Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
10 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

เจาะปูม"วงเวียน"ดังทั่วกรุง มีดีมากกว่าที่กลับรถ

อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่
อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน ที่วงเวียนใหญ่

หลายคน คงเคยสัมผัสกับ "วงเวียน" ซึ่งหมายถึง อุปกรณ์การเรียน หรือการวาดเขียนวงกลมให้กลมดิก
ไม่บูดไม่เบี้ยว และคงจะเคยรู้จักกับ "วงเวียน" ใน แง่ที่ใช้เรียกสถานที่ ซึ่งมีถนนหลายสายมารวมกัน
และจุดที่ถนนเหล่านั้น มาบรรจบกัน จะแบ่งพื้นที่เป็นรูปวงกลม ตรงกลาง และมีถนนรอบวงกลม
พร้อมทั้งกำหนดให้รถวิ่งทางเดียว รอบวงเวียนนั้น วงเวียนที่ฉันกำลังจะพูดถึงนี้ ไม่ใช่วงเวียนในความหมายแรก
แต่เป็นวงเวียนในความหมายที่สอง ที่อยู่บนถนนหลายๆสาย
และในกรุงเทพฯนั้นก็มีวงเวียนอยู่หลายแห่งด้วยกัน ที่มีความเป็นมาที่ น่าสนใจ ซึ่งส่วนมากก็จะมี อนุสาวรีย์
อยู่กลางวงเวียนนั้น หรือบางแห่ง อาจไม่มีอนุสาวรีย์ แต่ก็มีความเป็นมาที่น่าสนใจไม่น้อย

มาเริ่มกันที่ วงเวียนแห่งแรกที่ "วงเวียนใหญ่" ศูนย์กลางที่สำคัญในย่านฝั่งธนฯ โดยบริเวณกลางวงเวียนใหญ่
เป็นที่ตั้งของพระบรมราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี 2496
หรือในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม
พระบรมราชานุสาวรีย์นี้ เป็นที่เคารพนับถือของ ทั้งชาวฝั่งธนบุรี
และคนทั่วไป ลักษณะของอนุสาวรีย์เป็นพระรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงเครื่อง กษัตริย์
และทรงพระมาลา ประทับอยู่บนหลังม้า หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้สู่ จังหวัดจันทบุรี
พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงดาบชูออกไปเหนือพระเศียร
พระหัตถ์ซ้ายทรงบังเหียนม้า ในลักษณะนำเหล่าทหาร รุกไล่ข้าศึก

ทุกวันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี จะมีพิธีถวายบังคมพระบรมราชาอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
และมีพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณของพระองค์ เนื่องจากในวันนี้ เป็นวันที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
กอบกู้เอกราชชาติไทยกลับคืนหลังจากการเสียกรุงครั้งที่สอง ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงธนบุรี


วงเวียนเล็ก
วงเวียนเล็ก ที่ไม่ได้คงสภาพเป็นวงเวียนแล้ว

มีวงเวียนใหญ่แล้วก็ต้องมี "วงเวียนเล็ก" ซึ่งก็อยู่ไม่ห่างจากวงเวียนใหญ่นัก เพียงวิ่งลงจาก สะพานพระปกเกล้า
มาทางฝั่งธนฯ ก็จะถึงบริเวณวงเวียนเล็กแล้ว หลายคนอาจไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อนว่า แถวนี้ก็มีวงเวียนอยู่ด้วย
นั่นก็เพราะว่า ปัจจุบันนี้วงเวียนเล็ก เหลือเพียงแต่ชื่อ ไม่ได้มีสภาพเป็นวงเวียนเหมือน เมื่อก่อน โดยแต่เดิมนั้น
วงเวียนเล็กจะมี หอนาฬิกา ขนาดย่อมๆตั้งตระหง่านอยู่บริเวณหน้า โรงเรียนศึกษานารี แต่หลังจากที่มีการสร้าง
สะพานพระปกเกล้า ขึ้นในภายหลังทำให้วงเวียนเล็กถูก แบ่งออกเป็นสองฝั่ง
ภายหลังจึงได้ยกเลิกวงเวียนแห่งนี้ไปเสีย ส่วนหอนาฬิกาที่เคยตั้งอยู่กลางวงเวียนนั้น ก็ได้ย้ายมาตั้งไว้ทางด้าน
ถนน สมเด็จเจ้าพระยาที่จะมุ่งหน้าไปยัง คลองสาน ในบริเวณนั้นยังเป็นที่ตั้งของตลาดพระเครื่อง วงเวียนเล็ก
และมีร้านอาหารอร่อยๆ อยู่หลายร้าน ทำให้ชื่อของ วงเวียนเล็ก ยังคงคุ้นหูคุ้นปากของผู้คนอยู่จนปัจจุบัน


อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
วงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แหล่งพลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ

วงเวียนอีกแห่งหนึ่ง ที่คนมักจะนึกถึงมากที่สุดก็คงจะเป็น "วงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ" วงเวียนขนาดใหญ่
กลางกรุงเทพฯ ที่เมื่อก่อนยังเป็นเพียงสี่แยก สนามเป้า แต่หลังจากที่มีกรณีพิพาทอินโดจีนระหว่างไทยกับฝรั่งเศส
ที่มีความขัดแย้งกันในเรื่องการเรียกร้องดินแดนที่ไทยต้องเสียไปตั้งแต่สมัย รัชกาลที่ 5 คืนจากฝรั่งเศส
แต่รัฐบาลฝรั่งเศสปฏิเสธ ข้อตกลง จนมีการปะทะกันเกิดขึ้น และมีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ทั้งหมด 59 คน จึงได้มี
การสร้างอนุสาวรีย์ เพื่อเทิดทูนวีรกรรมของทหาร ตำรวจ และพลเรือน ที่เสียชีวิตไป
สี่แยกสนามเป้า จึงกลายเป็น วงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปด้วยประการฉะนี้

บริเวณรอบๆวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมินั้น นอกจากจะพลุกพล่านไปด้วย ยานพาหนะนานาชนิด บนถนนแล้ว
ความพลุกพล่านของผู้คน ก็มากมายไม่แพ้กัน เพราะที่นี่ถือเป็นชุมทางการคมนาคมที่สำคัญแห่งหนึ่ง
มีทั้งรถประจำทาง รถไฟฟ้า รวมทั้งรถตู้โดยสารหลายเส้นทาง คอยให้บริการอยู่
อีกทั้งยังเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ขนาดใหญ่ในช่วงเย็นๆ ของแต่ละวัน อีกด้วย


วงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
วงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

มาที่ "วงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย" กันบ้าง
วงเวียนแห่งนี้ เป็นจุดตัดระหว่างถนนราชดำเนินกลาง กับถนนดินสอ โดยการก่อสร้างนั้นก็ เพื่อเป็นที่ระลึกถึง
เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย
ที่มีองค์พระมหากษัตริย์ เป็นประมุขเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 นั่นเอง

ฉันว่าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนี้ น่าจะเป็นอนุสาวรีย์ที่ถูกทาสีบ่อย ที่สุดแห่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสีเหลืองเข้ม
เหลืองอ่อน เหลืองซีด หรือเหลืองส้ม ก็เคยผ่านมาหมดแล้ว แม้จะเปลี่ยนสีไปบ่อยๆ แต่รูปร่างลักษณะของ
อนุสาวรีย์ก็ยังคงเดิมคือ มีลักษณะเป็นรูปหล่อลอยตัว ตรงกลางเป็นรูปเล่มรัฐธรรมนูญในสมุดไทยประดิษฐาน
บนพานแว่นฟ้า ล้อมรอบด้วยแท่งปูน 4 แท่ง ลักษณะคล้ายปีกอยู่ทั้ง 4 ทิศ
อีกทั้งรอบอนุสาวรีย์ยังมี ปืนใหญ่โบราณ จำนวน 75 กระบอก ฝังดินไว้ โผล่ท้ายกระบอกปืนใหญ่ขึ้นมาเป็นเสา
คล้องโซ่เชื่อมต่อกันเป็นรั้ว และความสำคัญอีกอย่างหนึ่งของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนั้นก็คือ ที่นี่ยังเป็น
หลักกิโลเมตรที่ 0 ของเมืองไทย ที่ใช้วัดระยะทางไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ อีกด้วย


อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ
อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ที่วงเวียนหลักสี่

ที่ "วงเวียนหลักสี่" ในย่านบางเขน ก็มีความเป็นมาที่น่าสนใจ โดยแต่เดิมบริเวณนี้ได้สร้างเป็นวงเวียนมาแต่เดิม
มีชื่อเรียกว่า วงเวียนหลักสี่ แต่ด้วยการจราจรที่ติดขัดเหลือเกิน ทางกรมโยธาธิการจึงได้ทุบวงเวียนทิ้ง
และสร้างเป็นสี่แยกแทน และต่อมาเมื่อมีการก่อสร้าง อุโมงค์ลอดสี่แยก บนถนนพหลโยธินขึ้น
จึงได้มีการปรับเปลี่ยนการจราจรอีกครั้ง ทำถนนให้กลับเป็นวงเวียนอย่างเดิม

บริเวณกลางวงเวียนหลักสี่นี้มี"อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ" ตั้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็นวงเวียน หรือเป็นสี่แยก
อนุสาวรีย์นี้ก็ไม่ได้ถูกทำลาย หรือเคลื่อนย้ายไป โดยที่มาของอนุสาวรีย์นี้ก็มาจากเหตุการณ์ กบฏบวรเดช
ซึ่งหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 แล้ว ก็มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยในการกระทำนั้น และได้รวมกลุ่มกัน
ต่อต้านโดยมีพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดชเป็นผู้นำกองทัพมาปะทะกันที่ บางเขน
จนเมื่อฝ่ายรัฐบาลเป็นผู้ชนะ โดยมีทหารฝ่ายรัฐบาลเสีย ชีวิตลง 17 นาย จึงได้มีการสร้างอนุสาวรีย์ขึ้น
เพื่อเป็นการสดุดีวีรกรรม และบรรจุอัฐิของผู้ เสียชีวิตไว้ โดยลักษณะของอนุสาวรีย์นั้นก็เป็น แท่งเสาสูงยอดเรียว
บนยอดมีพานรองรัฐธรรมนูญ ลักษณะเดียวกันกับ พานรัฐธรรมนูญ ที่อนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย
ฐานด้านล่างด้านหนึ่ง จารึกชื่อผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์กบฏบวรเดช โคลงสยามานุสติ และรูปครอบครัวชาวนา
มีผู้ชายถือเคียวเกี่ยวข้าว ผู้หญิงถือรวงข้าว และเด็กถือเชือก


วงเวียนโอเดียน
วงเวียนโอเดียน งดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีน

ดูวงเวียนใหญ่ๆ กันไปหลายแห่งแล้ว คราวนี้มาดูวงเวียนเล็กๆ ในย่านเยาวราชกันบ้างดีกว่า ที่บริเวณหัวมังกร
หรือหัวถนนเยาวราชนั้น เป็นที่ตั้งของ "วงเวียนโอเดียน"วงเวียนขนาดย่อมๆ ที่มีประวัติความเป็นมา คู่กับถนน
เยาวราช แต่เดิมเคยเป็น วงเวียนน้ำพุ และใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในแถบนั้น และเนื่องจาก
พื้นที่ตรงนี้อยู่ใกล้กับโรงภาพยนตร์โอเดียน จึงได้ชื่อว่า วงเวียนโอเดียน แม้ปัจจุบันจะไม่มีโรงหนังอีกแล้วก็ตาม

