กรกฏาคม 2549

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
31 กรกฏาคม 2549
All Blog
MUMBA I SE AA YA MERA DOST
MUMBA I SE AA YA MERA DOST : เสน่หา ภารต...

“ห้ามน้ำไม่ไหล ห้ามไฟไม่ให้มีควัน
ห้ามอาทิตย์ห้ามดวงจันทร์ หยุดแค่นั้นค่อยห้ามดวงใจ”




นานมาแล้วที่เคยดูหนังอินเดียด้วยความบังเอิญ นานแค่ไหนก็จำไม่ได้ แต่ภาพที่ติดตามาจนทุกวันนี้คือ ภาพหญิงสาวในชุดส่าหรีวิ่งหนีชายหนุ่มด้วยความเอียงอาย ประกอบดนตรี หลังต้นไม้ใหญ่ และมีสาวๆ ที่เป็น “เพื่อนนางเอก” คอยวิ่งหลบอยู่หลังต้นไม้ต้นอื่นๆ ไม่ไกลจากกันนัก... วิ่งไล่กันทั้งเรื่อง, เหนื่อยกันบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้...

ผ่านมาแล้ว หลายปีมาก... คราวนี้มีโอกาสได้ดูหนังอินเดียอีกครั้งแบบตั้งใจ... MUMBA I SE AA YA MERA DOST ชื่อหนังเขียนแยกคำแบบนี้ และการออกเสียงก็เหมือนกัน... ในเพลงประกอบหนังเรื่องนี้อ่านประโยคนี้ว่า “มุม บา อิส ซี อา ยามีราโดส” เป็นเรื่องราวของ คานจีชายบ้านนอกผู้ไปอาศัยอยู่ในเมืองมุมไบเป็นเวลาสิบกว่าปี และเขามีโอกาสได้กลับบ้านนอกเมื่อปู่ของเขาได้รับรางวัลเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมดีเด่น นั่นทำให้บ้านนอกของเขามีไฟฟ้าใช้ และเขาก็ได้เอาทีวีไปฝากปู่... ความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดจึงเกิดขึ้น



ทีวีพร้อมจานดาวเทียมเปิดโลกกว้างให้ชาวอินเดียหมู่บ้านเล็กๆ ที่เพิ่งมีไฟฟ้าใช้ ทำให้ไม่เป็นอันทำมาหากิน วันๆ เอาแต่นั่งจ้องหน้าจอทีวี แล้วเลียนแบบพฤติกรรมตัวละครในทีวี ไม่ไปวัดทำบุญ นั่นทำให้พราหมณ์ไปบอกกับผู้มีอิทธิพลเพื่อจัดการกับคานจี แต่บังเอิญคานจีก็ไปหลงรักสาวงามคนหนึ่งชื่อคีซาร์ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้มีอิทธิพลคนนั้น...

ทากูรพี่ชายของคีซาร์ส่งคนมาทำร้ายคานจี แต่คานจีไม่อยู่ปู่ของเขาจึงถูกทำร้ายในขณะที่ผู้คนในหมู่บ้านเพลิดเพลินกับการดูทีวีโดยไม่สนใจอะไรเลย คานจีจึงโกรธเคืองที่ทุกคนเห็นทีวีสำคัญแต่ไม่สนใจจะช่วยเหลือปู่ของตน... คีซาร์ถูกพี่ชายจับขัง คานจีช่วยไว้และนั่นทำให้พี่ชายของคีซาร์ตามมาเพื่อล้างแค้นและเขาก็ได้ฆ่าสุริยา ญาติผู้น้องของคานจีถูกฆ่าอย่างทารุณ... การตายของสุริยาทำให้ทุกคนในหมู่บ้านช่วยกันต่อสู้... เรื่องราวจบลงที่ทากูร พี่ชายของคีซาร์พ่ายแพ้



หนังเรื่องนี้มีนางเอกคือ Lara Dutta นางงามจักรวาลปี 2000 ส่วนพระเอกแสดงโดย Abhishek Bachchan ที่มีเครดิตว่า “Son of Bollywood legendary actor Amitabh Bachchan” เรียกว่า ลูกไม้เหล่นไม่ไกลต้นว่างั้นเถอะ...

ฉากของเรื่องไม่ถือว่าสวย ไม่มีความอลังการของทัชมาฮาล สุสานเพื่อความรักแด่พระนางมุมตัส แต่เป็นธรรมชาติของท้องถิ่น พอสาวๆ เต้นไปร้องเพลงไปก็กินฝุ่น กินทรายเข้าไปด้วย เพราะเน้นความแห้งแล้งเป็นหลัก...เต้นทีก็ฝุ่นคลุ้งที หน้าตาเธอยังระรื่นสดชื่นเหมือนได้ฝนใหม่ในรอบสองปี...

