Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
24 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

ตื่น-รู้ ที่ภูสวนทราย

ภูสวนทราย,เที่ยวทั่วไทย

ในการหลีกเลี่ยงที่จะออกกำลังกายให้กับตัวเองได้เสมอ
ภูผาสูงชันที่ตั้งตระหง่านเป็นปราการอยู่เบื้องหน้า กระตุ้นให้อาการเหล่านั้นกำเริบขึ้นอีกครั้ง
สองเท้าที่ก้าวเดินอย่างกระฉับกระเฉงในชั่วโมงแรกเริ่มลดอัตราความเร็วลง หนักข้อขึ้นมากๆ ก็หยุดพัก
อยากหักแขนหักขาทิ้งไปบ้าง เผื่อจะช่วยลดปริมาณน้ำหนักในร่างกายลงได้
แต่ใครจะกล้าทำร้ายตัวเอง ถ้าไม่สติแตกไปเสียก่อน

ผืนป่าที่ถูกความมืดของราตรีกาล ผูกพันธนาการไว้
ค่อยๆ ได้รับการปลดปล่อยจากไรแสงของดาวฤกษ์ขนาดใหญ่ในระบบสุริยจักรวาล
ฉันเร่งฝีเท้าของตัวเองขึ้นอีกครั้ง เมื่อแสงสว่างนั้นไล่หลังมาทุกที และเพียงไม่เกิน 4-5 หอบเหนื่อย
เราก็มาถึงจุดหมายปลายทาง นั่นก็คือ จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งใน อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย

ความจริง หากมีการจัดลำดับความยาก-ง่ายในการเดินป่า
เส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย อาจจัดอยู่ในกลุ่ม "เดินป่าอย่างง่าย"
แต่พอหักลบกลบด้วยวัย และความถี่ในการออกกำลังกายที่ดูเหมือนจะทำได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อ 1 เดือนแล้ว
จากที่ใครๆ ว่าง่ายก็อาจจะกลายเป็นเรื่องยากได้เหมือนกัน

หมอกจางๆ บนเชิงชั้นของภูเขาที่สลับซับซ้อนพ่วงความโรแมนติกมาให้อย่างไม่คาดฝัน
ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ 3 ครั้ง ก่อนจะนั่งทอดอารมณ์ชมแสงแรกของวันที่กำลังค่อยๆ ปรากฏอยู่ ณ เส้นขอบฟ้า

ภูสวนทราย,เที่ยวทั่วไทย

สูงเทียบเทียมเมฆา
หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นกับชื่อ อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย เพราะเพิ่งประกาศใช้เมื่อปี 2549
แต่ถ้าลองได้รู้ว่า มันคือสถานที่เดียวกับอุทยานแห่งชาตินาแห้วแล้วละก็
ประมวลภาพแห่งความงดงามของอุทยานแห่งนี้ คงจะค่อยๆ ไหลย้อนคืนมา

อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ได้รับประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติในชื่อของ อุทยานแห่งชาตินาแห้ว เมื่อปี 2537
ถือเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 79 ของประเทศไทย มีพื้นที่ครอบคลุม 3 ตำบล คือ ตำบลนาแห้ว ตำบลแสงภา
และตำบลเหล่ากอหก ในอำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย ลักษณะเป็นขุนเขาสลับซับซ้อนที่ค่อนข้างสูงชัน
มีจุดที่สูงที่สุดเรียกว่า ภูตีนสวนทราย หรือเนิน 1408 เพราะมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,408 เมตร
และจุดนี้เอง ที่เป็นลานกางเต็นท์ที่สูงที่สุดในภาคอีสาน

ด้วยสภาพความสูงของภูเขา กอปรกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นตลอดปี
ส่งผลให้ป่าผืนนี้มีความอุดมสมบูรณ์ในแบบที่เรียกว่า ป่าดิบชื้น
แน่นอนว่า เมื่อความชื้นของผืนป่ามาเจอกับความแฉะฉ่ำของน้ำฝนจากฟากฟ้า
มัจจุราชที่หลายคนไม่พึงปรารถนา ก็มักจะเยี่ยมหน้ามาให้หวาดระแวงกันได้เสมอๆ
ใช่แล้ว ฉันกำลังหมายถึง ทาก เจ้าตัวดูดเลือดที่น่าขยะแขยงนั่นเอง

