"ความสามัคคีปรองดอง เป็นกำลังอย่างสูงสุดของชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ความสามัคคีของคนในชาติ จะทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นอุปสรรค และทำให้สังคมไทย ร่มเย็นเป็นสุข" พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สนใจลงโฆษณา ในพื้นที่ข้างบน ติดต่อ email : nana_sara1000@ymail.com
Home Lover’s Corner นานา สาระ๑๐๐๐ นานา สารพัด พระพุทธประวัติ ภาคพิเศษ
Travel Around the World Real Estate Buyer's Guide สุขภาพกาย สุขภาพใจ Pets & Animals
ปางพระพุทธรูปตามพุทธประวัติ Horoscope 12 ราศี พระพุทธศาสนา World of Beautiful Musics

ในภาพใหญ่ของโลก ยังไม่มีข่าวดี เศรษฐกิจและการลงทุน โดยวรวรรณ ธาราภูมิ

ในภาพใหญ่ของโลกยังไม่มีข่าวดี

วรวรรณธาราภูมิ

20มิถุนายน 2555

นอกเหนือจากที่ GoldmanSach ออกมาทำนายบอกว่าสัปดาห์หน้าน่าจะมี QE3 ออกมาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งแล้ว ก็ไม่มีข่าวดีอะไรเลย

ข่าว QE3 อาจช่วยดันตลาดได้พักหนึ่งหากเป็นจริง แต่ถ้าไม่จริง หรือ FED บอกว่ายัง ตลาดรวมๆ ก็น่าจะฟุบลงมาอีก

แล้วถ้า QE3เป็นเรื่องจริง ดูจากพฤติกรรมในอดีตและความคาดหวังของผู้คนก็คาดว่าราคาสินทรัพย์เสี่ยงก็คงจะพุ่งขึ้นไปพักหนึ่งแต่ไม่น่าจะนานเท่ารอบที่แล้ว

เพราะปัญหาจริงๆไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ครบถ้วน และหนักกว่าเดิม

อ้าว ยังไงล่ะ

ก็เพราะขณะนี้ไม่มีพื้นที่หลักที่ไหนในโลกที่มีการเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญน่ะสิ


จีนซึ่งเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมเศรษฐกิจในเอเชียเพิ่งลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้เพราะเศรษฐกิจจีนดูท่าทางจะอ่อนแรงลงไปมาก

บางคนอาจบอกว่าอัตราการขยายตัวที่คาดว่าจะสูงกว่า 8% ของจีนยังไม่ดีพออีกหรือ

ก็ใช่ มันดูดีเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ แต่ถ้าเทียบกับที่เคยเป็นคือเคยขยายได้กว่า10% วันนี้มันก็ลดลงมาไม่น้อย

การที่จีนมีนโยบายขยายฐานชนชั้นกลางให้มากขึ้น ซึ่งก็หมายถึงให้คนรากหญ้าคนชนบท ขยับขึ้นมาเป็นคนมีเงินมากขึ้น มีความเป็นอยู่ดีขึ้นเขาถึงออกนโยบายผลักดันเศรษฐกิจสุดๆ ตามที่ผ่านมา เพื่อให้คนกว่าพันล้านคนกลายเป็นคนชั้นกลางดังนั้น การจะทำให้สำเร็จ จีนต้องมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่สูงมาก คือต้องขยายตัวได้ในระดับ2 หลัก ไม่ใช่หลักเดียว

แต่ตอนนี้ จีนเริ่มเจอปัญหาจากภายในและภายนอก อัตราการขยายตัว การเติบโตจึงโดนกดดันลงมาต่ำกว่า 2 หลัก

ลองหันไปมองอินเดีย ก็พบว่า อีนี่ฉานไม่ได้อยู่ในฐานะที่แข็งแร็งมากๆ อีกต่อไปจะเป็นเพราะเรื่องการเมืองภายในที่ทำให้ไม่สามารถนำพาประเทศให้ไปถึงฝั่งฝันได้หรืออะไรก็ตามที

ความจริงโดยสรุปก็คือ 2 เสือแห่งเอเชีย จีน กับ อินเดียโตช้าลง และย่อมมีผลต่อภาพรวมของโลกด้วย

ผลกระทบต่อเนื่องก็คือ ....

ประเทศอื่นๆ ที่ทำมาค้าขาย ส่งวัตถุดิบให้จีน ให้อินเดียก็พลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้

ออสเตรเลีย ต้องลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงไป0.25% เพื่อช่วยประคอง/กระตุ้นเศรษฐกิจตนเอง เนื่องจากเอเชียโตชะลอลง

บราซิล ก็โตช้าลงกว่าที่คาดหวังกันเพราะจีนนำเข้าวัตถุดิบจากบราซิลน้อยลง

ประเทศอื่นๆ ที่มีการค้าขายกับจีน เช่น เอเชีย ก็จะเจอปัญหาคล้ายๆ กันแต่ไม่เรียกว่าย่ำแย่ ยังไม่ใช่เศรษฐกิจถดถอย (Recession) ยังไม่ถึงขั้นนั้นแบบยุโรป ยังเติบโตอยู่ เพียงแต่ไม่มากเท่าที่คาดหวัง

รัสเซีย อาจเป็นอีกประเทศที่โลกคาดหวังแต่หลังจากพ้น Recession ล่าสุดนี้มา รัสเซียก็โตเพียง 3.8%- 5.0% เท่านั้น ฟังดูก็ไม่น้อยแต่การเป็นอัตราขยายตัวหลัง Recession ซึ่งมีฐานต่ำๆ นั้นทำได้แค่นี้ก็ต่ำกว่าที่เคยทำได้ในอดีตไปถึง 3.0%

ส่วนยุโรปทั้งทวีป ก็ยังคงว่ายวนอยู่ในมหาสมุทรแห่งหนี้สิน ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจตัวสำคัญๆล้วนบ่งบอกถึง Recession ที่จะกินลึก อัตราการว่างงานก็พุ่งสูงขึ้นทุกที อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมในตลาดพันธบัตรซึ่งเป็นแหล่งที่รัฐบาลต่างๆหาเงินมาไฟแนนซ์งบประมาณตน ก็สูงขึ้นจนน่าขนลุกว่ารัฐจะจ่ายดอกไหวเหรอ

เป็นอย่างนี้แล้วยุโรปจะขยายเศรษฐกิจให้โตจนโผล่ขึ้นมาหายใจได้อย่างไรกัน กรีกจะออกหรือไม่ออกจากกลุ่มยูโรโซนตอนนี้ก็งั้นๆ ละ

เพราะไม่ออกวันนี้ก็ต้องออกในวันหน้าอยู่ดี

เหลียวไปดู สหรัฐอเมริกา บ้าง

2-3 เดือนก่อนนี้ก็มีตัวเลขเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่าอเมริกากำลังแย่ลงแม้ว่าระหว่างทางจะมีบางตัวเลขโผล่มาแว้บๆ ให้ดูเหมือนจะดีขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ของจริง

ดังนั้น สำหรับอเมริกาแล้ว แม้จะยังไม่ใช่ Recession เต็มๆอย่างยุโรป แต่ก็เรียกว่าชะลอลง แบบโต 0% โดยเฉพาะต้นปีหน้าจะเรียกว่าของจริงโผล่

เรียกว่า ทฤษฎี ZerO_bamaของพวกเรายังใช้ได้

อัตราดอกเบี้ย >Zero

การเติบโต >Zero

ประธานาธิบดี >ZerO_bama


ในที่สุดแล้วเมื่อมองในภาพรวมเป็นภาพใหญ่ เราจะเห็นว่า ......