แต่ปัจจุบันนี้ วงเวียนโอเดียนดูโดดเด่น เป็นสง่ากว่าเดิม
เพราะเป็นที่ตั้งของซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ที่ชาวไทยเชื้อสายจีน บริษัท ห้างร้าน
หน่วยงานราชการและประชนชนได้ร่วมใจกันจัดสร้างซุ้มประตูแห่งนี้ขึ้นเพื่อ ถวายเป็นราชสดุดีแด่องค์พระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ ในปี พ.ศ.2542

เนื่องจากตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่าเป็น "ไชน่าทาวน์" ซุ้มประตูแห่งนี้จึงมีความงดงาม ด้านสถาปัตยกรรม และ
ประติมากรรมแบบจีน และกลายเป็นสัญลักษณ์ของไชน่าทาวน์เยาวราชไป ในที่สุด


วงเวียน 22 กรกฎาคม
วงเวียน 22 กรกฎาคม ในย่าน เยาวราช

ในย่านเยาวราชนี้ยังมีวงเวียนเล็กอยู่อีกแห่งหนึ่ง นั่นก็คือ "วงเวียน 22 กรกฎาคม" ที่ไม่ได้มีสัญลักษณ์ใดๆ
เป็นพิเศษเหมือนวงเวียนอื่นๆที่กล่าวมา เป็นแต่เพียง วงเวียนน้ำพุ ที่เกิดจากถนน 3 สายตัดกัน คือ
ถนนไมตรีจิตต์ ถนนมิตรพันธ์ และถนนสันติภาพ แต่ใครที่ได้ยินชื่อวงเวียนแห่งนี้แล้ว ก็เป็นต้องเกิด ความสงสัย
ขึ้นมาว่า 22 กรกฎาคมนั้นหมายถึง อะไรกันแน่ ขอเฉลยแก้ความสงสัยให้ด้วย การเล่าความเป็นมา ให้ฟังว่า
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แต่เดิมที่ซึ่ง เป็นวงเวียนนี้ เคยเป็นชุมชนที่มีคนอยู่
อาศัยหนาแน่น และเคยเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ ต่อมาจึงได้มีการตัดถนนขึ้น 3 สาย เพื่อความเป็นระเบียบของ
บ้านเมืองบริเวณนี้ และบริเวณจุดตัดของถนนนั้น ก็ได้สร้างเป็นวงเวียนขึ้น รัชกาลที่ 6 ทรงพระราชทานนามให้
ถนนทั้ง 3 สายนั้นว่า 22 กรกฎาคม ซึ่งก็หมายถึงวันที่ พระองค์ทรงตัดสินพระทัยนำประเทศไทยเข้าร่วม
สงครามโลก ครั้งที่ 1 เมื่อปี พ.ศ.2460 โดยประกาศสงครามกับกลุ่มประเทศฝ่ายอักษะ ส่งผลให้ เมื่อสิ้นสุด
สงคราม ประเทศไทยได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ การเมืองระหว่างประเทศ และการทหาร รวมทั้งสามารถ
เรียกร้องแก้ไข และยกเลิกสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ของชาติมหาอำนาจที่เคยทำไว้กับ ประเทศไทย

และต่อมาจึงได้พระราชทานชื่อถนนทั้งสามให้ใหม่ เพื่อไม่ให้เป็น การสับสน โดยมีชื่อคล้องจองกันว่า
ถนนไมตรีจิตต์ ถนนมิตรสัมพันธ์ และถนนสันติภาพ
ส่วนชื่อวงเวียนนั้นให้คงชื่อไว้เช่นเดิมว่า "วงเวียน 22 กรกฎาคม" จนถึงปัจจุบัน

โดย : หนุ่มลูกทุ่ง
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์




 

Create Date : 10 มิถุนายน 2552
0 comments
Last Update : 10 มิถุนายน 2552 16:10:26 น.
Counter : 3262 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.