ประวัติ ความเป็นมาของ กระดาษทิชชู
มีเรื่องใกล้ตัวน่าสนใจเกี่ยวกับกระดาษทิชชู (tissue) มาเล่า
กระดาษ ชำระ สืบประวัติได้ยาวนานไปถึงหลายร้อยปีราวศตวรรษที่ 14 นิยมใช้กันในราชสำนักของจีนเฉพาะเชื้อพระวงศ์เท่านั้น กระทั่งต่อมามีนักธุรกิจชาวอเมริกันชื่อ นายโจเซฟ กาเย็ตตี้ ริเริ่มผลิตกระดาษชำระออกขายครั้งแรกในปีค.ศ.1857 แต่ไม่ได้รับความนิยม เพราะผู้คนส่วนใหญ่ยังนิยมกระดาษเก่าๆ ที่ไม่เสียสตางค์
อีก 20 ปีต่อมา สองพี่น้องสกุลสก๊อตได้ผลิตกระดาษชำระออกวางขายอีกครั้ง โดยใช้ชื่อ "สก๊อตทิชชู"
ขณะ นั้นส้วมชักโครกและห้องน้ำภายในอาคาร เริ่มเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง ทำให้คนใช้กระดาษชำระมากขึ้น เนื่องจากสะดวก อีกทั้งเนื้อนุ่มและยังเข้ากับการตกแต่งห้องส้วมอีกด้วย
จากนั้นเป็นต้นมา ตลาดกระดาษชำระก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับวิวัฒนาการที่ค่อยๆ พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่เคยเป็นของใช้ระดับไฮคลาสสำหรับผู้มีอันจะกิน
ปัจจุบันกลายมาเป็นสินค้าที่ใครๆ หาซื้อได้ทั่วไป
จริงๆ แล้วกระดาษทิชชูมีด้วยกันหลายประเภท แบ่งตามลักษณะการใช้งาน ได้แก่ กระดาษชำระ (toilet tissue) กระดาษเช็ดหน้า (facial tissue) กระดาษเช็ดปาก (napkin) กระดาษเช็ดมือ (hand towel) และกระดาษอเนกประสงค์
แต่ดู เหมือนว่าคนไทยเราจะใช้กระดาษทิชชูไม่ค่อยได้แยกแยะมากนัก และด้วยความที่เราใช้กระดาษชำระไปเสียทุกอย่าง เลยมีคนตั้งข้อสงสัยว่า จริงๆ แล้วมันสะอาดปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน?
จากการเก็บตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์กระดาษชำระเกรดเอ เกรดบี จำนวน 24 ตัวอย่างของทีมงานนิตยสารฉลาดซื้อ ส่งเข้าห้องทดสอบของบริษัทห้องปฏิบัติการกลางประเทศไทย จำกัด เพื่อทดสอบหาปริมาณจุลินทรีย์ชนิดก่อโรค ได้แก่ Bacillus cereus, Staphylococcus aureus, Escherichia coli, Salmonella, Yeast and mold และ Total Plate Count หรือการตรวจปริมาณจุลินทรีย์ทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวอย่าง
ผล การทดสอบพบว่า ทุกยี่ห้อมีการปนเปื้อนของจุลินทรีย์แต่ในปริมาณน้อย ไม่ก่อให้เกิดโรคภัยใดๆ แต่ก็ถือว่ามี ดังนั้น จึงควรใช้งานกระดาษชำระให้ถูกประเภท
นิสัยที่ชอบเอากระดาษชำระไป เช็ดทุกอย่าง (นอกจากเช็ดก้น) เช็ดหน้า เช็ดมือ เช็ดผลไม้ เช็ดจาน เช็ดช้อน ฯลฯ จึงควรเลิกเสียที เพราะอาจก่อให้เกิดการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ในวัตถุ หรือพื้วผิวที่เราเอา กระดาษชำระไปเช็ดได้
และหากทิ้งไว้เป็นเวลานานเมื่อมีสภาวะที่เหมาะสม เชื้อก็ขยายตัวได้เป็นจำนวนมากๆ ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน
ที่มา ://www.khaosod.co.th/
Create Date : 04 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 4 ธันวาคม 2552 20:04:25 น. |
|
0 comments
|
Counter : 6456 Pageviews. |
|
|
|
|
|