ยุโรปไม่โต กำลังแย่ลงและส่งผลกระทบอย่างน้อยก็ทางจิตวิทยาไปยังอเมริกา ในขณะที่สภาพของจีนกับอินเดียก็ส่งผลลบไปยังทวีปเอเชียและประเทศอื่นที่เป็นผู้ส่งออกสินค้าโดยเฉพาะCommodity ไปยังจีนและอินเดียเช่นกัน

แล้วไหนล่ะข่าวดี ทุกภูมิภาคในโลกต่างมีแต่ข่าวลบกระทบกันไปหมด จะมากจะน้อยก็แล้วแต่ และตลาดในระยะสั้นก็กระทบได้ในเชิงจิตวิทยาด้วยอาจเป็นบวกเพราะ Goldman Sach ออกมาเล่นข่าว QE3 แต่หากตลาดมีสตินึกขึ้นมาได้เมื่อใด ก็อาจสนองตอบเป็นลบจากภาพจริง

มองโดยรวมในภาพใหญ่ของโลกจึงสรุปว่า ไม่ดี

นี่คือการมองแบบMacro


แล้วบ้านเราล่ะจะเป็นยังไง กระทบไหม จะรอดรึเปล่า

คำตอบแรกคือกระทบสิ เพราะการค้าขายมันพันกันไปหมดไม่โดยตรงก็โดยอ้อม ส่งออก การท่องเที่ยว หนักกว่าเพื่อนเพราะคนเคยมีตังค์ไม่มีตังค์มาซื้อ มาเที่ยวแล้ว โรงแรมโบ๋ไปมาก เงียบเชียบ ร้านค้าเพ็ชรพลอยกระทบมากเพราะเขาขายให้ต่างชาติเป็นหลัก

นโยบายที่รัฐบาลเน้นการเติบโตภายในจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องไทยกิน ไทยใช้ ไทยเจริญ เพียงแต่เวลานี้ เราขยายขอบข่ายออกไปอีกนิดหน่อย เป็น อาเซี่ยนกินอาเซี่ยนใช้ อาเซี่ยนเจริญ

เราโดนกระทบแน่แต่โดยรวมๆ เราจะรอด

และหากเราลงทุนในกิจการดีๆที่มีอนาคตไปกับการกินอยู่ใช้สอยของคนไทย ของอาเซียน เราก็สบายใจได้เพราะแม้ว่าราคาหุ้นอาจโดนกระทบในอนาคต แต่พอเวลาผ่านไปเมื่อสถานการณ์คลี่คลายดีขึ้น ราคาหุ้นมันจะขึ้นไปสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน นอกจากนี้เราก็มีโอกาสสูงที่จะได้ปันผลในระหว่างทางอย่างสม่ำเสมอ ถ้าเลือกเป็นและเป็นการลงทุนระยะยาว

นี่ละที่บอกว่าในวิกฤติจะมีโอกาส


ส่วนคำตอบหลังว่าจะรอดไหมนั้นขึ้นอยู่กับ 2 เรื่อง ต่อไปนี้

1. น้องน้ำหากท่วมหนักอีก รอบนี้รัฐบาลต้องบริหารจัดการให้เป็นงาน จะมั่วแบบปีก่อนไม่ได้เพราะมีประสบการณ์แล้ว รอบนี้จึงไม่มีพื้นที่ว่างให้ข้อแก้ตัว จะให้ใครทำอะไรก็บอกมา เอกชนกองทัพ ฝ่าย ค้าน ฯลฯ ทุกฝ่ายน่าจะพร้อมช่วย เพราะหากไม่ทำมันก็พังกันทั้งหมด ใครทำตนเป็นจระเข้ขวางคลอง หรือข้าราชการที่มีหน้าที่คนใดยังไม่ทำงานให้สมกับหน้าที่ขอให้ไล่ออกไปซะ อย่าไปหมดเปลือง งบประมาณกับพวกมิกกี้เมาส์เราไม่มีเวลาและทรัพยากรสำหรับกาฝากอีกต่อไปแล้ว

2. ความมั่นคงต่อเนื่องทางการเมืองต้องมีและจะมีได้ก็ต่อเมื่อเอาประโยชน์ประเทศเป็นที่ตั้งในการบริหารบ้านเมือง ตัดเส้นทางคอร์รัปชั่นอย่างน้อยก็ในหมู่พวกตนให้คนเห็นเป็นตัวอย่างก่อน อย่าเอาแต่พวกพ้องลงไปในตำแหน่งทุกเครือข่ายโดยไม่ดูความสามารถและที่สำคัญคือ เลิกผลักดันกฏหมายปรองดองจอมปลอมนั้นทีเถิดมามุ่งมั่นแก้ปัญหาปากท้อง ปัญหาน้ำ ปัญหาจากเศรษฐกิจโลกจะถูกทางกว่า

แบบนี้สิ ถึงจะเอาอยู่อย่าไปรังเกียจคำนี้เลย ฟังดูน่ารักจะตายไป


วรวรรณธาราภูมิ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด 

(บลจ.บัวหลวง)





 

Create Date : 20 มิถุนายน 2555    
Last Update : 20 มิถุนายน 2555 15:50:02 น.
Counter : 1053 Pageviews.  

