"ความสามัคคีปรองดอง เป็นกำลังอย่างสูงสุดของชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ความสามัคคีของคนในชาติ จะทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นอุปสรรค และทำให้สังคมไทย ร่มเย็นเป็นสุข" พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สนใจลงโฆษณา ในพื้นที่ข้างบน ติดต่อ email : nana_sara1000@ymail.com
Home Lover’s Corner นานา สาระ๑๐๐๐ นานา สารพัด พระพุทธประวัติ ภาคพิเศษ
Travel Around the World Real Estate Buyer's Guide สุขภาพกาย สุขภาพใจ Pets & Animals
ปางพระพุทธรูปตามพุทธประวัติ Horoscope 12 ราศี พระพุทธศาสนา World of Beautiful Musics

ขบวนรถไฟในประวัติศาสตร์ : ขบวนรถไฟส่วนพระองค์ของพระเจ้าซาร์ นิโคลัส ที่สอง

ขบวนรถไฟส่วนพระองค์ของพระเจ้าซาร์ นิโคลัส ที่สอง

รถไฟขบวนนี้ สร้างขึ้นในปีค.ศ.1894-1896 โดยมีการตกแต่งเปลี่ยนแปลงอีกหลายครั้ง มีการตกแต่งภายในใหม่ ในปี 1902 ขบวนรถมีจำนวนสิบโบกี้ สำหรับพระราชวงศ์และกลุ่มผูู้ติดตามของจักรพรรดิ รวมทั้งห้องครัว ส่วนบริการ ที่เก็บกระเป๋าและอื่นๆ




















สมเด็จพระจักรพรรดินิโคลัสที่สอง พระมเหสี Feodorovna Tsarevich Alexei และ เจ้าชายTsarevich Alexei










เสียดายที่ภาพทั้งหมดเป็นขาวดำ จึงไม่ได้เห็นสีสันที่แท้จริง ต้องใช้จินตนาการตามคำบรรยายครับ ขบวนรถจะเป็นสีฟ้า ตกแต่งด้วยตะเข็บทอง ชิ้นส่วนทุกชิ้นทำด้วยไม้สักจากอินเดีย มีฝ้าเพดานและเฟอร์นิเจอร์ ทำจากไม้โอ๊ค วอลนัท เมเปิ้ล ฯลฯ พื้นปูด้วยเสื่อน้ำมันและพรม








เลานจ์









ห้องรับประทานอาหาร





















เฟอร์นิเจอร์ในโบกี้ของ พระจักรพรรดินิโคลัสที่สองทำจากไม้ Karelian ไม้เรียวและบีช หุ้มด้วยหนังสีน้ำตาล บนโต๊ะมีชุดเครื่องเขียนสีบรอนซ์ทอง 12 รายการ





















โต๊ะเขียนหนังสือของ พระมเหสี Feodorovna




สิ่งสวยงามในอดีต ยังมีอีกมากครับ จะหามาให้ชมเรื่อยๆ


TraveLArounD




ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ กว่า 1430 เรื่องแล้ว

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส




 

Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2555    
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2555 23:30:26 น.
Counter : 2372 Pageviews.  

อินเดียเมื่อวันวาน 1 : อาคารบ้านเรือน

อินเดียเมื่อวันวาน 1 : อาคารบ้านเรือน



อินเดีย เป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่มีอดีตความเจริญรุ่งเรือง และวัฒนธรรมที่เก่าแก่มาก พอๆกับประเทศจีน และยังมีความคล้ายกันหลายอย่าง ประชากรก็มาก เป็นหลักพันล้าน พื้นที่ประเทศก็ใหญ่โตมหาศาล ประชาชนก็ยากจนกันเป็นส่วนมาก และเมื่อสามารถปรับระบบเศรษฐกิจได้ ก็มีทีท่าว่าจะร่ำรวยยิ่งใหญ่ เหมือนจีนด้วยเช่นกัน
















































































