Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
18 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

นอนขนำสเตย์บ้านท้ายเสาะ ไปเป็นชาวเกาะยอ(ชั่วคราว)

เจดีย์สมเด็จเจ้าเกาะยอ ท่องเที่ยว
“เจดีย์สมเด็จเจ้าเกาะยอ" วัดเขากุฏิ ศูนย์รวมจิตใจของชาวเกาะยอ

“ฉันคิดไปเป็นชาวเกาะ มีชีวิตกลางแดด และคลื่นลม จะจูบอำลาสังคม แสงสีในเมืองนภา
(หาก)เบื่อชีวิตในเมืองกรุง และคิดใจมุ่งแสวงหา มีธรรมชาติในวิญญา ตามฉันมาเป็นชาวเกาะเอย
ชั่วชีวิตในเมืองกรุง ทำกันวุ่น แข่งกันแทบบ้า แรงเอาแลกเท่าที่ได้มา ..ดูมันไร้ค่าเวลาเสียเอย
ฉันคิดไปเป็นชาวเกาะ...”

ปานศักดิ์ รังสิพราหมณกุล นักร้อง นักดนตรี คุณภาพ ทำเพลงนี้เมื่อนานมาแล้ว
ซึ่งมันเข้ากันดีเหลือเกิน กับการออกเที่ยวในทริปนี้ของผมที่ เกาะยอ จ.สงขลา
เกาะท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตวัฒนธรรมอันขึ้นชื่อ อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย

ของดีเกาะยอ
เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา มีของดีมากมายดังคำขวัญประจำเกาะคือ "สมเด็จเจ้าเป็นศรี ผ้าทอดีล้ำค่า
นานาผลไม้หวาน ถิ่นอาหารทะเล เสน่ห์สะพานติณฯ สถาบันทักษิณลือนาม งดงามเรือนทรงไทย"
ซึ่งผมขอขยายความ (คร่าวๆ) ดังนี้
สมเด็จเจ้าเป็นศรี : "เจดีย์สมเด็จเจ้าเกาะยอ" คือ ศูนย์รวมจิตใจและความศรัทธาของชาวเกาะยอ ที่ "วัดเขากุฏิ"
บนเขากุฏิ ทุกๆปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 จะมีงานห่มผ้าเจดีย์ เพื่อ นมัสการสมเด็จเจ้าเกาะยอ

เที่ยวไทย สะพานติณสูลานนท์
สะพานติณสูลานนท์ เชื่อมเกาะยอกับแผ่นดินสงขลา

ผ้าทอดีล้ำค่า : “ผ้าทอเกาะยอ” ภูมิปัญญาชาวบ้านที่สั่งสมฝีมือกันมาอย่างยาวนาน
โดดเด่นสวยงามด้วยฝีมือทออันประณีตและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะลาย“ราชวัตร”
ที่ได้รับพระราชทานนามจากรัชกาลที่ 7 ร่วมด้วยลายเด่นๆ อย่าง ลายดอกพะยอม ลายดอกพิกุล ลายลูกแก้ว
อ้อ !?! การทอผ้าของเกาะยอ ยังมีความพิเศษอีกอย่างหนึ่งที่หาดูไม่ได้ง่ายๆในเมืองไทย
นั่นก็คือ ผู้ชายทอผ้า ที่ไม่น่าเชื่อ หนุ่มใต้หน้าเข้ม ผิวคล้ำ หนวดครึ้ม กล้ามแข็ง จะทอผ้าออกมาได้สวยงามนัก

นานาผลไม้หวาน :
เกาะยอขึ้นชื่อเรื่องการทำสวนเกษตรแห่งหนึ่งของเมืองไทย โดยเฉพาะสวนผลไม้ และ“สวนสมรม”
(ปลูกพืชผสมผสาน) ที่เน้นการปลูกโดยใช้ปุ๋ยชีวภาพแบบเกษตรธรรมชาติสำหรับผลไม้เด่นๆ บนเกาะยอ
ก็มี ทุเรียน ลองกอง กระท้อน มังคุด ละมุด และจำปาดะ ผลไม้ที่นิยมปลูกกันในภาคใต้

