Group Blog
 
All blogs
 
เรื่องสั้น : ขอคืน

***ขอคืน***

ศิลป์ใจ ศิริกาลกุล


ที่มุมห้องบนเก้าอี้รถเข็น สมชาย พยายามคิดว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตของตนเองที่แย่ลงทุกวัน แขนและขารีบเล็ก ผิวหนังแห้งตึงเหี่ยวย่น เหมือนคนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นแรมปี และที่เอวของสมชายมีปืนพกหนึ่งกระบอกซึ่งอยู่เป็นเพื่อนมานาน ยามเหงาสมชายจะลูบคลำปืนเล่นเสมอ
................................................................................

เมื่อเช้า สมชาย ยังคงยิ้มแย้มแจ่มใส ภาพของลูกชายแต่งชุดนักศึกษา ยกมือไหว้ แล้วกล่าวลา ยังติดตาตรึงใจมาโดยตลอด “อีกไม่นานจะเรียนจบแล้ว ผมจะทำงานหาเลี้ยงพ่อเองครับ” เสียงลูกชาย ยังคงกังวาลอยู่ในหู ทำให้สมชายหวนคิดถึงตอนที่ตัวเองเป็นนักศึกษา ซึ่งมีความเย่อหยิ่ง และรักสนุกอยู่พอควร สมชาย ไม่เคยคิดที่จะทำงานหาเลี้ยง พ่อ-แม่ เลยแม้แต่นิดเดียว และก็ไม่เคยคิดจะมีครอบครัวด้วยซ้ำไป ด้วยเป็นเช่นนี้สมชายจึงเรียนไม่จบมหาวิทยาลัย วุฒิ ม.6 เป็นสิ่งสุดท้ายที่อยู่ในมือ และวุฒิการศึกษานี้ทำให้สมชายได้เข้าทำงานในบริษัทใกล้บ้านตนเอง พอทำงานได้ สมชายก็มีเงินเหลือพอที่จะแบ่งปันให้ พ่อ-แม่ ทุกเดือนไป สมชายรู้มาตลอดว่า “งาน” ทำให้ตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่ ทำให้เขาเริ่มต้องการคนดูแลเอาใจใส่ ต่อมาสมชายจึงมีภรรยาและมีลูกด้วยกันสองคน มีช่วงหนึ่งของชีวิตที่สมชายตกอับที่สุด ตอนนั้นลูกชายอายุประมาณ 15 ปี ลูกสาวอายุ ประมาณ 10 ปี แม่ของสมชายเสียชีวิตด้วยโรคชรา ส่วนพ่อตกบันไดหัวฟาดพื้นตายคาที่ ตอนนั้นยังไม่ได้ทำบุญร้อยวันแม่ของเขาเลยด้วยซ้ำ บาปซ้ำกรรมซัด สมชายถูกให้ออกจากงานด้วยอัตราเงินชดเชยไม่กี่บาท แต่สมชายยังคงเดินหน้าสู้ต่อไป เขาหางานทำใหม่ โชคร้ายอีกเหมือนเดิม ไม่มีบริษัทไหนรับเขาเข้าทำงานเลย อีกหนึ่งเหตุการณ์คือภาพสุดท้ายที่เขามองเห็นท้ายรถสิบแปดล้อ แล้ววูบหลับไป หลังจากตื่นขึ้นมาเขาก็ไม่พบลูกสาวและภรรยาอีก และที่นั่งอยู่บนรถเข็นทุกวันนี้ก็เป็นเพราะท้ายรถสิบแปดล้อที่ติดตาเขามาจนถึงปัจจุบัน สิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ในชีวิตคือลูกชายคนโต ซึ่งเป็นความหวังสุดท้ายของเขา ทุกครั้งที่สมชายอยู่คนเดียวเขาจะนึกถึงภาพของลูกชายส่งปืนให้เขาหนึ่งกระบอก “เก็บไว้ป้องกันตัวครับพ่อ” และเสียงนี้ก็ประทับใจสมชายยิ่งนัก ด้วยเหตุที่บ้านของสมชายตั้งอยู่ห่างจากบ้านหลังอื่นๆ จึงค่อนข้างอันตรายอยู่พอสมควร ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่สมชายหาได้ตอนร่างกายแข็งแรงดีก็มีค่ามากอยู่ อีกทั้งบ้านก็สวยดึงดูดใจโจรเสียเหลือเกิน ซึ่งก่อนหน้านี้รถมอเตอร์ไซที่จอดอยู่หลังบ้านก็หายไปหนึ่งคัน เขาไม่รู้ว่ามันหายไปไหน แต่วินาทีนี้เขามีความสุขมากที่สุดที่รู้ว่าลูกชายเป็นห่วง สมชายตื้นตันใจมากจึงยกเงินก้อนสุดท้ายที่เก็บไว้ ให้ลูกชายไปหลายหมื่นบาท

