30 ยังแจ๋ว! ไอเดียการแปลงโฉมบ้าน
เคยได้ยินว่า เมื่อคนเราอายุขึ้นเลข 3 อะไรบางอย่างในร่างกายก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป คงไม่ต่างกับบ้านที่อยู่เป็นเพื่อนแท้กับเรามานานถึง 30 ปี ความเก่าและทรุดโทรมของประตู, หน้าต่าง, หลังคา หรือสีบนผนังที่หลุดลอกย่อมมีให้เห็นเป็นธรรมดา บางคนอาจคิดมองหาบ้านหลังใหม่ แต่เราว่าคงไม่รู้สึกผูกพันทางใจเท่าบ้านหลังเดิมหรอก สู้หันมาทำบ้านหลังเก่าให้น่าอยู่น่ามองดีกว่า คอลัมน์ “Design IDEAS” ฉบับนี้ อยากชวนเจ้าของบ้านที่มีบ้านอายุขึ้นเลข 3 หันมาแปลงโฉมบ้านของตัวเอง ให้สวยสดใสเสียจนใครต้องเหลียวหลังกลับมาดู เรามีไอเดียการแปลงโฉมบ้าน 4 ประเภท คือ บ้านตึกแถว, บ้านทาวน์เฮ้าส์, บ้านเดี่ยวและบ้านไม้ มาให้ชมกันค่ะ
คำแนะนำก่อนเปลี่ยนโฉม โครงสร้างของบ้านทั้งหมดในส่วนที่รับน้ำหนัก เช่น เสา, คาน, พื้น ไม่ควรรื้อ ทุบหรือทำให้เกิดความเสียหาย สิ่งที่เราแนะนำคือเรื่องการทาสี, กรุผนัง, เปลี่ยนรูปแบบของประตูหน้าต่าง, เปลี่ยนกระเบื้องหลังคา โดยไม่กระทบต่อโครงสร้างบ้านเดิม แต่ถ้าบ้านยังคงมีปัญหาเรื่องทรุดหรือร้าว ไม่ว่าบริเวณใดควรซ่อมแซมให้เรียบร้อยก่อนเสมอ ที่สำคัญคือการต่อเติมเปลี่ยนแปลงใดๆ ต้องปรึกษาสถาปนิกและวิศวกร เพื่อตรวจสอบให้มั่นใจเรื่องโครงสร้างบ้านก่อนทุกครั้ง จะได้ไม่เกิดอันตรายขึ้นในภายหลัง
*** เป็นการนำเสนอไอเดียของบ้านในแต่ละประเภท การนำไปใช้อาจต้องมีการปรับให้เข้ากับโครงสร้างเดิม หรือรูปแบบของบ้านแต่ละหลัง
เปลี่ยนอะไรบ้าง 1. รั้ว 2. ที่จอดรถ 3. ประตูทางเข้า 4. ทาสีภายนอก 5. กรุผนังภายนอก 6. หน้าต่าง 7. หลังคา 8. พื้นที่ดาดฟ้า 9. ระเบียง 10. ระดับพื้นที่ดินโดยรอบ
บ้านตึกแถว ทำเลของบ้านตึกแถวมักตั้งอยู่กลางใจเมือง เพื่อให้สะดวกสบายต่อการทำมาค้าขาย หรือการเดินทาง แต่ข้อจำกัดของบ้านประเภทนี้คือมีขนาดพื้นที่ไม่มากนัก รวมทั้งมีช่องประตูหน้าต่างที่ดูน่าอึดอัด สิ่งที่ควรปรับคือการออกแบบบ้านให้ดูโปร่ง สบายตา โดยไม่ลืมเรื่องความปลอดภัยของบ้านด้วย
1. เปลี่ยนผนังเดิมให้ดูทันสมัยขึ้น อาจกรุทับด้วยแผ่นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ซึ่งมีคุณสมบัติเรียบและวาว ช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย การเลือกโทนสีอ่อนจะทำให้บ้านดูสบายตาขึ้น
2. เปลี่ยนประตูทางเข้าหลัก กรณีที่มีรถเข้ามาจอดภายในบ้าน อาจใช้ประตูเหล็กม้วน เพื่อความสะดวกและปลอดภัย เพราะสามารถเปิดทางเข้าได้เต็มๆ หรือกรณีอยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว อาจทำประตูบานเปิดโครงเหล็กกรุไม้สักทำสี ก็ดูสวยงามและยังแข็งแรงคงทนด้วย
