"ความสามัคคีปรองดอง เป็นกำลังอย่างสูงสุดของชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ความสามัคคีของคนในชาติ จะทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นอุปสรรค และทำให้สังคมไทย ร่มเย็นเป็นสุข" พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สนใจลงโฆษณา ในพื้นที่ข้างบน ติดต่อ email : nana_sara1000@ymail.com
Home Lover’s Corner นานา สาระ๑๐๐๐ นานา สารพัด พระพุทธประวัติ ภาคพิเศษ
Travel Around the World Real Estate Buyer's Guide สุขภาพกาย สุขภาพใจ Pets & Animals
ปางพระพุทธรูปตามพุทธประวัติ Horoscope 12 ราศี พระพุทธศาสนา World of Beautiful Musics
พญานาค คืออะไร?

พญานาค คืออะไร?

เห็นคนสนใจเรื่องของพญานาคมาก บางคนถามหาหนังสือเกี่ยวกับพญานาค อยากค้นคว้าต่อ บางคนอาจไม่เชื่อเรื่องของพญานาค แต่คนส่วนใหญ่เชื่อ ว่ามันไม่ใช่เป็นเพียงตำนาน ผมเลยหาเวลาค้นคว้ามาให้อ่านกันต่อ




คำจำกัดความของพญานาค มีมากมาย เช่น

พญานาค
หรือนาค เป็นสัตว์มหัศจรรย์ ที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ สามารถแปลงกายได้ พญานาค มีอิทธิฤทธิ์ และมีชีวิตใกล้กับคน และสามารถแปลงเป็นคนได้ เช่นคราวที่แปลงเป็นคนมาขอบวชกับพระพุทธเจ้า ในหนังสือไตรภูมิพระร่วงกล่าวถึงนาคที่ชื่อ “ถลชะ” ที่แปลว่า เกิดบนบก จะเนรมิตกายได้เฉพาะบนบก และนาคชื่อ “ชลชะ” แปลว่า เกิดจากน้ำ จะเนรมิตกายได้เฉพาะในน้ำเท่านั้น

พญานาค ถึงแม้จะเนรมิตกายเป็นอะไรก็ตาม แต่ในสภาวะ 5 อย่างนี้ จะต้องกลับปรากฎเป็นงูใหญ่เช่นเดิม คือ ขณะเกิด ขณะลอกคราบ ขณะสมสู่กันระหว่างนาคกับนาค ขณะนอนหลับ โดยไม่มีสติ และที่สำคัญ ตอนตาย ก็กลับเป็นงูใหญ่เหมือนเดิม


พญานาค
มีพิษร้าย สามารถทำอันตรายผู้อื่นได้ ด้วยพิษ ถึง 64 ชนิด ซึ่งตามตำนานกล่าวว่า สัตว์จำพวกงู แมงป่อง ตะขาบ คางคก มด ฯลฯ มีพิษได้ ซึ่งก็ด้วยเหตุที่ นาคคายได้พิษทิ้งไว้ แล้วพวกงูไปเลีย พวกที่มาถึงก่อนก็เอาไปมาก พวกมาทีหลัง เช่น แมงป่อง กับ มด ได้พิษน้อย แค่เอาหาง เอาก้นไปป้ายเศษพิษ จำพวกนี้จึงมีพิษน้อย และพญานาคต้องคายพิษทุก 15 วัน


พญานาค
อาศัยอยู่ใต้ดิน หรือบาดาล คนโบราณเชื่อว่าเมื่อบนสวรรค์มีเทพเทวาอาศัยอยู่ลึกลงไปใต้พื้นโลก ก็น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง กล่าวว่า ที่ที่นาคอยู่นั้นลึกลงไปใต้ดิน 1 โยชน์ หรือ 16 กิโลเมตร มีปราสาทราชวังที่วิจิตรพิสดารไม่แพ้สวรรค์ ที่มีอยู่ถึง 7 ชั้น เรียงซ้อนๆ กัน ชั้นสูงๆ ก็จะมีความสุขเหมือนสวรรค์


