สแกนนิ้ว ตามล่าหาพรสวรรค์
รู้หรือไม่ว่า มีอะไรในร่างกายบ้างที่อยู่คู่กับเรามาตั้งแต่เกิดไปจนแก่ และตายไปโดยไม่เปลี่ยนแปลง ?
คำตอบที่ได้รับคงจะมีไม่กี่อย่าง
แต่สิ่งหนึ่งที่จะยืนยงเคียงคู่กับชีวิตเราไปจนตลอดรอดฝั่งนั้น คือลายนิ้วมือ
ลายนิ้วมือหรือที่ใครๆ ชอบเรียกว่า ลายก้นหอย ที่ปรากฏอยู่ตามปลายนิ้วในรูปแบบต่างๆ แต่ละนิ้ว
แต่ละคนจะแตกต่างอย่างไม่ซ้ำรอย เป็นการออกแบบจากธรรมชาติที่น่าทึ่ง และจะยิ่งน่าทึ่งไปอีก
ถ้าจะบอกว่า เจ้าลายนิ้วมือเล็กๆ นี่แหละสามารถบ่งบอกความเป็นตัวตนของคนคนนั้นได้
ตั้งแต่พรสวรรค์ ความถนัด ความสนใจ ไปจนถึงอารมณ์ ความอ่อนไหว และความคิด
เหล่านี้เป็นสิ่งที่ได้รับการค้นพบจาก บิดาแห่งศาสตร์ลายเส้นผิวหนัง Harold Cummins M.D.
ที่พบว่าลายนิ้วมือกับสมองจะพัฒนาไปพร้อมๆ กัน โดยจะเริ่มตั้งแต่อายุครรภ์ 13-21 สัปดาห์
และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดชีวิต
ในการวิจัยยังอีกพบว่า มือซ้ายจะสัมพันธ์กับสมองซีกขวาบอกถึงความสามารถทางด้านตรรก
การคำนวณ วิทยาศาสตร การมีเหตุผล ด้านการสัมผัส มองห็น การฟัง
ส่วนมือขวาจะสัมพันธ์กับสมองซีกซ้าย บอกถึงจินตนาการ ความสามารถด้านการไตร่ตรอง
ความรู้สึกและจิตใจ
ถามว่าเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว จะได้ประโยชน์อะไร
นักวิทยาศาสตร์ได้มีการนำศาสตร์ลายเส้นของผิวหนัง (Dermatoglyphics) มาวิเคราะห์ทางสถิติ
ที่เก็บมาเป็น 100 ปี ร่วมกับวิทยาการด้าน ทั้งพันธุศาสตร์ ชีววิทยาการพัฒนาตัวอ่อน
กายวิภาคศาสตร์ มานุษยวิทยา จิตเวชศาสตร์ เพื่อค้นหาพรสวรรค์ หรือความถนัดเฉพาะตัว
จนได้ DA (dermatoglyphics analysis) หรือเทคโนโลยีวิเคราะห์สมองผ่านลายนิ้วมือ
เทคโนโลยีนี้สามารถตีแผ่ความเป็นตัวตนได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นยิ่งตรวจพบตั้งแต่เด็กก็จะยิ่งดี
เพราะจะได้รู้เข้าใจ และตีโจทย์ในการวางแผนเส้นทางชีวิตได้ ถูกศักยภาพและถูกทาง
เแต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ ก็จะสามารถมอบหมายงานให้รับผิดชอบได้อย่างถูกที่ถูกทาง
แบบ Put The Right Man On The Right Job.
เทคโนโลยีนี้กำลังได้รับความสนใจจากนานาประเทศ
ที่ไต้หวัน มีการนำ DA ไปปรับหลักสูตรการศึกษาอนุบาลหลายแห่งจะสแกนนิ้วมือเด็กก่อน
เพื่อทำความเข้าใจในศักยภาพของเด็ก
ที่สิงคโปร์ใช้ในการพัฒนาบุคลากร รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวด้วย
สำหรับที่รัสเซียและจีนใช้ในการสร้างความเป็นเลิศทางด้านกีฬา
โดยมีการนำ DA มาใช้ในการคัดเลือกเด็กที่มีพรสวรรค์ตั้งแต่ 4 ขวบ
เพื่อเตรียมความพร้อมให้เป็นนักกีฬาอย่างตรงทางที่สุด
น.พ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิน บอร์น อินเทลลิเจนซ์ จำกัด
กล่าวว่า เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ได้รู้ถึงปัญหาที่แฝงอยู่ในตัวเด็ก
เป็นประโยชน์ในการวางแผนสำหรับเด็กได้
โดยอาจจะจัดนักเรียนที่มีความสนใจคล้ายๆ กันมาไว้ด้วยกัน เด็กจะเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน
ทำให้เด็กมีทัศนคติต่อการเรียนดีขึ้น
"ปัจจัยในการเลี้ยงดูจะทำให้เปลี่ยนแปลง ดังนั้นการตรวจตั้งแต่เด็กเล็กจะให้ผลที่แม่นยำถึง 90%
ถ้ารู้ว่าลูกเป็นอย่างไร ก็จะสร้างเสริมสมดุล หรือหาเทคนิคในการสอนได้อย่างถูกวิธี"
การตรวจสแกนนิ้วมือนี้ใช้เวลาเพียง 10-15 นาที ประมวลผลโดยคอมพิวเตอร์
และนักวิเคราะห์จะสามารถทราบผลอย่างละเอียดได้ภายใน 3 วัน
โดยผลที่ได้จะลงลึกทั้งไอคิวและอีคิว
ข้อมูลจาก ประชาชาติธุรกิจ
| Create Date : 04 สิงหาคม 2552 |
| Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2555 15:19:22 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 2892 Pageviews. |
 |
|
|
| โดย: kk IP: 202.12.73.8 วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:15:04:42 น. |
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [
