ความงามที่แตกต่างของสายน้ำคงคา
หลวงวิจิตรวาทการ กล่าวไว้ในหนังสือของดีเมืองอินเดียว่า ใครมาเยือนอินเดีย แล้วไม่ได้แวะ “พาราณสี” ถือว่ายังมาไม่ถึงอินเดีย!! เพราะเมืองหลวงของแคว้นกาสีในสมัยพุทธกาลแห่งนี้ ยังคงรักษาเอกลักษณ์ ความเป็นอินเดียดั้งเดิมไว้ได้ทุกกระเบียดนิ้ว เรียกว่าถ้าอยากรู้จักโฉมหน้าแท้จริงของแดนภารตะ ต้องมาชมกันที่พาราณสี จะได้อรรถรสครบถ้วน ทั้งด้านความงดงามน่าจดจำ และมุมมืดที่สงวนไว้เป็นความลับสุดยอด!!
“พาราณสี” ได้รับการขนานนามให้เป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของอินเดีย หรือ Holy City โด่งดังในเรื่องความเคร่งครัดศาสนา ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำคงคาและทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ เมืองคยา ท้องถนนในเมืองไม่เคยหลับใหล พลุกพล่านไปด้วยรถรานานาชนิด แถมยังเบียดเสียดยัดเยียดไปด้วยผู้คนหนาแน่นทุกตารางนิ้ว โดยมีประชากรอาศัยอยู่มากกว่าเมืองไทยถึง 2-3 เท่าตัว แต่เชื่อหรือไม่คะว่า เจ้าถนนตัวจริงกลับเป็นบรรดาสัตว์ท้องถิ่นที่เดินเพ่นพ่านเข้าตรอกโน้นออกซอยนี้แบบ ไม่เกรงกลัวใคร ทั้งโค,กระบือ,แพะ,แกะ โดยเฉพาะ “โคหรือวัว” จะมีหนาตาเป็นพิเศษ และยังมีอภิสิทธิ์เหนือคนอย่างเหลือเชื่อ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน จึงไม่มีใครกล้าแหยมเข้าไปทำร้าย เพราะชาวอินเดียมีความเชื่อฝังใจว่า “วัว”เป็นพาหนะของท้าวมหาเทพ ถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเกิดเหตุรถชน “วัว” จะมีความผิดร้ายแรง กว่าขับรถชน “คน”!!
และเพราะเมืองนี้เป็นนครแห่งแสงสว่าง ตามความเชื่อว่าที่นี่เป็นเมืองแรกที่แสงสว่างสาดส่องเข้ามา หลังจากที่ พระเจ้าสร้างโลก แต่ละปีจึงมีชาวอินเดียและผู้นับถือศรัทธาจากทั่วโลก หลั่งไหลเข้ามาหลายล้านคน เพื่อสักการะแม่น้ำคงคา โปรยเถ้าถ่าน และสวดมนต์ให้ผู้จากไป สำหรับพุทธศาสนิกชนนั้น นิยมเดินทางมาเมืองนี้ เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ รวมทั้งชมประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาตามริมฝั่งแม่น้ำคงคา ไม่ว่าจะเป็น ดูการประกาศพระศาสดา,ดูคนอาบสรงในคงคา,ดูการวันทาดวงอาทิตย์,ดูพิธีการปลงศพ, ดูการเคารพน้ำศักดิ์สิทธิ์,มาปลงสัจจะแห่งชีวิต,มาพินิจสองฝั่งอย่างเป็นธรรม ตลอดจนสัมผัสประเพณีการอาบน้ำล้างบาป และการเผาศพ อันเลื่องชื่อ