"เป็นธรรมดาครับ ฝนตก ทากก็จะออกมาหากิน แต่เราอาจจะโชคดีหน่อย เพราะเป็นคณะแรกของปีนี้
ที่ได้ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบนก่องเบิก ทากกำลังหิวเลย"
ให้กำลังใจกันขนาดนี้ เอามีดมากรีดเลือดไปแจกทากกันเลยดีกว่า

ภูสวนทราย,เที่ยวทั่วไทย

เช้านี้ (หมายถึงตี 4) เราออกสำรวจอุทยานแห่งชาติภูสวนทรายกัน
ด้วยเส้นทางศึกษาธรรมชาติสายสั้นๆ ราว 4-5 กิโลเมตร โดยเริ่มจากบริเวณที่ทำการอุทยานฯ ขึ้นไปทางภูเขาสูง
ที่ตั้งอยู่ด้านหลัง เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นบริเวณ "ก่องเบิก" ก่อนจะเดินวนเป็นวงกลมเพื่อไปชม "หินสี่ก้อน"
ย้อนตำนานความเชื่อความศรัทธาของชาวบ้าน
แล้วเดินดุ่มไปตามเส้นทางผ่าน ตาดเลียงผา ตาดเสือ และถ้ำเกีย ก่อนจะกลับมาที่จุดเริ่มต้น

ก่องเบิก เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม
และมีความสำคัญเกี่ยวข้องทางความเชื่อของชาวบ้านในตำบลแสงภา
เพราะว่าเป็นจุดแรกที่ต้องบอกกล่าวเจ้าป่าเจ้าเขาในการขึ้นไปสักการบูชาหินสี่ทิศ
และจากจุดนี้เราจะสามารถมองเห็น ต้นค้อ พืชตระกูลปาล์มที่หาชมยากได้อย่างถนัดตาอีกด้วย

เอ่ยถึง หินสี่ทิศ หรือหินสี่ก้อน เรื่องนี้เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังว่า
เป็นความเชื่อของชาวบ้านมาแต่โบราณเกี่ยวการบูชาหินสี่ก้อน ซึ่งเป็นหินทรายขนาดใหญ่จำนวน 4 ก้อน
ที่วางอยู่ในบริเวณเดียวกันในรูปแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส เหมือนกับพัทธสีมาตามมุมโบสถ์ 4 ด้าน จึงเรียกว่า
จตุธรรมศิลา มีเรื่องเล่าว่า ชาวบ้านแสงภาเชื่อในเรื่องผีและวิญญาณจึงทำพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษกันทุกปี
ซึ่งในพิธีกรรมชาวบ้านจะใช้สัตว์เป็นเครื่องเซ่นไหว้
กระทั่งมีพระธุดงค์เดินทางผ่านมาจึงเทศน์สั่งสอนให้หันมายึดมั่นในคำสอนของพุทธศาสนา
แล้วให้สร้างพระธาตุดินขึ้นเป็นที่สักการบูชา แล้วเชิญวิญญาณบรรพบุรุษไปอยู่บนยอดเขาใหญ่
ซึ่งก็คือบริเวณหินสี่ก้อน จากนั้นจึงมีพิธีเดินขึ้นเขาไปไหว้บรรพบุรุษทุกๆ 3 ปี ตามความเชื่อที่สืบทอดกันมา
เรียกว่า บุญภูใหญ่ หรือ บุญสวนเมี่ยง

ร่องรอยของการทำบุญเมื่อตอนต้นปี ยังคงปรากฏให้เห็นเป็นกรวยดอกไม้ และผ้าแพรหลากหลายสีสัน
เราบันทึกภาพบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว เพราะถูกรบกวนจากเจ้าทากผู้หิวโหย ก่อนจะเดินตามทางเล็กๆ
มาจนถึง ตาดเลียงผา ซึ่งมีลักษณะเป็นโขดหินขนาดใหญ่มีความสูงประมาณ 11 เมตร
ฤดูฝนเช่นนี้ มีสายน้ำไหลลดหลั่นลงมามองแล้วสวยงามไม่เหมือนใคร
และที่เรียกว่าตาดเลียงผา ก็เพราะเคยเป็นที่อยู่อาศัยของเลียงผา สัตว์ป่าสงวนใกล้สูญพันธุ์มาก่อนนั่นเอง