3. ส่วนหน้าของบ้านชั้นบน อาจทำบานผลักโครงเหล็กตีระแนงไม้ในแนวตั้ง ก็ทำให้หน้าตาของตึกแถวดูโปร่งขึ้น เลือกใช้ไม้สังเคราะห์แทนไม้จริง เพราะกันแดดกันฝนได้ดี และไม่มีปัญหาเรื่องปลวก เราสามารถเปิดบานระแนงนี้ได้หากต้องการความโปร่งโล่ง หรือหากผลักปิด แนวระแนงนี้ก็ช่วยกรองแสงแดดและพรางเครื่องคอมเพร็สเซอร์ได้ด้วย
4. คงแผงคอนกรีตบังแดดซึ่งเป็นโครงสร้างเดิมไว้ 5. เนื่องจากเดิมเป็นหน้าต่างและมีการเปลี่ยนเป็นประตูเลื่อนกระจก จึงต้องทำราวระเบียงกันตก ทำจากเหล็กแบนกันสนิมทำสี ขนาด 1½ นิ้ว หนา15 มิลลิเมตร สูง 0.90-1 เมตร
6. ถัดเข้าสู่ภายในบ้าน ทำแนวบานเลื่อนกระจก เพื่อกรองมลพิษทางเสียงจากภายนอก และช่วยทำให้บ้านดูโปร่งขึ้นด้วย
7. เพิ่มเติมส่วนเหล็กดัดเพื่อความปลอดภัย โดยใช้เหล็กกลมทาสีกันสนิมทำสีดำ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-1.5 เซนติเมตร ยึดกับตัวคานด้านบนและพื้นด้านล่าง
8. สร้างโครงหลังคาเหล็กสำเร็จรูป รูปตัวไอ (I) บนดาดฟ้า ร่วมกับระแนงอะลูมิเนียม อาจปิดด้วยแผ่นพอลิคาร์บอเนตด้านบน กรณีที่ต้องการหลังคากันฝน
บ้านทาวน์เฮ้าส์ หน้าตาของบ้านทาวน์เฮ้าส์สมัย 30 ปีก่อนอาจดูเชยไปแล้วสำหรับยุคนี้ การปรับรูปแบบบางอย่าง ก็ช่วยอัพเกรดให้บ้านของคุณกลายเป็นทาวน์โฮมได้สบาย
บ้านทาวน์เฮ้าส์บางโครงการไม่ได้ออกแบบหลังคาที่จอดรถไว้ จึงต้องมีการต่อเติมในภายหลัง ทำให้หน้าบ้านดูอับทึบ การปรับเปลี่ยนรูปแบบหลังคาที่จอดรถให้ดูโปร่ง แสงสามารถผ่านได้บ้าง ก็ช่วยให้บริเวณหน้าบ้านดูสว่างและไม่เป็นซอก การเล่นสีเข้มอ่อนกับตัวโครงสร้างของบ้านก็ทำให้บ้านดูมีมิติขึ้น พื้นภายนอกบริเวณที่จอดรถเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเพิ่มความแข็งแรง และเปลี่ยนมาใช้โทนสีอ่อนจะช่วยให้บ้านดูกว้างขวางขึ้น เท่านี้บ้านก็น่าอยู่ขึ้นเยอะเลย
1. พื้นบริเวณที่จอดรถเปลี่ยนมาปูกระเบื้องบล็อกประสาน หากอยากได้พื้นหญ้า อาจปูพื้นบล็อกซีเมนต์ก่อนแล้วปูหญ้าทับอีกที จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้หน้าพื้นดิน
2. แนวรั้วข้างบ้านปลูกต้นไม้อย่างไทรเกาหลี หรือโมก ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้บ้าน
3. ประตูรั้วบ้านเน้นความโปร่ง โดยใช้เหล็กกล่องกันสนิมพ่นสีดำ ขนาด 1x1 นิ้ว สูง 1.50 เมตร ตีตามแนวตั้ง โดยเว้นระยะห่างประมาณ 1 นิ้ว
4. หลังคาที่จอดรถ เปลี่ยนมาใช้โครงเหล็ก ร่วมกับระแนงไม้สังเคราะห์สีธรรมชาติตีเว้นร่อง ด้านล่างปิดด้วยแผ่นพอลิคาร์บอเนตสีใสหรือสีชา แสงธรรมชาติที่ส่องผ่านแนวระแนงจะช่วยให้หน้าบ้านดูสว่างขึ้น