ถิ่นอาหารทะเล :
เกาะยอถูกโอบล้อมด้วยทะเลสาบสงขลา ทะเลสาบน้ำกร่อยที่ว่ากันว่า“ปลากะพงขาว”(เลี้ยงในกระชัง)
ที่นี่ รสชาติอร่อยที่สุดในเมืองไทย นอกจากนี้เกาะยอยังมีกุ้ง ปลา ปู และปลาพิเศษเฉพาะฤดูอย่าง ปลาท่องเที่ยว
ที่คล้ายปลาช่อนแต่ตัวเรียวยาว รสอร่อย มีให้กินในช่วงเดือนก.ค.-ต.ค. ปลาชนิดนี้ปกติอาศัยอยู่ในรูใต้ทะเลน้ำเค็ม
แต่เมื่อทะเลสาบเปลี่ยนเป็นน้ำจืด จะหนีน้ำออกมาจนได้ชื่อว่า ”ปลาท่องเที่ยว”

เสน่ห์สะพานติณฯ : ชื่อทางการคือ “สะพานติณสูลานนท์” เป็นสะพานคอนกรีตคู่ยาวที่สุดในเมืองไทย
เชื่อมแผ่นดินเกาะยอ 2 ด้าน กับแผ่นดินสงขลา ระหว่างฝั่งบ้านน้ำกระจาย อ.เมือง กับบ้านเขาเขียว อ.สิงหนคร
ชาวบ้านนิยมเรียกว่า สะพานติณ สะพานเปรม หรือสะพานป๋า (เปรม)

สถาบันทักษิณลือนาม : "พิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา สถาบันทักษิณคดีศึกษา" จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับภาคใต้
อาทิ วิถีชีวิต วัฒนธรรมพื้นบ้าน ประวัติศาสตร์ โบราณคดี ศิลปหัตถกรรม ภูมิปัญญา เป็นต้น ภายในจัดแสดงเป็น
ห้องต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ นับเป็นพิพิธภัณฑ์ชั้นเยี่ยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทยที่น่าเที่ยวชมเป็น อย่างยิ่ง

เที่ยวไทย เกาะยอ
วิถีชาวประมงที่เกาะยอ

งดงามเรือนทรงไทย :
บนเกาะยอมีบ้านเรือนไทยดั้งเดิมแบบ(ชาวใต้)ท้องถิ่นที่ยังหลงเหลือให้ชมกัน อยู่พอประมาณ
โดยมีเรือนไทยที่เด่นที่สุด คือ "กุฏิเรือนไทยปั้นหยา" วัดท้ายยอ ที่มีอายุกว่า 200 ปี
สร้างด้วยไม้ทรวดทรงสมส่วน สวยงาม หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผาเกาะยอ อันเป็นเอกลักษณ์

ครับ นั่นเป็นของดีเกาะยอจากคำขวัญ ที่จากนั้นบนเกาะนี้ยังมีจุดน่าสนใจให้เที่ยวชม อย่าง
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเกาะยอ วัดท้ายยอ วัดกุฏิ วิถีชีวิตประมงพื้นบ้าน อาหารการกิน วัฒนธรรมประเพณี
และที่ผมประทับใจมากก็คือ ขนำกลางทะเล โฮมสเตย์บ้านท้ายเสาะ อันน่าไปดื่มด่ำในบรรยากาศเป็นอย่างยิ่ง

นับได้ว่าเกาะยอเป็นหนึ่งในเกาะทรงเสน่ห์ของเมืองไทย จนล่าสุดกรมการพัฒนาชุมชน
ได้คัดเลือกให้บ้านท้ายเสาะ แห่ง ต.เกาะยอ เป็นหมู่บ้าน OTOP
เพื่อการท่องเที่ยว ปี 2552 การันตีในคุณภาพของชุมชนเกาะยออีกด้วย

ขนำสเตย์ เสน่ห์เกิน 5 ดาว
เดิมชาวเกาะยอ สร้างขนำไว้เฝ้ากระชังปลาในทะเล แต่จุดพลิกผันเกิดขึ้นราวปี 48 เ
มื่อลุงเดชา มีสุวรรณ ปัจจุบัน อายุ 57 ปี บุรุษหัวก้าวหน้า หนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญต่อการท่องเที่ยวของเกาะยอ
มองการณ์ไกลว่า ที่ผ่านมาคนมาเกาะยอ มาเที่ยว มากินอาหารแล้วก็กลับ
ทำอย่างไรคนถึงจะค้าง จะอยู่เกาะยอยาวขึ้นเพื่อให้รายได้ตกแก่ชุมชนบ้าง
เพราะที่ผ่านมารายได้ส่วนใหญ่มักจะตกอยู่แค่ร้านอาหารเท่านั้น

