Group Blog
 
All blogs
 
เรื่องสั้น : สร้อยทอง

***สร้อยทอง***

ศิลป์ใจ ศิริกาลกุล


สาวิตรีเป็นคนรูปร่างสูง ผิวขาว ทรวดทรงดูกระชับได้สัดส่วน หน้ารูปไข่ สันจมูกโด่งปลายนั้นงุ้มพองามตา ผมหล่อนดำเงา คิ้วหนาดก จนหัวคิ้วเกือบชนกัน ดวงตานั้นดำกลมโต รับกับขนตาที่ยาวโง้ง แก้มนั้นอิ่ม มีสีชมพูบางๆ ยามหล่อนยิ้ม จะแลเห็นฟันขาวโดยเฉพาะเขี้ยวข้างซ้ายที่สะดุดตา แต่หาเวลาที่หล่อนจะยิ้มให้เห็นนั้นยากนัก หล่อนทำงานหนักทั้งวัน ไม่ดูแลใส่ใจในความสวยงาม แก้มหล่อนจะนวลเฉพาะยามเช้า ตอนออกจากบ้านเท่านั้น หลังจากนี้หน้าหล่อนจะขึ้นมัน เปื้อนฝุ่น หนำซ้ำยังมีเม็ดเหงื่อที่คอยไหลให้หล่อนคอยปาดบ่อยครั้ง แต่ความงามของหล่อนนั้นเทียบกับคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันไม่ได้เลย

เมื่อครั้งสาวิตรีอายุสิบขวบ หล่อนอาศัยอยู่กับย่า เนื่องจากพ่อหล่อนนั้นเสียชีวิตตั้งแต่หล่อนยังเล็ก และหลังจากแม่หล่อนแต่งงานใหม่ก็ไม่เคยมาสนใจเลยแม้แต่นิด ตอนนั้นย่าหล่อนป่วยหนัก หล่อนเป็นหลานสาวเพียงคนเดียวและหลานชายคนอื่นๆก็ทำงานกันหมดแล้ว จึงต้องรับหน้าที่ดูแลไข้เสียเอง หล่อนดูแลปรนนิบัติทุกอย่างยามที่ย่านอนรักษาอาการป่วยอยู่โรงพยาบาล จนย่าหล่อนเห็นในความดีนั้น จึงให้สร้อยทองถึงยี่สิบเส้น ด้วยเพราะหล่อนยังเด็กเกินไป ย่าจึงฝากอาของหล่อนไว้ก่อน และพอหลังจากผู้เป็นย่าเสียชีวิตลง อาหล่อนเป็นคนส่งให้เรียนจนจบมัธยมหก หล่อนเข้าสู่ชีวิตวัยทำงาน ชีวิตสาวโรงงานของหล่อนเริ่มขึ้นพร้อมกับความคิดเกี่ยวกับทองยี่สิบเส้นที่ไม่เคยได้รับการกล่าวถึงเลย จนกระทั่งบัดนี้เป็นเวลายี่สิบห้าปีเศษ อีกทั้งทองนั้นหล่อนก็ยังไม่เคยเห็นเลย ตั้งแต่ย่าเสียชีวิต ความเคลือบแคลงในตัวอานั้นมีอยู่ไม่น้อย แต่หล่อนก็พูดอะไรไม่ออก เพราะเห็นว่าอาเป็นผู้ที่เลี้ยงดูและส่งให้เรียน อีกทั้งทุกวันนี้ก็ยังอาศัยอยู่ที่บ้านอาอีกด้วย

ปัจจุบันสาวิตรีอายุย่างเข้าสามสิบหกแล้ว หล่อนยังไม่ได้แต่งงาน ด้วยเพราะทำแต่งานไม่สนใจชายใดเลย หล่อนทำงานเก็บเงินซื้อทองสะสมไว้ทีละเส้น จนป่านนี้หล่อนยังได้ไม่ครบ แต่ก็ขาดอีกเพียงเส้นเดียวเท่านั้น หล่อนซื้อทองหนักเส้นละหนึ่งบาท หวังว่าเมื่อครบแล้วจะนำไปขอแลกกับทองซึ่งเป็นสมบัติของย่าที่ให้หล่อนไว้ก่อนจะเสียชีวิต แม้หล่อนจะไม่เคยเห็นทองนั้นเลยแต่หล่อนก็หวังให้มันยังอยู่ครบถ้วน