พญานาค
สามารถผสมพันธุ์กับสัตว์ชนิดอื่นได้ แปลงกายแล้วผสมพันธุ์กับมนุษย์ได้ เมื่อนาคตั้งท้องจะออกลูกเป็นไข่เหมือนงู มีทั้งพันธุ์เศียรเดียว 3, 5 และ 7 เศียร สามารถขึ้นลงตั้งแต่ใต้บาดาลพื้นโลกจนถึงสวรรค์ ในทุกตำนานมักจะกล่าวถึงนาคที่ขึ้น-ลง ระหว่างเมืองบาดาลกับเมืองสวรรค์ ที่จะแปลงกายเป็นอะไรตามที่คิด ตามสภาวะเหตุการณ์นั้น ๆ

เราจะเห็นว่า พญานาค หรือ งูใหญ่ นั้น มีความเป็นมาและถิ่นที่อยู่ เป็นสัดส่วนในภพหนึ่งต่างหาก จะมีเป็นบางครั้งที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้





พญานาค เป็นทั้งเอกลักษณ์ของความดี และความไม่ดี


พญานาค
หมายถึงงูใหญ่ มีหงอน สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ความมีวาสนา และบันไดสายรุ้งสู่จักรวาล เป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ จากการจำศีล บำเพ็ญภาวนา ศรัทธาในพุทธศาสนา ไม่เบียดเบียนผู้อื่น

เรื่องของนาค ไม่เพียงเป็นความเชื่อของผู้นับถือศาสนาพุทธเท่านั้น ในประเทศอินเดีย ต้นกำเนิดของพุทธศาสนา ยังมีศาสนาฮินดู ทางใต้ของอินเดีย ที่เชื่อเรื่องของนาค ที่มีที่อยู่ใต้พิภพ บางที่ก็เรียกว่า มนุษย์งู เรื่องของนาค มีหลายบท ที่เกี่ยวข้องกับเทพเจ้าและตำนานสำคัญของอินเดีย ทั้งเรื่องของพระวิษณุ และเรื่องรามเกียรติ์ ชาวฮินดูถือว่า พญานาคเป็นผู้ใกล้ชิดกับเทพองค์ต่างๆ เป็นเทพเจ้าแห่งน้ำ เช่น อนันตนาคราช ที่เป็นบัลลังก์ของพระนารายณ์ตรงกับความเชื่อของลัทธิพราหมณ์







แม้พวกอบอริจินของออสเตรเลีย ก็ยังมีความเชื่อว่า นาค หรือ nagas อาศัยในทวีปหนึ่ง ที่อยู่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างอินโดนิเซีย และออสเตรเลีย พวกนาคนี้ มีอารยธรรม และเทคโนโลยี่ ที่สูงส่งกว่ามนุษย์ อีกทั้งยังมีพลังอำนาจ หรือ ฤทธิ์ ที่สูงกว่ามนุษย์

พญานาคในตำนานของฝรั่ง หรือชาวตะวันตก ถือว่าเป็นตัวแทนของกิเลส ความชั่วร้าย ตรงข้ามกับชาวตะวันออก ที่ถือว่า งูใหญ่ พญานาค และมังกร เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พลังอำนาจ


ส่วนทางพุทธศาสนา มีเรื่องที่เกี่ยวข้องมากมายเช่นกัน ทำให้ผู้ที่เลื่อมใส นับถือใน พุทธศาสนา ไม่อาจปฏิเสธความเชื่อเรื่องพญานาคไปได้ เพียงแต่ ยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน ทางวิทยาศาสตร์ มารับรองเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักวิทยาศาสตร์ ยังพิสูจน์เรื่องนี้ไม่ได้ เพราะแม้แต่เรื่องวิญญาณที่ใกล้ตัวเรามากกว่า ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ หรือไม่ยอมรับเลย แล้วเรื่องยากๆ จะมีใครมีความสามารถพิสูจน์ หรือประดิษฐ์เครื่องมือ มาค้นหาได้ หน้าที่ของวิทยาศาสตร์ก็ต้องทำการพิสูจน์หาความจริงกันต่อไป

