สวนคือสวรรค์

“เรานำจิตวิญญาณในสวนญี่ปุ่นมาประยุกต์ใช้
ส่วนใหญ่การจำลองลำธารมาไว้ในพื้นที่จะใช้ทรายหรือกรวดเม็ดเล็ก แต่เราเลือกกรวดที่มีลักษณะเรียวยาวแทน
เพื่อให้ดูแลรักษาได้ง่าย โดยเรียงกรวดไปในทิศทางเดียวกันเหมือนเป็นทางน้ำไหล”

ตอนนี้ผมกำลังยืนชมสวนแห่งหนึ่งในย่านรามอินทรา-อาจณรงค์ เบื้องหน้าผมคือพื้นบล็อกหญ้าที่ดูเรียบโล่ง
ถัดไปเป็นแนวกำแพงที่ซ้อนรั้วทางเข้าบ้านอีกชั้นหนึ่ง ด้านหน้าของแนวกำแพงนี้เว้นพื้นที่ไว้ปลูกไม้พุ่ม
ไกลไปอีกหน่อยคือซุ้มประตูปูนปั้นประดับดอกบัวสีน้ำอ้อย
บอกให้รู้ว่าหากก้าวผ่านซุ้มประตูนี้ไปคือพื้นที่ของบ้าน
ซึ่งพอผมเดินเข้าไปก็พบว่า บรรยากาศด้านหลังประตูเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
ดูร่มรื่นขณะเดียวกันก็ดูไม่ทึบจนเกินไป สังเกตว่ามีแนวทางเดินเป็นตัวกำหนดให้เดินลัดเลาะเข้าไปเรื่อยๆ
รวมทั้งยังใช้กำหนดมุมมองภายในสวนด้วย พื้นที่ตรงกลางมีสระว่ายน้ำเป็นจุดเด่น เมื่อเดินต่อไปถึงด้านใน
ก็เห็นผู้ออกแบบทั้งสองท่านยืนต้อนรับอยู่ คุณเฉลิมศักดิ์ บุญทวี และคุณภาณุยศ ปริกสุวรรณ พาเดินชมสวน
พร้อมเล่าที่มาที่ไปของสวนแห่งนี้ให้ฟังว่า

“สถาปนิกได้ลงตำแหน่งงานโครงสร้างหลักไว้บ้างแล้ว รวมถึงตำแหน่งต้นไม้ใหญ่บางส่วน
ทีนี้เจ้าของบ้านอยากได้บรรยากาศร่มรื่น เน้นสไตล์สวนป่า
แต่เรามองว่าอาจทำให้งานโครงสร้างของบ้าน และงานฮาร์ดสเคปในสวนที่สวยงามดู ไม่ชัดเจนนัก
และอาจทำให้สวนดูแลรักษายาก
เราจึงตีความคำว่า ‘สวนป่า’ ใหม่ว่าเป็นป่าของสีสันที่มีความหลากหลายของไม้เขตร้อน
มีเท็กซ์เจอร์ทั้งจากใบและดอก ขณะเดียวกันก็มีลักษณะนิสัยการเจริญเติบโตที่อยู่ร่วมกันได้ ดูแลรักษาง่าย
โดยเลือกไม้ดอกและไม้แขวนบางชนิด มาปลูกหมุนเวียนเพื่อเป็นสีสันให้สวนด้วย”

ผมเดินชมรอบสระว่ายน้ำ ซึ่งมีองค์ประกอบสวนค่อนข้างหลากหลายตั้งอยู่รายรอบ ไม่ว่าจะเป็นศาลาริมสระ
แนวบ่อน้ำประดับที่มีน้ำล้นเป็นระดับ แนวทางเดินผ่านน้ำ สะพานไม้ หรือเรือนรับรอง
เสริมด้วยความร่มรื่นและสีสันของพรรณไม้นานาชนิด
จากนั้นผมเดินวกผ่านเข้ามาสู่อีกประตูหนึ่ง เพื่อเดินไปยังส่วนด้านหลังบ้าน บรรยากาศในสวนเริ่มเปลี่ยนไป
จากแนวทางเดินเปลี่ยนเป็นแผ่นทางเดิน ที่วางต่อเนื่องกันไปจนถึงห้องพักผ่อนด้านหลังบ้าน
ซึ่งผมได้พบ คุณจิตรา มุฑิตานันท์ เจ้าของบ้านที่ยิ้มต้อนรับ พร้อมเล่าถึงความเป็นมาภายในสวนให้รับฟังว่า

“ดิฉันมีความชอบค่อนข้างหลากหลาย เริ่มหาข้อมูลจากหนังสือทั้งของไทยและต่างประเทศ
หรือหากไปเที่ยวที่ไหนแล้วประทับใจ ก็พยายามนำกลับมาประยุกต์ใช้กับที่บ้าน
อย่างกำแพงหินหรือบ่อน้ำโดยรอบก็ได้แนวคิดจากบาหลี
หรือถ้าไปเข้าวัดทำบุญ ได้เห็นงานปูนปั้นก็นำมาปรับทอนรายละเอียดให้เหมาะกับบ้านเรา
เห็นได้จากประติมากรรมต่างๆ ในบ้าน เช่น พญานาค กินรี ก็ให้ช่างหล่อให้มีภาพรวมเดียวกันทั้งสวน
หรืออย่างสวนด้านนอกห้องนี้ก็ได้แนวคิดจากสวนหินของญี่ปุ่น คุณลองมองออกไปสิ”