ด้วยขนาดที่ใหญ่โต ก็ย่อมมีความหลากหลายของวัฒนธรรม ของชนเผ่า หรือชนกลุ่มน้อย ต่างภาษา ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และลัทธิความเชื่อ ความหลากหลายนี่เอง ทำให้น่าสนใจ เพราะถ้าอะไรๆมันเหมือนกันหมด มันจะน่าสนใจไปได้อย่างไรละครับ























































ตอนนี้นำชมภาพย้อนอดีตระยะสั้น (ระยะแค่ไม่เกิน 100 ปี) ในด้านของสถาปัตยกรรม บ้านเมืองของเก่า ที่มีรูปแบบทั้งแบบประเพณี ของดั้งเดิมของอินเดียเอง และแบบตะวันตก ในยุคที่ตกอยู่ใต้อาณัติของอังกฤษ ซึ่งก็มีความสวยงาม ยิ่งใหญ่ไปคนละอย่าง














































ตอนหน้าจะนำชมภาพ ประชาชน และรูปแบบของ วัฒนธรรม ประเพณี ต่างๆครับ

TraveLArounD



ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ 1350 กว่าเรื่องแล้ว

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส




 

Create Date : 18 มิถุนายน 2554    
Last Update : 18 มิถุนายน 2554 21:46:28 น.
Counter : 1321 Pageviews.  

จีนเมื่อวันวาน

จีนเมื่อวันวาน


ประเทศจีน นับเป็นประเทศที่มีการพัฒนาไปได้รวดเร็วมาก หลังจากที่หยุดชะงักการเติบโตไปในช่วงต้นๆของการปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์










































































































































เมื่อเห็นภาพของประเทศจีนในทุกวันนี้ คนรุ่นใหม่ ก็คงนึกไม่ออก ถึงสภาพบ้านเรือน และ ความเป็นอยู่ของคนจีนในอดีต ที่มีประชากรจำนวนมาก และพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ประเทศจีนจึงเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่มาตั้งแต่โบราณ
































































































































และในอนาคตอันใกล้ จีนจะยิ่งใหญ่ครบสูตร ทั้งในทางเศรษฐกิจ การเมือง และการทหาร ที่จะไม่มีใครกล้ามาต่อกรได้เหมือนในอดีต


TraveLArounD



ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ 1350 กว่าเรื่องแล้ว

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส





 

Create Date : 05 มิถุนายน 2554    
Last Update : 5 มิถุนายน 2554 21:04:36 น.
Counter : 3147 Pageviews.  

ศิลปะทองคำโบราณของอัฟกานิสถาน




ศิลปะทองคำโบราณของอัฟกานิสถาน








ในอดีตที่ผ่านมากว่ากว่าศตวรรษ อัฟกานิสถานเป็นหนึ่งในทางผ่านของเส้นทางสายไหม (Silk Road) เส้นทางการค้าสำคัญ ที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมของโลกในซีกตะวันออกเข้าไว้ด้วยกัน เป็นเส้นทางที่ทรงอิทธิพลของอารยธรรมโบราณบาบิโลน, แอชเชอร์, อินเดีย และจีน เข้าหากัน























ทรัพย์สมบัติ ที่เห็นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการ"อัฟกานิสถาน : แพร่งของโลกโบราณ " ที่เปิดแสดงที่ British Museum งานแสดง โบราณวัตถุ ทั้งหมดกว่า 200 ชิ้น ที่เป็นตัวแทนของขุมทรัพย์โบราณ ที่พบใน Tilla - Tepe (ซึ่งในภาษาเปอร์เซียแปลว่า"โกลเด้นฮิลล์")































Tilla Tepe เป็นภูเขาที่มีร่องรอยของอาคารเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใกล้เมือง Shibargan Afghan ในปัจจุบัน เป็นเมืองที่มีการตั้งถิ่นฐานที่เก่าแก่ที่สุดของภูมิภาค มีอายุของประมาณสามหมื่นปี แต่จากศิลปะโบราณวัตถุที่แสดงนี้ ก็เผยให้เราเข้าใจถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีตของที่นี่ได้เป็นอย่างดี