จากตาดเลียงผา ถัดไปอีกนิดคือ ตาดเสือ เช่นเดียวกัน บริเวณนี้เคยเป็นที่อาศัยของเสือเจ้าป่ามาก่อน
ลักษณะเป็นหน้าผากว้างสูง มีชะง่อนหินยื่นออกมา มีสายน้ำบางๆ ไหลผ่านชะง่อนผาตอนหน้าฝน
ส่วน ถ้ำเกีย คือจุดท่องเที่ยวสุดท้ายในเส้นทาง มีลักษณะเป็นถ้ำหินทรายที่เกิดจากการพังทลายของดิน
ทำให้เกิดเป็นถ้ำเล็กๆ บริเวณนี้เป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวมงกุฎหลายชนิด เช่น ค้างคาวมงกุฎเทาแดง
ค้างคาวมงกุฎจมูกยาวเล็ก ค้างคาวหน้ายักษ์ทศกัณฐ์
เราไม่ทันได้เห็นค้างคาวสักมงกุฎก็ต้องรีบกลับ เพราะล่วงเลยเวลาอาหารเช้ามานานมากแล้ว

ที่จริงเส้นทางเดียวกันนี้ยังมีจุดบรรจบที่เรียกว่า เก้าเลี้ยว ซึ่งสามารถแยกไปยังสถานที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ เช่น
หินก่วยหล่อ หินทรายขนาดใหญ่รูปลักษณ์คล้ายเห็ดดอกตูม ตั้งอยู่โดดเดี่ยว
รอบๆ ก้อนหิน มีร่องหินคล้ายกับร่องน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
แย้งตากแดด เป็นบริเวณหน้าผาสูงชันที่อยู่ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ

ภูสวนทราย,เที่ยวทั่วไทย

เนิน 1408 เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ตามประวัติศาสตร์บอกไว้ว่า บริเวณนี้เป็นฐานที่มั่นของทหารไทยในการสู้รบ
ครั้งยุทธภูมิร่มเกล้า ปี 2530 โดยปรากฏเป็นร่องรอยของหลุมหลบภัย บังเกอร์
ให้ได้ระลึกถึงกลิ่นควันสงครามในอดีต เมื่อยืนอยู่บนเนิน 1408 จะมองเห็นทิวทัศน์ของป่าเต็งรัง
หมู่บ้านบ่อเหมืองน้อย หมู่บ้านแสงภา และทะเลภูเขาที่กว้างไกล และเนิน 1408
ก็เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของภูสวนทราย
ส่วน เนิน 1255 เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม อยู่ห่างจากเนิน 1408 ประมาณ 1 กิโลเมตร
เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรักษา นักรบกล้าแห่งอีสาน
ซึ่งจากจุดนี้สามารถเดินลงไปทางบ้านห้วยน้ำผัก ในเขตอุทยานแห่งชาติภูสวนทรายได้

อรุณเบิกฟ้าที่นาแห้ว
"คนไทยส่วนใหญ่ เวลามาเที่ยวอุทยานแห่งชาติ ไม่นิยมเข้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ทั้งที่จริงๆ แล้วผิดหลัก
เพราะการเข้าไปรับข้อมูลจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จะทำให้เราวางแผนการท่องเที่ยวได้
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวส่วนมาก ยังละเลยที่จะอ่านหรือปฏิบัติตามป้ายเตือนต่างๆ ที่ทางอุทยานติดประกาศไว้ด้วย
ทำให้การท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติของไทยไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร"
เทวฤทธิ์ โกยโภไคสวรรค์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย พ้อ

หัวหน้าเทวฤทธิ์ บอกว่า หลายครั้งที่เห็นนักท่องเที่ยวทำผิดกฎ เช่น นำขวดพลาสติกเข้ามา นำสัตว์เลี้ยงเข้ามา
หรือเก็บสิ่งสวยงามตามธรรมชาติกลับไป เกือบจะร้อยทั้งร้อยเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยแทบทั้งสิ้น

