) มีกำไรต่อหุ้น 33.72 บาท
ถ้ากำไรต่อไปเท่าเดิม ทั้งปีจะมีกำไร 33.72 x 4 = 134.88 บาทต่อหุ้น
กำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ต่อไปจะลดลง ก็ไม่น่าจะต่ำกว่าปีก่อนหน้า



การดูราคาย้อนหลัง

ก็ไปดูในส่วนที่เดิม คลิกที่แถบ ราคาย้อนหลัง
จะมีราคาให้ดูย้อนหลังไป 6 เดือน
BANPU ผมก็เล็งไว้นานแล้ว เพราะราคาไหลลงมาต่ำกว่าพื้นฐานมาก
แต่ตอนราคากำลังไหลลง แม้จะเป็นหุ้นพื้นฐานดีราคาต่ำ
ก็ต้องใจเย็น เพราะเท่าที่อ่านมา เห็นว่า MSCI จะลดน้ำหนักการลงทุนของ BANPU
ก็คือว่า ต่างชาติที่ซื้อไว้ก่อนหน้า จะเอาออกมาขาย
อันนี้ ยิ่งน่าซื้อ เพราะราคาไม่ได้ลงเพราะผลประกอบการจะแย่ลง
นึกถึง LH เมื่อไม่นาน ก็เป็นแบบนี้ MSCI ถอดออกจากการคำนวณ
เหตุผลแค่นี้เอง ราคาไหลรูดลงไปต่ำกว่า 5 บาท ผมก็ซื้อครับ
แล้วก็ขายทำกำไรไป 5 บาทกว่า ราคาตอนนี้ ยังเกิน 6 บาท
BANPU ราคาเริ่มไหลลงมานานพอควร
ผมก็จ้องอยู่ คิดว่า จะเข้าซื้อตอนใกล้ 720 บาท
แต่ก็ใจยังร้อน ไปซื้อที่ 742 ยังไหลลงต่อ ก็ไปซื้อเพิ่มที่ 718
แล้วราคาก็ดีดกลับ ผมขายที่ 742 ครึ่งหนึ่ง ขึ้นต่อไปถึง 768
แล้วก็ไหลลงอีก ผมซื้อกลับที่ 722 ยังมีลงไป Low เดิม 718
แล้วขึ้นมาอีก ผมก็ขาย 742 ครึ่งหนึ่ง ตอนนี้อยู่ที่ 750 ผมยังเหลือ ๑ ไม้
ทะยอยซื้อ ทะยอยขาย ตามสไตล์ผม เพราะเล่นแบบปลอดภัยครับ

ใครอ่านกระทู้ผมมาตลอด จะเห็นว่า ผมไม่มีขาย Cut Loss
มีแต่ขายทำกำไร กับ ขายหมู
ผมแสดงรายการซื้อขาย กับ พอร์ต ให้ดูโดยตลอด
คือแสดงให้เห็นการเล่นของผม แม้จะต้องรอนานหน่อย ก็รอได้

อย่าง LHK ผมซื้อมาก่อนหน้า มีซื้อขาย ซื้อขาย
มีขายไป แล้วซื้อกลับ ต้นทุนในพอร์ตสูงกว่า 3 บาท แต่ต้นทุนจริงต่ำกว่า 3 บาท
ผมแนะนำให้ซื้อ ตอน 3 บาท หรือต่ำกว่า บางคนอาจซื้อที่ 2.96
ราคายังไหลลงไป 2.84 แล้วราคาก็ดีดกลับมาเกิน 3 บาท
ผมเดาว่า หลายคนคงขายไป แต่หวังว่า จะไม่ขาย Cut Loss นะครับ
แล้วราคาก็ขึ้นไปอีก เมื่อวานนี้ ผมก็ขายไป ๑ ไม้ 3.44
เหลืออยู่ ๒ ไม้ ราคาตอนนี้อยู่ที่ 3.32

อีกประการหนึ่ง แม้จะเป็นหุ้นที่พื้นฐานดี ราคาดูแล้ว ก็ไม่สูง
P/E ก็ค่อนข้างต่ำ แต่เมื่อดูราคาย้อนหลังแล้ว ราคาขึ้นมาสูงมากแล้ว
เช่น IVL อันนี้ ผมไม่ซื้อครับ เพราะโอกาสที่ราคาจะขึ้นต่อ มีไม่มาก
มีโอกาสจะถูกเทขายทำกำไร ราคาไหลลง
ยิ่งถ้าตลาดปรับฐานเป็นเวลานาน ราคามีโอกาสจะไหลลงต่อ
เงินลงทุนเรามีจำกัด ไปเลือกตัวอื่นดีกว่า
หรือ ถ้าจะซื้อก็ต่อเมื่อ ราคาไหลลงมา ถึงจุดที่อยากซื้อครับ



การดูอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ผ่านมา

ก็ดูที่เดิม ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา
จะเห็นว่า อัตราเงินปันผลน้อย แต่ก็ต้องดูราคาเปรียบเทียบด้วย
เช่นราคาปี 2550 อยู่ที่ 400 บาท ปี 2551 อยู่ที่ 228 บาท
ถ้าใครไปซื้อตอนนั้น คิดจากเงินปันผลตอนนี้ ก็อยู่ในอัตราสูงขึ้น
อีกอย่างหนึ่งที่จ่ายไม่สูง เพราะยังมีภาระเงินกู้ที่ต้องชำระก่อน
เพื่อลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย แต่ได้ยินมาว่า กำลังจะออกหุ้นกู้เพื่อลดดอกเบี้ยลง