TraveLArounD



ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ 1300 เรื่องแล้ว

ส่วนท่านที่ชอบเพลง background ผมได้รวบรวมเพลงไพเราะ เพลงรัก romantic และเพลงซึ้งๆ ที่หาฟังได้ยากในสมัยนี้ ไว้หลายชุด สนใจ email ติดต่อมาได้ครับที่ nana_sara1000@ymail.com

หลังจากที่ home’s lover club ที่ ning.com ต้องปิดลงไปเพราะเขาคิดค่าใช้จ่าย จึงจำต้องย้ายที่ ตอนนี้ผมเริ่มรวบรวมภาพต่างๆ ที่เกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน การจัดสวน และที่ยังไม่ได้เอามาเขียน มารวบรวมไว้ที่ facebook ถ้าใครสนใจก็เข้าไปดูได้นะครับ ที่ //www.facebook.com/reqs.php#!/nanasara1000?v=photos

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส




 

Create Date : 26 ธันวาคม 2553    
Last Update : 26 ธันวาคม 2553 2:09:49 น.
Counter : 3438 Pageviews.  

จักรพรรดิโลกไม่ลืม : สมเด็จพระจักรพรรดิ์ปูยี

ฮ่องเต้ซวนถง หรือ ปูยี (Puyi)
สมเด็จพระจักรพรรดิ์ปูยี (ฮ่องเต้องค์สุดท้ายของราชวงค์ชิง)










สมเด็จพระจักรพรรดิปูยี ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2449 มีพระนามเต็มว่า อ้ายซิน เจี๋ยหลอ ปูยี (Aisin-Gioro Puyi) เป็นจักรพรรดิหรือฮ่องเต้ชาวแมนจูแห่งราชวงศ์ชิง และเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 10 แห่งราชวงศ์ชิง (นับเริ่มแต่จักรพรรดิซุ่นจื้อ) และเป็นองค์สุดท้าย ของประเทศจีน ทรงเป็นพระโอรสขององค์ชายชุน ถึงแม้ว่าต่อมานายพลหยวนซือไข่ จะสถาปนาตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิจีนก็ตาม แต่ก็ไม่ได้เป็นที่ยอมรับของประชาชนว่าเป็นจักรพรรดิจีนองค์สุดท้ายเหมือนปูยี















ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่ทรงฉายกับพระราชชนกและพระราชอนุชาพระองค์เดียวคือ องค์ชายปูเจี๋ย (จักรพรรดิ์ประทับยืนบนพื้น)











ปูยี ก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ชิงในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2451 ขณะมีพระชนม์มายุเพียง 2 พรรษา โดยพระนางซูสีไทเฮา เป็นผู้เลือกปูยีให้เป็นจักรพรรดิ และเริ่มศึกษาวิชาการต่างๆ ในขณะที่สังคมภายนอกเริ่มเปลี่ยนแปลง ทั้งจากกระแสของตะวันตก และจากการเมืองภายในประเทศ ปูยีจึงอยู่แต่ในเขตพระราชวัง













สมเด็จพระจักรพรรดิ์ปูยีทรงประทับอยู่ใน พระราชวังต้องห้ามมานับแต่วันที่เสด็จขึ้นครองราชย์และพระองค์ไม่เคยเสด็จ ออกนอกเขตพระราชวังเลยแม้แต่ครั้งเดียว