5. ขยายขนาดของหน้าต่างเดิมมาเป็นการทำบานเลื่อนกระจกใส ขนาด 1.80 x 2.40 เมตร ช่วยให้บ้านดูโปร่งขึ้น เพิ่มอารมณ์ทันสมัยด้วยการใช้วงกบอะลูมิเนียมอบสีดำ
6. เปลี่ยนประตูใหม่เป็นบานไม้สัก ตีเว้นร่องตามแนวนอนทำสีโอ๊กเข้ม ขนาด 1 x 2.40 เมตร
7. ทำราวระเบียงใหม่ โดยใช้เหล็กแผ่นผสมกับเหล็กกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ทำสีพ่น กั้นตามแนวนอน
8. ขยายขนาดของหน้าต่างทั้งสองด้านให้มีความสูงจากพื้นถึงระดับคานวงกบ ใช้อะลูมิเนียมอบสีดำเช่นเดียวกับบานเลื่อนด้านล่าง
9. โครงหลังคาใช้ของเดิม เปลี่ยนเฉพาะกระเบื้องหลังคาที่เลือกสีให้เข้ากับโทนสีของตัวบ้าน
10. รั้วด้านข้างทำโครงเหล็กกันสนิมพ่นสี และตีระแนงไม้จริงตามแนวนอน
บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยวในยุคเก่ามักให้ความรู้สึกเป็นก้อนๆ ตันๆ ทางที่ดีควรลดพื้นที่ผนังให้น้อยลง โดยเปลี่ยนมาทำหน้าต่างหรือช่องแสงให้มากขึ้น การเลือกใช้วัสดุที่เน้นโทนสีธรรมชาติ เช่น ผนังกรุหินขัดเรียบ พื้นระแนงไม้สังเคราะห์และกระเบื้องหลังคาโทนสีธรรมชาติ ก็ทำให้บ้านดูอบอุ่นน่าอยู่ พร้อมปรับสไตล์ของบ้านให้ดูร่วมสมัยขึ้น ด้วยการเลือกใช้วัสดุสมัยใหม่ อย่างอะลูมิเนียมและเหล็ก 1. กรุผนังหินขัดเรียบ หรือหินเทียมแผ่นเข้ากับผนังคอนกรีตเดิม กรณีที่กังวลเรื่องการรับน้ำหนักของโครงสร้างเดิม แนะนำให้ใช้หินเทียมจะดีกว่า เพราะได้ผิวสัมผัสคล้ายหิน แต่น้ำหนักเบากว่าหินธรรมชาติ
2. ทำบานเลื่อนกระจกใสแทนหน้าต่างแบบเดิม ส่วนซุ้มโค้งเหนือผนังก็ปรับให้เป็นผนังเรียบทาสี
3. จากประตูทึบเปลี่ยนเป็นประตูบานเลื่อนกระจกใส กรอบอะลูมิเนียมอบสีธรรมชาติ
4. ส่วนหลังคาเปลี่ยนมามุงกระเบื้องแผ่นเรียบสลับสี เลือกโทนสีธรรมชาติ เพื่อลดความรู้สึกใหญ่เทอะทะของหลังคาให้กลมกลืนกับต้นไม้รอบบ้าน
5. ต่อเติมเป็นระเบียงออกมาจากห้องในบ้าน โดยใช้โครงสร้างเหล็กสำเร็จรูป หลังคาเป็นระแนงไม้สำเร็จรูป ขนาด 1½ x 1½ นิ้ว การเลือกใช้โครงสร้างเหล็กสำเร็จรูป ทำให้ก่อสร้างได้เร็วและยังแข็งแรงด้วย
6. ส่วนนี้ใช้โครงสร้างเดิมแต่รื้อหลังคาออก เพื่อทำเป็นพื้นระเบียงชั้นสอง ซึ่งหล่อพื้นคอนกรีตและเทน้ำยากันซึมก่อนปูพื้นระเบียง ให้มีความลาดเอียงสู่ท่อระบายน้ำด้านข้าง
7. ชานบ้านปูพื้นไม้สังเคราะห์สีธรรมชาติ ขนาด 1x4 นิ้ว ตีเว้นร่อง ใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นนอกบ้าน
8. ช่องหน้าต่างยังคงเดิม เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบหน้าต่างให้ดูโมเดิร์นขึ้น ส่วนกรอบวงกบและหน้าต่างใช้วัสดุอะลูมิเนียม อบสีธรรมชาติแบบเดียวกันหมดทั้งหลัง