จริงดังว่า เพราะขณะที่เรากำลังเดินชมสวนสวยงามรอบๆ ที่ทำการอุทยานอยู่นั้น
พลันสายตาก็ไปปะทะเข้ากับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มหนึ่ง
ที่กำลังนำกล่องพลาสติกใส่อาหารไปทิ้งในถังขยะ มองดูแล้วก็ไม่น่าจะมีอะไรผิดปกติ แต่ความเป็นจริง
ถ้าลองได้อ่านข้อปฏิบัติของอุทยานแห่งชาติให้ชัดๆ จะเห็นว่า มีการห้ามนำขยะที่เป็นพลาสติกหรือโฟมเข้ามา
ภายในอุทยานแห่งชาติอย่างเด็ดขาด เพราะขยะเหล่านี้นอกจากจะย่อยสลายยากแล้ว
ยังเป็นมลภาวะ ที่อาจจะทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่เปลี่ยนไปด้วย

ภูสวนทราย,เที่ยวทั่วไทย

ว่ากันถึงความอุดมสมบูรณ์ หัวหน้าเทวฤทธิ์ บอกว่า อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย มีน้ำตกภายในอุทยานมากถึง
6 แห่ง ได้แก่ น้ำตกคิ้ง น้ำตกช้างตก น้ำตกวังตาด น้ำตกตาดเหือง น้ำตกผาค้อ และน้ำตกตาดภา

"ไฮไลต์คือ น้ำตกตาดเหือง น้ำตกนี้ผมว่าสวยพอๆ กับน้ำตกเหวสุวัตเลยนะ
น้ำตกนี้เป็นเขตแดนที่กั้นระหว่างไทย-ลาว มีความสูงประมาณ 50 เมตร กว้าง 30 เมตร"

เราเดินตามคำเชิญชวนของเจ้าหน้าที่อุทยานไปยังน้ำตกตาดเหืองและพบว่า
มันเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีสายน้ำไหลลดหลั่นลงมา รอบๆ เป็นป่าที่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุม แต่ติดใจอยู่นิดเดียว
ตรงป้ายกลางน้ำตก ที่นอกจากจะบันทึกข้อความเตือนภัยว่า "ระวังลื่น" แล้ว ด้านล่างบนกระดานไม้แผ่นเดียวกัน
ยังมีข้อความ "ห้ามข้าม ฝั่งตรงข้ามเป็นเขต สปป.ลาว อาจถูกทหาร สปป.ลาว จับ-ปรับ"

เรื่องนี้มีคำอธิบายจากเจ้าหน้าที่ว่า เนื่องจาก บริเวณน้ำตกตาดเหือง เป็นเส้นแบ่งพรมแดนระหว่างไทยกับลาว
ดังนั้นห้ามรุกล้ำข้ามฝั่งอย่างเด็ดขาด

"เมื่อ 4 ปีที่แล้วมีชาวบ้านเข้าไปล่าสัตว์ในเขตลาว แล้วถูกจับ 3 คน
1 ในนั้นถูกปล่อยตัวออกมาเพื่อแจ้งให้พี่น้องทราบแล้วนำเงินไปเสียค่าปรับ เมื่อถึงเวลานัดหมาย
ก็จะนำเงินมาแลกกับตัวประกันบริเวณกลางน้ำตก เพราะมีคดีความแบบนี้เราจึงต้องทำป้ายเตือนไว้"

ฟังแล้วดูเหมือนจะน่ากลัวมากกว่าน่าเที่ยว แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวที่ปราศจากอาวุธ
รับรองได้ถึงความปลอดภัย ที่สำคัญน้ำตกแห่งนี้ไม่ได้เสี่ยงภัยอย่างที่คิด เพราะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ตลอดเวลา

"ไปดูภูสวนทรายมุมสูงกันครับ" เสียงเจ้าหน้าที่ชักชวน ก่อนที่เราจะเดินตามขึ้นไปแล้วพบว่า
เส้นทางเพียง 200 เมตร จากน้ำตกถึงที่จอดรถก็เรียกเหงื่อ และลมหายใจที่เหนื่อยหอบได้ไม่ยากเย็น

ภูสวนทราย,เที่ยวทั่วไทย

ภูหัวห้อม หรือบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติภูสวนทรายที่ 1 คือจุดชมวิวไทย-ลาว เมื่อยืนอยู่บริเวณนี้
จะมองเห็นเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อนเป็นสีเขียวมรกตไปตลอดทั้งผืน
เจ้าหน้าที่ชี้ให้ดูภูเขาลูกนั้นลูกนี้จนตาลาย มากมายจนเรียกชื่อแทบไม่ถูก นักท่องเที่ยวหลายคนเลือกกางเต็นท์
นอนที่นี่ เพื่อสัมผัสบรรยากาศยามเช้าและยามค่ำของอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย

ความหลากหลายของธรรมชาติยังไม่หมดเพียงเท่านี้ หัวหน้าเทวฤทธิ์ บอกว่า
แต่ละฤดูกาลยังมีความน่าสนใจที่แตกต่างกันไป เช่น
กระโถนพระฤๅษี จะมีให้เห็นในช่วงฤดูหนาว
กล้วยไม้สิงโตสยาม พบได้ช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม
ส่วน สิงโตก้านหลอด จะออกดอกราวเดือนมกราคม-มีนาคม
แต่หากมาในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ก็จะมีโอกาสได้ยลโฉม เอื้องเงิน หนึ่งในตระกูลกล้วยไม้ป่าหายาก

"สังเกตไหมว่าเรามีสัญลักษณ์เป็นนก รู้หรือเปล่าว่านกชนิดนี้คือนกอะไร"
คำถามจากหัวหน้าอุทยานทำเราอึ้งไปชั่วขณะ เพราะนอกจากจะมองเห็นไม่ถนัดตาแล้ว
ยังไม่ใช่ขาประจำในการดูนกด้วย

"นกปากนกแก้วหางสั้น เป็นนกประจำถิ่นหายาก บางคนมาดู 3-4 ครั้งไม่เจอ
แต่บางคนก็พบมันได้ง่ายๆ ตามริมทาง นอกจากตัวนี้ยังมีนกหายากตัวอื่นๆ อีก อย่าง นกมุ่นรกคอแดง
นกพญาปากกว้างอกสีเงิน นกกะลิงเขียดสีเทา นกขุนแผนหัวแดง
คือเรามีเส้นทางดูนก 3-4 เส้น นักดูนกมาดูกันบ่อย เพราะที่นี่มีนกหายากที่ค่อนข้างหาดูง่าย"

อาจไม่ผาดโผนเท่าอุทยานแห่งชาติแห่งอื่นๆ แต่ภูสวนทรายเต็มตื้นไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติจริงๆ

.........

การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ แนะนำให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ผ่านตัวเมืองสระบุรี
จากนั้นเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านเพชรบูรณ์ ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 203 ผ่านหล่มสัก หล่มเก่า
เข้าเขตจังหวัดเลยที่ด่านซ้าย จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2113 ถึงอำเภอนาแห้ว
ผ่านเข้าหมู่บ้านเหมืองแพร่ แล้วเลี้ยวซ้ายตามทางหลวงหมายเลข 1268 ผ่านตำบลแสงภา
วิ่งตรงไปจนถึงที่ทำการอุทยานอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย (นาแห้ว)

หากมาจากทางจังหวัดพิษณุโลก ให้ใช้เส้นพิษณุโลก-ชาติตระการ ผ่านบ้านบ่อภาค
ถึงกิโลเมตรที่ 50 เลี้ยวขวาเข้าเส้นทางหมายเลข 1268 ผ่านบ้านร่มเกล้า ผ่านตำบลเหล่ากอหก
ถึงหลักกิโลเมตรที่ 0 อีกประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย (นาแห้ว)

ส่วนที่พักบนอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย มีที่พักหลายแบบ ทั้งบ้านพักและเต็นท์
บ้านพักสามารถจองได้ด้วยตนเองที่ โทร 0-2562-0760
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย โทร. 0-4280-7616
ททท.สำนักงานเลย โทร. 0-4281-2812

โดย : นิภาพร ทับหุ่น
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ




 

Create Date : 24 มิถุนายน 2552
0 comments
Last Update : 24 มิถุนายน 2552 15:02:54 น.
Counter : 1662 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.