แต่ศาสนาเมื่อปลูกฝังความเชื่อและปฏิบัติตามหลักศีลธรรม คือการบูชาบุคคลที่ควรบูชาถือว่าเป็นมงคลอย่างหนึ่ง เพราะพญานาคมีปรากฏในหลักฐานสำคัญของพระพุทธศาสนา และมีความเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าหลายแห่ง แม้แต่พระพุทธเจ้าเองเมื่อยังบำเพ็ญบารมี ก็ยังเคยถือกำเนิดเป็นพญานาคด้วย

ผมจึงนำมาเรื่องที่ นาค เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา มาให้ดูกันครับ









พญานาคกับพระพุทธศาสนา


เรื่องของพญานาคนั้นพระพุทธศาสนาได้แสดงหลักฐานไว้มากมายหลายเรื่อง เรามักจะพบเห็นรูปปั้นหน้าโบสถ์ ตามวัดต่างๆ บันไดขึ้นสู่วัดในพุทธศาสนา ที่เป็นพญานาค และภาพเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง กับศาสนาพุทธอีกมากมาย


พญานาคที่ปรากฏในพระไตรปิฎก


เรื่องของพญานาค มีปรากฎหลายแห่งทั้งในพระไตรปิฎก อันเป็นคัมภีร์สำคัญของพระพุทธศาสนาเถรวาท และอรรถกถาต่างๆ ดังต่อไปนี้

วินัยปิฎก มหาวรรค (๔/๕/๗) กล่าวถึง “มุจจลินทนาคราช” ว่า




ภายหลังที่ทรงตรัสรู้ ล่วงได้ ๗ วัน พระผู้มีพระภาคทรงออกจากสมาธินั้น ทรงเสด็จจากควงไม้อชปาลนิโครธ เข้าไปยังต้นไม้มุจจลินท์ แล้วประทับนั่งด้วยบัลลังก์เดียว เสวยวิมุตติสุข ณ ควงไม้มุจจลินท์ตลอด ๗ วัน ครั้งนั้น เมฆใหญ่ในสมัยมิใช่ฤดูกาลตั้งขึ้นแล้ว ฝนตกพรำเจือด้วยลมหนาว ตลอด ๗ วัน มุจจลินทนาคราช ออกจากที่อยู่ของตน ได้แวดวงพระกายพระผู้มีพระภาคด้วยขนด ๗ รอบ ได้แผ่พังพานใหญ่เหนือพระเศียรสถิตอยู่ด้วยหวังใจว่า ความหนาว ความร้อนอย่าเบียดเบียนพระผู้มีพระภาค สัมผัสแห่งเหลือบ ยุง ลม แดด และสัตว์เลื้อยคลาน อย่าเบียดเบียนพระผู้มีพระภาค

ครั้นล่วง ๗ วัน มุจจลินทนาคราช รู้ว่า อากาศปลอดโปร่งปราศจากฝนแล้ว จึงคลายขนดจากพระกายของพระผู้มีพระภาค จำแลงรูปของตนเป็นเพศมาณพ ได้ยืนประคองอัญชลีถวายมนัสการพระผู้มีพระภาค ทางเบื้องพระพักตร์พระผู้มีพระภาค


ในอรรถกถาพระวินัย สมันตปาสาทิกา มหาวิภังควรรณนา

หน้า ๒๐๒

ในการอรรถาธิบายพระพุทธคุณบทว่า “ปุริสทมฺมสารถิ” พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นที่ทรงพระนามว่า ปุริสทมฺมสารถิ เพราะอรรถวิเคราะห์ว่า ยังบุรุษผู้พอจะฝึกได้ให้แล่นไป มีอธิบายไว้ว่าย่อมฝึก คือแนะนำ สัตว์ดิรัจฉานตัวผู้ก็ดี มนุษย์ผู้ชายก็ดี อมนุษย์ผู้ชายก็ดี ผู้ที่ยังมิได้ฝึก ควรเพื่อจะฝึกได้ ชื่อว่าปุริสทัมมา ในคำว่าปุริสทมฺมสารถินั้น