9. ทำฝ้าชายคาใหม่บนโครงคร่าวไม้เนื้อแข็ง โดยตีตะแกรงเหล็กก่อนเพื่อป้องกันแมลง จากนั้นจึงตีไม้สังเคราะห์สีธรรมชาติ ขนาด 1 x 3 นิ้ว เว้นร่องเพื่อความสวยงาม
บ้านไม้ บ้านไม้ตีซ้อนเกล็ดชั้นเดียวที่คุ้นตา สามารถเปลี่ยนให้กลายเป็นบ้านพักตากอากาศได้ โดยยังคงกลิ่นอายความคลาสสิกได้อย่างสบาย ควรตรวจสอบและปรับระดับพื้นให้พ้นจากระดับที่น้ำท่วมถึง ใช้พื้นที่กว้างรอบบ้านให้เป็นประโยชน์ ด้วยการต่อชานนั่งเล่นหน้าบ้าน เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและทำให้บ้านดูโปร่งสบาย ปรับโทนสีบ้านให้อ่อนลง ช่วยให้บ้านน่ามองขึ้น
1. ปรับระดับพื้นดินให้เรียบเสมอกัน ปลูกต้นไม้ เช่น ปีบ, ชงโค, แคนา ให้ร่มเงาแก่ตัวบ้าน
2. ตีไฟเบอร์ซีเมนต์บนโครงคร่าวเหล็กปิดช่องว่างใต้พื้นบ้าน สูงประมาณ 60-80 เซนติเมตร เป็นเสมือนฐานของบ้าน ที่สำคัญคือปิดความไม่เรียบร้อยของใต้พื้นบ้าน
3. ปูพื้นไม้สังเคราะห์ ขนาด 1 x 5 นิ้ว ซึ่งทนแดดทนฝนได้ดีและไม่มีปัญหาเรื่องปลวก
4. ปูพื้นกระเบื้องแกรนิต ขนาด 2 x 8 นิ้ว แบบปูชิด กระเบื้องชนิดนี้ให้ความรู้สึกคล้ายหินธรรมชาติ
5. ผนังไม้เดิมคงไว้ แต่ล้างสีเก่าออกให้หมด ก่อนทาสีรองพื้นและทาทับด้วยสีน้ำมันทาภายนอก การใช้สีขาวหรือครีม จะทำให้ได้บรรยากาศแบบบ้านคลาสสิกสไตล์โคโนเนียล
6. เปลี่ยนหน้าต่างและกรอบวงกบใหม่ด้วยการใช้ไวนิลสีขาว และบานประตูหน้าต่างไม้พ่นสีขาว เพื่อให้เข้ากับโทนสีโดยรวมของบ้าน
7. ต่อชานหน้าบ้านเป็นที่นั่งเล่นสบายๆ ด้วยเสาเหล็กกล่องทำสีขาว ขนาด 15 x 15 เซนติเมตร ตีหลังคาระแนงไม้สังเคราะห์ 1½ x 2 นิ้ว ช่วยกรองแสงแดดจ้าที่ส่องผ่าน และทำให้บ้านดูโปร่ง
8. ปรับปรุงแผ่นฝ้าชายคาใหม่ โดยใช้ไฟเบอร์ซีเมนต์ หนา 4-6 มิลลิเมตร ซึ่งปลวกไม่กินและทนน้ำทนแดดได้ดีแถมยังกันนกได้ด้วย
9. โครงหลังคาไม้เก่าของบ้าน อาจมีปัญหาเรื่องการรับน้ำหนักของแผ่นกระเบื้องหลังคา อย่างกระเบื้องว่าว กระเบื้องซีแพคโมเนีย ควรใช้หลังชิงเกิ้ลจะดีกว่า เพราะเป็นวัสดุสังเคราะห์ น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย เลือกโทนสีเทาเพื่อคงความคลาสสิกและดูเข้ากับภาพรวมของบ้าน
เรื่อง : “รุ่งนภา” , “เอกราช” ออกแบบ - ภาพประกอบ : วีรวุฒิ นนทเวชช์ นิตยสารบ้านและสวน ฉบับที่ 400 ประจำเดือน ธันวาคม 2552 ที่มา : //www.baanlaesuan.com
สารบัญตกแต่งบ้าน และ จัดสวน
Create Date : 22 พฤษภาคม 2553 |
|
3 comments |
Last Update : 22 พฤษภาคม 2553 13:30:56 น. |
Counter : 10065 Pageviews. |
|
|
|
ช่วยสงเคราะห์ตัวอย่างหลายๆแบบได้มั๊ยคะ
ไว้เป็นไอเดียน่ะค่ะ..ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ........