Group Blog
 
All blogs
 
เรื่องสั้น : มหาบุรุษ

***มหาบุรุษ***


กลางศาลาวัดท่ามกลางผู้คนมากมายและเสียงตะเบ็งเซ็งแซ่เอะอะ รุ่งทิพย์และโกเมทนั่งหยอกล้อกันตามประสาหนุ่มสาว อีกลูกน้อยนั่งเอนอิงอยู่ในตักหล่อน ทั้งสองมาทำบุญด้วยกันเสมอ โดยเฉพาะงานบุญวันมหาสงกรานต์ ทั้งคู่ต้องมานั่งที่เก่าที่เดิมข้างธรรมาสน์ ที่ทั้งสองพบรักกัน และทุกครั้งที่มาทำบุญโกเมทจะดูลายมือให้หล่อนเสมอ ด้วยอ้างกับหล่อนว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความขลังมากที่สุด

“ดวงคุณมีมหาบุรุษอุปถัมป์ โดยเฉพาะในยามที่เดือดร้อน คุณมีคู่ชีวิตเดียว และมหาบุรุษผู้นั้นคือคู่ชีวิตของคุณ บุรุษนั้นงามทั้งใจ งามทั้งกาย ค่อนข้างหลงตัวเอง แต่...”
“พอๆไม่ต้องพูดแล้ว พูดไปพูดมาคุณก็ชมแต่ตัวเอง หลงตัวเองชะมัด”รุ่งทิพย์หันหน้าหนีพลันพนมมือฟังพระ ทำไม่รู้ไม่ชี้
โกเมทฉีกยิ้มให้พอเห็นไรฟัน “คุณไม่อยากฟังต่อจริงๆหรือ”
หล่อนยังคงนิ่งเงียบ
“...แต่มหาบุรุษนั้นจะทิ้งคุณไปด้วยความกลัวอะไรบางอย่าง”
ทันทีที่โกเมทเอ่ยจบ รุ่งทิพย์หันมองหน้าและจ้องตาโกเมท
“แล้วคุณกลัวอะไรหรือเปล่า?!?”
“กลัวสิ!...”
“นั่นไง คุณกลัวก็แสดงว่าคุณคือคู่ชีวิตของฉัน คุณกลัวฉันไม่รักล่ะสิ!”
โกเมทยิ้มแล้วยกมือขึ้นพนมสร้างสัญลักษณ์อันหมายถึงการฟังพระเทศน์ แต่เขาไม่ได้ตั้งใจฟังสักเท่าไรนัก ในใจได้แต่กำลังครุ่นคิดถึงคำทำนายที่ได้ทายทักผู้เป็นภรรยา หากเพียงแต่มีเขาเข้าไปอยู่ในคำเอ่ยแถลงนั้นด้วย