การดูสถานะทางการเงิน

สิ่งสำคัญหลังสุดที่ควรดู ก็ไปดูจากงบการเงิน
งบการเงินที่สำคัญก็มีงบดุลกับงบกำไรขาดทุน
แต่สถานะทางการเงินก็ดูจากงบดุลหรืองบแสดงฐานะการเงิน
ในส่วนของ งบการเงิน/ผลประกอบการ ก็คลิกที่ งบการเงินล่าสุด
อยู่ด้านบนขวา ใต้ ราคาย้อนหลัง คลิกไปดูได้เลย
//www.set.or.th/set/companyfinance.do?type=balance&symbol=BANPU&language=th&country=TH
สิ่งสำคัญที่ควรดู
ในงบแสดงฐานะการเงิน ได้แก่
เงินสดคงเหลือ มี 15,152.87 ล้านบาท
สินทรัพย์รวม 200,201.57 ล้านบาท
หนี้สินรวม 123,632.42 ล้านบาท
มีทุนที่ออกและชำระเต็มมูลค่าแล้ว 2,717.48 ล้านบาท
มีกำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรร 57,269.50 ล้านบาท (เหลือเยอะมาก เมื่อเทียบกับทุน)
ในงบกำไรขาดทุน
ที่สำคัญ ได้แก่ ต้นทุนทางการเงิน ก็คือค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 770.89 ล้านบาท


ลองเข้าไปดูข้อมูลของหุ้นยอดนิยมคือ TRUE สิครับ
ถ้าใช้พื้นฐาน ราคา 4 บาท ก็ไม่ควรซื้อ

แต่อย่างที่ผมบอก เล่นได้ทุกตัวครับ
ถ้าพร้อมที่จะ Take Profit และ Cut Loss

บางคน ไปเล่นหุ้นที่ราคามันสูงเกินพื้นฐานมากมาย
ประเภทมีเจ้าเข้าประทับ พอถึงเวลา เขาออกของหมด แล้วเลิกเล่น
ปล่อยให้คนที่ถืออยู่เล่นกันเอง ราคาก็จะไหลลง ไหลลง
ใครไม่ยอมขาย Cut Loss ก็จะติดดอย
และหุ้นพวกนี้ ส่วนมาก จะไม่มีเงินปันผล ถือไว้ ก็ไม่ได้อะไร
ถ้าไม่ชอบ Cut Loss อยากเล่นเก็งกำไรเป็นหลัก
ก็เล่นกับหุ้นพื้นฐานดี มีจ่ายเงินปันผลนะครับ

ถ้าจะใช้เทคนิค ก็ไม่ต้องดูอะไร ดูกราฟอย่างเดียวครับ
และต้องมีวินัย มีสัญญาณให้ขาย ก็ต้องขาย ขาดทุนก็ต้องขาย
เดี๋ยวกลับไปซื้อใหม่ได้ อย่าไปหวังแบบเลื่อนลอยว่า
เดี๋ยวราคามันคงจะดีดกลับขึ้นมา มั้ง

SIRI ผมซื้อก่อน XD ที่ 5.70 เพราะมีจ่ายทั้งเงินปันผล มีแจกหุ้นฟรี
เฉพาะหุ้นฟรี 6:1 ก็มีส่วนลดแล้ว 16.66%
แต่พอไปดู PRIN หลัง XD ราคาไหลลงตลอด
SIRI พอขึ้น XD มีกำไร ผมก็ขายออกหมด กำไรลดลง
เมื่อเทียบกับถ้าขายก่อน XD
พอหุ้นใหม่เข้า ราคาเปิดเท่าวันก่อนหน้า 4.66
ผมก็ขายหุ้นฟรีออกหมด ได้กำไรมาเล็กน้อย
เพราะผมดูอาการแล้ว ราคามันไหลลงไม่หยุด
สังเกตุดูแล้ว คาดว่า ขาใหญ่กำลังทะยอยปล่อยของ
อันนี้ จะทำให้ราคาขึ้นยาก ว่าซื้อได้ถูก มันจะมีถูกกว่า
ลองดูนะครับ ช่วงภาคเช้า จะมี offer ไม่มาก มีเคาะทำราคาให้ออกเขียว 1-2 ช่อง
พอมาในช่วงบ่าย Offer จะมากขึ้น แล้วก็มีทะยอยขาย
ปิดออกแดง วันละช่อง สองช่อง ราคาทำ low ไปเรื่อย
เมื่อวานนี้ ก็ปิดออกแดง จากที่ก่อนหน้าทำราคาปิดขึ้นไป 2 ช่อง
อีกอย่าง ผลประกอบการ กำไรลดลง
ข้อมูลเรื่องการขายบ้านหรือรายได้ข้างหน้า ผมไม่มีครับ
อย่างที่บอก ผมดูผลประกอบการในอดีตกับหลังสุดเป็นหลัก
เลยยังไม่แน่ใจที่จะเข้าซื้อ และมีตัวอื่นที่น่าสนใจกว่า
เช่น BANPU KGI รอสอยเพิ่ม

ใช่ครับคุณสาระขัน SIRI มันทำท่าแบบนั้นจริงๆ

แต่สังเกตุดีๆตามเนื้อเรื่องนะครับ

ผมมองว่าคุณเศรษฐาเข้ามาซื้อหุ้น SIRI ที่ 5 บาทแพงกว่าผู้ถือหุ้นเดิมเยอะ การทำการเพิ่มทุนเป็นกลเพื่อที่จะลดราคาต้นทุนในมือตัวเองให้เท่ากับคนอื่นๆและสามารถเพิ่มกระแสเงินสดเพื่อทำโรงงานผนังสำเร็จให้สำเร็จได้อีกด้วย ซึ่งกลตรงนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่เขารู้ก่อนเลยเทขายทำกำไรออกมามากมายตั้งแต่ 5.70 - 6 บาท

