"ความสามัคคีปรองดอง เป็นกำลังอย่างสูงสุดของชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ความสามัคคีของคนในชาติ จะทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นอุปสรรค และทำให้สังคมไทย ร่มเย็นเป็นสุข" พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สนใจลงโฆษณา ในพื้นที่ข้างบน ติดต่อ email : nana_sara1000@ymail.com
Home Lover’s Corner นานา สาระ๑๐๐๐ นานา สารพัด พระพุทธประวัติ ภาคพิเศษ
Travel Around the World Real Estate Buyer's Guide สุขภาพกาย สุขภาพใจ Pets & Animals
ปางพระพุทธรูปตามพุทธประวัติ Horoscope 12 ราศี พระพุทธศาสนา World of Beautiful Musics
พระพิฆเนศ-เทพเจ้าแห่งความสำเร็จและศิลปวิทยา

พระคเนศหรือพิฆเนศวร

พระคเนศหรือพิฆเนศวร เป็นเทพองค์หนึ่งในศาสนาพราหมณ์และฮินดู ตามความเชื่อกันว่า เป็นเทพแห่งความรู้ และความสำเร็จ โดยเฉพาะนับถือกันว่า เป็นเทพเหนือการรจนาหนังสือใดๆ และเป็นเทพที่ขจัดความขัดข้องทั้งมวล อำนวยความสำเร็จให้แก่กิจการต่างๆ ดังนั้นชาวฮินดูจึงนิยมกราบไหว้พระพิฆเนศ เพื่อความเป็นศิริมงคล ก่อนที่จะทำการสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง การเขียนหนังสือ การแต่งหนังสือ เขาจะกราบไหว้บูชาพระคเนศเสียก่อน เพื่อขอให้ปราศจากการขัดข้องทั้งปวง และเพื่อให้กิจนั้นสำเร็จผล นอกจากนี้พระคเนศยังเป็นเทพแห่งศิลปวิทยาอีกด้วย ดังนั้นตราประจำกรมศิลปากรจึงได้ใช้รูปพระคเนศเป็นสัญลักษณ์





ชาวฮินดูนิยมบูชาพระคเนศกันมาก รูปพระคเนศมีอยู่ทั่วไปทุกภาคของประเทศอินเดีย โดยเฉพาะภาคใต้ของประเทศอินเดียถือว่าพระคเนศเป็นเทพประจำหมู่บ้านและเทพประจำเรือน ตื่นนอนขึ้นมาหรือก่อนเข้านอนก็จะต้องบูชา ความเคารพบูชาพระคเนศได้แพร่หลายไปยังประเทศเนปาลและแคว้นตุรกีสถานของประเทศจีน เกาะชวา บาหลี และบอร์เนียว นอกจากนี้ยังแพร่หลายไปในประเทศธิเบต พม่า ไทย จีน กัมพูชา และญี่ปุ่น


รูปพระคเนศจะมีรูปลักษณะแตกต่างกันไปตามคติที่นิยมนับถือกัน เช่น ตามปกติพระคเนศถืองาช้างกิ่งหนึ่ง แต่พระคเนศของจีน ธิเบต และญี่ปุ่น ทรงถือหัวผักกาดมีใบสามแฉกคล้ายรูปตรีหรือวชิราวุธ พระคเนศของอินเดียท้องพลุ้ย และมีงาข้างเดียว เพราะงาอีกข้างหนึ่งถูกปรศุรามขว้างด้วยขวานหักลงและพระคเนศเอามาถือไว้ ส่วนพระคเนศของไทยท้องไม่พลุ้ยเหมือนพระคเนศของอินเดียและบางทีก็มีงาครบทั้งสองข้าง สำหรับพระคเนศของชวาลักษณะไปทางอินเดีย แต่ทรงหัวกะโหลกผีไว้บนหัวพระเศียรบ้าง เป็นกุณฑลบ้าง และประทับอยู่เหนืออาสน์ซึ่งมีหัวกะโหลกผีรองรับอยู่เป็นแถวบ้าง





นามของพระคเนศมีอยู่มากมายหลายชื่อด้วยกัน เช่น
คณบดี คณนายก (ผู้เป็นใหญ่ในคณะเทพ)
วิฆนราช (ผู้เป็นใหญ่ในความติดขัด)
วิฆนนาศน์ (ผู้ขจัดความขัดข้อง)
กรีมุจ (ผู้มีหน้าเป็นช้าง)
เอกทันต์ (ผู้มีงาเดียว)
อาขุรถ (ผู้ทรงหนูเป็นพาหนะ)
ลัมโพทร (ผู้มีท้องย้อย)
ลัมพกรรณ (ผู้มีหูยาน) เป็นต้น







ประวัติของพระคเนศ มีกล่าวไปต่างๆกัน เพราะได้มาจากคัมภีร์ต่างกัน คนเขียนคนละชาติคนละถิ่น บางทีเรื่องเดียวกันแต่ก็อธิบายไปคนละอย่าง ตามคติความเชื่อและความนิยมนับถือที่ต่างกันไป ในคัมภีร์พรหมไววรรตปุราณะ กล่าวถึงกำเนิดพระคเนศว่า พระอุมาไม่มีโอรส พระอิศวรจึงแนะนำให้พระอุมาทำพิธีปันยากพรต คือพิธีบูชาพระวิษณุ เมื่อพระองค์ได้พระกุมารสมดังปรารถนา บรรดาเทพทั้งหลายทราบข่าว ต่างก็มาแสดงความยินดีกัน ในบรรดาเทพเหล่านั้น มีพระศนิ (พระเสาร์ ) รวมอยู่ด้วย พระศนิมาเพื่อเป็นเกียรติเท่านั้น ไม่กล้ามองพระคเนศกุมาร เพราะว่าสายพระเนตรของพระศนิ สามารถเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างได้ (ที่เป็นเช่นนี้ เพราะว่าครั้งหนึ่งภรรยาพระศนิหาว่า มัวแต่ภาวนาถึงพระวิษณุ ไม่ใส่ใจนาง นางเลยสาปว่า ถ้าพระศนิมองดูใคร ขอให้ผู้นั้นถึงแก่ความพินาศ ) พระอุมาเห็นพระศนิมัวแต่มองที่พื้น ไม่มองพระกุมาร ก็ชักไม่พอพระทัย ถามว่าทำไมไม่มองดูพระกุมารของพระองค์บ้าง พระศนิก็เล่าเรื่องที่ถูกสาปให้ฟัง แต่พระอุมาไม่เชื่อที่พระศนิเล่า จึงบอกไปว่าไม่เป็นไรหรอก มองดูเถอะ พระศนิยังไม่แน่ใจ ก็ขอให้พระธรรมราช หรือพระยม เป็นพยาน พอพระองค์เหลือบมองดูพระกุมารเท่านั้น พระเศียรของพระกุมารก็ขาดจากพระศอกระเด็นหายไป เมื่อพระนารายณ์ทรงทราบ ดูจะมีสติดีกว่าเทพองค์อื่นๆ ได้เสด็จขึ้นทรงครุฑไปยังแม่น้ำบุษปภัทร ไปพบช้างนอนหลับ หันหัวไปทางทิศตะวันตก ก็ทรงตัดศีรษะช้างนั้น กลับมาต่อที่พระศอของพระกุมาร กุมารนั้นก็เลยมีพระเศียรเป็นช้าง กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก พระอุมาทรงเสียพระทัยและขัดเคืองพระศนิมาก ที่ทำให้พระกุมารเศียรขาดหายไป ทั้งๆที่เป็นผู้อนุญาตเอง พระอุมาเลยสาปให้พระศนิเดินขาเขยก ตั้งแต่นั้นมา