ตลอดระยะเวลาที่ทรงเป็นพระจักรพรรดิ และประทับอยู่ในพระราชวัง ทรงมีพระราชปณิธาณที่โปรดจะเสด็จฯ ออกนอกเขตพระราชฐานตลอดเวลา ถึงขนาดทรงปีนกำแพงวัง พระองค์หวังจะเสด็จหนีออกจากพระราชวังต้องห้าม แต่พระราชประสงค์นี้เป็นจริงสมพระราชหฤทัยในปี 1924 สิริเวลาที่ทรงประทับในวังถึง 16 ปีเต็ม เล่ากันว่าตามประสาเด็ก พระองค์ทรงเหงาเพราะไม่มีพระสหาย อาจเรียกได้ว่าพระองค์ไม่เคยทอดพระเนตรเห็นเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับพระองค์เลยทีเดียว เรจินัลด์ จอห์นสตัน พระอาจารย์ชาวอังกฤษเคยกล่าวว่า พระองค์ทรงเป็นเด็กที่เหงาที่สุดในโลก


และในที่สุด ก็ต้องทรงเป็นพระจักรพรรดิ์พระองค์สุดท้ายในราชวงศ์แมนจูของประวัติศาสตร์จีน เมื่อ ซุน ยัด เซ็น ปฎิวัติการปกครองจากระบอบกษัตริย์มาเป็นสาธารณรัฐ พระองค์จึงต้องสละราชบัลลังค์ ในปีค.ศ. 1912 ขณะที่ทรงมีพระชนมายุเพียง 6 พรรษาเท่านั้น แต่หลังการปฎิวัติซินไฮ่ พระองค์ยังคงประทับอยู่ ณ พระราชวังต้องห้าม สืบมาจนกระทั่งทรงถูกบังคับให้เสด็จออกจากพระราชวังในปี 1924 ซึ่งนับเป็นจุดอวสานสมบูรญาสิทธิราชย์ของจีนที่มีมากว่า 4000 ปี












พระบรมฉายาลักษณ์ขณะฉลองพระองค์ชุดมังกร และขณะทรงพระเยาว์และเสด็จออกว่าราชการแผ่นดิน









จะด้วยเหตุผลประการใดก็ไม่ทราบ แต่กฎในราชสำนักจีนยังไม่เคยมีฮ่องเต้ ฉลองพระเนตรสักองค์เดียว จักรพรรดิ์ปูยีทรงมีสายพระเนตรสั้น ทอดพระเนตรอะไรไม่ชัด เรจินัลด์ จอห์นสตัน พระอาจารย์กราบทูลให้ทรงฉลองพระเนตร โดยสั่งให้ช่างหลวงตัดทูลเกล้าฯ ถวาย พระองค์จึงเป็นฮ่องเต้พระองค์แรกและพระองค์สุดท้ายของจีนที่ทรงฉลองพระเนตร










ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ขณะทรงประทับบนหลังคาพระราชวัง










ขณะที่ทรงปีนกำแพงพระราชวัง เรจินัลด์ จอห์นสตัน พระอาจารย์กับขันทีตามเสด็จฯ ขึ้นไปและกราบทูลเชิญพระองค์ให้เสด็จพระดำเนินลงมา แต่เนื่องจากความสูงของหลังคาที่ทรงประทับอยู่ขณะนั้น ประกอบกับสายพระเนตร ที่ทอดพระเนตรเห็นไม่ชัดทำให้พระองค์ทรงไม่กล้าเสด็จพระดำเนินลง เมื่อเสด็จฯ ลงแล้ว เรจินัลด์ จอห์นสตัน ได้กราบทูลเชิญพระองค์วัดสายพระเนตรและจึงได้ทรงฉลองพระเนตรนับแต่นั้นเป็น ต้นมา ( ขณะพระชนมายุประมาณ 10 พรรษา )












ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2455 นายพล หยวน ซื่อไข่ ก่อการปฏิวัติขึ้น ปูยีจึงพ้นจากตำแหน่งจักรพรรดิ จึงเป็นจุดสิ้นสุดระบอบจักรพรรดิจีนที่ดำเนินมานานนับพันปีจักรพรรดิ์ปูยี ยังทรงประทับอยู่ ณ พระราชวังต้องห้ามต่อมาจนกระทั่ง เฟิงยู่เสียง กราบบังคมทูลเชิญให้พระองค์เสด็จฯ ออกจากวัง เพิ่งยู่เสียงมาเช็คแฮนด์กับพระองค์แล้วเรียกพระองค์ว่านายปูยี ถึงกระนั้นองค์จักรพรรดิ์กลับทรงรู้สึกว่า นี่เป็นอิสรภาพ