เตรียมตัวพรากจากกัน : เศรษฐกิจและการลงทุน โดย วรวรรณ ธาราภูมิ

เตรียมตัวพรากจากกัน

วรวรรณ ธาราภูมิ

20 มิย 55

หากกรีซยังผูกติดกับยูโรต่อไป ยังใช้เงินยูโรกรีซก็จะไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตตนเองได้ แล้วก็ต้องกลับมาขอเขากินอีก กรีซก็จะถลำลึกลงไปในบ่วงหนี้เรื่อยๆ เพราะไม่มีทางหารายได้มาใช้หนี้ได้ เนื่องจากถ้าต้องรัดเข็มขัดตัดงบประมาณทุกอย่างจำนวนมากชาวกรีซจะยิ่งตกงาน อ่อนแอ ไม่มีเงินมาใช้สอย ไม่สามารถจ่ายภาษีให้รัฐได้แล้วรัฐจะเอาเงินที่ไหนไปผลักดันเศรษฐกิจหรือแม้แต่จะซื้อยารักษาโรคขั้นพื้นฐานที่ขณะนี้เริ่มขาดแคลนแล้วในกรีซ

ดีที่สุดสำหรับกรีซจึงเป็นการออกจากยูโรโซนใช้เงินตราของตนเอง แล้วลดค่าเงินเพื่อให้ขายของส่งออกได้ถูก จะได้มีคนซื้อเพราะของๆกรีซ หรือการไปเที่ยวในกรซมีราคาถูกกว่าที่อื่นๆ ในตลาดโลก เรียกว่าแข่งขันได้

ในการหักดิบแบบนี้ ชาวกรีซต้องยอมเจ็บหนักในปีแรกๆเพื่อเกิดใหม่แล้วดีกว่าเก่า เหมือนที่เราคนไทยเคยเจอในช่วงต้มยำกุ้ง ต้องขายทรัพย์สินออกไปในราคาถูกๆต้องกัดฟันยอมกลืนเลือดรับค่าเงินใหม่ที่เป็นของตนเองว่าจะลดลงไป 50%-70%เมื่อเทียบกับค่าของยูโรดอลลาร์เดิม

นึกถึงตอนที่แบงค์ บีบีซี หรือกรุงเทพพาณิชยการของบ้านเราเจ๊ง ล้มละลาย เออ .... มันก็ไม่ใช่ว่าจะสิ้นโลกสักหน่อย ปิดสถาบันการเงินบ้านเราไปตั้ง56 แห่งในช่วงต้มยำกุ้ง โลกก็ไม่แตก ราชาเงินทุนพังพาบ อาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของ Fin1 ต้องพังทลาย ประเทศไทยก็ยังอยู่ได้ในทุกวันนี้ และโลกก็ยังคงอยู่

ในอเมริกาเองเมื่อเทศบาล New York City, Mississippi หรือ Detroit ล้มละลาย ไม่มีเงินจ่ายให้ลูกจ้างหรือคืนเจ้าหนี้เมื่อครบกำหนดอเมริกาก็ยังอยู่ และรัฐ 3รัฐนั้นก็ยังอยู่ ดังนั้น เมื่อแบงค์ในสเปนในกรีซ จะล้มละลายลง เจ้าหนี้พันธบัตรรัฐบาล 2 ประเทศนี้กับแบงค์ต่างๆ จะเสียเงินจะขาดทุน จะเจ๊ง ฯลฯ มันก็แค่กดปุ่ม Resetแล้วจัดการกันไป แล้วกดปุ่ม Start เล่นใหม่ทำไมต้องไปอุ้ม



เรื่องนี้ Jim Rogers บอกว่า....

“เรื่องล้มละลายมันเกิดขึ้นเรื่อยๆ มาเป็นพันๆปีแล้ว ไม่เห็นมีอะไรใหม่ แล้วทำไมไม่ปล่อยให้มันเป็นไป ทำไมต้องไปอุ้ม เพราะทางแก้ปัญหาหนี้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดไม่ใช่การเพิ่มหนี้สุมลงไปอีก การทำแบบนี้มันบ้าแล้วบ้าที่สุดเท่าที่เคยพบเคยเห็น แบบนี้ยิ่งจะทำให้เวลาที่มันต้องระเบิดออกมา จะยิ่งก่อความเสียหายรุนแรงขึ้นอีกมหาศาล เราต้องกังวลให้หนักๆ กันแล้ว เพราะวิถีที่ถูกต้องก็คือเมื่อเราล้มเหลว ก็คือต้องยอมรับความล้มเหลวนั้นคนที่เก่งและมีกำลังกว่าก็จะเข้ามายึด มาซื้อทรัพย์สินเราไปแต่ที่เขาทำกันในวันนี้คือไปเอาทรัพย์สินของคนที่มีความสามารถไปใส่มือคนที่อ่อนแอและไร้ความสามารถ นี่มันเป็นนโยบายเศรษฐกิจที่เหลวไหลที่สุด”

แต่ปัญหาชวนปวดหัวในวันนี้ก็คือ ในขณะที่ชาวกรีซไม่อยากได้เงินบำนาญที่จ่ายเป็นเงินสกุลใหม่ที่ถูกลดค่าลงไปถึงขนาดนั้นเขาก็ไม่ต้องการให้รัดเข็มขัดด้วยเพราะมันหมายถึงบำนาญชราภาพกับรายได้ที่ได้จากรัฐต้องถูกตัดลงไปครึ่งหนึ่ง แล้วใครที่ไหนจะยอมให้กู้ในเมื่อลูกหนี้เอาแต่ได้ ไม่เบี้ยวไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย และไม่อยากออกไปจากยูโรด้วย

จริงอยู่แม้มันจะเหมือนเกมส์โป๊กเกอร์ที่ทั้งกรีซและยูโรต้องอ่านใจกันแต่ทีมการเมืองต่างพรรคของกรีซเองก็แตกแยก ชาวกรีซเองก็กลัวการออกจากยูโร ผลการเลือกตั้งเลยต้องจัดรัฐบาลผสมได้พรรคที่ยอมรัดเข็มขัด ตามเงื่อนไขให้กู้ ซึ่งต่อให้ตั้งรัฐบาลได้แล้วก็คาดไว้ล่วงหน้าได้เลยว่าว่าชาวกรีซก็จะออกมาประท้วง เผาบ้าน เผาเมือง เผาตัวเองอีก เมื่อโดนมาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติมและน่าห่วงว่าจะเกิดจราจลกันอีก เพราะจำนวนที่เสียงที่เลือกพรรครัดเข็มขัด2 พรรคที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลนั้น น้อยกว่าจำนวนเสียงทั้งหมดที่ไปเลือกพรรคอื่นหลายพรรครวมกันซึ่งไม่เอามาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มงวด(ที่ 2 พรรคแรกได้เป็นรัฐบาลผสมได้ก็เพราะกติกากรีซเขาแถม 50เสียงให้พรรคที่ชนะอันดับหนึ่ง)