งานบุญวันมหาสงกรานต์ เป็นวันพระใหญ่ ผู้คนมากมายต่างแห่มาทำบุญที่วัดแห่งนี้ ศาลาวัดนั้นกว้างแออัดด้วยผู้คน เสียงตะเบ็งเซ็งแซ่ฟังไม่ได้ศัพท์ว่าพูดอะไรกันนั้นเป็นเรื่องปกติทุกปี รุ่งทิพย์นั้นได้ยินได้เห็นจนชินหูชินตา เพราะเป็นเวลาเกือบสิบเจ็ดปีแล้วที่หล่อนยังคงมาทำบุญที่วัดแห่งนี้ทั้งที่ผู้ร่วมชะตาชีวิตได้ห่างหายไป การมาที่วัดแห่งนี้บ่อยครั้งที่หล่อนพบเพื่อนเมื่อครั้งสมัยเรียน ซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติของหล่อนและใครหลายคน
“รุ่ง มาคนเดียวหรือ เป็นอย่างไรบ้างสบายดีหรือเปล่า ?” เสียงเพื่อนสาวคนเดิมกับคำถามเดิมๆที่เธอผู้นี้เคยเอ่ยถามเมื่อปีก่อน
“สบายดีจ่ะ”รุ่งทิพย์เอ่ยเสียงเอื่อย
“ดูสีหน้าเธอเหมือนไม่ค่อยสบายนะ แล้วนี่ลูกสาวไม่มาด้วยหรือ ห่างตาไปนานคงโตเป็นสาวแล้วล่ะสิ”
“ขอตัวก่อนนะ” เอ่ยจบรุ่งทิพย์ก็เดินเข้าไปกลางศาลาข้างธรรมาสน์
“โตเป็นสาวเป็นวัยรุ่นแล้วเขาก็ไม่มาเข้าวัดเข้าวากับเราหรอก” เสียงเพื่อนสาวตะเบ็งตามหลังรุ่งทิพย์ไป
ที่แห่งนี้ข้างธรรมาสน์ที่กลางศาลา รุ่งทิพย์เคยนั่งเรียงเคียงบ่ากับลูกสาวที่น่ารัก หล่อนภูมิใจและพึงยิ้มทุกครั้ง เมื่อเพื่อนเอ่ยชมว่าลูกสาวสวย และจะพูดถ่อมตัวแทนลูกสาวเสมอเมื่อถูกคำยอยกว่าลูกสาวหล่อนนั้นเรียนเก่ง แต่ ณ วันนี้หล่อนโดดเดี่ยว หน้าตาบึ้งตึง หน้าตาบอกบุญไม่รับ แต่กลับเหมือนหอบเอาโศกเอาเศร้ามาเข้าวัดทำบุญด้วย
ผู้คนมากมายนั่งกันแน่นเต็มศาลา และรุ่งทิพย์ยังคงกวาดสายตาไปทั่วเหมือนกับหลายปีที่ผ่านเลย
“กำลังมองหาใครอยู่หรือครับ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูพร้อมกับมือหนึ่งแตะลงที่บ่า หล่อนหันมองหน้าผู้เป็นเจ้าของมือและเสียงนั้น
“เปล่า !”
“นั่งด้วยคนนะ”
“เชิญค่ะ คิดว่าคุณตายไปแล้วซะอีก”
ทันทีที่โกเมทนั้นนั่งลงข้างๆ หล่อนพลันจ้องตาเขา อยู่ครู่หนึ่ง
“ฉันมารอคุณที่นี่หลายปีแล้วนะ”
“อย่าบอกนะที่คุณมาทำบุญทุกปี เพราะเจตนาจะมารอผม”
“แล้วแต่จะคิดค่ะ ฉันมาที่นี่ไม่เจอคุณ ฉันก็เจอเพื่อเก่าๆ มันก็ไม่ทำให้ฉันเสียเวลาสักเท่าไร”
เสียงพระสวดฯ เริ่มดังขึ้นแต่ทั้งสองก็ไม่ได้ใส่ใจ ยังคงนั่งคุยกันต่อ คำถามทั่วไปก็ถูกงัดขึ้นมาคุยกันจนหมดจนสิ้น จนทั้งคู่ต่างเงียบไป ครู่หนึ่งฝ่ายชายจึงเอ่ยขึ้น
“ผมมาทำบุญมหาสงกรานต์ที่วัดนี้ทุกปี...” รุ่งทิพย์หันมองหน้าโกเมท “...และผมก็เห็นคุณกับลูกของเราทุกปี คุณนั่งตรงนี้ทุกปี ที่ของเราสองคน ผมจำไม่ได้ว่ากี่ปีแล้วมันนานมาก”
“17 ปีค่ะ”
“สาเหตุที่คุณหาผมไม่เจอก็เพราะผมพยายามหลบหน้าคุณ ทุกครั้งที่มาทำบุญที่นี่ผมก็พาเขามาด้วย ผมไม่อยากให้คุณเสียใจไปมากกว่านี้ สู้ไม่เจอกันจะดีกว่า”
“แล้วที่คุณมาเจอฉันวันนี้ เมียที่แสนดีของคุณไม่ได้มาด้วยหรือ ?”
“ปีนี้ไม่ได้มาด้วย เขาพาลูกชายเขากลับใต้ไปเยี่ยมตากับยาย”
“คุณนี่ก็แปลกคน ลูกตัวเองไม่สนใจ แต่ไปสนใจใยดีลูกคนอื่น” รุ่งทิพย์เมินหน้าหนี
“ใครจะไปรู้ว่าเขาจะมีลูกติด ผมไม่โทษใครผมโทษตัวเอง เจ้าชู้แบบนี้ก็ต้องรับกรรมไป”
“แล้วคุณคิดหรือเปล่าว่าฉันก็ต้องรับกรรมด้วย” รุ่งทิพย์หันมาต้องตาโกเมทอีกครั้ง
“ผมขอโทษ ! หลายครั้งแล้วที่ผมพูดคำนี้แต่คุณก็ไม่เคยให้อภัย แล้วนี่ลูกสาวเราไปไหน ปีนี้ไม่มาด้วยหรือ ?”
รุ่งทิพย์จ้องหน้าโกเมท ดวงตากลมโตของหล่อนเริ่มเอ่อด้วยสายน้ำตา
“เมื่อปีที่แล้วคุณเห็นหน้าลูกสาวคุณหรือเปล่า ?”
“เห็นสิ แต่ไม่ค่อยถนัดเท่าไร”
“เขาตายแล้ว ! ตายเมื่อปีที่แล้วหลังกลับจากทำบุญ”
โกเมทนั่งนิ่ง อึ้งในเสียงที่ได้ยิน เมื่อตั้งสติได้จึงเอ่ยถาม
“เขาเป็นอะไรตาย” โกเมทเสียงสั่น
“ถูกฆ่า ข่มขืน...หลังกลับจากทำบุญมีคนโทรศัพท์มาหาแล้วก็มารับกันไปเที่ยวสงกรานต์...ป่านนี้ตำรวจยังหาตัวหนุ่มคนนั้นไม่เจอเลย” รุ่งทิพย์เข้าโอบกอดโกเมทพร้อมกับโห่ร้องร่ำไห้ดังแข่งกับเสียงพระ ผู้คนมากมายต่างหันมาจ้องหล่อนทันที โกเมทก็กอดหล่อนไว้แน่น ครั้นเมื่อรุ่งทิพย์ตั้งสติได้หล่อนจึงนิ่งเงียบ
“คุณยังชอบดูดวงอยู่หรือเปล่า ?” โกเมทกระซิบที่ข้างหูหล่อน
“ใครบอกคุณว่าฉันชอบดูดวง”
“ก็เมื่อก่อนคุณชอบให้ผมดูลายมือให้จำไม่ได้หรือ”
“จำได้ เกิดมาทั้งชีวิต ฉันก็เคยให้แต่คุณดูลายมือให้ ฉันไม่ชอบหรอกนะ แต่ฉันเห็นคุณชอบดูลายมือต่างหากล่ะ”
“ผมขอมือข้างซ้ายคุณหน่อย”
หลังจากเพ่งพินิจอยู่ครู่หนึ่ง…
“อีกประมาณหนึ่งอาทิตย์คดีลูกสาวคุณจะมีคนมามอบตัว !”
“จริงหรือ หนึ่งปีแล้วนะยังไม่มีวี่แววเลย ไม่มีแม้แต่ร่องรอย ตำรวจเขาคงไม่สนใจอะไรแล้ว จะเป็นไปได้หรือ อีกอย่างคุณรู้ไว้เลยนะ คุณดูลายมือไม่เคยแม่นเลย !”
“เป็นไปได้สิมีคนมามอบตัวแน่ๆผมสัญญา !”
“จะบ้าหรือ ดูลายมือทำไมต้องสัญญาด้วย !”
โกเมทฉีกยิ้มมุมปาก แล้วลุกเดินออกจากศาลาทันที ปล่อยรุ่งทิพย์นั่งอึ้ง มองตามเขาเดินออกไปจนสุดสายตา