ชาวฮินดูเชื่อกันว่า แม่น้ำคงคา ความยาวกว่า 2,500 กิโลเมตร เป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลมาจากสรวงสวรรค์ ใครได้อาบได้ดื่มกิน ถือเป็นมงคลแก่ชีวิตและการจุ่มตัวลงแม่น้ำแห่งนี้ สามารถชำระล้างบาปที่ทำมาทั้งชีวิต นอกจากนี้ พวกเขายังศรัทธาเป็นมั่นเหมาะด้วยว่า หากจะตายต้องมาตายที่เมืองนี้ เพื่อจะได้ขึ้นสวรรค์!! จึงมี “มรณะโฮเต็ล”โรงแรมสำหรับผู้ป่วยหนักที่กำลังรอความตายตั้งอยู่ใกล้ท่าเผาศพด้วย และศพที่เผาริมฝั่งแม่น้ำคงคา จะไม่เผาให้มอดไหม้เหลือแต่เถ้าถ่าน แต่จะเผาแค่ให้ร่างไหม้ แล้วนำไปลอยที่กลางแม่น้ำ เป็นอาหารของนกกาและฝูงปลาก่อนจมสู่ใต้คงคา เพราะเชื่อกันว่า ผู้ที่ถูกเผาในแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ จะหลุดพ้นจากวงโคจรชีวิต ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก แต่ได้ขึ้นสวรรค์ในทันที ด้วยเหตุนี้ ชาวฮินดูจากทั่วสารทิศ ไม่ว่ารวยหรือจน จึงดิ้นรนมาเหยียบพาราณสีให้ได้สักครั้งในชีวิต!! ถ้าอยากชมการเผาศพตามประเพณีเก่าแก่ของชาวฮินดู ก็ต้องย่องไปดูที่ “ท่าน้ำมณิกรรณิการ์ฆาต” หนึ่งในท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของอินเดีย
คนต่างถิ่นอย่างพวกเรา หากมีโอกาสไปเยือน “พาราณสี” แล้วบังเอิญเหลือบไปเห็นศพลอยมาในแม่น้ำคงคา อย่าเพิ่งขวัญหนีดีฝ่อจองตั๋วเครื่องบินกลับบ้านให้เสียฟอร์ม!! เพราะชาวภารตะเชื่อกันว่า มาอินเดียเห็นช้างจะโชคดี...เห็นผีจะมีโชคลาภ...ยิ่ง ถ้าเจอทั้งซากศพและนกแร้ง พึงทราบไว้เลยค่ะว่า โชคลาภกำลังเพิ่มพูนทวี...ใครอยากมีโชค ก็ต้องขยันสอดส่ายสายตาเข้าไว้!!
ทุกคนที่เดินทางเยือนอินเดียหนแรก จะอดเป็นห่วงเป็นใยในสวัสดิภาพของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำคงคาไม่ได้ และอาจขนลุกขนพองไปด้วย เมื่อเห็นชาวภารตะทั้งดื่มกินและอาบน้ำจากแม่น้ำคงคาหน้าตาเฉย ทั้งๆที่หากคะเนจากสายตาดูแล้ว ความสาหัสของมลภาวะคงไม่แพ้คลองแสนแสบบ้านเรา!! ใครอยากชมวิถีชีวิตริมน้ำแท้ๆของชาวเมืองนี้ละก็ ลองนั่งเรือรับจ้างจาก “ท่าน้ำทศวเมธ” แล่นออกไปกลางแม่น้ำคงคา คุณจะได้เห็นพวกแขกมาอาบน้ำกันคึกคัก ทั้งวักน้ำลูบหน้าลูบตา บ้างก็นั่งสวดมนต์ นั่งสมาธิ และดัดตนตามท่าโยคะต่างๆ ตามท่าน้ำใหญ่ๆยังมีหมอนวดท้องถิ่น คอยให้บริการ คิดค่าจ้างเพียงน้อยนิด แต่ผ่อนคลาย เหมือนขึ้นสวรรค์ปานนั้นเชียว!!
อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลกเคยนำตัวอย่างน้ำในแม่น้ำคงคาไปตรวจวิเคราะห์ เพราะเป็นห่วงเป็นใยในสุขอนามัยของชาวอินเดีย แต่ผลลัพธ์ปรากฏว่า จำนวนแบคทีเรียในแม่น้ำคงคาอยู่ในระดับ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคน เนื่องจากในแม่น้ำคงคามีกำมะถัน ซึ่งช่วยปรับสมดุลได้ตามธรรมชาติ นี่ละความมหัศจรรย์ของเมืองศักดิ์สิทธิ์แห่งอินเดีย ซึ่งยืนหยัดอยู่คู่แดนภารตะมานานกว่า 4 พันปีแล้ว โดยชาวฮินดูเชื่อกันว่า แม้โลกจะถูกทำลายด้วยน้ำหรือไฟ แต่ยังไง “พาราณสี”ก็จะเป็นอมตะนครตลอดกาล!
ที่มา ไทยรัฐ
Create Date : 13 มีนาคม 2552 |
Last Update : 13 มีนาคม 2552 21:23:48 น. |
|
0 comments
|
Counter : 868 Pageviews. |
|
|
|
|
|