อีกเรื่องหนึ่งกล่าวถึงสาเหตุที่พระคเนศมีพระเศียรเป็นช้างว่า เมื่อครั้งที่พระอิศวรจะทำพิธีโสกัณฑ์พระคเนศ ณ เขาไกรลาศ ได้เชิญพระนารายณ์เสด็จมาเจริญพระเกศา เพื่อเป็นสิริมงคล ครั้นถึงวันมงคล พระนารายณ์เผอิญบรรทมหลับสนิท พระอิศวรจึงมีเทวโองการ ให้พระอินทร์เอามหาสังข์ไปเป่าปลุกพระนารายณ์ในเกษียรสมุทร พระนารายณ์กำลังบรรทมหลับสนิท แว่วเสียงมหาสังข์ก็ลืมพระเนตรขึ้น พระอินทร์กราบทูลว่าพระอิศวรให้เชิญเสด็จไปงานมงคลโสกัณฑ์พระคเนศ พระนารายณ์จึงพลั้งพระโอษฐ์ว่า ลูกหัวหายจะนอนหลับให้สบายก็ไม่ได้ แล้วก็เสด็จไปยังเขาไกรลาศพร้อมกับพระอินทร์ แต่เมื่อพระนารายณ์ตรัสดังนั้น ด้วยอำนาจวาจาสิทธิ์ พระเศียรของพระคเนศก็อันตรธานหายไป พระอิศวรจึงมีเทวโองการให้พระอินทร์ไปหาพระเศียรนั้น พระอิศวรไปหาพระเศียรของพระคเนศไม่พบ ก็เที่ยวไปหาศีรษะของคนที่จะถึงแก่ความตายในโลกมนุษย์ ก็หาไม่ได้ เมื่อไปพบช้างตัวหนึ่งนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก พระอินทร์จึงได้ตัดเอาหัวช้างนั้นไปถวายพระอิศวร พระอิศวรกับทวยเทพก็ช่วยกันเอาหัวช้างนั้นต่อกับองค์พระคเนศ ตั้งแต่นั้นมาพระคเนศจึงมีเศียรเป็นช้าง และความเชื่อแต่โบราณของไทยที่ห้ามนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก เพราะถือว่าเป็นทิศอัปมงคล ก็เป็นคติความเชื่อ ที่เราสืบทอดกันมาจากเรื่องนี้ส่วนหนึ่ง





นอกจากนี้เรื่องกำเนิดพระคเนศยังมีอีกเรื่องหนึ่งว่า คราวหนึ่งพระอุมากำลังสรงน้ำอยู่ในที่รโหฐาน พระอุมาเอาไคลขมิ้นที่ทาพระกายมาปั้น แล้วเนรมิตเป็นชายรูปงามเป็นนายทวารบาล แล้วสั่งให้เฝ้าพระทวารไว้ ไม่ให้ผู้ใดเข้าไปข้างในโดยเด็ดขาดในขณะที่พระองค์กำลังสรงน้ำอยู่ วันหนึ่งพระอิศวรมีพระประสงค์จะพบพระอุมา แต่นายทวารบาลไม่ยอมให้เข้าไป พระอิศวรต้องการจะเข้าไปให้ได้ เลยเกิดการสู้รบกันขึ้น พระอิศวรสู้ไม่ได้ พระนารายณ์และทวยเทพต้องมาช่วยกันสู้รบกับนายทวารบาล พระนารายณ์ได้โอกาสตัดคอนายทวารบาลขาด พระอุมาทรงทราบเรื่องก็ทรงกริ้วจัด พระอิศวรจึงต้องให้ทวยเทพทั้งหลายไปหาสัตว์ที่นอนเอาหัวไปทางทิศเหนือ เทพเหล่านั้นไปพบช้างตัวหนึ่ง ก็เลยตัดหัวมาต่อให้นายทวารบาล พระอุมาได้ทรงนำนายทวารบาลเข้าเฝ้าพระอิศวร เพื่อขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกินมาแล้ว พระอิศวรทรงพอพระทัย จึงทรงแต่งตั้งให้เป็นใหญ่ในหมู่เทพรับใช้ของพระอิศวร ซึ่งเรียกว่า “วินายก” นายทวารศีรษะช้างจึงได้ชื่อว่า คเนศ คณบดี และวินายก





พระราชนิพนธ์ เรื่องพระคเนศเสียงา ได้กล่าวถึงสาเหตุที่พระคเนศทรงงาหักตามปรกติในพระหัตถ์ล่างข้างขวาว่า ปรศุรามจะเข้าเฝ้าพระอิศวร พระคเนศเฝ้าทวารไม่ยอมให้ปรศุรามเข้าไป จึงได้เกิดสู้รบกัน ปรศุรามเอาขวานวิเศษที่พระอิศวรประทานจามลงไป พระคเนศจำได้ว่าเป็นเทพอาวุธของพระอิศวร จึงไม่คิดสู้จึงเอางาข้างหนึ่งรับไว้ ขวานจึงตัดงาขาด พระคเนศทรงเก็บงาที่ขาด ถือไว้ในพระหัตถ์