การบีบบังคับให้กรีซรัดเข็มขัดสุดๆ แบบเอเธนส์จะตายไปก็ช่างขอให้ประเทศที่เหลือได้รอดชีวิตในวันนี้ไปก่อน มันก็เลยไม่มีอะไรดีขึ้นสำหรับปัญหาทั้งหมดของยุโรป เพราะเดี๋ยวก็ปะทุอีกทั้งที่กรีซและที่อื่นๆ แล้วสื่อต่างๆ ก็ต้องกลับมาพาดหัวข่าวเรื่องกรีซจะล้มสเปนร่อแร่ อิตาลีกำลังปริ่มน้ำ กลุ่มยูโรจะแตก กันอีกไม่รู้จบ

ดังนั้น ทั้งกรีซทั้งชาติสมาชิกอื่นในยูโรนั่นแหละที่ต้องการความปรองดองและต้องยอมรับว่าไม่มีใครได้ทุกอย่างที่ปรารถนาแต่เพียงฝ่ายเดียว

เพราะเมื่อฝ่ายหนึ่งไม่ต้องการรัดเข็มขัดแต่ไม่ยอมออกจากยูโร ในขณะที่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมผ่อนปรนเงื่อนไขการช่วยเหลือบีบบังคับให้รัดเข็มขัดแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายจะตายและจะเกิดจราจลในอนาคต แต่ทั้ง 2ฝ่ายก็มีเป้าหมายที่ต้องการเหมือนกันคือให้กรีซอยู่ในยูโรต่อ อย่างน้อยก็ระยะหนึ่งเพราะมิฉะนั้น ตนเองก็จะถูกลากลงหลุมไปด้วย

หากดึงดันเอาแต่ประโยชน์ฝ่ายตนกันอย่างนี้ปรองดองก็ไม่เกิด มันก็จะไม่มีทางออกสำหรับปัญหาในยุโรป

ทางเลือกดีอันดับสองจึงเป็นการปรองดองกันแต่เป็นการปรองดองที่มีเป้าหมายที่จะให้กรีซออกจากกลุ่มยูโรเมื่ออยู่ในจังหวะเวลาที่ใช่เช่นภายใน 1-2 ปีข้างหน้า (Orderly Exit)

ทุกอย่างหลังจากเลือกตั้งในกรีซจึงขึ้นกับการกระทำของยุโรป ไม่ใช่กรีซ

ถ้ายุโรปหยุดให้เงินช่วยเหลือกรีซกรีซก็จะล้มละลายทางนิตินัยทันที (หลังจากล้มละลายทางพฤตินัยไปแล้ว)ผลก็คือผู้ลงทุน เจ้าหนี้ ผู้ฝากเงิน จะตื่นตระหนก ถอนการลงทุน ถอนเงินออกจากแบงค์ต่างๆในสเปน โปรตุเกส และอิตาลี เพราะใครๆ ก็จะกลัวว่ามันจะลามเป็นโดมิโนซึ่งก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เป็นใครใครก็ทำ

ดังนั้นใครไปตัดเส้นเลือดในการให้เงินหล่อเลี้ยงกรีซตอนนี้ ก็เท่ากับเป็นเจ้าของมือที่กดปุ่มยิงระเบิดปรมาณูใส่ยุโรปไปทั้งทวีป


Nouriel Rubini ให้ข้อเสนอขำๆที่ประชดประชันแต่สร้างสรร และไม่เกินกำลังที่เยอรมันจะทำได้ ซึ่งหลายคนอ่านแล้วอาจจะหัวเราะ

เขาบอกว่า ชาวเยอรมันควรเลิกบ้าออมเงินได้แล้ว รัฐบาลเยอรมันต้องลดอัตราภาษีเงินได้และเพิ่มค่าจ้างแรงงาน เพราะมันจะทำให้คนเยอรมัน (ที่แทบจะเป็นชาติเดียวแล้วที่มีกำลังซื้อพียงพอ)มีกำลังซื้อเพิ่มจึงสามารถนำไปจับจ่ายใช้สอยในกลุ่มยูโรด้วยกันให้เศรษฐกิจยุโรปเติบโตได้ซึ่งเป็นสิ่งที่ยุโรปต้องการ

เขาประชดเพิ่มว่า รัฐบาลเยอรมันน่าจะแจกเช็คเดินทางให้ชาวเยอรมันสัก1,000 ยูโรดอลลาร์ต่อครอบครัว โดยระบุให้เอาไปใช้ในการหยุดพักผ่อนในประเทศสมาชิกยูโรที่กำลังประสบปัญหาได้เท่านั้นใช้อย่างอื่นไม่ได้ นั่นละ จะช่วยประเทศเหล่านั้นให้เศรษฐกิจดีขึ้นมาได้บ้างนอกจากนี้ เขายังเสนอว่า จะให้ดีแล้วต้องให้โบนัสพิเศษทางภาษีแก่คนเยอรมันที่ซื้อบ้านพักตากอากาศในยุโรปตอนใต้ด้วย(ก็กลุ่มที่กำลังมีปัญหาหนักนั่นแหละ)

เมื่อลากกันมาถึงวันนี้แล้วสิ่งที่ยุโรปต้องการคือการลดภาษีเพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋าผู้บริโภคให้ไปจับจ่ายใช้สอยไม่ใช่การออม ไม่ใช่การรัดเข็มขัดสุดๆในขณะที่ประเทศนั้นไม่มีเครื่องมือทางการเงินใดใดช่วยให้ไปแข่งขันในตลาดโลกได้หลังจากนั้นก็เตรียมการให้ประเทศที่อ่อนแอและประเทศที่เหลือจากกันอย่างมีระบบเมื่อมีความพร้อม

และเยอรมันต้องไม่ลืมว่าที่กรีซและประเทศในกลุ่มลูกหมู(PIIGS) ต้องมาพบชะตากรรมอันน่าเศร้านั้นส่วนหนึ่งก็มาจากเยอรมันนั่นเอง


วรวรรณธาราภูมิ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด (บลจ.บัวหลวง)




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2555    
Last Update : 20 มิถุนายน 2555 15:50:36 น.
Counter : 639 Pageviews.  

มองยังไง เห็นอะไร ก็ว่างั้นละ : เศรษฐกิจและการลงทุน โดย วรวรรณ ธาราภูมิ

มองยังไง เห็นอะไร ก็ว่างั้นละ

วรวรรณ ธาราภูมิ

15 มิถุนายน 2555

ใครอายุ 50 ขึ้นไป คงเคยได้ดูหนังเรื่อง Jawsภาคแรกและอาจจะจำได้ว่าตอนมีข่าวฉลามกินคนบุกเมืองท่องเที่ยวในเรื่องแล้วนายกเทศมนตรีเมืองนั้นได้เรียกนายอำเภอมาสั่งการว่า “อย่าออกข่าวให้มันน่ากลัวแบบนี้นะนายอำเภอ เดี๋ยวนักท่องเที่ยวจะยกเลิกการมาเมืองนี้แล้วธุรกิจหลักคือการท่องเที่ยวจะเสียหาย ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจนะ นายอำเภอ”

แล้วหายนะก็เกิดเพราะมีคนตายเพิ่มจากฉลามขาวยักษ์ เนื่องจากผู้มีข้อมูลไม่ยอมเตือน

การเตือน การเตรียมการ แม้จะมีต้นทุนอยู่บ้างแต่มันก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย แล้วมาแก้ไขในปลายทางที่มักจะสายเกินไป ช้ายป่ะจ๊ะ....