ภาพเมื่อเช้าของเมื่อสองปีก่อนยังคงติดตาสมชายมาถึงทุกวันนี้ วันนี้สมชายมองไปรอบๆกาย สิ่งที่เขาพบคือความว่างเปล่า ของในบ้านทุกสิ่งทุกอย่างที่สมชายทำตัวเป็นยามคอยเฝ้าได้อันตรทานหายไปหมด เพราะสมชายต้องเอาของที่มีอยู่ไปแรกข้าวมาประทังชีวิต แต่สมชายก็ยังคงโชคดีที่เมื่อสองเดือนที่แล้วมีครอบครัวเล็กสองสามีภรรยามาปลูกบ้านติดกับบ้านของสมชาย เขาแบ่งปันข้าวปลาอาหารให้เสมอ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นมื้อเช้าและมื้อเย็น สมชายคิดถึงเรื่องแบบนี้ทีไรน้ำตาก็รินออกมาให้เห็นทุกครั้ง

สมชาย ตัดใจจากเรื่องราวต่างๆที่นึกถึงแล้วขยับมือจากหน้าตักไปหมุนล้อรถเข็นให้เลื่อนไปด้านหน้าตรงไปที่ประตูทางออกหน้าบ้านสมชายค่อยๆเอื้อมมือไปเปิดประตูออกอย่างช้าๆ ทันทีที่มีช่องพอให้แสงเข้าได้รำไรๆ สายลมก็พัดตามเข้ามากระทบกายของสมชาย ทำให้เขารู้สึกสดชื่น เขาสูดหายใจเข้าเต็มปอด แล้วผ่อนออกโดยเร็ว หลังจากนั้นสมชายก็นั่งนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาเหม่อมองออกไปตามทางเดินจากหน้าบ้านไปถึงสุดทางโค้ง สมชายจ้องมองเพียงหวังว่าให้ลูกชายกลับมาหาเพียงเท่านั้นก็พอ

ถึงเวลาเย็นอีกครั้งหนึ่งที่สมชายต้องอดข้าว ก่อนจะกลับเข้าบ้าน เขาหันไปมองบ้านของเพื่อนบ้านที่แสนดีซึ่งก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม สมชายมองผ่านกระจกเข้าไปด้านในเห็นทีวีขนาดชินตา ซึ่งเคยเป็นของสมชายมาก่อน แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อต้องอาศัยกินข้าวกับครอบครัวนี้ทุกวัน และยังมีข้าวของเครื่องใช้อีกหลายอย่างที่สมชายยกให้คนในบ้านหลังนี้ไป สมชายมองพลางส่ายหัว เขาไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตต้องมาเป็นแบบนี้ ชีวิตบนรถเข็นมันช่างทุกข์เสียเหลือเกิน สมชายไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน รวมทั้งเสื้อผ้าก็ไม่ได้เปลี่ยน ต้องคอยให้เพื่อนบ้านที่แสนดีมาเปลี่ยนให้ สมชายต้องคิดอยู่เสมอว่า สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นกับชีวิตเขาได้อย่างไร ทั้งๆที่คนดูแลเขาน่าจะเป็นลูกชายที่เขารักมากที่สุด “ลูกชาย” คือสิ่งเดียวที่ติดอยู่ในสมองตลอดเวลา เป็นความหวังเดียวที่ตอนนี้ไม่เหลืออะไรให้หวังอีก บุญคุณนั้นก่อนหน้านี้สมชายไม่เคยคิดจะทวงคืนแต่วันนี้สมชายอยากนำมาแลกกับอาหารเพียงสามมื้อเท่านั้นก็พอใจ