เรื่องกระแสเงินสดที่คุณ sweetoil กล่าวก็เป็นความจริงครับ แต่ผมมองว่าอาจเป็นกลเม็ดการทำตัวเลขให้เป็นไปดังกล่าวเพื่อที่จะเพิ่มทุนได้ยังไงล่ะครับ หลังจากที่คุณเศรษฐาได้ตัวเลขต้นทุนเท่าๆกับคนอื่นๆแล้ว ผมมองว่า SIRI กำลังจะเดินเครื่องครั้งสำคัญแล้วล่ะ

ถ้าเริ่มเก็บตัวนี้ผมมองไปอีก 2 ปีครับคิดว่าไม่น่าพลาดเพราะเคยลองจังหวะ'เดินเครื่อง'ของ PS, LPN และ SPALI มาแล้ว เชื่อว่าครั้งนี้ก็มองจังหวะของ SIRI ไม่พลาดเหมือนกันครับ

จากคุณ : everandever

ขอบคุณ คุณ everandever สำหรับข้อมูลครับ

เรื่องราคา ส่วนมาก ขาใหญ่ จะเป็นคนนำ
ดูอย่าง CPALL เมื่อไม่นาน ถูกเทขาย ไหลลงตลอด
ผมจ้องมานาน ซื้อได้ถึง 32.75 บาท ตั้งใจจะถือยาวบางส่วน
แต่ก็ขายหมดหลังสุด 38.75 บาท
กลายเป็นขายหมู เพราะราคามันวิ่งขึ้นไป 47 บาท
แสดงว่า มีขาใหญ่ อีกฝ่าย มาซื้อ

ใครดู MCS เมื่อวานก็จะเห็น ราคาวันก่อนหน้า 11.30 บาท ผมก็รอซื้อกลับ
มีตั้ง Bid รอซื้อไม่ใช่น้อย ถูกขาใหญ่ เทขายพรวด
ไหลลงไป offer 10.80 แป๊บนึง ผมได้แต่จดๆจ้องๆ เอายัง เอายัง
ปรากฎว่า ขาใหญ่อีกฝ่ายซื้อสวนกลับ ตั้ง Bid มากขึ้น
แล้วเคาะซื้อสวน กลับขึ้นไปปิด 11.20 ออกแดงช่องเดียว

จากคุณ : สาระขัน

ส่วน PTL มีขาใหญ่ คอยกดราคาอยู่ฝ่ายเดียว
ยังไม่มีขาใหญ่ มาซื้อสวน
วิธีการ เหลือรับประทานครับ
มีตั้ง Bid หลอก มีซื้อสวน ทำท่าจะขยับขึ้น
แล้วก็วางขาย รายย่อย เคาะซื้อกันใหญ่ เขาก็เติมขวาไม่หยุด
พอเริ่มจะเคาะซื้อน้อยลง เทขายพรวด มาตั้งราคาขายต่ำลง
แล้วก็ทำแบบเดิมอีก ไปปิด Low ของวัน
ผมก็โดนหลอก กับเขาด้วย ซื้อมา 24.60 กับ 24.10
ก่อนหน้า ก็ทำกำไร มาหลายรอบ
จะจ่ายเงินปันผลอีก 1.35 บาทต่อหุ้น ใครซื้อ 23.50 บาท
เท่ากับว่า ซื้อที่ราคา 22.15 บาท คาดว่าใกล้ XD คงจะมีคนมาซื้อเยอะ
(เข้าข้างตัวเอง )
แต่ผมยังดูอยู่ครับ ถ้าคิดว่านิ่ง อาจจะซื้ออีก ๑ ไม้

จากคุณ : สาระขัน

พอคุณสาระขันพูดถึง CPALL เลยนึกถึง CPALL เมื่อ 5 ปีก่อนตอนนั้นยังเป็น CP7-11 ราคาไหลไป 5 บาทกว่าๆเพราะเจ๊งมาจากธุรกิจเมืองจีนผมเคยยังเข้าเก็บไว้เลย (ตอนนั้นรวยจาก LPN พอดีที่มันขึ้นไป 5.25 บาท)

Banpu ตอนเรือขนถ่านหินล่มไหลไป 127 บาทผมก็เคยลองช้อนเอาไว้พอ 176 ก้ปล่อยไปตามระเบียบ

โอกาสเก็บหุ้นดีๆมันต้องสวนครับแต่จะทนทายาทถือได้นานๆต้องไม่โลภมาก ซึ่งอันหลังนี้ผมต้องไปฝึกฝนใหม่ :P

พุดถึงหุ้นดีๆพวกนี้เวลาไหลจะมีอะไรแปลกๆเช่น โวลุ่มอยุ่ๆหายไป

วิธีเก็บหุ้นดีๆพวกนี้ของผมคือเข้าตอนโวลุ่มหายไปสุดๆนี่แหละ ตอนเก็บ SPALI ช่วง 3.12 หรือ AP ตอน 2.30 นี่อารมณ์แบบเก็บ SIRI ตอน 4.56 นี่เลยคือซื้อได้แค่แสนหุ้นใน 1 ชั่วโมง หลังจากซื้อสำเร็จแล้วก็ทุบให้หลุด 1 ช่องแต่ไร้โวลุ่มแล้วพอไม่มีใครเก็บอีกซัก 1 ชั่วโมงค่อยมีโวลุ่มมาเสริมให้เสียวเล่นๆ

ผมว่าไม่น่าพลาดนะครับ...ตึกๆๆ ( แอบมีเสียว อิ อิ )

จากคุณ : everandever

เล่นหุ้นให้รวยนาน และยั่งยืน..
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=greenpluss&month=05-2011&date=02&group=32&gblog=1




 

Create Date : 28 พฤษภาคม 2554
18 comments
Last Update : 28 พฤษภาคม 2554 11:51:40 น.
Counter : 9988 Pageviews.