หล่อนทำงานจนค่ำทุกวันเพราะหลังกลับจากการทำงานปกติ หล่อนจะออกไปขายก๋วยเตี๋ยวโต้รุ่งเสมอเป็นการเพิ่มรายได้อีกอย่างหนึ่ง แต่วันนี้หลังจากที่หล่อนเลิกงานแล้วหล่อนไม่ได้ไป เนื่องจากเป็นวันเงินเดือนออก ที่สำคัญฝนนั้นตั้งเค้ามาแต่ไกล วันนี้หล่อนได้เงินครบตามราคาทองที่ขึ้นหนีเงินเดือนมาหลายเวลา หล่อนไปที่ร้านทองเพื่อซื้อทองหนึ่งเส้นหนักหนึ่งบาทเหมือนเคย ในขณะที่หล่อนกำลังเลือกลายทองอยู่นั้น อาหล่อนเดินเข้ามาในร้านทองพอดี
“อ้าว !!! มาทำอะไรคะอา”
“มาซื้อทอง พอดีพี่ๆของหนูส่งเงินมาให้ อาก็เลยอยากซื้อเก็บไว้...”
หล่อนได้ยินก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“...แล้วหนูมาทำอะไรล่ะ”
“มาซื้อทองเหมือนกันค่ะ---ทีแรกคิดว่าอาจะเอาทองมาขายซะอีก”
อาหล่อนยิ้มแล้วเดินไปนั่งใกล้หล่อนก่อนลูบหัวหล่อนอย่างแผ่วเบา หล่อนยิ้มตอบ พลางคิดถึงลูกของอาสองคน ‘มีการส่งเงินให้ขนาดนี้คงไม่ได้เอาทองไปแน่ๆ’
“คุณอาไม่เคยขายหรอกค่ะ คุณอามาซื้อทองที่ร้านเราทุกเดือน”
ได้ยินเจ้าของร้านบอกเช่นนั้นหล่อนก็อมยิ้ม สิ่งที่หล่อนคิดว่ายังอยู่มันคงจะเป็นจริง คงไม่เสียแรงลำบากหาเงิน

อาหลานพากันกลับบ้าน เวลานี้ฝนตกลงมาแล้ว สาวิตรีนั้นได้ทองไปหนึ่งบาทสมดั่งใจ ส่วนอาได้ไปถึงสองบาท ระหว่างทางที่กลับบ้าน หล่อนเริ่มถามถึงเรื่องทองยี่สิบเส้นที่ย่าฝากไว้
“มันยังอยู่ครบถ้วนดี หนูไม่ต้องเป็นห่วง อาเห็นหนูยังไม่มีความจำเป็นที่จะใช้อะไร ทุกวันนี้ก็ไม่เดือดร้อน กินอยู่กับอาเสร็จสรรพ อาเลยยังไม่ได้ให้หนู ถามถึงมันมีอะไรหรือเปล่า ?”
“มีค่ะ คือ...คือหนูไม่มีความจำเป็นหรอกค่ะ แต่หนูอยากได้ อยากได้เพราะมันเป็นสมบัติของย่าค่ะ มันมีค่ากับหนูมาก อย่างน้อยมันก็เอาไว้ดูต่างหน้าได้” หล่อนตอบเสียงสั่น
“มันไม่ใช่สมบัติ มันเป็นสิ่งตอบแทนที่หนูดูแลปรนนิบัติท่านอย่างเต็มใจ หนูทำหน้าที่แทนพ่อของหนูได้เลยรู้ไหม อาเป็นลูกแท้ๆยังไม่ได้ทำอย่างนั้นเลย!!! ทองยี่สิบเส้นมันยังอยู่ครบ ความจริงมันมีสี่สิบเส้นนะ รู้หรือเปล่า ?!!!...”
สาวิตรีหันมาหาอาที่สาธยายอยู่นั้นอย่างรวดเร็ว หล่อนตั้งใจฟังมากขึ้นกว่าเดิม และคิ้วหล่อนตอนนี้นั้นขมวดชนกันสนิท หล่อนใช้เวลาถึงยี่สิบห้าปีในการเก็บเงินซื้อทองยี่สิบเส้น หากเป็นทองสี่สิบเส้นแล้วหล่อนคิดว่าคงใช้เวลามากพอสมควร ถึงเวลานั้น หล่อนคงหง่อมแล้ว
“...ย่าฝากไว้ให้หนูยี่สิบเส้น ส่วนที่เหลือนั้นย่าให้อา”
ความฝันที่เลื่อนลอยจบลงทันทีเพราะทองเป็นของหล่อนเพียงยี่สิบเส้นเท่านั้น
“คือเอ่อ...คือหนูอยากได้ทองค่ะ หนูจึงหาทองมาแลก ตอนนี้ได้ยี่สิบเส้นพอดี”
“ทำไมต้องหามาแลก ก็ในเมื่อทองนั่นมันเป็นของหนูอยู่แล้ว”
ครั้นเมื่อถึงบ้านอานำกล่องไม้เก่าสีแก่นประดู่ มาวางตรงหน้าสาวิตรี
“อยากได้กล่องไหนก็เลือกเอา ข้างในมีทองยี่สิบเส้นเหมือนกัน เอาไปเลยไม่ต้องเอาอะไรมาแลกทั้งนั้น อาต้องให้หนูอยู่แล้ว”
สาวิตรีจ้องกล่องทั้งสองอยู่นาน สลับกับการเงยมองหน้าอา
“หนูอยากได้มันทั้งสี่สิบเส้นค่ะ ในเมื่อมันเป็นของหนูยี่สิบเส้นอยู่แล้ว ถ้าอย่างนั้น อีกยี่สิบเส้นที่เหลือ หนูเอาทองที่หนูซื้อเก็บไว้มาแลกได้ไหมคะ” หล่อนจ้องตาผู้เป็นอาไม่กระพริบ
อาของสาวิตรีฟังแล้วนิ่งไปครู่หนึ่ง เมื่อเห็นเช่นนั้นสารวิตรีจึงนำทองทั้งยี่สิบเส้นมาวางต่อหน้าอา มันไม่ได้อยู่ในกล่องไม้เหมือนของย่า มันอยู่ในตลับพลาสติกสีแดง ฝานั้นใสข้างในมีสำลีกับทองหนักหนึ่งบาท รวมทั้งสิ้นยี่สิบตลับ
“หลานแน่ในแล้วหรือว่าจะแลกกับอา”
“แน่ใจค่ะ หนูทำงานเก็บเงินเพื่อรอวันนี้ ประหยัดทุกอย่างที่ไม่จำเป็น ขยันที่สุดเท่าที่แรงของหนูจะมี อดนอนเพื่อให้มีเวลาทำงานเยอะขึ้น ก็เพื่อการนี้อย่างเดียวค่ะ”
อาหล่อนเอื้อมมือไปคว้าตลับทองสีแดงของหล่อนมาห้าตลับ และเปิดดูลายทอง
“หนูเลือกมาไม่ซ้ำลายกันเลยนะ !!! ถ้าหนูอยากได้ทองของย่าจริง อาก็ให้ได้ทั้งสี่สิบเส้นโดยไม่ต้องเอาอะไรมาแลก แต่ความเป็นจริงอาคิดว่าจะเก็บเอาไว้ให้เป็นของขวัญแต่งงานของหนู...” พูดพลางก้มดูทองห้าตลับที่อยู่ในมือ “...ทองนี่หนักห้าบาทใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ ???”
“อาขอเก็บห้าตลับนี้ไว้แทนยี่สิบเส้นที่เป็นของอาแล้วกัน อาจะเอาไว้ให้เป็นของขวัญวันแต่งงานของหนู”
“ทำไมอาไม่เก็บไว้ยี่สิบตลับเลยคะ”
“มันเยอะไป”
สาวิตรีรีบคว้ากล่องทองของย่าทั้งสองกล่องเปิดออกดู ข้างในมีทองอยู่กล่องละยี่สิบเส้น แต่เส้นมันเล็กเรียว เล็กกว่าทองของหล่อนอย่างเห็นได้ชัด
“ทองหนักเส้นละสลึง ยี่สิบเส้นก็เท่ากับหนักห้าบาท อาไม่เอาเปรียบหนูหรอก”
ทันทีที่อาเข้ามาลูบหัว สาวิตรีน้ำตาล่วง หล่อนไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้หล่อนคิดว่าย่าจะให้ทองหล่อนถึงยี่สิบบาท แต่อย่างไรก็ดีความเข้าใจผิดนี้ทำให้ตัวเองทำงานหนัก และได้ผลตอบแทนอย่างที่เห็น