แม้สัตว์ดิรัจฉานตัวผู้มีอาทิอย่างนี้ คือ อปลาลนาคราช จุโฬทรนาคราช มโหทรนาคราช อัคคิสิขนาคราช ธูมสิขนาคราช อาลวาฬนาคราช ช้างชื่อธนบาลก์ อันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงฝึกแล้ว คือทรงทำให้สิ้นพยศแล้วให้ตั้งอยู่ในสรณะและศีลทั้งหลาย



อรรถกถาปาสราสิสูตร มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์

เล่ม ๑ ภาค ๒ หน้าที่ ๔๕๖



ได้กล่าวถึงพญานาคไว้ว่า เมื่อพระโพธิสัตว์เสด็จไปยังริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา แล้ววางถาดทองไว้ริมฝั่งลงสรงน้ำเสด็จขึ้นแล้ว ทรงปั้นข้าวมธุปายาสจำนวน ๔๙ ก้อน เสวยข้าวมธุปายาสแล้วทรงเสี่ยงทายว่า “ถ้าเราจะเป็นพระพุทธเจ้าวันนี้ ขอถาดจงลอยทวนกระแสน้ำดังนี้” แล้วทรงเหวี่ยงถาดไป ถาดก็ลอยทวนกระแสน้ำแล้วหยุดหน่อยหนึ่ง เข้าไปสู่ภพของ ท้าวกาฬนาคราช วางทับถาดของพระพุทธเจ้า ๓ พระองค์


อรรถกถาพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก

เล่ม ๓ ภาค ๑ หน้าที่ ๑๑๕

กล่าวไว้ทำนองเดียวกันว่า พระโพธิสัตว์ครั้นเสวยข้าวข้าวปายาสนั้นแล้ว จับถาดทองทรงอธิษฐานว่า ถ้าเราจักได้เป็นพระพุทธเจ้าในวันนี้ไซร้ ถาดของเราใบนี้จงลอยทวนกระแสน้ำไป ถ้าจักไม่ได้เป็นจงลอยไปตามกระแสน้ำ ครั้นทรงอธิษฐานแล้วได้ลอยถาดไป ถาดนั้นลอยตัดกระแสน้ำไปถึงกลางแม่น้ำ ณ ที่ตรงกลางแม่น้ำนั่นแลได้ลอยทวนกระแสน้ำ ไปสิ้นสถานที่ประมาณ ๘๐ ศอก เปรียบเหมือนม้าซึ่งเพียบพร้อมด้วยฝีเท้าอันเร็วไวฉะนั้น แล้วจมลงที่น้ำวนแห่งหนึ่งจมลงไปถึงภพของกาลนาคราช กระทบถาดเครื่องบริโภคของพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์ มีเสียงดังกริ๊ก ๆ แล้วได้วางรองอยู่ใต้ถาดเหล่านั้น

กาลนาคราช ครั้นได้สดับเสียงนั้นแล้ว กล่าวว่า เมื่อวานนี้พระพุทธเจ้าทรงบังเกิดแล้วองค์หนึ่ง วันนี้บังเกิดอีกองค์หนึ่ง จึงได้ยืนกล่าวสดุดีด้วยบทหลายร้อยบท ได้ยินว่า “เวลาที่มหาปฐพีงอกขึ้นเต็มท้องฟ้า ประมาณหนึ่งโยชน์สามคาวุต ได้เป็นเสมือนวันนี้ หรือวันพรุ่งนี้แก่ กาลนาคราช นั้น” อายุของกาลนาคราชยืนยาวมาก เพราะหากถือตามนี้หนึ่งพุทธันดร
เท่ากับ ๑ วันของพญานาค


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท

เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๑ หน้าที่ ๑๑๙

บรรยายไว้ว่า เวลาเย็นทรงรับหญ้าที่นายโสตถิยะถวาย มีพระคุณอันพระยากาฬนาคราชชมเชยแล้ว เสด็จสู่ควงไม้โพธิ ปฏิญญาว่า