 

MCS ต่ำกว่า 11

LHK ต่ำกว่า 3

PTL ต่ำกว่า 23

GEN 0.32

BCP ต่ำกว่า 21



 

โดย: นายแว่นธรรมดา 28 พฤษภาคม 2554 11:57:15 น.  

 

การหา Growth เป็นเรื่องยากที่สุดครับ
เพราะเป็นการคาดคะเน อนาคต เดาในสิ่งที่มันยังไม่เกิด ไม่แน่นอน
มองจากปัจจุบัน อาจจะเห็นว่าอนาคตจะสดใสมาก
แต่พอเวลาผ่านไป ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมันเปลี่ยนแปลงได้
ใครคาดคะเน Growth ได้ถูกต้อง เข้าซื้อ แล้วถือนาน จะได้ผลตอบแทนสูงมาก

ผมดูแค่ข้อมูลในอนาคตกับปัจจุบัน ก็ชัดเจน พอแล้วครับ
อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปซื้อแบบเดาสุ่ม เหมือนแทงไฮโลว์
แทงถูก ซื้อแล้ว ราคาขึ้น แล้วขายไปมีกำไร
แทงผิด ซิ้อแล้ว ราคาไหลลงไม่หยุด ถ้าไม่ขายขาดทุน ก็อาจจะติดดอยนาน
ยิ่งถือหุ้นที่ไม่มีเงินปันผล จิตใจจะหดหู่ เกิดความกังวล เกิดความเครียด
อันนี้ หมายถึงคนที่ไม่ได้ใช้เทคนิคนะครับ

ถ้าใครถือคติ ไม่ขายไม่ขาดทุน
ยิ่งต้องดูราคาเปรียบเทียบกับพื้นฐานก่อนจะซื้อทุกครั้ง
รวมทั้งดูราคาที่ผ่านมา ถ้าราคาขึ้นไปสูงมากแล้ว ไม่ซื้อ
หรือแม้แต่ราคาจะเพิ่งย่อตัวลง ก็ไม่รีบซื้อ
เพราะอาจจะถูกเทขายทำกำไร ราคาไหลลงไปใกล้จุดที่มันมา

แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 12:45:16

จากคุณ : สาระขัน

 

โดย: นายแว่นธรรมดา 28 พฤษภาคม 2554 14:34:16 น.  

 

เดี๋ยวนี้พฤติกรรมการมองหุ้นผมเปลี่ยนไปกว่าเมื่อก่อนมาก เมื่อก่อนผมจะมองที่ p/e p/bv เดี่ยวนี้ผมให้ความสำคัญกับ ROE มากกว่าครับ pe 20 แต่ถ้า roe สูงผมไม่มายด์เท่าไหร่ครับ ที่สำคัญต้องมองให้ขาดถึง roe ที่จะปรากฏในอนาคต pe ในปีหน้าที่ราคาปัจจุบัน ถ้าปีนี้เราซื้อ pe 20 แต่ถ้าปีหน้า ณ ราคานี้คือ pe 10 -12 เท่าถือว่าเราซื้อไม่แพง

ยกตัวอย่าง bla เมื่อปลายปีที่แล้ว 3 ไตรมาสได้กำไร 1.24 บาทต่อหุ้น ถ้าคิดรวมสี่ไตรมาสย้อนหลังได้ 1.37 บาทต่อหุ้น ถ้า pe 20 เท่าพึ่งจะ 27.4 บาท ณ ตอนนั้นราคา bla อยู่แถว 28 บาท แต่ ณ ปัจจุบันแค่ไตรมาสแรกไตรมาสเดียว ก็กำไร 0.82 บาทต่อหุ้นแล้ว ไตรมาสสองปี 53 กำไร 0.50 บาทต่อหุ้น เป็นที่คาดการณ์ว่า bla ในไตรมาสสองปีนี้ก็น่าจะได้มากกว่า 0.50 บาทต่อหุ้น

การหาหุ้นที่ roe สูง ลักษณะของหุ้นกลุ่มนี้ที่สำคัญส่วนทุนจะน้อย ส่วนหนี้จะเยอะ(มีบ้างที่ทุนมากกว่าหนี้) สินทรัพย์ที่สร้างรายได้และกำไรเปรียบเหมือนการยืมเงินคนอื่นมาสร้างกำไร โดยที่ใช้ส่วนทุนไม่มาก หุ้นกลุ่มนี้จึงต้องเจาะให้ละเอียดเข้าไปตรงส่วนของหนี้สินที่เอามาสร้างรายได้สร้างกำไรว่ามีความปลอดภัยแค่ไหน อย่าง cpall หนี้มากกว่าทุน เพราะใช้เงินจากเจ้าหนี้การค้ามาหมุนก่อน ทำให้การเงินของกระแสเงินมีความคล่องตัว อย่าง bla คือเงินที่รับจากลูกค้าประกัน ไปบริหารต่อโดยลงในพันธบัตร หุ้นกู้ หุ้น เป็นเงินระยะยาวที่จ่ายผลตอบแทนคืนผู้เอาประกันน้อยกว่ากำไรระยะยาวจากเงินก้อนนี้ที่บริษัทสร้างได้ อีกจุดที่ต้องระวังคือมีเหตุใด้บ้างที่อาจทำให้บริษัทถึงขั้นขาดทุน