ผมมองออกไปตามที่คุณจิตราบอก จากตอนแรกที่ผมเดินผ่านเข้ามาโดยไม่ทันสังเกต
ตอนนี้กลับเห็นสวนกรวด ที่วางเรียงอย่างเป็นระเบียบลัดเลาะอ้อมต้นไม้ใหญ่
รวมถึงมีหินก้อนใหญ่วางกระจายในพื้นที่ ถึงตรงนี้ผู้ออกแบบก็อธิบายว่า
“เรานำจิตวิญญาณในสวนญี่ปุ่นมาประยุกต์ใช้ ส่วนใหญ่การจำลองลำธารมาไว้
ในพื้นที่จะใช้ทรายหรือกรวดเม็ดเล็ก แต่เราเลือกใช้กรวดที่มีลักษณะเรียวยาวแทน เพื่อให้ดูแลรักษาได้ง่าย
โดยเรียงกรวดไปในทิศทางเดียวกันเหมือนเป็นทางน้ำไหล แต่เมื่อมาบรรจบกับหินก้อนใหญ่จะสังเกตว่า
การเรียงกรวดเริ่มมีทิศทางกระจัดกระจายบ้าง ซึ่งจะให้ภาพเหมือนการกระเซ็นของน้ำเมื่อกระทบหินก้อนใหญ่
และเป็นเหมือนการเปลี่ยนทิศทางของกระแสน้ำด้วย ทำให้เกิดความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น”
เรียกได้ว่าสวนแห่งนี้ผ่านการร่วมมือ ระหว่างเจ้าของบ้านกับผู้ออกแบบ
จนกลายเป็นสวนสวยที่เหมาะกับการพักผ่อน ซึ่งเจ้าของบ้านออกปากเองเลยว่า
“อยู่บ้านนี้แล้วมีความสุขทั้งกายและใจ ใช้เป็นที่พักผ่อนของครอบครัว บ้านจึงเป็นสวรรค์น้อยๆ ของเรา”




ซุ้มประตูทางเข้าสวน คุณจิตราเชิญช่างจากวัดทางภาคเหนือมาช่วยปั้นให้โดยเฉพาะ
ต้นไม้ใหญ่รอบบ้านแขวนเคราฤๅษีกระจายอยู่โดยทั่ว เพื่อสร้างเส้นสายในแนวตั้งที่อ่อนช้อยให้สวน




ทางเดินผ่านน้ำที่เชื่อมโยงส่วนต่างๆ ของสวนโดยรอบ มีประติมากรรมทองเหลืองรูปพญานาคเป็นน้ำพุในสวน
สร้างเสียงและความเคลื่อนไหวให้บ่อน้ำ และเป็นจุดนำสายตาในสวนได้ดี




ด้านข้างของสระว่ายน้ำมีบ่อน้ำล้นสองระดับและมีบ่อบัวอยู่โดยรอบ
ผนังบ่อด้านบนกรุประติมากรรมหินทรายนูนต่ำเป็นรูปวงของน้ำ




ด้านหน้าของส่วนบริการ ลดทอนความแข็งของงานสถาปัตยกรรมให้อ่อนนุ่มลง
ด้วยการสร้างเส้นสายในแนวตั้ง ทั้งการปลูกม่านบาหลี รวมถึงปลูกโมกพรางแนวกำแพง
สร้างจุดเด่นให้ซุ้มประตู ด้วยการปลูกหมากผู้หมากเมียที่มีสันสันประดับด้านข้าง




สวนด้านข้างบ้านอยู่ใกล้ตัวอาคาร และใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีร่มเงาตลอดวัน
จึงเน้นปลูกไม้คลุมดินและไม้พุ่มที่ทนร่มได้ดี เช่น เสน่ห์จันทน์แดง หนวดปลาดุกแคระ และคล้าม้าลายแคระ




ทางเดินด้านข้างบ้านปลูกหนวดปลาดุกแคระแทนการปลูกหญ้า เพราะบริเวณนี้เป็นที่แคบได้รับร่มเงาตลอดวัน
นอกจากนี้ยังเลือกปลูกต้นไม้ที่ดูแลรักษาง่ายอย่างคล้าซิการ์ โมก และเดหลี




บ่อบัวด้านหลังบ้านมีลักษณะแคบยาวขนานกับตัวบ้าน ปลูกบัวและวางประติมากรรมเพื่อให้เกิดจุดเด่น
เสริมด้วยไม้ที่มีสีสัน ซึ่งอยู่ในตำแหน่งขนานไปกับบ่อเพื่อสร้างความน่าสนใจ เช่น ดอนย่า แดงเชียงใหม่



เจ้าของ : คุณกฤษณ - คุณจิตรา มุฑิตานันท์
จัดสวน: P_do landscape studio โดยคุณเฉลิมศักดิ์ บุญทวี และคุณภาณุยศ ปริกสุวรรณ
ข้อมูลโดย : นิตยสารบ้านและสวน ฉบับที่ 401 ประจำเดือน มกราคม 2553
ที่มา : //www.baanlaesuan.com/


สารบัญตกแต่งบ้าน และ จัดสวน

Create Date : 24 พฤษภาคม 2553		0 comments
Last Update : 24 พฤษภาคม 2553 18:24:53 น.
Counter : 5675 Pageviews.
Share Tweet