สมชายยังคงนั่งอยู่ที่รถเข็นแววตาเหม่อลอยคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ระหว่างนั้นเองสมชายหันไปเห็นแสงไฟ จากบ้านของเพื่อนบ้านที่แสนดีสว่างขึ้น ทำให้สมชายมีหวังที่จะได้กินข้าวมื้อเย็นอีกครั้ง เขาคิดว่าเพื่อนบ้านคงมีน้ำใจเอามาให้โดยที่เขาไม่ต้องไปตะโกนร้องขอเหมือนวันก่อน เขารออยู่นานก็ไม่มีวี่แวว มือขวาของสมชายค่อยๆขยับไปจับปืนที่เอวอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกหิว เวลานี้แม้จะเป็นกับข้าวเหลือเดนที่อุ่นพอร้อนๆ เหมือนวันก่อนๆ ที่เพื่อนบ้านนำมาให้สมชาย ก็กินได้ทั้งนั้น ,โทรทัศน์ พัดลม ตู้เย็น เครื่องซักผ้าและเงินทอง สมชายก็ยกให้เขาไปหมด แต่สิ่งที่ได้คืนมาคือ อาหารเหลือเดนเพียงสองมื้อต่อวัน สมชายแค้นมากอยากจะฆ่าตัวตายให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ยังคงใจเย็นและบอกกับตัวเองว่า “ยังไม่ถึงเวลา” ในขณะที่สมชายเห็นเพื่อนบ้านเดินผ่านไปมาที่ช่องหน้าต่างเวลานั้นเองสมชายเอื้อมมือไปคว้าถ้วยแกง ที่เพื่อนบ้านใส่น้ำแกงมาให้เมื่อวาน มาวางไว้บนหน้าตัก แล้วละมือทั้งสองข้างไปดันล้อรถเข็นให้เลื่อนไปด้านหน้า สมชายหมุนล้อจนกระทั่งรถเข็นไปหยุดอยู่ที่ริมรั้วบ้าน สมชายมองบ้านของเพื่อนบ้านที่แสนดีอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงหยิบถ้วยแกงขว้างข้ามรั้วไปในบ้านหลังนั้น “เพล้ง” ถ้วยแกงไปตกตรงไหนสมชายไม่รู้ สมชายรีบหมุนล้อรถกลับเข้าบ้าน ทันใดนั้นมีคนสองคนวิ่งออกมา ผู้หญิงวิ่งมาหยุดอยู่ที่ริมรั้วส่วนผู้ชายกระโดดข้ามรั้วแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านของสมชายพร้อมกับเศษถ้วยแตกหนึ่งชิ้น แล้วเอ่ยปากพูดกับสมชายเสียงดังว่า “ทำไมพ่อทำแบบนี้” เขาพูดพลางขว้างเศษถ้วยในมืออย่างแรงผ่านตัวสมชายไปแตกที่ด้านหลัง “ชีวิตให้ได้ทำไมจะเอาคืนไม่ได้” สมชายพูดพลางเล็งปืนไปด้านหน้าระดับสายตา ชายผู้นั้นยกมือสองข้างขึ้นบังวิถีกระสุนเอาไว้ “อย่า....พ่อ!!!”

มันสายไปเสียแล้ว ลูกกระสุนปืนวิ่งผ่านมือทั้งสองของเขาเลยไปถึงศรีษะ ทะลุกระโหลกไปด้านหลัง ชายผู้นั้นคงไม่รู้ว่ามือทั้งสองข้างของเขา มันกันกระสุนปืนไม่ได้ พอกับสมชายที่ไม่รู้ว่า กระโหลกศรีษะของเขาก็กันกระสุนปืนไม่ได้เหมือนกัน



Create Date : 28 ตุลาคม 2550
Last Update : 28 ตุลาคม 2550 7:34:37 น. 3 comments
Counter : 702 Pageviews.

 
ลองอ่านดู เผื่อแก้เครียดได้


โดย: ศิลป์ใจ ศิริกาลกุล (ศิลป์ใจ ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:18:12 น.  

 
เครียดกว่าเก่าอีก ฮิฮิ ลูกเนรคุณ สมควรตาย


โดย: Bonus IP: 124.121.192.130 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:36:04 น.  

 
เครียดค่ะสังคมทุกวันนี้ ลูกเนรคุณจริง ๆ สมแล้ว..ตายโลด


โดย: แสงแข IP: 117.47.15.123 วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:14:24:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ศิลป์ใจ
Location :
สระบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




******###@###*****
...เรื่องราวมากมายผ่านเข้ามาในชีวิต แต่เลือกเรื่องเล็กๆที่เป็นช่องว่างของสังคม มา ตัด เสริม เติม แต่ง ซึ่งอาจเหลือความจริงเพียงน้อยนิด และเรื่องราวเหล่านี้อาจทำให้ใครหลายคนก้าวเข้าไปถึง ช่องว่างที่ใครหลายคนอาจไม่เคยเห็น...
*******************
*****###@###******
...งานเขียนใน Weblog นี้เป็นของ ศิลป์ใจ ศิริกาลกุล ได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗...
*******************
Friends' blogs
[Add ศิลป์ใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.