"เราจักไม่ทำลายบัลลังก์นี้ ตลอดเวลาที่จิตของเราจักยังไม่หลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลาย ด้วยการไม่เข้าไปถือมั่น"



อรรถกถารัฏฐปาลสูตร มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์

เล่ม ๒ ภาค ๒ หน้าที่ ๔๘

ได้กล่าวถึงพญานาคเคยถวายทานแด่พระพุทธเจ้าว่า “ครั้งนั้นกุฏุมพีทั้งสองนั้นทำการบำรุงดาบสเหล่านั้นจนตลอดชีวิต เมื่อเหล่าดาบสบริโภค แล้วอนุโมทนา รูปหนึ่งกล่าวพรรณนาคุณของภพท้าวสักกะ รูปหนึ่งพรรณนาคุณภพของนาคราช เจ้าแผ่นดิน

บรรดากุฏุมพีทั้งสอง คนหนึ่งปรารถนาภพท้าวสักกะ ก็บังเกิดเป็นท้าวสักกะ
คนหนึ่งปรารถนาภพนาคก็เป็นนาคราชชื่อ ปาลิตะ ท้าวสักกะเห็นนาคนั้นมายังที่บำรุงของตน จึงถามว่า ท่านยังยินดียิ่งในกำเนิดนาคอยู่หรือ

ปาลิตะนาคราช นั้นตอบว่า เราไม่ยินดีดอก ท้าวสักกะบอกว่า ถ้าอย่างนั้นท่านจงถวายทานแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าปทุมุตตระสิ แล้วทำความปรารถนาจะอยู่ในที่นี้ เราทั้งสองจะอยู่เป็นสุข

นาคราชนิมนต์พระศาสดามาถวายมหาทาน ๗ วัน แก่พระผู้มีพระภาคเจ้าซึ่งมี ภิกษุ ๑๐๐,๐๐๐ รูป เป็นบริวาร เห็นสามเณรโอรสของพระปทุมุตตรทศพลชื่ออุปเรวตะ วันที่ ๗ ถวายผ้าทิพย์แด่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข จึงปรารถนาตำแหน่งของสามเณร


อรรถกถาปุณโณวาทสูตร มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์

เล่ม ๓ ภาค ๒ หน้าที่ ๔๔๙

พระพุทธเจ้าเคยเสด็จไปแม่น้ำชื่อ นิมมทา ได้เสด็จไปถึงฝั่งของแม่น้ำนั้น
นิมมทานาคราช ถวายการต้อนรับ พระศาสดาทูลเสด็จเข้าสู่ภพนาค ได้กระทำสักการะพระรัตนตรัยแล้ว พระศาสดาทรงแสดงธรรมแก่นาคราชนั้นแล้ว ก็เสด็จออกจากภพนาค

นาคราชนั้นกราบทูลขอว่า ได้โปรดประทานสิ่งที่พึงบำเรอแก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงทรงแสดงบทเจดีย์ รอยพระบาท ไว้ที่ฝั่งแม่น้ำนิมมทา รอยพระบาทนั้นเมื่อคลื่นซัดมาก็ถูกปิด เมื่อคลื่นเลยไปแล้วก็ถูกเปิด กลายเป็นรอยพระบาทที่ถึงสักการะอย่างใหญ่

เมื่อพระศาสดาทรงออกจากนั้นแล้วก็เสด็จถึงภูเขาสัจจพันธ์ ตรัสกับพระสัจจพันธ์ว่า มหาชนถูกเธอทำให้จมลงในทางอบาย เธอต้องอยู่ในที่นี้แหละ แก้ลัทธิของพวกคนเหล่านี้เสีย แล้วให้พวกเขาดำรงอยู่ในทางพระนิพพาน แม้ท่านพระสัจจพันธ์นั้น ก็ทูลชื่อสิ่งที่จะต้องบำรุง พระศาสดาก็ทรงแสดงรอยพระบาทไว้ บนหลังแผ่นหินทึบเหมือนประทับตราไว้บนก้อนดินเหนียวสดๆ ฉะนั้นต่อจากนั้นก็เสด็จไปถึงพระเชตวัน



รัตนสูตร ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ

เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้าที่ ๒๒๕

กล่าวถึงการต้อนรับของพญานาคว่า ครั้งนั้นพระเจ้าพิมพิสาร ทรงทำเรือขนาน ๒ ลำ แล้วสร้างมณฑปประดับด้วยพวงดอกไม้ ปูลาดพุทธอาสน์ทำด้วยรัตนะล้วน ณ มณฑปนั้น ที่นั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งเหนือพุทธอาสน์นั้น แม้ภิกษุ ๕๐๐ รูปก็ลงเรือนั่งกันตามสมควร พระราชาส่งเสด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าลงน้ำ ประมาณแต่พระศอ กราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์จักอยู่กันริมฝั่งแม่น้ำคงคานี้นี่แหละ จนกว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าจะเสด็จกลับมา” แล้วก็เสด็จกลับ

เทวดาเบื้องบนจนถึงอกนิษฐภพ ได้พากันทำการบูชานาคราชทั้งหลาย มีกัมพลนาคและอัสสตรนาคเป็นต้น ซึ่งอาศัยอยู่ใต้แม่น้ำคงคา ก็พากันทำการบูชาด้วยการบูชาใหญ่อย่างนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จไปทางแม่น้ำคงคา สิ้นระยะทางไกลประมาณโยชน์หนึ่ง ก็เข้าเขตแดนของพวกเจ้าลิจฉวี กรุงเวสาลี



อรรถกถาชาดก เอกนิบาต ขุททกนิกาย ชาดก

เล่ม ๓ ภาค ๑ หน้าที่ ๕๘

กล่าวถึงพระพุทธเจ้าเคยเป็นพญานาคว่า ในกาลนั้นพระมหาสัตว์ได้เป็นนาคราชนามว่า “อตุละ” มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก พระยานาคนั้นได้ยินว่า พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นแล้ว มีหมู่ญาติห้อมล้อมแล้ว ออกจากนาคพิภพ ให้กระทำการบรรเลงถวายด้วยทิพยดนตรี แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์บริวารแสนโกฎิ ถวายผ้าคู่เฉพาะองค์แล้วตั้งอยู่ในสรณะ

พระศาสดาแม้นั้นก็ทรงพยากรณ์เขาว่า จักได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต พระนครของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ชื่อเมขลา พระราชาทรงพระนามว่า สุทัตตะ เป็นพระราชบิดาพระราชมารดาทรงพระนามว่าสิริมา

พระอัครสาวกสององค์คือ สรณะ และ ภาวิตัตตะ พระอุปราชนามว่าอุเทนะ พระอัครสาวิกาสององค์นามว่า โสณาและอุปโสณา และต้นนาคพฤกษ์เป็นไม้ตรัสรู้ พระสรีระสูงได้ ๙๐ ศอก ประมาณพระชนมายุได้ ๙๐,๐๐๐ ปี ด้วยประการฉะนี้



พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก

เล่ม ๓ ภาค ๑ - หน้าที่ ๗๖

ในกาลที่เป็น ฉัททันตนาคราช ในคัมภีร์รุ่นหลัง กล่าวถึงพญานาคมากมาย เช่นใน ตำนานสิงหนวัติ กล่าวว่า เมื่อเจ้าเมืองสิงหนวัติอพยพคนมาจากทางเหนือ พญานาคแปลงกายมาช่วยชี้ที่ตั้งเมืองใหม่ และขอให้อยู่ในทศพิธราชธรรม พอตกกลางคืน ก็ขึ้นมาสร้างคูเมือง ๔ ด้าน เป็นเมืองนาคพันธุ์สิงหนวัติ ต่อมาเมื่อยกทัพปราบเมืองอื่นได้ และรวมดินแดนเข้าด้วยกัน จึงเปลี่ยนชื่อเป็น แคว้นโยนกนาคราช