หุ้น roe สูงที่ต้องระวังคือหุ้นคอมโมทั้งหลาย เพราะ npm บริษัทไม่สามารถกำหนดได้เอง แต่มันขึ้นกับราคาตลาดโลก เมื่อใดที่ทิศทางตลาดโลกไปในทางที่ส่งผลดีต่อบริษัทนั้นๆ npm จะถีบตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ roe ดีดตัวสูงขึ้นตาม โดยที่รายได้อาจไม่ได้กระโดดเพิ่มเป็นเท่าตัว การซื้อหุ้นกลุ่มนี้ที่ pe ต่ำๆโดยเห็นว่าราคาปัจจุบันเมื่อเทียบกับกำไรในอดีตแล้วมีราคาถูกค่อนข้างอันตรายมากๆ ตัวอย่างมีให้เห็นแล้วในหุ้นกลุ่มเรือเมื่อสองสามปีก่อน

จากคุณ : เข็มซ่อนคม

 

โดย: นายแว่นธรรมดา 28 พฤษภาคม 2554 14:39:13 น.  

 

เล่นหุ้น ควรใจเย็น ไม่ควรซื้อปุ๊บ จะให้ราคาขึ้นปั๊บ
ให้ได้กำไรหลาย % ในเวลาไม่นาน

เมื่อประมาณ 2-3 ปี ที่ผ่านมา
ผมเคยซื้อหุ้นตัวหนึ่ง ไปขายวันที่ 4 ได้กำไรมากกว่า 100%
แต่ไม่ได้ซื้อมาก เพราะมีเพื่อนมาบอกให้ซื้อ ก็ลองซื้อดู
ซื้อช่วงเช้า แล้วราคาก็วิ่งขึ้นไปปิด + เกือบ 20%
วันถัดไป ปิดที่ Ceiling ผมก็ยังไม่ขาย
อีกวัน ก็ปิดที่ Ceiling ผมก็ยังไม่ขาย คือว่า Ceiling 2 วัน ติดกัน
ไปขายราคาเปิด อีกวัน เพราะเปิดสูงมาก กำไร 100 กว่า %
หลังจากนั้น ราคาก็ไหลลง
แต่แบบนี้ มันเหมือนถูกล๊อตเตอรี่ เลขท้าย ๒ ตัว มีไม่บ่อย

หรืออาจจะมีใครโชคดี ไปซื้อตัวที่เจ้ามือเพิ่งจะเข้า
แล้วไปขายตอนที่เขาลากขึ้นไปสูงลิบลิ่ว แล้วเลิก
แต่อย่าไปหวังกับสิ่งเหล่านี้ ลงทุนแบบค่อยเป็น ค่อยไปจะดีกว่าครับ

เมื่อไม่นาน อาจจะมีบางคน ถูกหวย SICCO
ก่อนหน้า ก็มีข่าวว่า จะมีคนมาทำ Tender Offer
แต่ราคาตกลงกันไม่ได้ บอกว่า คนซื้อว่า 4 บาท ก็ยังสูง
บางกระแสบอกว่า น่าจะได้ 6 บาท
แล้วข่าวก็หายเงียบไป ใครไปซื้อไว้ ตอน 4 บาทหรือต่ำกว่า
แค่ไม่นาน เขาทำ tender Offer ราคา 6 บาทกว่า
ใครซื้อแล้วถือไว้ ก็โชคดีครับ

จากคุณ : สาระขัน

 

โดย: นายแว่นธรรมดา 28 พฤษภาคม 2554 14:40:43 น.  

 

คุณเข็มซ่อนคม
การดู P/E ก็เพื่อเป็นแนวทางของหุ้นส่วนใหญ่
แต่ก็มีข้อยกเว้น ที่ยอมซื้อ P/E สูง เพราะผลประกอบการ
มีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
และไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลง เช่น CPALL ที่ผมมองเห็น
แต่ราคาก็ขึ้นมาสูงมาก ผมก็ไม่ซื้อครับ ไม่ได้ก็ไม่เอา
คราวที่แล้ว จาก 40 กว่าบาท ยังลงไปให้ผมซื้อได้ 32.75
แต่ก็เสียดายที่ขายหมด ไม่ได้เก็บถือยาวบางส่วน
ถ้าราคาลงต่ำกว่า 40 บาท ผมก็หาจังหวะซื้อ

BLA ที่คุณบอกมา ผมไม่เคยดูข้อมูล
พอไปดูแล้ว ก็เข้าข่าย ทำนองเดียวกับ CPALL
แต่มีข้อมูลให้ดูแค่ 2 ปี

แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 13:43:46

จากคุณ : สาระขัน

 

โดย: นายแว่นธรรมดา 28 พฤษภาคม 2554 14:41:58 น.  

 

ตัว bla ผมถือ 28 มันขึ้นไป 33 ผมก็ซื้อเพิ่มแถวนั้น จากนั้นมันก็ร่วงมาแถว 28 ผมเองก็ไม่ได้ขายครับ จากนั้นมันก็วิ่งกลับไป 33 แล้วก็ไป 34 35 36 ผมก็ซื้อเพิ่มมาตลอดทาง ไม้ล่าสุดเมื่อวานที่ราคา 47 บาทก็ซื้อครับ ยอมรับช่วง 47.5 ร่วงมา 42 กว่าๆผมก็ไม่ได้ทำกำไร แต่ได้โอกาสซื้อเพิ่ม ช่วง 33 ร่วงกลับไป 28 ผมก็ไม่ได้ทำกำไรแต่ได้โอกาสซื้อเพิ่ม อาจเป็นเพราะผมซื้อแล้วผมไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อเอามาขายมั้งครับ ตราบใดที่ผมยังหาตัวอื่นที่ดีกว่าไม่ได้ noble ก็เหมือนกันขึ้นไป 7.35 มีโอกาสให้ผมทำกำไรที่ 7.35 ถึงสองครั้งสองครา แต่ผมก็ไม่ได้ขายครับ เพื่อนผมซื้อ noble วันที่งบปีออก กำไรเรียกว่าเอาไปดาวน์รถกันได้เลยครึ่งคัน แต่ผมถือมาปีกว่ากำไรยังไม่ได้ครึ่งของมันเลย มันเป็นสไตล์ติดตัวไปแล้วน่ะครับ เหมือนที่พี่สาระขัน ขึ้นขายลงซื้อ เพราะพี่สาระขันฝึกมาถนัดทางนั้น แต่อย่างไรก็แล้วแต่ หลักสำคัญเลยคือหุ้นต้องดีมีคุณภาพก่อนครับ

จากคุณ : เข็มซ่อนคม

 

โดย: นายแว่นธรรมดา 28 พฤษภาคม 2554 14:42:15 น.  

 

ใครที่อ่านมาแล้ว และเล่นหุ้นโดยไม่ได้ใช้เทคนิค

ควรตัดสินใจว่า จะเล่นหุ้นแบบไหน อย่าซื้อแบบเดาสุ่ม เหมือนเล่นไฮโลว์
ถ้าชอบเล่นเก็งกำไรเป็นหลัก อยากรู้ผลเร็ว มีได้และมีเสีย
ก็ควรไปเสียเงินเรียนรู้เทคนิคแบบจริงจัง ใช้เวลาไม่นานครับ
แล้วก็ต้องมีวินัย รู้จัก Take Profit และ Cut Loss

ใครที่ไม่ชอบ Cut Loss ก็ต้องเลือกซื้อหุ้น ตามที่ผมเขียนข้างบน
ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แล้วก็ต้องใจเย็น ซื้อปุ๊บ ราคาลงปั๊บ
ก็ไม่ต้องกังวลใจ จะให้ดี ก็ต้องใช้แบบทะยอยซื้อ
ซื้อแล้ว ลงต่อ รอให้นิ่ง แล้วซื่อเพิ่ม
จะเอาแบบทะยอยซื้อ ทะยอยขายแบบผมก็ได้
จะสบายใจขึ้นเยอะครับ ขึ้นก็ดี ลงก็ได้ ไม่เครียด

อย่าไปใช้ทะยอยซื้อกับหุ้นปั่น หรือหุ้นที่ราคาสูงเกินพื้นฐานโดยเด็ดขาด

หรือถ้าใครจะใช้ผสมกันทั้งสองแบบ ก็ยิ่งดีครับ
ใช้เทคนิค ดูจังหวะ เข้าซื้อ
แต่วันก่อน มีคนส่งข้อความมาคุย ผมแนะนำ BANPU
เขาก็บอกว่า ซื้อแล้วที่ 756 ขนาดดูกราฟแล้วนะ
คุณสาระขัน ซื้อได้ถูกกว่าอีก

แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 14:19:32

แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 14:17:34

จากคุณ : สาระขัน

 

โดย: นายแว่นธรรมดา 28 พฤษภาคม 2554 14:42:56 น.  

 

รายการของนายสาระขัน เมื่อวานนี้
โกดัง ๒
ช่วงก่อนหน้า เล่นรับแล้วโยน กับน้องโพลี่
รับประทานส่วนต่าง มาหลายรอบ
หลังสุด จำหน่ายเกลี้ยงที่ 24.40
เมื่อวานนี้ ผลประกอบการออก กำไรดีขึ้นมาก
คนที่ถืออยู่ ต่างมาตั้งกระทู้โชว์ผลกำไร ดีใจกัน
บางคนบอกขอให้ +20%
ขาใหญ่ คิดไว้แล้ว ว่าจะมีชาวไล่ กับ นักเล่นรายวันมาซื้อกันมากมาย
ก่อนเปิด เห็นไปเข้าแถว ตั้งซื้อที่ ATO กันมากมาย เขาก็ดันให้เปิดสูงที่ 25.25
เปิดมา 25.25 นายสาระขัน ชาวสวน ก็ได้แต่นั่งดู
ปรากฎว่า ถูกเทขายสวนมา ไม่หยุด ผมก็ไปตั้งรับ ๑ ไม้ที่ 24.60 โดนครับ
หลังจากนั้น ก็ทำท่าจะไม่ไหลลงต่อ
ที่ไหนได้ ช่วงบ่าย โดนถล่มต่อ มีวางขายที่ 24.10 ผมก็เคาะซื้ออีก ๑ ไม้
ช่วงปลายตลาด นักเล่นรายวัน แย่งกันขาย
ผสมกับชาวไล่ที่ขาย Cut Loss ไหลลงไปถึง 23.80 ปิดที่ 23.90
ก็คงต้องลุ้นกันต่อไปครับ
แต่ราคาขณะนี้ เปรียบกับพื้นฐานแล้ว ถือว่ายังต่ำครับ
และยังจะมีจ่ายเงินปันผลอีก

มีนักวิเคราะห์ ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 22.40 บาท
แต่บอกว่า คิดจาก P/E 7 เท่า ลองไปอ่านดูนะครับ
พอจะเชียร์ลงให้ P/E 7 เท่า พอจะเชียร์ขึ้น ให้ P/E 12 เท่า บางครั้ง 15 เท่า

 

โดย: นายแว่นธรรมดา 29 พฤษภาคม 2554 14:58:13 น.  

 

ท่าน THE FINAL 2
หุ้นส่วนใหญ่ ถือไว้รับเงินปันผล กับ ถือยาวครับ
BCP-DR1 CPNRF CSL IRPC SF ถ้าลงลึก จะซื้อเพิ่ม
ที่เพิ่งรับมาใหม่ ยังไง ต้องมีเหลือติดโกดัง ก็ BANPU
เล่นสั้น PTL RPC TPIPL
สั้นและยาว KGI LHK MCS
กำลังพิจารณา CPF ราคาดูท่าจะเต็มมูลค่า (ภาษานักวิเคราะห์ )
ลุ้น Turn Around : GEN MAX ผลประกอบการกลับมามีกำไรทั้งคู่ คงถืออีกนาน
ไม่เคยขายเกลี่ยงพอร์ตครับ
ไม่มีขาย Cut Loss ครับ เพราะก่อนซื้อ ได้พิจารณาแล้ว
แม้จะต้องถือหลายปี ก็ไม่เป็นไร
เราไม่ได้จะเล่นหุ้นอีกแค่ไม่กี่ปี

ส่วนหุ้นพื้นถัน ยังไงก็ออกไม่หมดครับ

 

โดย: นายแว่นธรรมดา 29 พฤษภาคม 2554 14:58:42 น.  

 

ท่าน autonomous
น้องเจน ก็ซื้อไว้ ลุ้น Turn Around
เพราะราคาต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีมากพอควร
ก่อนหน้า ผลประกอบการขาดทุนลดลง
พอประกาศผลประกอบการหลังสุด กลับมามีกำไร
แต่ไม่ได้ซื้อมากครับ มีไม่ถึง 10% ของพอร์ต
ผมเล่นแบบผสมหลายอย่าง แบบเกาเหลารวม
ขอเนื้อเยอะๆ ผักเยอะๆ 20 บาท

คุณส่งเสียน้องออส
การดูพื้นฐานของหุ้นง่ายกว่าศึกษาเทคนิคมากครับ
แล้วก็ไม่ต้องมาตีความกราฟ
นักเทคนิค หลายครั้ง แต่ละคนก็วิเคราะห์ไม่เหมือนกัน
เสาร์ อาทิตย์นี้ คิดว่าผมคงว่าง จะมาเขียนลงกระทู้ให้ครับ

 

โดย: นายแว่นธรรมดา 29 พฤษภาคม 2554 14:59:41 น.  

 

ท่านเป็ก PTL ต้องเล่นเดาใจขาใหญ่
แต่ราคาตอนนี้ ไม่น่ากลัวครับ ถือว่าต่ำกว่าพื้นฐาน
แถมมีเงินปันผลค้ำอยู่ เห็นด้วยครับ

หุ้นจะขึ้นหรือลงแรง จะมีขาใหญ่หรือกองทุน เป็นคนนำครับ
มันไม่มีหรอก ที่รายย่อย จะพร้อมใจกันเทขาย ราคาไหลลง
ดูอย่างเมื่อวานนี้ PTL เปิดมา 25.25 ขาใหญ่เทขายพรวด มาตั้งขายที่ 24.90
รายย่อย ก็เคาะขวา ซื้อกันไม่หยุด ขาใหญ่ก็เติมขวาไม่หยุด
แล้วก็เทขายต่อ ไหลพรวดลงมา ผมตั้งซื้อไว้ภาคเช้า 24.60 โดนครับ
เปิดภาคบ่าย ทำท่าจะเปิด 24.60 กับ 24.70 ดูดี
เปิดมา 24.60 แล้วขาใหญ่ก็เทขายพรวด
มีเคาะซื้อกลับไม้ใหญ่ๆ ให้ดูว่า จะเด้งกลับ เรียกลูกค้ามาซื้อ
ผมเคาะซื้ออีก ๑ ไม้ 24.10 บาท
เพราะ มีตั้งซื้อหลอกที่ 1 ล้านหุ้น 24.00 โดนเทขายเกลี้ยง
แล้วก็เทพรวด วางขายต่อ ไล่ทุบลงไปถึง 23.80 ปิด 23.90
ขนาดผมเป็นชาวสวน ไม่ไล่ซื้อตาม รอรับ รับ ๒ ไม้ ไม่ใช่ไม้เดียว
ยังออกแดง -2.11%
ชาวไล่ กับ นักเล่นรายวัน ที่ไปตั้งแถวซื้อ ATO บาดเจ็บไปรายหลาย

 

โดย: นายแว่นธรรมดา 29 พฤษภาคม 2554 15:00:10 น.  

 

HMPRO ผมว่า ราคาขึ้นมาสูงแล้ว ปันผลก็ไม่มาก

LHK เช้านี้ ผมขายไป ๑ ไม้ 3.44 ยังเหลืออีก ๒ ไม้
ราคาเหมาะสม ก็ใกล้ๆ 4 บาทครับ

EARTH ราคารับ ราคาขาย ต้องไปถามนักเทคนิคนะครับ
หุ้นปั่นแปะ ผมไม่เล่นครับ

 

โดย: นายแว่นธรรมดา 29 พฤษภาคม 2554 15:01:58 น.  