สาวิตรียังคงออกไปขายก๋วยเตี๋ยวหลังจากเลิกงานตามเดิม หล่อนคิดว่าสิ้นเดือนนี้หล่อนคงซื้อทองได้อีกหนึ่งบาท ฝนนั้นตกลงมาอีกแล้ว หล่อนคิดว่าฝนนั้นชอบแกล้งเสมอ แม้ในยามเดือนห้านี้ฝนก็ยังตก แต่มันไม่แปลกสำหรับหล่อนเลย เพราะหากเป็นฤดูฝนก็มีบางวันที่ฝนให้โอกาสหล่อนเช่นกัน


Create Date : 13 มกราคม 2551
Last Update : 13 มกราคม 2551 2:28:05 น. 6 comments
Counter : 3358 Pageviews.

 
เรื่องนี้ให้เก้าจุดห้านะ พูชอบ อิอิ
ชอบตรงให้ข้อคิดดี
ว่าสิ่งที่เราคิด อาจจะไม่จริงเสมอไป
เป็นเรื่องง่ายๆ
แต่เรื่องแบบนี้อาจจะไม่โดนใจ คอละครไทยนะ เอิ้กๆ
ว่าแต่ ความงามของหล่อนเทียบกับคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันไม่ได้เลยนี่ ตกลงเธอสวยกว่าคนอื่น หรือ ขี้เหร่กว่าคนอื่นอะ อ่านตรงนี้สองสามรอบ ยัง งงๆ อยู่


โดย: พูไทเกอร์ IP: 222.123.133.206 วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:22:57:03 น.  

 
อ่านเข้าไปเลยครับพี่พู อย่าคิดมาก...คิดอย่างเดียวอ่านฟรี...
คอมเม้นท์...ทุกอย่างจะส่งผลดีแก่ผมสำหรับเรื่องต่อไปครับ


โดย: ศิลป์ใจ (ศิลป์ใจ ) วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:1:32:21 น.  

 
มาเยี่ยม อ่านอยู่หลายรอบ...เป็นเรื่องที่ชอบเรื่องหนึ่ง การแต่งเป็นไปในแนวสร้างสรร


โดย: นินจาCat IP: 124.121.114.254 วันที่: 16 มีนาคม 2551 เวลา:12:06:51 น.  

 
เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡เธ™เธตเน‰เธ”เธตเธกเธฒเธ เธซเธ™เธนเธŠเธญเธšเธญเนˆเธฒเธ™เธญเนˆเธฒเธ™เนเธฅเน‰เธงเน„เธ”เน‰เธ‚เน‰เธญเธ„เธดเธ”เน€เธขเธญเธฐเธ”เธต
เธ‡เธฑเน‰เธ™เธซเธ™เธนเธ‚เธญเนเธœเธ™เธœเธฑเธ‡เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡เธซเธ™เนˆเธญเธขเธ™เธฐเธ„เธฐ


โดย: เธเธ™เธเธฃเธฑเธ•เธ™เนŒ IP: 118.172.42.157 วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:17:53:06 น.  

 
ชอปมากกกกกกกกกกกกกกเลยยยยยยยยยยยยอ่านเเล้วซึ้งกินใจมาก


โดย: จุ๊บจิบ IP: 124.122.128.70 วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:36:54 น.  

 
ขอนำเรื่องนี้ไปเสนอเป็นรายงานนะครับ ขอบคุณครับ


โดย: jojo IP: 192.168.64.189, 58.137.21.48 วันที่: 12 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:39:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ศิลป์ใจ
Location :
สระบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




******###@###*****
...เรื่องราวมากมายผ่านเข้ามาในชีวิต แต่เลือกเรื่องเล็กๆที่เป็นช่องว่างของสังคม มา ตัด เสริม เติม แต่ง ซึ่งอาจเหลือความจริงเพียงน้อยนิด และเรื่องราวเหล่านี้อาจทำให้ใครหลายคนก้าวเข้าไปถึง ช่องว่างที่ใครหลายคนอาจไม่เคยเห็น...
*******************
*****###@###******
...งานเขียนใน Weblog นี้เป็นของ ศิลป์ใจ ศิริกาลกุล ได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗...
*******************
Friends' blogs
[Add ศิลป์ใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.