นึกถึงอดีตที่ผ่านมา ประมาณ 16 ปีก่อน มีผู้ใหญ่โทรมา“สั่ง” ว่า “ตอนนี้หุ้นตกไปมากนะช่วยๆ กันดันมันขึ้นหน่อยสิ พูดอย่างนี้หวังว่าคนฉลาดๆ อย่างคุณคงจะเข้าใจนะ”

ก็วางหูไปอย่าง “งงๆ” เพราะ “ไม่เข้าใจ (โว้ย) ไอ้ฉลาดน่ะน่าจะใช่แต่ไอ้ที่สั่งว่าดันๆ มันขึ้นไปน่ะ อะไรฟะ?.

เลยไปถามฝรั่งที่เป็นอาจารย์ถ่ายทอดวิชาการลงทุนกับจริยธรรมในการทำธุรกิจจัดการลงทุนฝรั่งคนนี้เขาดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายการลงทุน

เขาบอกว่า “Would you please tell himto go either keeping his mouth shut or f..cking himself ?

อ่า .... ไม่ได้โทรกลับไปหรอกค่ะเพราะทั้งสองทางที่ฝรั่งแนะนำนั้น จะให้โทรกลับไปบอกใครได้ที่ไหนล่ะ แต่ที่ทำไปก็คือ...

ทำหน้าที่ของเราต่อไปโดยไม่หวั่นไหวเราอาจจะมองผิด แต่เราทำหน้าที่ของเราโดยสุจริตใจคือสิ่งที่เราเลือก

มันก็เลยไม่มีการซื้อเพื่อช่วยพยุงหุ้นเราซื้อเมื่อเราเชื่อว่าราคามันดีพอที่จะเสี่ยงแล้วเท่านั้น ในช่วงนั้นและเราขายเมื่อเราเชื่อว่าหุ้นนั้นๆ ต้องขาย

แล้วมันจะผิดตรงไหนล่ะ เงินลูกค้านะค้าไม่ใช่เงินคุณ

มันก็คล้ายๆ กับเมื่อไม่นานมานี้ เราออกมาเตือนเรื่องประเทศไทยถูกผลักไปขึ้นบัญชีประเทศที่เขาไม่ไว้ใจเกี่ยวกับการฟอกเงินซึ่งป่วยการที่จะทะเลาะกันว่ามันเรียกว่าบัญชีดำ หรือบัญชีเทาแก่ หรืออะไรก็ตามแล้วดันมีบางคนมาเตือนว่า อย่าออกข่าวแรง เดี๋ยวทำบรรยากาศลงทุนเสีย

โอ้ มายก๊อดนี่พวกคุณห่วงแค่ราคาหุ้นจะตกนี่นะ ไม่ห่วงผลกระทบต่อทั้งหมดของประเทศเลยหรือไร

แล้วมันก็คล้ายๆกับตอนที่พวกเราจัดสัมมนาในช่วงปี 2008 เรื่องเรามองปัญหาของ Lehman ที่กำลังจะล้มมิล้มแหล่นั้นว่าจะกระทบตลาดทุนไทยอย่างไร ก็มีคนบอกว่า พวกคุณอย่าพูดให้คนตื่นตูมนะเดี๋ยวตลาดจะแย่

โอ ... ขอโทษทีพวกเราทุกคนที่เป็นวิทยากรในวันนั้น ไม่ว่าจะสังกัดหน่วยงานใด ต่างตกลงกันว่า เราจะพูดตามที่เรามองเห็นและโดยอิสระจากคำสั่งใดใดทั้งนั้น เพราะเราเคารพในวิชาชีพของเราเราจึงให้มุมมองอย่างสุจริตใจโดยไม่ได้กั๊กอะไรเลย

ก็ใช่นะ มันอาจทำให้คนบางกลุ่มไม่พอใจ แต่หลายๆคนเขาขอบคุณวิทยากรทุกคนที่บอกเขาตามสิ่งที่คิดที่เห็น

จะผิด จะถูก ไม่ใช่ปัญหา แต่เราทำหน้าที่ของเราโดยไม่อายใจโดยอิสระ โดยไม่คำนึงว่าใครจะถอนการลงทุนออกจากพอร์ตที่เราบริหารให้ด้วยซ้ำ

ผลก็คือ ผู้เข้าฟังสัมมนาในวันนั้น และเป็นผู้ลงทุนระยะสั้นแบบวิ่งเข้าวิ่งออก สามารถหยุดการขาดทุนไปได้ไม่น้อยในขณะที่ผู้ลงทุนยาวๆ และลงทุนแบบใส่เงินทุกเดือน เขากัดฟันทำตามวินัยการลงทุนในกรอบระยะยาวไม่มีการขายออก ใส่เงินซื้อใหม่ทุกเดือน

พวกหลังนี่ขาดทุนไม่น้อยในช่วงแรก แต่ผ่านไป 2 ปีเขาก็ได้กำไรมากกว่าพวกแรก

ที่เล่าให้ฟังก็เพราะมันคงน่าหงุดหงิดหากการวิเคราะห์หรือมุมมองที่เรามีต่อสภาพตลาดและเศรษฐกิจจะถูกมองว่าตื่นตูมเกินไปจะทำให้บรรยากาศการลงทุนเสียหาย

อ้าว ฝ่ายการเมืองมาโวยวายเหรอ

ไม่ใช่เลย ในทางตรงกันข้าม เรากลับเห็นพัฒนาการที่ดีจากฝ่ายการเมืองต่างหาก

พัฒนาการนั้นก็คือ เมื่อวานนี้ฝ่ายบริหารบ้านเมืองเขาเริ่มมีการเตรียมตัวรับมือจากผลกระทบของฝั่งตะวันตกเริ่มมีการเรียกประชุมหน่วยงานหลักๆเพื่อประเมินผลกระทบที่อาจจะมีจากวิกฤติในกลุ่มยูโรโซนและจะมีการติดตามเป็นรายสัปดาห์

นี่เป็นสิ่งที่ดีมากเพราะเมื่อเราตั้งโจทย์ไว้ก่อน พร้อมเตรียมทางแก้ไข เวลามันเกิดเราจะไม่ลุกลี้ลุกลน เราจะมีสติในการแก้ไขปัญหา