จากคตินี้ ที่เห็นได้ชัดก็คือ ที่ ปราสาทพนมรุ้ง จะมีคูเมืองที่เป็นสระน้ำ ๔ ด้าน รอบปราสาท และมี พญานาค อยู่ด้วย ตามความเชื่อของคนสมัยโบราณ นาคจะมีความหมายเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากน้ำ เช่น การสร้างศาสนสถานไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ นาคที่ราวบันได จึงมี พญานาค ซึ่งตามความเชื่อ การสร้างต้องสร้างกลางน้ำ เพื่อให้ดูเหมือนว่าศาสนสถานนั้นลอยอยู่เหนือน้ำ แต่ก็ไม่ต้องสร้างจริงๆ เพียงแต่มีสัญลักษณ์ พญานาค ไว้ เช่นที่ ปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นต้น








เรื่องราวของ พยานาค ยังไม่จบเพียงแค่นี้ครับ ตอนนี้จะเป็นเรื่องที่มี พยานาคเข้ามาเกี่ยวข้องในพุทธประวัติ แต่ในตอนต่อไป จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ พระพุทธเจ้า ที่เคยกำเนิดเป็นพญานาค อีกด้วย

ติดตามต่อได้ครับ


TraveLArounD




Create Date : 23 เมษายน 2552
Last Update : 23 เมษายน 2552 18:05:32 น. 16 comments
Counter : 15821 Pageviews.

 
Thank you ka.


โดย: CrackyDong วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:20:14:59 น.  

 
ชอบอ่านครับ


โดย: เด็กริมคลอง วันที่: 27 มิถุนายน 2552 เวลา:16:27:07 น.  

 
อ๊ะ.... ลืมไป..... คุณครูสั่งให้หาความหมายของพญานาคพอดีเรย..... ขอบคุนมากงัฟที่เขียนเอาไว้.... ว่างๆผมจะมาอ่านอีกนะงัฟ........ *-* บายงัฟ


โดย: เด็กเรียนป.5งัฟ IP: 118.173.119.28 วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:19:15:30 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความรู้ที่ดีครับ


โดย: คนสนใจ IP: 118.172.37.244 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:36:02 น.  

 
สุดยอด


โดย: pitoon IP: 124.121.246.14 วันที่: 10 มกราคม 2553 เวลา:18:03:36 น.  

 
พญานาคมีจริงนะขอบอก!!!!~~~(^0^)อิอิ


โดย: พาที IP: 203.144.144.165 วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:21:09:52 น.  

 
ดี

มากๆ

คร้า


โดย: eye IP: 115.67.21.145 วันที่: 19 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:48:03 น.  

 
เขียนบทความแล้ว กรุณาช่วย บอกชื่อผู้แต่งเป็นภาษาไทยอย่างชักเจนด้วยนะค่ะ เพื่อจะนำไปอ้างอิงอย่างถูกต้อง แล้วจะเป็นความกรุณาอย่างสูง ขอบคุณค่ะ


โดย: คนทำภาคนิพนธ์ IP: 180.183.226.161 วันที่: 22 ธันวาคม 2553 เวลา:14:49:51 น.  

 
ดี

มากๆๆๆๆๆ

55555



โดย: GuOsKung IP: 125.27.94.121 วันที่: 7 ธันวาคม 2554 เวลา:13:04:55 น.  

 
ดีๆๆๆๆจัง


โดย: bb IP: 58.181.196.210, 58.181.196.194 วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:11:51:57 น.  

 
ผมว่าพญานาคเป็นเทพชั้นสูงและการติดต่อกับคนได้ก็คือคนที่อดีดตชาติเคยมีเชื้อสายพยานาคมาเป็นหมื่นฯปีพอเกิดมาเป็นคนก็จะโดนกำหนดมาว่าจะมาช่วยคนอย่างไรหรือให้มาจัดการพวกมนต์ดำพอแล้วนะถ้าอยากรู้มากกว่านี้โทรคุยกันดีกว่านะผมพิมไม่เก่ง 0863151306


โดย: แม่น้ำ IP: 58.137.22.162 วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:17:31:30 น.  

