มองภาพแห่งความสำเร็จที่ชัดเจน เดินแต่ละก้าวอย่างมีสติ ด้วยใจที่สงบ
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
11 กุมภาพันธ์ 2555

ข้อคิดเห็นหุ้น KSL

KSL



KSL

บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ภายใต้กลุ่ม เค เอส แอล เป็นกลุ่มบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย โดยกลุ่มบริษัทมีโรงงานน้ำตาลที่อยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจทั้งหมด 4 โรง โดยแบ่งสายการผลิตออกเป็น 3 ภาค ดังนี้
1. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แถบจังหวัดขอนแก่น มี 1 โรงงาน ได้แก่ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน)
2. ภาคกลาง แถบจังหวัดกาญจนบุรี มี 2 โรงงาน ได้แก่ บริษัท โรงงานน้ำตาลนิวกรุงไทย จำกัด และ บริษัท น้ำตาลท่ามะกา จำกัด
3. ภาคตะวันออกมี 1 โรงงาน คือ บริษัท น้ำตาลนิวกว้างสุ้นหลี จำกัด

ผลิตภัณฑ์ที่ทางบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อยผลิต จะประกอบด้วยผลิตภัณฑ์หลักที่เป็นน้ำตาลทราย ซึ่งสามารถจำแนกประเภทได้ 4 ประเภท คือ น้ำตาลทรายดิบ (Raw Sugar), น้ำตาลทรายดิบคุณภาพสูง (High Pol Sugar), น้ำตาลทรายขาว (White Sugar) และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ (Refined Sugar) และผลิตภัณฑ์เสริมที่เกี่ยวเนื่องที่ได้จากกระบวนการผลิตน้ำตาลทรายอีก เช่น กากน้ำตาล (Molasses) กากอ้อย (Bagasses) และกากหม้อกรอง (Filter Cake) โดยบริษัทได้ขยายการลงทุนต่อยอดจากกระบวนการผลิตน้ำตาล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม คือ

(1) โรงงานผลิตเอทานอล ซึ่งใช้ผสมกับน้ำมัน เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ ใช้วัตถุดิบคือ กากน้ำตาล และน้ำอ้อย
(2) โรงงานผลิตก๊าซชีวภาพ ใช้วัตถุดิบที่เป็นน้ำเสียที่มาจากกระบวนการผลิตเอทานอล มาหมักให้ได้ก๊าซชีวภาพเป็นเชื้อเพลิงเสริมสำหรับโรงไฟฟ้า
(3) โรงงานผลิตปุ๋ยชีวภาพ ใช้วัตถุดิบที่เป็นของเสียจากกระบวนการผลิตน้ำตาล (กากหม้อกรอง) และน้ำเสียที่มาจากกระบวนการผลิตก๊าชชีวภาพ และการผลิตเอทานอล
(4) โรงไฟฟ้า ใช้วัตถุดิบที่เป็นของเสียจากกระบวนการผลิตน้ำตาล (กากอ้อย) และก๊าซชีวภาพที่ได้จากโรงงานผลิตก๊าชชีวภาพ เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า และพลังไอน้ำขายให้กับโรงงานในเครือและการไฟฟ้า

สำหรับภาพรวมของบริษัทต้องถือว่าเป็นบริษัทที่มีความมั่นคงสูงครับ ธุรกิจส่วนใหญ่คือการผลิตน้ำตาลกว่า 90% ทีเหลือเป็นธุรกิจเสริมครับ ในส่วนของตัวเลขทางการเงินกระแสเงินสดจากการดำเนินงานต่อหุ้นที่ผมคำนวนได้ คือ 1.29 บาทต่อหุ้น ถือว่าดีครับ ROE สูงใช้ได้ครับ แต่ ROA ต่ำไปนิดแสดงให้เห็นถึงการคืนทุนในส่วนของสินทรัพย์ทำได้ดีในปีหลังๆ อาจต้องเทียบกับกิจการคู่แข่งว่าใครทำได้ดีกว่ากันครับ อัตราการทำกำไรเติบโตเป็นเลขสองหลักน่าสนใจทีเดียวครับ หนี้สินต่อทุนสูงไปนิด (อาจเป็นธรรมชาติของการทำธุรกิจประเภทนี้) และเงินปันผลไม่ค่อยจะสม่ำเสมอครับ

ปัจจัยเสี่ยง

ความผันผวนของปริมาณอ้อยจะเกิดจากสาเหตุหลัก 2 ประการคือ (1) ปริมาณพื้นที่ในการเพาะปลูกอ้อย (จำนวนไร่) ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจจะเกิดจากการที่เกษตรกรเปลี่ยนไปเพาะปลูกพืชไร่ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า รวมถึงเกิดจากนโยบายการส่งเสริมของภาครัฐ ผลผลิตอ้อยต่อพื้นที่เพาะปลูก (ตันอ้อยต่อไร่) ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง เช่น ภัยแล้ง และน้ำท่วม อันเนื่องมาจากสภาวะโลกร้อน ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากปริมาณอ้อยลดลง ทำให้บริษัท มีปริมาณการผลิตที่ลดลง ต้นทุนต่อหน่วยโดยเฉพาะในส่วนของต้นทุนคงที่ต่อหน่วยสูงขึ้น กำไรต่อหน่วยลดลง และสุดท้ายส่งผลให้กำไรของบริษัทลดลง ... แสดงว่าวัตถุดิบมีผลอย่างมากต่อการผลิตน้ำตาล และดูเหมือนจะไม่สามารถผลักภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้บริโภคได้ครับ เนื่องจากน้ำตาลเป็นสินค้าควบคุมราคาโดยรัฐบาล

ความผันผวนของราคาน้ำตาลในตลาดโลก ... ในการซื้อขายน้ำตาลในตลาดโลกนั้น น้ำตาลจัดได้ว่าเป็นสินค้าหนึ่งที่มีความผันผวนทางด้านราคาสูงเมื่อเทียบกับสินค้าเกษตรอื่น ๆ โดยราคาน้ำตาลตลาดโลกจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อุปสงค์ อุปทานของประเทศผู้ผลิต ผู้บริโภค ผู้ส่งออก และผู้นำเข้า รวมถึงการเก็งกำไรจากนักเก็งกำไร ซึ่งจะเกี่ยวพันกับสภาพภูมิอากาศในการเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกของแต่ละประเทศ นโยบายการส่งเสริม การแทรกแซง การส่งออก การนำเข้า ของอุตสาหกรรมน้ำตาลของภาครัฐ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว อีกทั้งปัจจุบันราคาน้ำตาลยังมีส่วนหนึ่งที่สัมพันธ์กับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย เนื่องจากอ้อยรวมถึงกากน้ำตาล สามารถนำไปผลิตเป็นแอลกอฮอล์หรือที่เรียกว่าเอทานอล สำหรับผสมกับน้ำมันเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ได้ ด้วยปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ราคาซื้อขายน้ำตาลในตลาดโลกค่อนข้างผันผวนสูง ... หากน้ำตาลในตลาดโลกมีราคาสูงขึ้นก็จะเป็นประโยชน์กับบริษัทครับ ดังนั้นเราควรติดตามราคาน้ำตาลให้ดีด้วยครับ อาจกำหนดจุดเข้าซื้อเมื่อราคาน้ำตาลตกต่ำก็ได้ครับ ... ความเสี่ยงอื่นๆ (เงินเกี๊ยวในวงการน้ำตาล ฯลฯ) ลองดาวน์โหลด 56-1 มาอ่านดูครับมีรายละเอียดครบถ้วนทีเดียว

ข้อสรุป ... ส่วนตัวผมคิดว่าเป็นหุ้นที่น่าซื้อครับ แต่ถ้าหวังเรื่องปันผลก็อาจจะไม่ได้รับเงินปันผลสม่ำเสมอซักเท่าไหร่ (ดูจากอดีตที่ผ่านมา) และผมได้ข่าวว่าตอนนี้วงการน้ำตาลโลกจะเน้นสั่งน้ำตาลจากประเทศอินเดีย เพราะราคาถูกกว่าครับ แต่ด้วยพื้นฐานของหุ้นที่ดูมั่นคงก็ยังน่าซื้อสะสมอยู่ดีครับ สูตรของผมคือทยอยซื้อเฉลี่ยราคาให้ถูกที่สุดครับ

เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ

ขอบคุณสำหรับคำถามครับ

(นายแว่นธรรมดา)


หนังสือ "50 กลยุทธ์รวยหุ้น ไม่เสี่ยง" และ "รวยหุ้นแบบ VI ไม่เสี่ยง" หนังสือสำหรับมือใหม่หัดเล่นหุ้น.. โดยนายแว่นธรรมดา..



วางแผงแล้วในร้าน ซีเอ็ด นายอินทร์ และ บีทูเอส ทุกสาขา ขอบคุณที่อุดหนุนนะครับ


Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2555 12:53:06 น. 2 comments
Counter : 2147 Pageviews.  

 
เข้ามาชื่นชมความมีน้ำใจและขยันตอบครับ!!!


โดย: danny IP: 27.130.99.16 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:15:58:09 น.  

 
ได้ความรู้เพิ่มดีค่ะ


โดย: A IP: 49.0.118.108 วันที่: 23 พฤษภาคม 2557 เวลา:13:45:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นายแว่นธรรมดา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ยินดีต้อนรับสู่บล็อกนายแว่นธรรมดา บล็อกที่รวมเอาความคิด ความฝัน ความรู้สึกของนายแว่นธรรมดา เพื่อปะติดปะต่อภาพแห่งความรู้สึกในใจของเราให้เสร็จสมบูรณ์ (ขอสงวนการนำข้อมูลในบล็อกไปใช้ครับ)
Free counters!
New Comments
[Add นายแว่นธรรมดา's blog to your web]