ใต้ฟ้าในเงามืดสลัว ร่างหนึ่งนั่งนิ่ง เหม่อลอยอยู่ในห้วงคำนึง ยังคงนั่งคิดถึงภาพเมือปีก่อนภาพสุดท้ายที่ได้เห็นหน้าลูกสาว เธอเป็นสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม ยิ้มแย้มดูสดใส ในใจอยากได้พูดคุยกับลูกสาวสักครั้ง แต่ก็เกรงใจเมีย อีกทั้งก็ไม่อยากให้เมียเก่ารับรู้ เฝ้าคิดหาหนทางที่จะได้คุยกับลูกสาว...
“พี่เมท !”
...เสียงตะโกนก้องฝ่าลมหนาวแล้วเลยร่างโกเมทไป อากาศเย็นยะเยือกต้องผิวกายผู้ตะโกนจนตัวสั่นหล่อนพยายามตะเบ็งเสียงขึ้นอีกครั้งคราวนี้ดังกว่าเดิม...
“พี่เมท ทำอะไรอยู่ ?”
...โกเมทยังคงนั่งนิ่ง ลมหนาวยังคงผ่านผิวกาย เขาหาได้สั่นให้สอดคล้องกับสายลมเย็น แต่ใจเขาสั่นระรัว เต้นถี่ดั่งโดนมรสุมโหมกระหน่ำเข้าโถมชีวิต จนกระทั่งผู้เป็นเจ้าของเสียงที่ตะโกนก้องนั้นมานั่งลงข้างๆ
“เป็นอะไรไป มานั่งเหม่ออยู่นี่คนเดียว”....เงียบ…เงียบ
“ดูลายมือให้หน่อยสิ” ...เงียบ
“โกเมท คุณเป็นอะไรไม่พูดไม่จา โกรธอะไรอีกล่ะ”
ได้ยินดังนั้นโกเมทจึงคว้ามือซ้ายของหล่อนขึ้นมา แต่ไม่ได้ดูลายมือตามที่หล่อนขอแต่อย่างใด แต่กับกระชากหล่อนเข้ามาใกล้
“คุณกำลังจะเสียลูกชาย !”
“อะไรกันคุณ ! ยังไม่ทันได้ดูลายมือก็ทำนายได้ แถมยังมาแช่งลูกอีก”
“ลูกคุณ ไม่ใช่ลูกผม ! มันอยู่ไหน ?”
“ไหนคุณบอกจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ไง คุณเคยบอกว่ารักเขาเหมือนลูก”
“ใช่ผมเคยบอก แต่ก็แค่เคยรัก ผมถามว่ามันอยู่ไหน !”
ทั้งสองนั่งจ้องหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วฝ่ายหญิงก็ลุกหนีไป

หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป ถึงเวลาที่มหาบุรุษต้องทำตามคำทำนายที่ได้สัญญากับรุ่งทิพย์ โกเมทนั้นมุ่งหน้าตรงไปยังบ้านรุ่งทิพย์และพารุ่งทิพย์ไปที่สถานีตำรวจ ทันทีที่ได้นั่งต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น คำแรกที่หลุดจากปากเขาทำเอารุ่งทิพย์นั่งนิ่ง
“ผมมามอบตัวครับ !”
อะไรกัน จะเป็นไปได้อย่างไรผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าเห็นหน้าลูกสาวตัวเองจะจำหน้าลูกสาวไม่ได้เชียวหรือ และอะไรถึงทำให้โกเมทต้องทำแบบนั้น เป็นไปไม่ได้แน่ๆว่าเขาจะเป็นผู้ทำร้ายลูกสาวตัวเอง รุ่งทิพย์ครุ่นคิดอยู่ในใจ และมองหน้าโกเมท หวังแต่เพียงจะได้คำอธิบายเพิ่มเติม จังหวะนั้นโกเมทหันมาจ้องหน้าหล่อน
“ผมเป็นคนฆ่าคนที่ข่มขืนลูกสาวเรา”
“แล้วเขาเป็นใคร แล้วทำไมคุณถึงรู้ว่าเป็นเขา” รุ่งทิพย์เอ่ยพร้อมกับกุมมือโกเมทไว้
“เมื่อปีที่แล้วตอนมาทำบุญมหาสงกรานต์ ผมนั่งอยู่ข้างหลังคุณไม่ไกลนัก หลังจากผมเห็นหน้าลูกสาวผมก็เกิดนึกอยากคุยกับลูก แต่ผมไม่อยากให้คุณรู้ ผมก็เลยยุให้ลูกชายของเมียผมจีบลูกสาวคุณ ไอ้นั่นมันก็เลยไปขอเบอร์ลูกสาวคุณมา ผมแอบดูเบอร์ลูกสาวแล้วโทรไปหาตอนเย็น แต่ก็ไม่มีใครรับสาย และหลังจากนั้นเบอร์ก็ติดต่อไม่ได้เลย ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมรู้อย่างเดียวว่าหลังจากกลับจากทำบุญ ไอ้เลวนั่นมันบอกกับผมว่าจะไปหาลูกสาวคุณที่บ้าน กลับมาก็ดึกดื่น ไม่พูดไม่จา...”
“เดี๋ยวก่อน ! เมียคุณเป็นคนใต้ใช่ไหม”
“ใช่ !”
“ลูกชายเมียคุณก็พูดออกทองแดงด้วยล่ะสิ !” โกเมทพยักหน้า
“วันนั้นมีเด็กพูดทองแดง มาหาลูกเราที่บ้านนะ แต่ไม่เจอลูกเรา มีคนมารับลูกเราออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว ฉันก็เลยชวนเขาเข้าไปรอในบ้าน เด็กนั่นรอจนมืด และกลับบ้านไปหลังจากที่ตำรวจโทรมาบอกว่าลูกเราเสียชีวิต”
โกเมท นั่งก้มหน้า มือสองข้างกุมขมับ…




Create Date : 06 กันยายน 2552
Last Update : 6 กันยายน 2552 2:19:32 น. 2 comments
Counter : 975 Pageviews.

 
มาอ่านนะคะ อ่านจบเเล้ว สำนวนการเขียนดีจังเลย
ชอบจังเลยค่ะ ถ้ามีเวลา จะไล่อ่านเรือ่งอื่นๆด้วย
ขอบคุณนำเรื่องดีๆมาให้อ่านกัน


โดย: yopathum วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:18:08:14 น.  

 
เขียนแนวนี้ไม่น่าอ่าน


โดย: เลือกอ่าน IP: 180.180.34.147 วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:11:41:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ศิลป์ใจ
Location :
สระบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




******###@###*****
...เรื่องราวมากมายผ่านเข้ามาในชีวิต แต่เลือกเรื่องเล็กๆที่เป็นช่องว่างของสังคม มา ตัด เสริม เติม แต่ง ซึ่งอาจเหลือความจริงเพียงน้อยนิด และเรื่องราวเหล่านี้อาจทำให้ใครหลายคนก้าวเข้าไปถึง ช่องว่างที่ใครหลายคนอาจไม่เคยเห็น...
*******************
*****###@###******
...งานเขียนใน Weblog นี้เป็นของ ศิลป์ใจ ศิริกาลกุล ได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗...
*******************
Friends' blogs
[Add ศิลป์ใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.