 

SINGER ไม่น่าจะเป็นหุ้นห่านทองคำ
เป็นหุ้นลุ้นความเติบโต
เพราะผลประกอบการเริ่มมีกำไรดีขึ้นเป็นลำดับ
และเพิ่งจะจ่ายเงินปันผลได้
ใครถือไว้จนถึง XD วันนี้รับเงินปันผล 0.10 บาทต่อหุ้น
คิดจากราคาตอนนี้ ก็ 2.3% ต่อปี น้อยมากครับ
ปริมาณซื้อขายก็น้อย เรียกได้ว่า ไม่มี liquidity ครับ
ถ้ามั่นใจว่า เขาจะเจริญต่อโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซื้อทิ้งไว้ หลายปี ถ้าเป็นดังว่า ก็จะกำไรงามครับ

หุ้นห่านทองคำ จะเป็นหุ้นที่จ่ายเงินปันผลในอัตราสูงอย่างสม่ำเสมอ
ถ้ามีไว้ ก็เหมือนมีห่านทองคำ ออกไข่มาเป็นทองคำ ก็คือ เงินปันผลนั่นเอง
ตัวที่ผมถืออยู่ CSL คิดจากราคาหุ้นที่ซื้อมา ได้รับเงินปันผล ไม่ต่ำกว่า 15% ต่อปี
ถ้าเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ได้ราคาสูงมาก คงไม่ยอมขายห่านครับ
ทุนใกล้ๆ 3 บาท 6 บาท ผมก็ไม่ขายนะครับ

 

โดย: นายแว่นธรรมดา 29 พฤษภาคม 2554 15:02:52 น.  

 

RPC

คุณพ่อน้องเต็ม
ใจเย็นๆครับ ช่วงก่อนหน้า คนส่วนใหญ่กำลังตกใจ
เทขายกันใหญ่ ราคาไหลรูดลง
แค่ข่าว คนขายวัตถุดิบจะไม่ต่อสัญญาให้
สัญญาสิ้นสุด มกราคม 2555
หาวัตถุดิบ มันง่ายยิ่งกว่าหาลูกค้านะครับ
เขาต้องค่อยๆดัน ขืนดันแรง คนที่ยังตกใจ จะเทขาย จะใช้ต้องเงินมาก

แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 54 17:05:24

จากคุณ : สาระขัน

 

โดย: นายแว่นธรรมดา 29 พฤษภาคม 2554 15:04:08 น.  

 

IRPC อนาคตจะไปได้ดีครับ
ขึ้นอยู่กับผลประกอบการข้างหน้า
แต่ตลาด คนส่วนใหญ่ เล่นกันแบบเก็งกำไรเป็นหลัก
พอราคาขึ้นต่อไม่ไหว ก็เทขายกัน
ผมถึงต้องรอรับ IRPC ตอนราคาต่ำ
เพราะถ้าซื้ิอตอนนี้ ราคานี้ เงินปันผลยังอัตราต่ำ
ตอนนี้ เหลืออยู่ 20,000 หุ้น ต้นทุนไม่ถึง 4.50 บาท
เพราะไปซื้อมาได้ถึง 4.84 บาท วันที่ 1 ก.พ ที่ผ่านมา
ตอนเขาเอามาขายลดราคา ลดกระหน่ำ
ผมชาวสวน ของดี นานๆ เอามาขายลดราคาแบบนี้ ต้องซื้อครับ
ถ้าถือได้ยาวเป็นปี คงได้เห็น สูงกว่า 9 บาท
แต่คงจะบอกไม่ได้ว่า เมื่อไหร่

BANPU ก็อีกตัว ผมซื้อมาได้ 722 กับ 718 ราคาขยับขึ้นแล้ว ว่าจะซื้อเพิ่ม
ของดี นานๆ เอามาลดราคา แบบนี้ ซื้อไว้แล้ว ต้องถือยาว
ถ้าขายไป อาจจะซื้อกลับไม่ได้

จากคุณ : สาระขัน

 

โดย: นายแว่นธรรมดา 29 พฤษภาคม 2554 15:04:28 น.  

 

เพิ่งเริ่มเล่นหุ้น ควรจะเล่นหุ้นพื้นฐานตัวไหนที่ดี ?

ซื้อ IRPC ไว้ 6.35 จะถือยาว ดีไหม ?

ควรเล่นตัวไหนบ้าง

 

โดย: tana IP: 110.168.67.160 5 มิถุนายน 2554 17:46:52 น.  

 

LHK

BLS

 

โดย: นายแว่นธรรมดา 5 มิถุนายน 2554 20:05:23 น.  

 

ขอบคุณมากครับ

 

โดย: ชัย IP: 115.67.160.228 18 สิงหาคม 2555 15:57:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


นายแว่นธรรมดา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ยินดีต้อนรับสู่บล็อกนายแว่นธรรมดา บล็อกที่รวมเอาความคิด ความฝัน ความรู้สึกของนายแว่นธรรมดา เพื่อปะติดปะต่อภาพแห่งความรู้สึกในใจของเราให้เสร็จสมบูรณ์ (ขอสงวนการนำข้อมูลในบล็อกไปใช้ครับ)
Free counters!
New Comments
[Add นายแว่นธรรมดา's blog to your web]