มันเป็นสิ่งที่ดีมากเมื่อพวกเขาไม่ได้ผูกติดกับการ “สร้างภาพ” ว่าทุกอย่างดีไปหมด ไม่ต้องห่วง

เรื่องน้ำจะท่วม หรือจะไม่ท่วมก็เช่นกันหากมีการซักซ้อม เตียมการรับมือ ตามแผน 1 แผน 2 แผน 3 ... แล้ว และมีการมอบหมายความรับผิดชอบให้ชัดเจนล่วงหน้าว่าใครต้องทำอะไรเมื่อใดก็เชื่อว่าหากมันจะเกิดขึ้นอีก เราก็จะไม่ทุกลักทุเลอย่างปีที่แล้ว

กลับมาที่เรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจและการลงทุนตอนนี้กันหน่อยว่ามันเป็นยังไงแล้ว กรีซจะเลือกตั้งพรุ่งนี้หลายคนในโลกคงกำลังรอลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ ประมาณว่าผลการเลือกตั้งในกรีซ จะชี้เป็นชี้ตายอนาคตโลก

หากคนอ่าน ติดตามอ่านสิ่งที่เพียรเขียน เอ้ยเพียรพิมพ์แบบจิ้มดีดทีละตัวให้อ่านมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ สิงหาคม ปี 2554และจดจำได้ก็ไม่น่าจะตื่นเต้นอะไรเลย

เพราะหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้อยู่นอกกรอบที่เคยเตือนกัน

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอเมริกา (ที่ตอนนี้หลายๆ คนลืมแล้วว่าปัญหายังคงอยู่ และไม่ได้แก้) เรื่องปัญหาของกลุ่มลูกหมูในยุโรป แม้กระทั่งเรื่องจีนที่เคยขึ้นเวทีบรรยายไปเมื่อไตรมาส3 ปีที่แล้ว ก็มีคนบอกว่าคุณมองจีนในแง่ร้ายเกินไปแล้วละ

ทำไงได้ล่ะ ก็เห็นว่าจะเป็นอย่างนั้นแล้วจะให้พูดอย่างอื่นเหรอ ทำไม่ด้ายยยยย .....

จำได้ไหม ชอบมีคนพูดว่า “อย่าง PSA อย่างFin1 อย่าง BBCมีหรือจะล้ม ไม่มีท้าง ... บ้าป่ะว้ะ ....”

เออ ... บ้าก็บ้า ..... แล้วเป็นไงล่ะ

หายวับไปกับตาพร้อมทั้งคนที่มาประนามมุมมองของเราด้วย

แล้ววันนี้มีข่าวร้ายอะไรล่ะ

เอ้า อย่ามองกันแบบนั้นสิ

บางคนที่เห็นแก่ตัวอาจหงุดหงิดเวลาเราออกมาเตือนกัน เพราะเขามี Position ลงทุนในอีกฝั่งเลยพาลกล่าวหาว่าที่มาออกข่าว ก็เพราะกองทุนตั้งใจทุบ

ขอโทษที หากไม่รู้จักการลงทุนของกองทุนกรุณาหุบปากและเปิดสมองโล่งๆ มารับรู้เสียด้วยว่าตามกฏ กองทุนหุ้นน่ะ เขาต้อง LongOnly รู้ไว้ซะ

และที่ชอบนั่งเทียนมั่วว่า ณ สิ้นไตรมาส กองทุนต้องปิดบัญชีทำตัวเลขให้สวยๆน่ะบ้าแล้ว เพราะว่ากองทุนเขาปิดบัญชีคำนวณมูลค่าลงทุนตามราคาตลาดทุกวัน ไม่ได้มารวบยอดทำในสิ้นเดือนสิ้นไตรมาส หรือ สิ้นปีอย่างที่เข้าใจกันผิดๆ

นี่ละ ถึงว่าจะสิ้นไตรมาส สิ้นเดือน หรือสิ้นปีมันไม่มีความหมายอะไรกับกองทุน

ดังนั้น หากวิจารณ์กันมั่วซั่วกันอีกคุณจะโดนมิใช่น้อย และเรื่องนี้ต้องถึงครูอังคณาแน่ๆ นะ ขอบอก

เอ้า แล้วมองไปข้างหน้านี่มันมีอะไรน่าห่วงไหมล่ะ

มีสิ ก็ผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกไงไม่ว่ากรีซจะตั้งรัฐบาลแบบไหน ผสมกันยังไง มันก็ไม่แก้ปัญหาเลยแค่ยืดเวลาตายออกไปแค่นั้น

แม้ว่ารัฐบาลโลกจะเห็นผลกระทบ อาจจับมือกันอัดฉีดซึ่งก็จะดีต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในระยะหนึ่งละ แต่เมื่อฤทธิ์ยาจางลง ?????

เรื่องนี้ Nouriel Rubini บรรยายได้ดีที่สุด เขาบอกว่า “ยังไงๆ วิกฤติยูโรก็จะแย่ลงไปทุกที วิกฤติหนี้ภาครัฐและปัญหาในภาคธนาคารจะย่ำแย่ลงไปเรื่อยๆ (แม้ว่าราคาสินทรัพย์เสี่ยงอาจกระเตื้องขึ้นกระดี๊ กระด๊าขึ้น เวลามีข่าวที่ดูเหมือนดีก็ตาม ... อันนี้ วรวรรณ ว่าเอง)แต่กลุ่มยูโรโซนไม่ได้ต้องการแค่การอุ้มภาคธนาคาร เพราะจะต้องการการอุ้มทั้งประเทศแล้วและผลก็คือ การกระเด็นออกจากกลุ่มยูโรโซนของบางประเทศอย่างไร้ระเบียบจึงเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้”

นอกจากนี้ อเมริกาเองก็ยังดิ้นพราดๆกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำมากกับการว่างงาน รวมไปถึงความเสี่ยงจากเรื่องเพดานหนี้ที่กำลังจะกลับมาในต้นเดือนมกราคมปีหน้าเพราะขณะนี้ก็ชนเพดานหนี้อีกแล้ว และยังไม่เห็นว่ารัดเข็มขัดได้ตามแผนที่โอบามาเคยบอกคองเกรสตอนขอขยายเพดานหนี้เมื่อสค ปีก่อน ซึ่งจะทำให้ต้นเดือน มค ปีหน้า อเมริกาจะเข้าสู่แดน AutomaticSpending Cut หรือการตัดงบประมาณภาครัฐโดยอัตโนมัติตามที่ตกลงกับคองเกรสไว้