 
เป็นคนชอบพญานาคมากคร๊


โดย: ชลธิชา อินทะนู IP: 1.4.163.92 วันที่: 26 พฤษภาคม 2555 เวลา:15:44:47 น.  

 
สุดยอด


โดย: ชิน 13 คร๊าฟ IP: 182.93.181.76 วันที่: 7 มีนาคม 2556 เวลา:9:02:15 น.  

 
ดากดาก


โดย: เก้าครับ IP: 182.93.181.76 วันที่: 7 มีนาคม 2556 เวลา:9:04:14 น.  

 
สวย


โดย: ชิน 13 คร๊าฟ45 IP: 182.93.181.76 วันที่: 7 มีนาคม 2556 เวลา:9:05:26 น.  

 
ดีมาก


โดย: ไรนะ IP: 182.93.181.76 วันที่: 7 มีนาคม 2556 เวลา:9:06:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

travelaround
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]





ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะเข้ามาชม blog มีข้อคิดเห็น เชิญ comment มาได้นะครับ ถ้าตอบได้ จะตอบให้ทันทีครับ แต่ถ้าไม่ทราบ ต้องขอเวลา จะค้นคว้ามาให้อ่านกัน ท่านที่จะถามคำถาม หรือติดต่อเรื่องบทความ ได้ทาง Email :- d_sign_place@yahoo.com ครับ


เรื่องต่างๆที่ผมได้เขียนหรือรวบรวม เรียบเรียงมานี้ ยินดีให้ทุกท่านได้อ่านเป็นวิทยาทานและเพื่อการศึกษา ถ้าจะนำไปโพสต่อใน website สาธารณะ หรือ website อื่นใดที่ไม่ใช่ทางพาณิชย์ กรุณาระบุที่มา คือ https://www.travelaround.bloggang.com และนามปากกาผู้เขียนคือ TraveLArounD ด้วย

แต่ขอสงวนสิทธิ์สำหรับการนำไปใช้ ในเชิงพาณิชย์ หรือโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง จะถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายลิขสิทธิ์

ส่วนบทความหรือภาพถ่ายใดๆ ที่ได้นำมาจาก website อื่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบเรื่องนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากวิจารณญาณแล้วว่า มีความถูกต้องเป็นจริง มากที่สุด และได้นำมาจาก website ที่เป็นสาธารณะ ถ้าเรื่องราวหรือภาพของท่านที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของท่าน กรุณาแจ้งมาทาง email :– nana_sara1000@ymail.com ผมจะทำการลบข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ออกทันที

Acknowledges that I try to write or report accurately but postings may contain fact , speculation or rumor. I find images from the Web that are believed to belong in the public domain. If any stories or images that appear on the site are in violation of copyright law, please email to :- nana_sara1000@ymail.com and I will remove the offending information as soon as possible.


Website counter
: Users Online









ที่ดินเชียงใหม่ ทางไปแม่ริม ใกล้ศาลากลาง และสนามกีฬา 700 ปี ติดน้ำปิง ในหมู่บ้านเพชรริมปิง พื้นที่ 667 ตารางวา @ 14,000.- บาท สภาพแวดล้อมดี สนใจติดต่อ โทร. 0859559950



DESIGN PLACE CO.,LTD. รับออกแบบ และตกแต่งภายใน บ้านพักอาศัย ในแบบไทย และไทยร่วมสมัย



มรดก ฉบับที่ 1

มรดก ฉบับที่ 2

มรดก ฉบับที่ 3

มรดก ฉบับที่ 4

มรดก ฉบับที่ 5

มรดก ฉบับที่ 6

มรดก ฉบับที่ 7

ช่วยสนับสนุนการจัดทำ BLOG ด้วยการซื้อหนังสือ "มรดก" 1ชุด 7เล่ม (หนังสือเก่า) ในราคาชุดละ 700 บาท (รวมค่าส่งทางไปรษณีย์)

สนใจสั่งซื้อทาง E-mail :- nana_sara1000@ymail.com



New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add travelaround's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.