“ตอนนั้นลุงมีความคิด แต่ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร พอดีทางสำนักงานเกษตรอำเภอกับททท.
(การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) มาให้คำแนะนำ ว่า น่าจะทำโฮมสเตย์ พร้อมพาไปดูงานที่โฮมสเตย์ท่าด่าน
จ.นครนายก พอกลับมาลุงเกิดไอเดียว่า บ้านเรามีขนำเฝ้าปลาอยู่แล้ว น่าจะทำปรับปรุงเป็นโฮมสเตย์ได้
เพราะบรรยากาศดี และเราไม่ต้องเหนื่อยเฝ้าปลา เพราะนักท่องเที่ยวจะช่วยเฝ้าปลาให้ไปในตัว”
ลุงเดชาเล่าให้ฟัง ณ ยามบ่ายแก่ๆที่ระเบียงขนำน้อยกลางทะเลของแก
อันเป็น “ขนำสเตย์” (ผมขออนุญาตเรียกอย่างนั้น)ที่พักของผมในค่ำคืนนี้

เที่ยวไทย
ลุงเดชา มีสุวรรณ

ลุงเดชาจึงบุกเบิกการเปิดขนำสเตย์ขึ้นเป็นเจ้าแรกบนเกาะ ปัจจุบันลุงมีขนำสเตย์ 2 หลัง หลังแรกจ้างเขาทำ
แล้วเห็นว่าค่าแรงแพงเกินไป จึงทำหลังที่ 2 เองด้วยแรงงานของลุงกะป้า
แม้จะใช้เวลาสร้างนานหน่อย แต่ว่าก็เป็นขนำสเตย์ที่ลุงเดชารักมาก

หลังลุงเดชาเปิดขนำสเตย์ ก็มีคนอื่นเปิดตามขนำสเตย์กันอีกจำนวนหนึ่ง (ประมาณ 7-8 หลัง)
เพราะเริ่มเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากที่พักแบบขนำสเตย์แล้ว
ลุงเดชา ยังมีกิจกรรมนั่งเรือออกไปชมความสวยงามของทะเลสาบสงขลา ไปดูการทำประมงพื้นบ้าน การกู้ไซ
การเลี้ยงปลา การจับปลาในกระชัง และการตกปลา ให้ทำกันอย่างหนำใจ

“ลุงเปิดที่นี่ เพื่อต้องการให้เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตประมงพื้นบ้านของชาวเกาะยอ”
ลุงเดชาว่าอย่างนั้น นั่นจึงทำให้การเข้าพักขนำสเตย์ของลุงเดชา มีข้อกำหนดอยู่ 3 ข้อ คือ ไม่รับนักท่องเที่ยว
ชาย-หญิง ที่มากัน 2 คน(ถ้ามาเป็นคู่เพศเดียวกันได้)
แต่ถ้ามา 3 ขึ้นไป หรือมาเป็นครอบครัวหมู่คณะตามจำนวนที่กำหนด รับหมด
เพราะลุงเดชาไม่อยากให้นักท่องเที่ยวคู่ชาย-หญิงใช้ขนำสเตย์ผิดวัตถุประสงค์ของแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตชาวประมง
แต่ลุงแกก็ใจกว้าง แนะนำที่พักของโฮมสเตย์ หลังอื่นให้

เที่ยวไทย
ลุงเดชา(หัวเรือ) พานักท่องเที่ยวขึ้นสู่ขนำสเตย์กลางทะเล

ข้อกำหนดอีก 2 ข้อ นั่นก็คือ ต้องบริการตัวเอง เพราะที่นี่ไม่ใช่โรงแรมรีสอร์ท
และสุดท้าย ห้ามทิ้งขยะสิ่งของลงทะเล แต่ควรช่วยกันอนุรักษ์ท้องทะเลด้วย

เรียกว่าข้อกำหนดทั้ง 3 นั้น สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปทำได้อยู่แล้ว ส่วนใครที่คิดว่าเป็นนักท่องเที่ยวพิเศษ
ไม่สามารถปฏิบัติได้ก็ไม่ต้องไปพัก เรื่องแบบนี้ไม่ว่ากัน เพราะคอนเซ็ปต์ในการทำโฮมสเตย์ (ขนำสเตย์)
ของลุงเดชานั้น ลุงแกบอกว่า ไม่ได้ทำเพื่อกำไร แต่ทำเพื่อความสุข

“ลุงได้เพื่อน พี่ น้อง ลูก หลาน เพิ่มขึ้นมากมาย จากพวกที่มาพักโฮมสเตย์ แค่นี้ลุงก็มีความสุขแล้ว”
ลุงเดชา เล่าด้วยสีหน้า และแววตาเปื้อนยิ้ม แต่ก็ทำให้คนฟังพลอยมีความสุขไปด้วย

ในขณะที่บรรยากาศขนำสเตย์ของลุงเดชานั้นก็เปี่ยมสุขไม่เบา เพราะเป็น เรือนกลางน้ำ
ห่างจากฝั่งประมาณ 300 เมตร(ต้องนั่งเรือเล็กออกไป) บนขนำที่มีห้องนอน โถง ระเบียง ห้องน้ำ ครัว มีไฟฟ้า
มีน้ำจืด ทีวี วิทยุ ที่นอน หมอนมุ้ง บริการสะดวกสบาย

บทความ ท่องเที่ยวไทย
ปลากะพงขาวตัวโตๆจับจากกระชัง

ยามเย็นมองเห็นพระอาทิตย์ตกน้ำทะเลป๋อมแป๋ม รายล้อมด้วยกระชังปลา ในบรรยากาศคืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล
ยามค่ำคืนมีลมเย็นๆพัดห่มกาย มองท้องฟ้าเห็นดาวเคียงเดือน พร้อมคลื่นเห่กล่อม
ยิ่งเปิดวิทยุบังเอิญไปเจอคลื่นลูกทุ่งคลาสสิคย้อนยุคพวก ทูล ทองใจ,สุรพล สมบัติเจริญ,ก้าน แก้วสุพรรณ,
ศรคีรี ศรีประจวบ ฯลฯ ที่ฟังแล้วเข้ากันได้ดีเหลือเกิน กับบรรยากาศ และอายุอานามของเพื่อนๆร่วมวง สุรา
ที่อยู่ในยุคไล่เลี่ยกับเพลงลูกทุ่งเหล่านั้น
(ยกเว้นผม ที่ยังอ่อนเยาว์ เพราะ อยู่ในยุคสมัยนิยมจำพวก กอล์ฟ ไมค์,ETC,MILD,SLUR เป็นต้น)

แหม...เมื่อสิ่งต่างๆมันช่างเข้ากันดีเหลือเกิน ชนิดที่พูดก็พูดเหอะ โรงแรม 5 ดาวหลายๆแห่งเห็นแล้วยังอิจฉาเลย
นั่นจึงทำให้ค่ำคืนนี้ผมดื่มด่ำกับบรรยากาศ ควบคู่ไปกับการดื่มด่ำร่ำสุราจน กรึ่มได้ที่ ก็อดไม่ได้
ที่จะขอสวมวิญญาณสุนทรภู่ชั่วคราว ร้อยรจนาบทกลอน 1 บท เพิ่มเติมต่อท้ายคำขวัญประจำเกาะยอว่า
" สมเด็จเจ้าเป็นศรี ผ้าทอดีล้ำค่า นานาผลไม้หวาน ถิ่นอาหารทะเล เสน่ห์สะพานติณฯ
สถาบันทักษิณลือนาม งดงามเรือนทรงไทย ประทับใจขนำสเตย์”

***********

สอบถามรายละเอียดการท่องเที่ยวบนเกาะยอได้ที่ อบต.เกาะยอ โทร 0-7445-0433
ส่วนโฮมสเตย์บนเกาะยอมี 3-4 เจ้า สำหรับของลุงเดชา มีสุวรรณ มีขนำ 2 หลัง คิดค่าที่พัก ขนำ 1 หลัง
ราคา 500 บาท ต่อ 1-5 คน(รับเต็มที่ประมาณ 10 คน/หลัง)
หากมากกว่านั้น คิดเพิ่มคนละ 100 บาท พร้อมอาหารเช้า แต่ต้องจองก่อนล่วงหน้าที่ โทร 0-7445-0390
เพราะมีคิวจองยาวเหยียด ส่วนที่พักโฮมสเตย์หลังอื่นๆ อยู่ที่ราคาไล่เลี่ยกันประมาณ 150 บาท

โดย : ปิ่น บุตรี
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์




 

Create Date : 18 มิถุนายน 2552
2 comments
Last Update : 18 มิถุนายน 2552 17:14:15 น.
Counter : 2857 Pageviews.

 

มีภาพภายในที่พัก(ขนำสเตย์)ให้ดูมั้ยคะ
ช่วยลงเพิ่มเติมให้ชมหน่อย...
อยากไปพักผ่อนกับครอบครัวแบบนี้บ้างค่ะ

 

โดย: pim5022 IP: 114.128.78.64 21 มิถุนายน 2552 12:31:00 น.  

 

ไปมาแล้ว บรรยากาศดีมาก สุดๆไปเลย

 

โดย: อาณัฐ IP: 182.93.213.20 29 ธันวาคม 2553 13:52:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.