นี่ขนาดยังไม่พูดถึงเรื่องภาษีบางเรื่องที่ต้องจ่ายเต็มในต้นปีหน้าอีกนะ

“อเมริกาต้องมาปวดหัวกับการทะเลาะกันของเดโมแครทกับรีพับลิกันเรื่องขยายเพดานหนี้กันอีกในต้นปีหน้าแล้วก็มีความเสี่ยงเรื่องจะต้องปลดคนงานภาครัฐออกอีก เนี่ยะ หากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือมาลดอันดับเราลงภาคธุรกิจก็จะไม่กล้าขยายการลงทุน ภาคครัวเรือนก็จะไม่กล้าใช้จ่ายเพราะไม่เชื่อมั่นในเศรษฐกิจของประเทศว่าจะไปได้ดี ผู้ลงทุนก็จะกลัวแล้วย้ายเงินออกจากสินทรัพย์เสี่ยงไปยังที่ที่เขาคิดว่าปลอดภัยกว่าอีกครั้งซึ่งตลาดหุ้นก็จะกระทบแรง นอกจากนี้ จีนก็ไม่ได้เติบโตแบบยั่งยืนด้วย เขาแก้ปัญหาช้าไปและปีหน้าได้เห็นของจริงกันละ นี่ยังไม่ได้นับเรื่องปัญหาของตะวันออกกลางนะ ฮู้ย..... เรียกว่าปีหน้าเนี่ยะ Perfect Storm เลยแบบว่าเผาจริงนะ เว่ย เฮ่ย” น้ารูบินี่ ขย่มต่อ

ก็เป็นไปได้มากละ น้ารูบินี่ และตอนนี้ก็ไม่เหมือนปี 2008-2009 เสียด้วย เพราะในปี 2008-2009โลกยังมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ จึงลดมันลงมาเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้าง (แม้จะชั่วคราว) แต่ตอนนี้อัตราดอกเบี้ยประเทศหลักๆ ในตะวันตกรวมญี่ปุ่นมันแทบจะเป็นศูนย์เหลือไรให้เล่นอีกล่ะ

QE ไง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด

ก็ใช่ แต่ก็ได้แต่กระตุ้นแป๊บๆ นะ เรียกว่าทำเมื่อไรเราก็รวย แต่คนอื่นจนละ

เออ ชั่งมันดิ Let it be

เอ๊ะ แล้วไทยล่ะ กระทบไหม

โดนดิ โดยตรงน่ะไม่มาก แต่โดยอ้อมก็โดนละ เพราะการค้าขายกันไม่ได้หยุดแค่คนที่ค้าขายกับเราโดยตรงคู่ค้าเราอย่างจีน อย่างอาเซี่ยนด้วยกันเขาก็มีการค้าขายกับยุโรป กับอเมริกาด้วยนะ

อ้าว งั้นถอยดีกั่วะ

เออ ตามใจ ก็แค่มองอย่างไรก็ว่าอย่างนั้นหากถอยแล้วพลาด อย่ามาโทษกัน

เรียกว่าระยะสั้นๆ แมงเม่าเหนื่อยหน่อย และกองทุนหุ้นเขาพร้อมกว่าในด้านข้อมูลกับวินัยลงทุน แต่เขาไม่ได้เล่นสั้นเขา Long Only อย่าลืมล่ะมันคนละโลกกันและเขาก็เชื่อว่า เงินย่อมมีที่ไป ช่วงตื่นตูมใหม่ๆ ก็จะไหลออกแต่พอผ่านไป เงินที่ลงทุนเป็นและลงทุนยาวๆ จะกลับมา

หากมองยาวเป็นเรามีโอกาสรวยจากการลงทุนในภูมิภาคเรานี่ละ ก็ทั้งนักวิเคราะห์ตัวยักษ์ๆและผู้จัดการกองทุนรุ่นเดอะ ต่างพากันมาขอ Visit จนรับไม่ไหวแล้ว

หากมองสั้นๆ ฮู้ย ... อยากตั้งกองทุนหุ้นที่ลงทุนในหุ้นบริษัทที่ขายของทั่วโลกอย่าง DaimlerChrysler อย่าง BMW อย่าง Coke ฯลฯ จังเล้ย


เพราะวิกฤติแต่ละครั้งคือโอกาสที่เราจะรวยได้หากเรามีเงินสดไง จำได้ป่ะ

วรวรรณ ธาราภูมิ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด (บลจ.บัวหลวง)




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2555    
Last Update : 20 มิถุนายน 2555 15:39:31 น.
Counter : 1672 Pageviews.  

Stress Management

Stress Management
7 Coping Skills for Stress Relief


Stress management is the controlling and reducing of tension that occurs in stressful situations. Everyone copes with stress everyday. "I'm SO stressed out!" - It seems like you hear it all the time from nearly every one you know . Most people are unprepared to deal with stressors that trigger feelings that can make us sick. Literally, sick.

The statistics are staggering. Research conducted by the National Institute of Mental Health has shown that anxiety disorders are the number one mental health problem among American women and are second only to alcohol and drug abuse by men. One in every eight Americans age 18-54 suffers from an anxiety disorder. This totals over 19 million people! Anxiety is the most common mental health issue facing adults over the age of 65. Treating anxiety disorders costs the U.S. $46.6 billion annually.

Health Psychology magazine reports that chronic stress can interfere with the normal function of the body's immune system. And studies have proven that stressed individuals are more vulnerable to allergic, autoimmune, and cardiovascular diseases.

Stress often prompts people to respond in unhealthy ways such as smoking, drinking alcohol, eating poorly, or becoming physically inactive. This causes damage to the mind and body.

There are 3 common types of stress:

Mini-stress - the annoying hassles of day to day life: - Heavy traffic - Cells phones with no power

Moderate-stress - the more significant day-to-day hassles that comes from deadlines and time pressures constraints - Project deadline at work - Holidays

Severe-stress - those events that are traumatic long term or permanent - Divorce or separation - Loss of job

Although there is no definitive answer to any of specific stressor you may experience, it's your coping skills that support your ability to manage stress.

Here are 7 coping skills to stress proof your life.

1.Know how to relax - find a quiet place, get comfy make sure your body is well supported. Breath slowly and deeply.

2. Eat right and exercise often - avoid caffeine and refined sugar, eat dairy products which may improve your mood. Make exercise a part of your daily life-even if it's only taking the stairs instead of the elevator or parking at the far end of the lot.

3. Learn it is OK to say 'no'. Often, many of us feel we have to say 'yes' to everyone, every time we're asked for help. You can't be all things to all people. You must first meet your own needs before you can truly give others what they need.

4. Take a mini-vacation from stress. If you can find fifteen minutes a day, or one hour a week if daily isn't possible, make a date with yourself. Schedule a walk around the block, lunch in the park, a sunrise or sunset alone, a bubble bath without interruptions.