1 กรกฎาคม พ.ศ. 2460 จาง ซวิน ทำรัฐประหารแล้วยึดปักกิ่ง ไว้ได้ จึงได้ตั้ง ปูยี ขึ้นเป็นจักรพรรดิที่มีอำนาจ อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะสละราชสมบัติอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 12 กรกฎาคม ซึ่งเป็นระยะเวลาการครองราชย์สั้นๆ เพียง 12 วันเท่านั้น











5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2467 เฟิง ยู่เสียง ทำการรัฐประหารสำเร็จ แล้วก็ได้ขับไล่ปูยีออกจากวังหลัง จากนั้น สถานทูตญี่ปุ่นได้เชิญเสด็จพระองค์พร้อมพระมเหสีไปประทับอยู่เมืองเทียนสิน ในแคว้นแมนจูเรีย (ทางตะวันออกเหนือของดินแดนประเทศจีนในปัจจุบัน) มาตุภูมิเดิมของพระองค์ พระองค์ทรงมีพระชนม์ชีพเป็นหนุ่มไฮโซทั่วไป จนกระทั่งเกิดเหตุว่า เจียงไคเชค ลอบทำลายสุสานหลวงได้ขุดพระศพซูสีไทเฮาและขนราชทรัพย์ของราขวงศ์แมนจูไปเป็นอันมาก ทำให้ทรงกริ้วทำให้ทรงตัดสินพระราชหฤทัยเข้าร่วมกับทางญี่ปุ่น ซึ่งตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิ์ฮิโรฮิโต ภายใต้พระราชอำนาจนี้ ญี่ปุ่นจึงสถาปนา รัฐแมนจูกัว ขึ้น ปูยีทรงดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาระดับสูงใน ประเทศแมนจูกัว ซึ่งเป็นรัฐในปกครองของประเทศญี่ปุ่นนี้ และในที่สุด เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2477 ญี่ปุ่นได้อัญเชิญจักรพรรดิ์ปูยีเป็นพระประมุขแห่งรัฐแมนจูกัว แต่ก็เป็นเพียงในนามเท่านั้น ปูยีถูกควบคุมอย่างใกล้ชิดจากญี่ปุ่น เพื่อเตรียมการปกครองแมนจูกัวอย่างเต็มตัวของญี่ปุ่น โดยมีจักรพรรดิปูยี เป็นเสมือนสัญลักษณ์เพื่อลดการต่อต้านจากประชาชนจีน











15 สิงหาคม พ.ศ. 2489 สงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงโดยญี่ปุ่นและฝ่ายอักษะแพ้ แมนจูกัวของญี่ปุ่นล่มสลายลง 1วันต่อมาปูยี ก็ทรงถูกสหภาพโซเวียตควบคุมตัว และส่งกลับให้กับรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน หลังจากนั้น จีนก็จำคุกปูยี

ในเรือนจำ ปูยี ต้องทำการวิพากย์ตนเอง (ถ้าเป็นศัพท์สมัยนี้ ก็คล้ายๆกับจะละลายพฤติกรรมของพระองค์นั่นเอง) ให้คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ตรวจสอบว่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในระบบคอมมิวนิสต์ได้หรือไม่

หลังจากนั้นก็ได้ปล่อยปูยีออกจากเรือนจำ ปูยีได้ดำเนินชีวิตอย่างสามัญชนทั่วไป และได้รับมอบหมายให้เป็นภารโรงในพระราชวังต้องห้ามกู้กงนั่นเอง


ปูยี เริ่มป่วยเป็นมะเร็งไต และโรคหัวใจ จนกระทั่ง วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2510 ปูยีเสด็จสวรรคตเยี่ยงสามัญชนในปักกิ่ง ด้วยโรคมะเร็งที่พระวักกะ (ไต) และโรคพระหทัย (หัวใจ) เป็นการสิ้นสุดตำนานจักรพรรดิ์ อันยิ่งใหญ่ของจีน นับแต่นั้นมา


TraveLArounD




ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ กว่า 1430 เรื่องแล้ว

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส
เรียบเรียงจาก
เหยง 16
//www.cmadong.com/board/index.php?topic=3615.350
//www.reurnthai.com/




 

Create Date : 15 ธันวาคม 2552    
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2555 23:13:53 น.
Counter : 10514 Pageviews.  

1  2  3  4  

travelaround
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]





ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะเข้ามาชม blog มีข้อคิดเห็น เชิญ comment มาได้นะครับ ถ้าตอบได้ จะตอบให้ทันทีครับ แต่ถ้าไม่ทราบ ต้องขอเวลา จะค้นคว้ามาให้อ่านกัน ท่านที่จะถามคำถาม หรือติดต่อเรื่องบทความ ได้ทาง Email :- d_sign_place@yahoo.com ครับ


เรื่องต่างๆที่ผมได้เขียนหรือรวบรวม เรียบเรียงมานี้ ยินดีให้ทุกท่านได้อ่านเป็นวิทยาทานและเพื่อการศึกษา ถ้าจะนำไปโพสต่อใน website สาธารณะ หรือ website อื่นใดที่ไม่ใช่ทางพาณิชย์ กรุณาระบุที่มา คือ https://www.travelaround.bloggang.com และนามปากกาผู้เขียนคือ TraveLArounD ด้วย

แต่ขอสงวนสิทธิ์สำหรับการนำไปใช้ ในเชิงพาณิชย์ หรือโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง จะถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายลิขสิทธิ์

ส่วนบทความหรือภาพถ่ายใดๆ ที่ได้นำมาจาก website อื่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบเรื่องนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากวิจารณญาณแล้วว่า มีความถูกต้องเป็นจริง มากที่สุด และได้นำมาจาก website ที่เป็นสาธารณะ ถ้าเรื่องราวหรือภาพของท่านที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของท่าน กรุณาแจ้งมาทาง email :– nana_sara1000@ymail.com ผมจะทำการลบข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ออกทันที

Acknowledges that I try to write or report accurately but postings may contain fact , speculation or rumor. I find images from the Web that are believed to belong in the public domain. If any stories or images that appear on the site are in violation of copyright law, please email to :- nana_sara1000@ymail.com and I will remove the offending information as soon as possible.


Website counter
: Users Online









ที่ดินเชียงใหม่ ทางไปแม่ริม ใกล้ศาลากลาง และสนามกีฬา 700 ปี ติดน้ำปิง ในหมู่บ้านเพชรริมปิง พื้นที่ 667 ตารางวา @ 14,000.- บาท สภาพแวดล้อมดี สนใจติดต่อ โทร. 0859559950



DESIGN PLACE CO.,LTD. รับออกแบบ และตกแต่งภายใน บ้านพักอาศัย ในแบบไทย และไทยร่วมสมัย



มรดก ฉบับที่ 1

มรดก ฉบับที่ 2

มรดก ฉบับที่ 3

มรดก ฉบับที่ 4

มรดก ฉบับที่ 5

มรดก ฉบับที่ 6

มรดก ฉบับที่ 7

ช่วยสนับสนุนการจัดทำ BLOG ด้วยการซื้อหนังสือ "มรดก" 1ชุด 7เล่ม (หนังสือเก่า) ในราคาชุดละ 700 บาท (รวมค่าส่งทางไปรษณีย์)

สนใจสั่งซื้อทาง E-mail :- nana_sara1000@ymail.com



New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add travelaround's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.