หนังแขกจะค่อนข้างใช้เวลานานมาก... เพราะ 1 ใน 3 ของเรื่องจะต้องมีการเต้นประกอบดนตรีซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของหนังแขก สาวๆ ก็วิ่งหลบหลังต้นไม้กันอยู่นั่นร่ำไป... แต่หนังแขกสมัยใหม่จะเต้นเร็วขึ้น มีจังหวะดนตรีไปทางแดนซ์ ท่วงท่าการเต้น “อินเตอร์” มากขึ้นแต่ก็ไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของความเป็นภารตไปเสียเลยทีเดียว ถึงจะนุ่งยีนส์ มีทีวี แต่วิถีการใช้ชีวิตก็ยังเป็นฮินดู และการแต่งองค์ทรงเครื่องจะสวยงามด้วยสีสันจัดจ้านและเซ็กซี่ สาวอินเดียหุ่นดีไม่มีพุงเหมือนสมัยก่อน ทำให้นึกถึงสาวฮาวายที่ใส่กระโปรงฟางแล้วเต้นโชว์สะดือส่ายเอว ดูแล้วก็เพลินตา... ถึงแม้สาวแขกจะใส่กระโปรงฟูยาวกรอมเท้าแต่เสื้อเธอก็สั้นเต่อแค่เลยอกลงมานิดเดียว กระตุกสายที่ผูกข้างหลังอยู่เท่านั้นก็หมดแล้ว แต่ยอมรับว่าการแต่งกายของสาวๆ อินเดียเป็นการแต่งตัวที่สวยงามมาก เป็นความเซ็กซี่แบบลึกลับที่น่ามอง และค้นหา.....


ตายละ... พูดถึงอะไรแล้วนี่ (บังเอิญนางเอกสาว เลย อินไปหน่อย) ... MUMBA I SE AA YA MERA DOST กับสิ่งที่หนังให้คนดูอย่างตรงไปตรงมาคือเรื่องของความรักที่มีความแตกต่างทางชนชั้นวรรณะ และไม่อ้อมค้อมในการสั่งสอนเรื่อง “วัตถุนิยม” ที่เข้ามาพร้อมกับความเจริญก้าวหน้า, ไม่ว่าอินเดียหรือไทยแลนด์ก็คงไม่ต่างกันมากนัก...เพราะเมื่อสิ่งที่เรียกว่า “ความเจริญก้าวหน้า” เดินเข้าไปเคาะประตูบ้านเมื่อไหร่แล้ว ระหว่างสิ่งที่เข้ามาใหม่ที่เป็น “ของแปลก” จะทำให้ความพอดี พอมี พออยู่ ในวิถีเดิมเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหนนั่นก็ขึ้นอยู่กับ “วิธีจัดการอันชาญฉลาดซึ่งมีอยู่มากน้อยไม่เท่ากัน” ของคนแต่ละคน...


และสำหรับหนังแขกเรื่องแรกที่ดูไป หาวไป แต่ไม่ได้รู้สึกไร้อรรถรสเสียเลยทีเดียว อาจจะเพราะความ “แปลก"”ในการเล่าเรื่อง ที่เล่นไป เต้นไป ในช่วงจังหวะการเต้นก็เพลินไปกับการยักย้ายส่ายเอวของสาวๆ และเรื่องราวก็ดำเนินไปอย่างช้าๆ บทหนังธรรมดามากจนไม่มีอะไรให้คาดเดา แต่นางเอกของเรื่องก็ช่วยดึงเรทติ้งไว้ได้มากพอควร ด้วยเครดิต “นางงามจักรวาล” แต่เพราะความไม่ใช่ “มืออาชีพ” เธอจึงเต้นรำได้ดีกว่าแสดงอารมณ์ โดยรวม ถือว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ดูแล้วต้องบอกลาหนังแขกไปตลอดชีวิต แต่กลับทำให้คิดว่า “น่าไปหาเรื่องอื่นมาดูอีก” เพราะหนังแขกยุคใหม่ มีความน่าสนใจในตัวของมันเองค่อนข้างเยอะ เพลงก็เพราะ... ทำให้ลืมฮอลีวู้ดไปได้สักใหญ่เลยทีเดียวแหละ....

ก็ว่ากันไปตามรสนิยม.... /


PS. มาเล่าถึงหนังเรื่องนี้ เพราะมีใครบางคนไปอินเดีย... เลยเอารูปสวยๆ มาให้ดู เผื่อจะนึก เสน่หา ภารต กับเขาขึ้นมาบ้าง.....



Create Date : 31 กรกฎาคม 2549
Last Update : 7 กันยายน 2554 16:24:35 น.
Counter : 879 Pageviews.

9 comments
  
สวัสดี ดาริกา ...

เนื้อเรื่องเศร้าจัง

ตอนนี้กำลังฝึกไว้พุงอยู่

ไว้จะไปเต้นระบำหน้าท้อง

ให้ดูนะคะ

ปล. คิดถึงค่ะ
โดย: รักบังใบ วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:55:03 น.
  
ไม่ได้ดูหนังอินเดียว มา 10 กว่าปีแล้วววว
โดย: LASIP วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:15:28 น.
  
หวัดดีค่ะ น้องดาริ....

ชอบหนังแขกมากค่ะ เครื่องแต่งกายเค้าสวยมาก หะรูหะราดี ตอนเด็กๆ พี่สาวกับแม่ชอบพี่หนีบไปดูด้วย...โตมาไม่ค่อยได้ดูละ...(ดูที่ต่างจังหวัดอ่ะค่ะ...มหาสารคาม) แต่ไงก็ยังชอบอยู่ค่ะ...

คิดถึงนะคะ..แล้วคงได้เจอกันอีกน้า...
โดย: พี่อุ้ย ^-^(จานใบที่หนึ่ง) (แดดร่มลมโชย ) วันที่: 1 สิงหาคม 2549 เวลา:7:20:09 น.
  
พี่สาวผมกลับมาแล้ว สบายดีนะครับ
แวะมาสอบถามครับ ตอนนี้พี่เล่น net ที่ไหนล่ะเนี่ย
นำระบบคอมฯ เข้าที่ทำงานได้แล้วรึครับ

อ้อ แล้วก็เรื่องซ่อมคอมฯ ถ้ามันยากนักจ้างเด็ก support ไปเลยครับ
ให้มันรู้กันไปว่า mis ทำไม่เป็น เอาให้อายกันไปข้างนึง เหอๆ
โดย: อายส์ IP: 58.10.12.252 วันที่: 1 สิงหาคม 2549 เวลา:10:23:48 น.
  
หวัดดีคนสวย เล่าซะอยากดูหนังแขกเลย

ชอบตรงที่ดาริบอกว่า

สิ่งที่เข้ามาใหม่ที่เป็น “ของแปลก” จะทำให้ความพอดี พอมี พออยู่ ในวิถีเดิมเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหนนั่นก็ขึ้นอยู่กับ “วิธีจัดการอันชาญฉลาดซึ่งมีอยู่มากน้อยไม่เท่ากัน” ของคนแต่ละคน...

นี่คือโจทย์ที่รัฐบาลจะต้องตอบเลยแหละ

..คิดถึงคนสวยจ้ะ
โดย: ป้าอาร์ต(เพนกวิน) IP: 58.10.128.139 วันที่: 2 สิงหาคม 2549 เวลา:19:53:09 น.
  
อินเดียไม่เคยไปเลย
เคยไปแต่ศรีลังกาน่ะครับ
โดย: Plin, :-p วันที่: 3 สิงหาคม 2549 เวลา:9:29:46 น.
  
โอ้ว้าว !!!
นึกถึงหนังอินเดียสมัยก่อน ๆ ที่ช่องเจ็ดชอบเอามาฉาย
แม่ก็จะบ่น-บ่น-บ่น ว่าอะไรมันก็ไม่รู้ร้องเพลงกันอยู่ได้



แต่การเล่าเรื่องแบบร่วมสมัย (แอบด่าทีวี) แบบนี้ชักอยากลองดูซะแล้ว

โดย: ShadowServant วันที่: 3 สิงหาคม 2549 เวลา:16:37:19 น.
  



แวะมาเสิร์ฟกาแฟจ๊ะ คุณดาริกา
โดย: รักบังใบ วันที่: 4 สิงหาคม 2549 เวลา:7:13:31 น.
  
เข้ามาดูรูปว่ามันสวยดี เออหนอคนเราสามารถอะไรปานนี้
โดย: เพลงเก่า IP: 203.188.47.202 วันที่: 5 สิงหาคม 2549 เวลา:7:53:18 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาริกามณี
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



Just Do it :


* มีอีกชื่อว่า หญ้าเจ้าชู้

* เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์บทประพันธ์
รักข้ามรั้ว (หญ้าเจ้าชู้)
ลุ้นสุดฤทธิ์ พิชิตรัก (หญ้าเจ้าชู้)
ภารกิจรักพิทักษ์เธอ (หญ้าเจ้าชู้)
ปีกแห่งฝัน (ดาริกามณี)

* เป็นสาวก 'รงค์ วงษ์สวรรค์
* เป็นแฟน คาราบาว
* เป็นกิ๊ก เฉลียง
* ฝืนอะไรที่เป็นอื่น ฝืนอัตตา
สูงเทียมฟ้าก็มิเท่า เป็นเราเอง

* การปรากฎตัวของคนคนหนึ่ง
อาจเปลี่ยนใครอีกคนไปทั้งชีวิต

* หากต้องการอ่านนิยายที่ใส่รหัส,
รบกวน "ฝากข้อความหลังไมค์" จ่ะ