5. Make time for yourself, your number one priority; once your own needs are met you will find you have more time for others. And you may find more pleasure in helping others when you don't feel that you must always put others needs before your own.

6. Go outside and enjoy Mother Nature. A little sunshine and activity can have amazing ramifications on your stress level and will enhance your entire outlook towards life. Your improved attitude will have a positive effect on everyone. Not only will you be less stressed, you will be healthier, happier, and more energetic; ready to face whatever obstacles come your way.

7. Have a good sense of humor. Be a resource to yourself. Try something new, learn to play again. Laugh. Laughter releases endorphins, chemicals in the brain that restore calm.

Stress management and how you cope with stress is part of your daily life. It's how you react to stress that makes all the difference in maintaining your health and well-being. Just like causes of stress differ from person to person, what relieves stress is not the same for everyone. You'll never completely get rid of stress, but you can learn to manage stress with coping techniques that work for you. I hope that I've given you some great ideas on how you can deal with stress.



From : layla's Blog
//www.yuwie.com/blog/entry.asp?id=885457&eid=566241




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 24 มีนาคม 2552 17:54:25 น.
Counter : 508 Pageviews.  

THE POWER OF POSITIVE THINKING

THE POWER OF POSITIVE THINKING


The difference between can and cannot are only three letters. Three letters that determine your life's direction.


Being positive or negative are habits of thoughts that have a very strong influence on life.


Positive and negative are directions. Which direction do you choose?


Positive thinking is expecting, talking and visualizing with certainty what you want to achieve, as an accomplished fact.


Riches, mediocrity and poverty begin in the mind.


Reality is the mirror of your thoughts. Choose well what you put in front of the mirror.


The mind is the decisive factor in your life, but who decides for the mind?


A positive attitude brings strength, energy and initiative.


To think negatively is like taking a weakening drug.


Positive thoughts are not enough. There have to be positive feelings and positive actions.


When you say, "I can't" and expect the worst, you become weak and unhappy.


When you say "I can", and expect success, you fill yourself with confidence and happiness.


Being resolute, decisive and courageous in small matters and in big ones is being positive.


You can close the windows and darken your room, and you can open the windows and let light in. It is a matter of choice. Your mind is your room. Do you darken it or do you fill it with light?


Positive thinking and negative thinking are attitudes. They are points of view, and show the way people handle their affairs.


Suppose you stand at a crossroads, one way leads to a desert and the other one to lush meadows, which way do you choose?


Clear thoughts produce produce clear results.


Positive thinking evokes more energy, more initiative and more happiness.


Train your mind to think in terms of 'possible' and 'can be done'.


When you have control over your thoughts, you have control over your life.


Happy thoughts attract happy people into your life.


Happy thoughts fill your life with happiness.


When you change your habitual thoughts, it is like changing the direction of a train.


Affirm the positive, visualize the positive and expect the positive, and your life will change accordingly.


When there are difficulties and you feel down, this is the time to visualize, think and expect the positive.


Do not let circumstances influence your thoughts and moods. By rising over them mentally, you will eventually rise over them materially.


Fill your mind with light, happiness, hope, feelings of security and strength, and soon your life will reflect these qualities.


Reading inspiring quotes uplifts the mind.


Repeating inspiring quotes during the day, helps to cope better with with every situation that arises.


The power of positive thinking is like a car with a powerful engine that can take you to the summit of a mountain.



From : OM*SWEET*OM
//www.yuwie.com/blog/entry.asp?id=185507&eid=566514




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 24 มีนาคม 2552 17:53:53 น.
Counter : 557 Pageviews.  

1  2  

travelaround
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]





ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะเข้ามาชม blog มีข้อคิดเห็น เชิญ comment มาได้นะครับ ถ้าตอบได้ จะตอบให้ทันทีครับ แต่ถ้าไม่ทราบ ต้องขอเวลา จะค้นคว้ามาให้อ่านกัน ท่านที่จะถามคำถาม หรือติดต่อเรื่องบทความ ได้ทาง Email :- d_sign_place@yahoo.com ครับ


เรื่องต่างๆที่ผมได้เขียนหรือรวบรวม เรียบเรียงมานี้ ยินดีให้ทุกท่านได้อ่านเป็นวิทยาทานและเพื่อการศึกษา ถ้าจะนำไปโพสต่อใน website สาธารณะ หรือ website อื่นใดที่ไม่ใช่ทางพาณิชย์ กรุณาระบุที่มา คือ https://www.travelaround.bloggang.com และนามปากกาผู้เขียนคือ TraveLArounD ด้วย

แต่ขอสงวนสิทธิ์สำหรับการนำไปใช้ ในเชิงพาณิชย์ หรือโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง จะถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายลิขสิทธิ์

ส่วนบทความหรือภาพถ่ายใดๆ ที่ได้นำมาจาก website อื่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบเรื่องนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากวิจารณญาณแล้วว่า มีความถูกต้องเป็นจริง มากที่สุด และได้นำมาจาก website ที่เป็นสาธารณะ ถ้าเรื่องราวหรือภาพของท่านที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของท่าน กรุณาแจ้งมาทาง email :– nana_sara1000@ymail.com ผมจะทำการลบข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ออกทันที

Acknowledges that I try to write or report accurately but postings may contain fact , speculation or rumor. I find images from the Web that are believed to belong in the public domain. If any stories or images that appear on the site are in violation of copyright law, please email to :- nana_sara1000@ymail.com and I will remove the offending information as soon as possible.


Website counter
: Users Online









ที่ดินเชียงใหม่ ทางไปแม่ริม ใกล้ศาลากลาง และสนามกีฬา 700 ปี ติดน้ำปิง ในหมู่บ้านเพชรริมปิง พื้นที่ 667 ตารางวา @ 14,000.- บาท สภาพแวดล้อมดี สนใจติดต่อ โทร. 0859559950



DESIGN PLACE CO.,LTD. รับออกแบบ และตกแต่งภายใน บ้านพักอาศัย ในแบบไทย และไทยร่วมสมัย



มรดก ฉบับที่ 1

มรดก ฉบับที่ 2

มรดก ฉบับที่ 3

มรดก ฉบับที่ 4

มรดก ฉบับที่ 5

มรดก ฉบับที่ 6

มรดก ฉบับที่ 7

ช่วยสนับสนุนการจัดทำ BLOG ด้วยการซื้อหนังสือ "มรดก" 1ชุด 7เล่ม (หนังสือเก่า) ในราคาชุดละ 700 บาท (รวมค่าส่งทางไปรษณีย์)

สนใจสั่งซื้อทาง E-mail :- nana_sara1000@ymail.com



New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add travelaround's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.