เทวรูปพระคเนศมีถึง 51 ปาง ลักษณะท่าทางต่างๆ จึงมีมากเป็นธรรมดา จากการที่พระคเนศ มีหลายปางและบางปางก็มีหลายพระหัตถ์ ดังนั้น สิ่งที่ทรงถือในพระหัตถ์จึงแตกต่างกันออกไป เช่น ถือขวาน ค้อน จักร ตรี เชือกบาศ งา ส้ม ขนมต้ม พระคเนศบางปางก็ทรงถือพิณที่เรียกว่า อุฉิษฐิ ปางนี้นอกจากจะถือพิณแล้วยังทรงถือดอกบัวและผลทับทิมอีกด้วย ปางนี้แปลกที่สีกลายเป็นสีน้ำเงิน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายปาง ที่ทรงถือแต่ผลไม้ต่างๆ แทนอาวุธ เช่น ปางพละทรงถือกล้วย อ้อย มะม่วง ขนุน ส่วนปางตรุณะทรงถือผลไม้ 6 ชนิด (เกร) มีทับทิม มะม่วง มะพร้าว เป็นต้น





ในพิธีไหว้ครูของไทยแต่โบราณมา นิยมใช้หญ้าแพรกในพิธีเสมอ อาจเป็นเพราะว่าได้ตำรามาจากพราหมณ์เพราะในประเทศอินเดียเขาใช้หญ้าแพรกบูชาพระคเนศเชื่อกันว่าหญ้าแพรกเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ขจัดได้แม้กระทั่งฝันร้าย ในพิธีคเนศจตุรถี หรือ พิธีอุทิศต่อพระคเนศนั้น จะใช้ใบไม้และดอกไม้ต่าง ๆ รวม 21 ชนิด นำมาบูชาเรียงตามลำดับไปจนครบ21วัน

พิธีคเนศจตุรถีนี้ทำกันในวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 10 ผู้ที่ศรัทธาทั้งหลายจะสักการะบูชารูปพระคเนศที่ปั้นด้วยดิน การบูชามักจะใช้ดอกไม้ ขนมต้ม กล้วย อ้อย มะพร้าวอ่อนผู้บูชาจะท่องพระนามของพระองค์ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อบูชาพระคเนศเสร็จแล้วจะมีการเชื้อเชิญพวกพราหมณ์มาเลี้ยงดูกัน พวกช่างปั้นจะปั้นรูปพระคเนศด้วยดินใส่กระจาดเดินขายแก่คนทั่วไป รูปปั้นพระคเนศเหล่านี้หลังจากทำพิธีเสร็จแล้วพวกเด็ก ๆ จะช่วยกันแห่ไปจุ่มตามแม่น้ำลำคลอง





ในปัจจุบันยังเป็นที่ยอมรับกันว่า พระคเนศเป็นเทพที่สำคัญองค์หนึ่งซึ่งมีผู้เคารพบูชากันมากในบรรดาเทพ ในศาสนาฮินดูและศาสนาพราหมณ์ ส่วนของไทยมักจะนิยมบูชาในกลุ่มบุคคลซึ่งมีอาชีพเกี่ยวข้องกับ ศิลปะการดนตรีและการละคร เป็นส่วนใหญ่ และเริ่มแพร่หลายสู่คนในวงการทั่วไปมากขึ้นเรื่อย เพราะมีผู้เริ่มศึกษาเรื่องพระคเนศอย่างจริงจัง บางคนศรัทธามากขนาสร้างหอบูชาและพิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศก็มี ความยึดมั่นศรัทธาในองค์พระคเนศนี้ จึงยังคงมีสืบไปไม่เสื่อมคลาย

TraveLArounD



บทความนี้เขียนตีพิมพ์ไว้ในหนังสือ
มรดก ฉบับที่ 3





Create Date : 25 ตุลาคม 2550
Last Update : 19 มีนาคม 2552 1:19:38 น. 4 comments
Counter : 3420 Pageviews.

 
ลูกรักและเคารพท่าน ลูกขอนมัสการ พระนาราย พระอิศวร พระพิฆเนศ ลูกอยากช่วยสัตว์นรกทั้งหลาย ลูกจึงจะแผ่เมตตาให้เขาทั้งหลาย ทุกคนเกิดมามีกรรม ลูกสงสารทุกคนไม่ว่าจะอยู่บนโลกใบนี้หรืออยู่พรมโลก ก็ตามลูกสงสารพวกเค้า ถ้าชาติหน้าฉันใดขอให้ทุกคนที่เคยทุกข์ไม่ว่าจะเคยเกิดเป็นอะไรก็ขอให้พวกเขามีเเต่ความสุขเถิดเจ้าคะ สาธุ ถ้าชาติหน้าฉันใดขอให้ลูกได้เกิดเป็นบริวารของท่านด้วยเถิดเจ้าคะ


โดย: สงสารสรรพสิ่งทั้งกลายที่อยู่โลกนี้เเละพรมโลก IP: 222.123.115.25 วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:45:15 น.  

 
ขอฝากลิงก์ไว้ที่นี่ด้วยนะครับ
รวมรูปภาพและบทสวดมนต์ของพระพิฆเนศ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังศึกษาเรื่องพระคเณศ
มีเรื่องราวการกำเนิด พิธีกรรม การสวดบูชา ปางต่างๆ อวตารของพระพิฆเณศและพระเครื่อง ฯลฯ
เชิญชมได้ที่ //www.siamganesh.com


โดย: Pitak IP: 58.8.182.57 วันที่: 27 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:11:04 น.  

 
ถ้าต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวเกี่ยวกับพระพิฆเนศที่ลึกมากว่านี้ สามารถไปหาข้อมูลหรือปรึกษาผู้รู้ที่ไหนได้บ้างคะ (ใครทราบรบกวนช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ต้องการศึกษาเพื่อทำเป็นตัวจบ)


โดย: ผู้ศรัทธา IP: 203.131.223.131, 203.131.222.2 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:22:34 น.  

 
บล๊อกนี้มีสาระ คุณค่ามากมาย เรื่องความรู้ส่วนตัว
ขอแสดงความชื่นชมจากใจค่ะ


โดย: ว่านจันทร์ IP: 193.247.250.1 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:07:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

travelaround
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]





ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะเข้ามาชม blog มีข้อคิดเห็น เชิญ comment มาได้นะครับ ถ้าตอบได้ จะตอบให้ทันทีครับ แต่ถ้าไม่ทราบ ต้องขอเวลา จะค้นคว้ามาให้อ่านกัน ท่านที่จะถามคำถาม หรือติดต่อเรื่องบทความ ได้ทาง Email :- d_sign_place@yahoo.com ครับ


เรื่องต่างๆที่ผมได้เขียนหรือรวบรวม เรียบเรียงมานี้ ยินดีให้ทุกท่านได้อ่านเป็นวิทยาทานและเพื่อการศึกษา ถ้าจะนำไปโพสต่อใน website สาธารณะ หรือ website อื่นใดที่ไม่ใช่ทางพาณิชย์ กรุณาระบุที่มา คือ https://www.travelaround.bloggang.com และนามปากกาผู้เขียนคือ TraveLArounD ด้วย

แต่ขอสงวนสิทธิ์สำหรับการนำไปใช้ ในเชิงพาณิชย์ หรือโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง จะถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายลิขสิทธิ์

ส่วนบทความหรือภาพถ่ายใดๆ ที่ได้นำมาจาก website อื่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบเรื่องนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากวิจารณญาณแล้วว่า มีความถูกต้องเป็นจริง มากที่สุด และได้นำมาจาก website ที่เป็นสาธารณะ ถ้าเรื่องราวหรือภาพของท่านที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของท่าน กรุณาแจ้งมาทาง email :– nana_sara1000@ymail.com ผมจะทำการลบข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ออกทันที

Acknowledges that I try to write or report accurately but postings may contain fact , speculation or rumor. I find images from the Web that are believed to belong in the public domain. If any stories or images that appear on the site are in violation of copyright law, please email to :- nana_sara1000@ymail.com and I will remove the offending information as soon as possible.


Website counter
: Users Online









ที่ดินเชียงใหม่ ทางไปแม่ริม ใกล้ศาลากลาง และสนามกีฬา 700 ปี ติดน้ำปิง ในหมู่บ้านเพชรริมปิง พื้นที่ 667 ตารางวา @ 14,000.- บาท สภาพแวดล้อมดี สนใจติดต่อ โทร. 0859559950



DESIGN PLACE CO.,LTD. รับออกแบบ และตกแต่งภายใน บ้านพักอาศัย ในแบบไทย และไทยร่วมสมัย



มรดก ฉบับที่ 1

มรดก ฉบับที่ 2

มรดก ฉบับที่ 3

มรดก ฉบับที่ 4

มรดก ฉบับที่ 5

มรดก ฉบับที่ 6

มรดก ฉบับที่ 7

ช่วยสนับสนุนการจัดทำ BLOG ด้วยการซื้อหนังสือ "มรดก" 1ชุด 7เล่ม (หนังสือเก่า) ในราคาชุดละ 700 บาท (รวมค่าส่งทางไปรษณีย์)

สนใจสั่งซื้อทาง E-mail :- nana_sara1000@ymail.com



New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add travelaround's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.